BlogGang.com : : merveillesxx : 13th Short Film Festival Marathon (Week 2)

13th Short Film Festival Marathon (Week 2)

by merveillesxx

โปรแกรมหนังสั้นมาราธอน
7 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2552
ณ ห้องประชุม ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

Tue 14 July 2009

(วันนี้ดูได้แค่ครึ่งเดียว เพราะแว่บไปดูละครเวที "เพื่อนสาวผีดิบ")

1. ขบวนการ3สี ตอน จอมมารบูสายพันธ์ใหม่ 2009/คมจักร ทองจิบ/7.00 (B+)

- ชอบการตัดต่อ เซอร์ดี

- ไม่รู้สีเสื้อมีความหมายพิเศษอะไรรึป่าว

2. ของขวัญ/ฐิติพันธุ์ เตชะกิจรุ่งเรือง/16.00 (A-)

- ออกไปเม้าท์ข้างนอก เพราะเคยดูแล้วใน กางจอ

- ก็อปที่เคยเขียนไว้แล้วมาเลยนะ

เราไม่มีปัญหากับ art direction อย่างที่หลายคนบ่นกัน ออกจะชอบมากด้วยซ้ำเพราะมันดูแร่ดๆ ดี แต่รู้สึกว่าพระเอกของหนังน่าจะไปอยู่ในเรื่อง "โลกแห่งความมืด" เสียมากกว่า (ฮา) จุดที่ชอบคือ หนังไม่บอกว่าพระเอกเจออะไรมา และฉากที่ตัดภาพอดีตของพระเอกไวๆ ก็หลอนๆ เท่ๆ ไม่น่ารำคาญ ส่วนพาร์ตของผู้หญิงก็ดูอบอุ่นดี แบบไม่ล้นเกินไป ซึ่งมันแปลกดีว่าโทนบรรยากาศส่วนตัวของ ช / ญ ในเรื่องมันต่างกันมาก (เป็นแบบ 'ระหว่างความเยือกและร้อนแรง') แต่พอทั้งสองมาบรรจบกันตอนท้าย หนังก็ดูบาลานซ์ดี ส่วนตอนจบก็หวิดจะแอ็คหล่อไปหน่อย แต่เพราะความคลุมเครือเรื่องกล่องของขวัญ ทำให้หนังดูมีความ intellectual และรอดตัวไปจากความสไตลิช

ไม่แน่ใจว่ามีการใช้เพลงของวง Explosions in the Sky หรือวงโพสต์ร็อคอะไรสักอย่างหรือเปล่า แต่ก็ชอบหลายๆ เพลงในวูบๆ เข้ามาในหนัง

3. ของเหลวที่หลั่งจากกาย/รัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชค/41.00 (A++++++++++++)

- ตั้งใจดูเป็นรอบที่สอง

- ดูรอบสองแล้ว ก็ยังรู้สึกว่า ฉากเพลง Time To Say Goodbye เป็นฉากที่อยู่ในระดับสุด TEEN นี่คือฉากแห่งปี!

- หนังเรื่องนี้สมควรได้ฉายในสาย digital momentum

- คอมเมนท์ที่เคยเขียนไว้

นี่เป็นหนังนศ. ที่เราดูแล้วชอบมากที่สุดในรอบสามปีนี้ (การจริงมันเกินมาตรฐานหนัง นศ. ทั่วไปด้วยซ้ำ) สารภาพว่าเราคาดหวังกับหนังไว้มากและมันก็สนองเราได้อย่างถึงจุดสุดยอด หนังเป็นเหมือนการต่อยอดจากหนังเรื่องก่อน (ออกเสียงไม่ได้ทางจักรวรรดิทางภาษาของคุณ) คือการเล่น ย่อล้อ หักล้าง และทำลาย โครงสร้างการเล่าเรื่องการความเคยชินทุกอย่างในหนังที่เราเคยเห็นกัน (แต่เรื่องนี้ปล่อยของอย่างรุนแรงประหนึ่งว่านี่จะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายของ ชีวิต) เช่น การขึ้น text ใหญ่ๆ ควายๆ ในตอนต้น, การที่มีหนังตัวอย่างอยู่ในหนังของตัวเองซะงั้น, การใส่ซิมโลบิกฮาๆ, การใช้ voice over ซึ่งปัญหาของมันคงมีเพียงว่า มันอาจไม่สื่อสารกับคนดูหมู่มาก อย่างเช่น การใช้วอยซ์โอเวอร์ตอนกลางๆ คนกลุ่มนึงอาจรำคาญว่ายัดเยียดเกินไป แต่คนอีกกลุ่มจะพอเดาได้ว่า ผกก. กำลังเสียดสีด้วยเทคนิค (คนกลุ่มนี้อาทิ ผม นวพล พัชร นาโนกาย ฯลฯ ที่มักหัวเราะพร้อมๆ กัน ในฉากเดียวกัน - ไม่ได้บอกว่าคนพวกนี้ฉลาดกว่าใคร แต่หมายถึงเราจูนกับหนังได้ในอีกทางหนึ่ง) หลักฐานที่ชัดเจนมากคือ หลังจากฉายหนังเรื่องนี้เสร็จ ตอนพักเข้าห้องน้ำก็มีคนคอมเมนต์หนังเรื่องนี้อย่างรุนแรง (ผมไปแอบฟังมา) เช่น "แม่งดูไม่รู้เรื่อง กูเก็ทแค่ หัวใจไซค์โป้ง เรื่องเดียว ทำหนังปรัชญากันไปไหนเนี่ย" "ไอ้เหี้ย กูเข้าไม่ถึงว่ะ" หรือ "กูดูเสร็จแล้วอยากชัก wow" (อ้าว)

สิ่งที่เราชอบคือ ถึงหนังจะ anti-narrative แต่แปลกดีที่เราจูนติดกับหนังได้ อารมณ์ของเราพุ่งสูงไปกับหนัง (ในขณะที่หนังสไตล์เดียวกันเรื่อง ปราปรัมปุเลี่ยนปุเลี่ยน เหมือนจะวิ่งหนีเราไปไกลเรื่อยๆ) โดยเฉพาะในฉากร้องเพลง Time To Say Goodbye นี่มันสุดยอดจริงๆ (อาจจะเป็นเพราะเราชอบเพลงนี้มากอยู่แล้ว) หรือฉากที่พี่เอี้ยงพูดถึงผัวเก่านี่มันก็ 'เอาอยู่' คือเราชอบที่หนังมันไม่ได้เซอร์แดก เซอร์เรียล กันไปวันๆ มันยังมีความเป้นมนุษย์ มีความเจ็บปวด(ของมนุษย์) อยู่ในหนังด้วย / จริงๆ แล้วเราแอบเบื่อตอนกลางๆ หน่อย เพราะมันดูเนือยๆ (ในขณะที่ตอนต้นยั่วล้อทุก 1-2 นาที) แต่พอถึงตอนท้ายนี่มันก็ไม่มีการบันยะบันยังอะไรกันอีกแล้ว มันพีคมาก แล้วเราก็ชอบที่มันไม่มีการขึ้นเอนด์เครดิตด้วย (ไม่รู้ตั้งใจมั้ย) คือมันสอดรับกับเทคนิคที่ใช้มาในหนังทั้งหมดอย่างมาก

เล็กๆ น้อยๆ อย่างอื่นก็คือ : น้องนางชีเล่นได้สุดเหวี่ยงดี อยากชวนมาเล่นหนังตัวเองบ้าง / ชอบโปสเตอร์เก๋ๆ ที่แปะที่นู่นที่นี่ในหนัง / ฉากที่ชอบที่สุดในหนังคือ ตอนที่รูปปั้นเลื่อนได้ อันนี้ฮาจริงๆ / และอยากใหน้องรัชฏ์ภูมิทำหนังต่อไปครับ (รวมถึงเขียนวิจารณ์บ่อยๆ กว่านี้ด้วยนะ 555)

4. ของเขา...ของเรา/พณิช จิระวัฒนานันท์/5.00 (B+)

- ชอบปฏิกิริยาของหญิงสาวที่ถูกกระชากกระเป๋ามาก ตลกมากๆ

- มุขตอนท้ายก็เก๋ดี หลอนๆ ดี แ่ต่เหมือนเห็นอะไรแบบนี้บ่อยแล้วนะ

5. ขโมย/โณทัย ชาบุญมี/6.00 (B-)

- "ผมไม่ได้ขโมย ผมไม่ได้ขโมย ผมไม่ได้ขโมย!!" (เออ กูรู้แล้ว)

6. ขอบคุณครับ/ธนชาติ ศิริภัทราชัย วสุพล เกรียงประภากิจ/15.00 (B)

- หนังแนวข้อคิด ซึ่งอันนี้ดีที่ไม่ฟูมฟาย

- ชอบคาแร็กเตอร์ของพี่ชายที่ดูไม่สั่งสอนดี

7. ข้อมูลบางอย่างที่ยังค้างอยู่ในความทรงจำ/สิทธิเดช โรหิตะสุข/5.00 (B)

Wed 15 July 2009

เวลา 17.00 โปรแกรมที่ 24

(มาสาย พลาดไป 4 เรื่อง)

1. ครูรุ้งดาว/ปิสรานนท์ อิสระรัตน์/10.00 (C+)

- หนังเซอร์มาอีกแล้ว! (ดูได้ในคอนเมนต์ของ Nanoguy)

- ตอนที่ครูตวาดเด็กว่า "ใครเอาชอล์กมาเขียนโต๊ะครู! เธอไปเอาคำพวกนี้มาจากไหน!" ผมก็นึกในใจว่า ว้าย หนังเรื่องนี้ต้องแรงแน่ๆ นักเรียนต้องเขียนคำว่า HERE หรือ KUAY อะไรประมาณนี้แน่ๆ ซึ่งหนังแนว นักเรียนลุกขึ้นมาต่อต้านอาจารย์นี่ผมชอบมาก แต่ปรากฏว่าพอหนังเฉลยว่าเด็กเขียนกะอีประโยคแค่ว่า "พวกเรารักคุณครูค่ะ" (!?) ผมก็เลยรู้สึกเหมือนถูกหนังเรื่องนี้หักหลัง (ดราม่าไปมั้ย)

- ถ้าดู purpose ของหนังเนี่ย มันก็ตลกดี เหมือนหนังจะส่งเสริมเรื่องคุณงามความดีของคุณครูใช่มั้ย? ประมาณว่ายัยแสงดาว เอ๊ย รุ้งดาว เนี่ยเอาครูคนนั้นเป็นแรงบันดาลใจ แต่ว่าครูที่เป็นแรงบันดาลใจของเธอเนี่ยช่างไร้สติ ไร้ตรรกกะ โดยสิ้นเชิง (มีอย่างที่ไหน "ครูว่าจะเก็บสมุดนี้ไว้ให้พวกหนูตอนเรียนจบ" !!??) กลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้เลยพลิกกลับเป็นหนังด่าระบบการศึกษาไทยไปซะงั้น เพราะจริงๆ แล้วครูป้าๆ บ้านเราก็เป็นประมาณนี้แหละ

- แล้วก็หลอนๆ งงๆ กับรูปที่มีทุกบ้านในหนังเรื่องนี้ ถ่ายแช่จนหลอนเลย

2. คล้ายคลึงกับ.../ฐิติพันธ์ ทับทอง/27.00 (D+)

- ไอน์สไตน์กล่าวประมาณว่า ฉากคุณนั่งกับผู้หญิงที่ชอบ 2 นาที จะเหมือน 2 วินาที แต่ถ้าคุณนั่งบนเตาผิงร้อนๆ 2 นาที จะเหมือน 2 ชั่วโมง ... 27 นาที ของหนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือน 27 ชั่วโมง

- อย่างแรกก่อนเลย เสียงวอยซ์โอเวอร์น่ารำคาญมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกครับ เสียงดูไม่เหมือนคนสิ้นหวังอยากฆ่าตัวตายหรอก แต่เหมือนเสียงคนออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอมากกว่า (อ้อ ก็เลยคิดจะฆ่าตัวตายสินะ) ผมล่ะลุ้นเหลือเกินว่านางเอกจะพูดไหวจนจบหรือเปล่า (พอๆ กับที่ลุ้นว่าตัวเองจะทนดูหนังเรื่องนี้จบหรือเปล่า)

- แล้วไม่เข้าใจ ทำไมต้อง "ชวั้นนน" (กรุณาลองออกเสียง พร้อมใส่ ควบกล้ำ ว.แหวน ไปในคำว่า ชั้น) แบบว่า ปวดตับมากค่ะ ไม่ไหวแล้ว

- ตอนขึ้น text ดาวพลูโต (ใครนึกไม่ออก ให้นึกถึง Lily Chou-Chou) มันยาวมากเลยครับ แรกๆ ก็พอทนอยู่ หลังๆ นี่ชักจะเวิ่นเว้อเกินไปแล้ว! มีเจ้าชายน้ง เจ้าชายน้อย อะไรด้วย ไปกันใหญ่ แล้วฉากขึ้นเท็กซ์ก็เงียบๆ ซะงั้น ครึ่งหลังนี่แทบจะกลายเป็นหนังเงียบเลย

- ดูหนังไปเรื่อยๆ แล้วรู้นึกอย่างแรงกล้าว่า ถ้าทำได้ จะเข้าไปผลักให้นางเอกตึกตกตั้งแต่ฉากแรกๆ

- เหมือนหนังจะบอกในตอนจบว่า นางเอกมีอาชีพเป็นตากล้อง (เห็นแบกเป้กล้องในฉากสุดท้าย) ถามจริงเถอะ ใครเชื่อบ้าง??

- สรุปแล้วหนังเรื่องนี้ก็คงจะหลุดจากสารบบของผม เหมือนกับที่ดาวพลูโตหลุดจากระบบสุริยจักรวาลนั่นเอง

3. ครีบ/ธนพร หิรัญเลิศประเสริฐ/5.00 (B)

- เดินออกปเข้า้ห้องน้ำ เพราะเคยดูแล้วในกางจอ

- ก็อปความเห็นเดิมมาเลยแล้วกัน : เรารู้สึกว่าเพลงนี้มันมีความเป็นผู้ชายมากๆ นะ พอเป็น feminine แบบนี้ เราเลยว่ามันแปลกๆ ไม่อินเลย (นี่กู sexist ใช่มั้ย?) แล้ว Creep เนี่ยมันถูกยำใช้ ประกอบนู่นนี่มาจนพรุนไปแล้ว มันมีภาพจำอื่นๆ ที่เท่กว่านี้มาเยอะแยะ (เช่น หนังเรื่อง Cyclo) ก็เลยเฉยๆ กับเรื่องนี้

4. คลิปเอ็กส์ เซ็กส์ซ่อนมรณะ/สมศักดิ์ สอนแพง/21.00 (A-)

- ตลกดี บันเทิงมาก (ตลกแบบที่ผู้กำกับตั้งใจให้ตลก)

- สิ่งที่ชอบคือ หนังมันผสมหนังหลายเรื่องหลายแนวอยู่ในตัวมันเองได้อย่างพอดี (ถึงแม้ reference จะัชัดเจนมากก็เถอะ) แม้พาร์ตที่เป็นตำรวจจะดูไม่ค่อยสมูธเท่าไร แต่โดยรวมแล้วโอเคนะ

- น้อง 'อีกร' แรงมากค่ะ ชอบ

- ปกติจะรำคาญหนังนักศึกษาที่ชอบเอาภาพ/คลิปเบื้องหลังการถ่ายทำมาใส่ไว้ตอน เอนด์เครดิต แต่เรื่องนี้มันดูมีความหมายสองชั้ยดี หนึ่งก็คือ ก็ใส่ตรงๆ นี่แหละ อยากแสดงความขอบคุณเพื่อน แสดงความประทับใจ บลาๆๆ สองคือ ล้อไปกับตัวหนัง เป็นการเสียดสีถึงกลุ่มเพือนในหนัง โดยอดีตแสนหวาน ส่วนตัวก็เลยรับตรงจุดนี้ได้

5. ความ(ทรง)จำ/ยุวากร สินธุวราวรรณ/นาย นัฐพล ชลวิทย์/18.00 (B-)

- เป็นหนังตลกกุ๊กกิ๊กทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้ไม่ค่อยชอบหนังเรื่องนี้เท่าไร คือตัวละครในเรื่องดูปฏิบัติต่อกันไปมาโดยไม่มีความรู้สึกแบบมนุษย์เท่าไร (อีกนัยก็คือ การปฏิบัติของผู้กำกับต่อตัวละครนั่นเอง)

6. ความในใจ/วรทัช วัฒนกุล/19.00 (A-)

- ชอบการถ่ายภาพ

- ฉากว่ายน้ำใยต้มยำกุ้ง น่าจะเป็นอีกฉากแห่งปี

- จริงๆ หนังมาในแนวทางดำมืด ซึ่งน่าจะเข้าทางเรา แต่อาจจะไม่ได้ชอบหนังมากนัก เพราะรู้สึกว่าผู้กำกับหนักมือกับการส้รางความสับสนคลุมเครือไปหน่อย อย่างไรก็ดี นี่เป็นหนังนักศึกษาที่น่าสนใจมากๆ เรื่องหนึ่ง

7. ความรักของต้นกล้วย/ปิยณัฐ กันตี/10.00 (C+)

- แต่ความบันเทิงอยู่ในระดับ A+++++++++++++++++++++++++++

- สิ่งที่ฮามากๆ ในหนังเรื่องนี้

1) เสียงที่ไม่ตรงกับปาก (ทั้งเรื่อง!)

2) ไดอะล็อกแข็งโป๊ก

3) การยัดเนื้อหาต่างๆ ชนิดที่สารานุกรมอาจจะยังทำไม่ได้ (ใบตอง, กล้วย, ต้นไม้, โลกร้อน, วัฒนธรรมไทย, etc.)

4) ชอบฉากที่นางเอกไปลูบๆ ต้นกล้วยมากๆ เฮี้ยนกว่าหนังเรื่อง 'นางไม้' เสียอีก

8. ความฝันของคนวิกลจริต/พัลลภ ฮอหรินทร์/8.00 (A-)

- ส่วนตัวดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่าหนังพูดถึงใครเป็นพิเศษ แต่รู้สึกว่ามันเหมือนประวัติศาสตร์ย่นย่อของเหตุการณ์อะไรสักอย่างมากกว่า (ไม่รู้ทำไม ตอนดูแล้วนึกถึงพวกตำนานอดัม/อีฟ ตำนานสร้างโลกอะไรเทือกนั้น)

- สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้คือ ภาพ footage ต่างๆ ซึ่งรู้สึกว่าจะใช้ไม่ค่อยซ้ำดี แล้วแต่ละภาพก็ดูมีพลังในตัวมันเอง เช่น ภาพน้ำไหล น้ำตก ส่วนภาพที่ติดตามากๆ คือ ภาพไฟป่า (หรือเปล่า?)

- ชอบฉากจุดเทียนมากๆ เหมือนกัน

9. ความสุขของโต้ง/เบญจะ ศรีวิลัย/15.00 (C+)

- หนังแนวสอนคนดูว่า ความสุข คืออะไร (มาอีกแล้ว...)

- สิ่งที่ฮามากๆ (โดยที่ผู้กำกับอาจไม่ได้ตั้งใจ)

1) ปฏิกิริยาของแม่ตอนเจอลูกสาวที่หายตัวไป (แม่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย 555)

2) เหตุไฉนนางเอก ถึงโตจากสาวน้อยหน้าตาบ้านๆ มาเป็นเด็กพาณิชย์ วันนาบี เคป็อป ได้ !!??

3) ฉากให้ปากกา ตอนจบ อันนั้นไ่ม่ต้องอธิบายอะไรกันอีก

16-17-18 July 2009

ไม่ได้ดูหนังเลย เพราะไปจัดงาน THIRD CLASS PARTY 001 : VS ก็ดูคอมเมนต์จากคนอื่นๆ จกาวิดีโอข้างล่างเอาเน้อ

Sun 19 July 2009

1. ตะเพียนริมคลอง/ณฐพล บุญประกอบ/28 นาที (A+++++)

- เคยดูในกางจอแล้ว ก็อปความเห็นมาเลยเน้อ

ตอน แรกเราเดาว่าจะต้องไม่ชอบหนังเรื่องนี้แน่ๆ เพราะมันเต็มไปด้วยองค์ประกอบแสลงของเราทั้งสิ้น (1. ชนบท 2. คนแก่ 3. เด็ก 4. เด็กทารก!!) แต่ปรากฏว่าทุก element ของหนังมันทำได้ดีหมดเลย คือเราว่าถ้าหนังเรื่องนี้เล่าไม่ดี มันจะ cliche และน่ารำคาญทันที แต่เราไม่รู้สึกแบบนั้นกับหนังเลย ส่วนสำคัญอย่างหนึ่งคงมาจากการแสดงที่แข็งแกร่งมาก หลายฉากทำเราขนลุกมากๆ แล้วก็ชอบที่เหมือนหนังจะมีอารมณ์ระทึกอยู่นิดๆ (ตอนที่เด็กหายไป) มันกดดันมากๆ การใช้ถ่ายภาพออกมาสีซีดๆ หน่อยมันก็ยิ่งสอดรับกับตรงนี้มาก

หนัง โชว์เทคนิคการเคลื่อนกล้องอย่างมาก คือบางโชว์ดูออกเลยว่าอยากจะโชว์ แต่ก็ทำได้ดีมากเลย อย่างเช่นตอนฉากความฝันของเด็ก ที่ตัดสลับระหว่างเด็กมองพ่อกับแม่ หรือฉากฉากตอนจบที่ทำอะไรมากมาย สะท้อนจากกระจกเอย เคลื่อนกล้องเอย ทิลต์ไปบนท้องฟ้าเอย อันนี้มันไม่ได้ดูเก๋อย่างเดียว แต่มันสื่อความหมาย + ให้อารมณ์มากๆ / เราได้ยินว่าผกก. ชอบหนัง นาโอมิ คาวาเสะ ซึ่งเราก็รู้สึกว่าหนังสามารถเขียนในสูจิบัตรถึงเรื่องนี้ได้อย่างไม่น่าอาย เลย เพราะทำได้ถึงจริงๆ (เนื้อเรื่องหลายๆ ส่วนก็ไปคล้ายกับหนังคาวาเสะด้วยเนาะ แบบ แม่ลูกอ่อนใน Shara / การเคลื่อนกล้องในฉากสุดท้ายก็ดู Shara มากๆ / ฉากริมคลองนี่ทำให้นึกถึง Nanayo มาก) นี่ถ้าไปสอนหนังสือเรื่องภาษาหนัง จะต้องเอาหนังเรื่องนี้ไปเปิดแน่ๆ

อันนี้ขอส่วนตัว คือ ในส่วนของเนื้อเรื่อง จริงๆ เราเชียร์ให้เด็กเอาน้องไปโยนลงคลอง (แต่อันนี้คงโหดไป) อีกอย่างคือแอบเชียร์ให้จบตั้งแต่ฉากความฝันเลย เพราะมันคงจะเจ็บปวดอย่างพีคมาก (คือเด็กจมน้ำตาย แล้วหนังก็เฉลยไปพร้อมกันว่าทำไมเด็กถึงไม่กล้าลงน้ำ พ่อเด็กไปไหน ฯลฯ) ตอนมีฉากต่อมาก็แอบขัดใจนิดหน่อย แต่คสพ. ของแม่-ลูก-ย่า ในตอนท้ายก็ทำให้อยู่หมัดจริงๆ คือดูแล้ว ไม่อี๋ ไม่เฟค (ถ้าเฟคหนังจะล่มจมทันที)

สุดท้ายคือ นี่เป็นหนังเรื่องเดียวในโปรแกรม (กางจอ) ที่เราร้องไห้ (อย่างเต็มใจ)

เวลา 17.00 โปรแกรมที่ 35

1. นักเรียนชายแดน/วีระศักดิ์ สุยะลา/9 นาที

- เสียดาย มาทันแค่ฉากสุดท้าย T_T

- ดีใจมากๆ ที่สุดผู้กำกับยังคงสไตล์ตัวเองไว้อย่างเหนียวแน่น

- ตกใจเครดิตมากๆ (ทำไมต้องตัวใหญ่ขนาดนั้น 555)

2. นักโทษ/ปรัชญา ลำพองชาติ/20 นาที (A+)

- ชอบมากๆ เป็นหนังที่เข้าทางสุดๆ

- ถ้าจำไม่ผิด ผู้กำกับคนนี้เคยทำเรื่อง คนจรจัด ซึ่งเราไม่ชอบมากนัก จำได้ว่า คนจรจัด ดูเป็นหนังที่ภาพสวย แต่ยังขาดหัวใจอะไรบางอย่างไป รู้สึกว่าผู้กำกับสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้แล้ว ในหนังเรื่องนี้

- ปกติหนังคุกๆ มักจะพูดถึง ชีวิตในคุก หรือ คนที่ออกจากคุกมา แต่ไม่ค่อยชอบหนังที่จับโมเมนต์แบบในหนังเท่าไร

- เหมือนหนังเป็นภาพแทนสายตาของนักโทษ แล้วพบเห็นสิ่งต่างๆ ที่ชั่วรเ้ายมากขึ้นเรื่อยๆ

- ชอบการใช้เพลงในหนังเรื่องนี้มากๆ (ถึงแม้จะมีปัญหาการเฟดลงอย่างปุบปับเกือบตลอด) มันให้ความรู้สึกที่รุนแรงมากๆ โดยเฉพาะฉากเพลงโอเปร่า

- ชอบที่หนังไม่บอกด้วยว่า ตกลงพระเอก ทำอะไรนางเอกหรือเปล่า ดูหลอกหลอนดี

3. น้ำเซาะทราย/สมพงษ์ โสดา/6 นาที (B+)

- หนังการเมือง แต่ก็ดูเพลินๆ ดี อย่งาน้อยก็มี gimmick อะไรสนุกๆ

- ชอบเอ็มวีเด็กสองคนตรงชายหาด ไม่แน่ใจว่าตั้งใจล้อพวกเอ็มวีเพลงหวาบหวิวตามชายหาดหรือเปล่า

- ฉากไวโอลิน เซอร์สุดๆ (ชอบ!)

4. นิทานหมีน้อย (มี 2 ภาค)/สหรัฐ มานิตยกุล/9 นาที (B)

- ดูเพลินดีๆ แต่ชอบน้อยๆ เพราะหนังพูดมากไปหน่อย (แขยที่ขาดไป ทุกสิ่ง สมบูรณ์ ไม่จำเป็นต้องมี บลาาบลาบลาบลาบลา)

5. นิรันดร์/วรเทพ ธรรมโอรส/10 นาที (A-/B+)

- ขอคารวะผู้กำกับในความลงทุนและความพยายาม!

- แต่ว่าทำไมต้องใช้ซ่วด์แทร็กถล่มทลายขนาดน้านนนน (Requiem for a Dream มาอีกแล้วววว) หนังเลยเหมือนหนังตัวอย่างยาว 10 นาที

- จริงๆ ไม่ต้องมีฉาก 300 ปีถัดมา น่าจะเก๋กว่านี้นะ (แต่ก็ตลกฉากนี้มากๆ ที่ตรงแบ็คกราวด์มีผู้ชายที่ไนหไม่รู้ขนของๆ ท้ายรถอยู่เฉยเลย หรือผู้กำกับตั้งใจจะบอกว่าที่แห่งนี้กลายเป็นที่สารธาณะ - พิพิธภัณฑ์ ไปแล้ว ก็ไม่รู้)

6. เนื้อใน ณ ความจน (Nua nai na Kwarm Jon)/อจล คิบรับ/10 นาที (B+)

- ให้ฟีลเหมือนวิดีโอที่ฉายในแกลเลอรี่ดี

- แต่ชอบหนังน้อยลง เพราะพาร์ตของ ผู้ชายกับวัว เหมือนพยายามแดก(ดัน) คนดูมากไปนิด

7. โน๊ตบุ๊คกูอยู่ไส/พัชชกร พรหมอินทร์/7 นาที (B+)

- ตลกดี แต่ตอนจบดูทื่อๆ กุดๆ ไปหน่อย (น่าจะลองคิดมุกอะไรต่อสักหน่อย)

เวลา 19.00 โปรแกรมที่ 36

1. บางคนคิดว่าสิ่งนั้นไม่เคยเปลี่ยน/อานนท์ ไสย์โยธา/13 นาที (C+)

- การทริบิวต์ ลิลี่ ชูชู ในวงการหนังสั้นรอบที่ 138

- หนังเสียเวลาไปประมาณ 5 นาทีกับการเป็นเอ็มวี (ไม่เล่าเรื่องซะที)

- แต่ก็ชอบ โลเคชั่นที่หามานะ

- สิ่งที่ต้องแก้ไขโดยด่้วน : แคสติ้ง / ไดอะล็อก / และซับไตเติ้ิ้ลภาษาอังกฤษ!

- อย่างไรก็ดี ชอบที่พระเอกพูดประมาณว่า "โลกมันก็น่าเบื่อเหมือนเดิมแหละ" จุดนี้ต่างจากหนังเรื่องอื่นๆ ที่มักหาประโยชน์จากการ romanticize อะไรง่ายๆ

2. บ้าน/ก้อง ตรังรัฎฐพิทย์/11 นาที (B-)

- ไม่แน่ใจว่าหนังมีปัญหาหรือมิกซ์เสียง หรือผู้กำกับตั้งใจ?

- แต่ว่าหนังก็แปลกดี ปกติหนังแนวนี้ก็มักเล่าเรื่องผีโผล่มาหลอกๆ คนในบ้าน แต่เพิ่งเคยเจอหนังที่พูดถึงผีบรรพบุรุษอะไรเทือกนี้

3. บทสัมภาษณ์ ’ผมมีเวลาเป็นชาติเลย’/ภาส พัฒนกำจร/6 นาที (A)

- ดูรอบที่สอง

- รู้สึกว่า ผกก. เก่งดีนะ คือหนังมีองค์ประกอบมากมายที่จะทำให้เราเกลียด ทั้งความแมน ความแอ็คเท่ ความเพ้อเจ้อ ประโยคจบเก๋ ฯลฯ ทั้งสรุปรวมทั้งหมดแล้วหนังมันออกมาลงตัวพอดีมาก

4. บ้าน ดั่งทารกในอ้อมกอดของนิทรา/ทินตะวัน บุรวัตร์/9 นาที (B-)

- เด็กเหงา เดินสยาม เรื่องที่ 148

5. บ้าน บ้าน/วีราภา เองมหัสสกุล / รวิสรา พันธุ์แพ/4 นาที (C+)

- เดินออกไปเข้าห้องน้ำ เพราะเคยดูแล้วในฟิ้วแคมป์ และไม่ชอบ (เจอผู้กำกับๆ ยังบอกเองเลยว่า "พี่ไม่ต้องดูอีกก็ได้ค่ะ")

6. บ้าน..เรา/ศรายุทธ์ ตั้งจิตแผ้ว/5 นาที (B-)

- ฉากรถชนตลกมาก A+++++++++++++++++

- การแสดงของแม่ก็ฮามาก

- ทำไมเด็กมีปัญหาชอบไปนั่งที่ริมทางรถไฟ?? (สถานที่ฮิตอันดับสองรองจาก สะพานลอยมาบุญครอง / สยาม)

- casting ผิดหรือเปล่า พ่อดูเหมือน พี่ชายมากกว่านะ (เหมือนผู้กำกับก็รู้ตัว ถ่ายให้เห็นพ่อแค่หลัง)

- งงๆ กับแนวคิดของหนังหน่อย ตกลงแล้ว ลูกเสียสละตัวเอง ยอมถูกรถชน เพื่อให้พ่อแม่กลับมารักกัน ใช่หรือไม่ 555

7. บ้านในสายตาของแม่ พ่อ และโอรีโอ้ในบางครั้ง/ฐากูร เข็มปัญญา/10 นาที (B)

- เ้กือบจะซึ้งแล้ว แต่หนังมันเดี๋ยว doc เดี๋ยว fic ก็เลยปรับอารมณ์ตัวเองไม่ถูก

8. บ้านยาย/ชัยณรงค์ เนียมวงค์/15 นาที (B-)

- ดีมาตลอดเรื่อง ตกม้าตายตอนจบ

- สรุปแล้ว หนังจะบอกว่า ระบบวัตถุนิยม จงเจริญ สินะ (ถ้างั้นมองในอีกแง่หนึ่ง หนังเรื่องนี้ก็เก๋กว่าหนัง เมืองเลว ชนบทดี กว่าเรื่องที่ผ่านๆ ทั้งหมดนะ)

- แล้วเหตุใดคุณยายถึงฟังเพลงแดนซ์ในตอนจบ ...หรือนี่คือ prequel ของ ยายชาอยากเซอร์เรียล (หนังกางจอ 16)

9. บึง/ธณัฐชัย บรรดาศักดิ์/3 นาที (A-)

- ชอบ ดูลึกลับดี ชอบการใช้เสียงจากวิทยุด้วย

10. บุพนิมิต/ศุภกิติ์ เสกสุวรรณ/8 นาที (B-)

- ฉากขวดน้ำ = ฉากแห่งปี !!!!!!!!!!

11. โบราณ/อลงกต ด้วงรักษา/2 นาที (A-)

- ชอบ ง่าย ได้ใจความ ชอบตอนไฟเพลงเต้น

Create Date : 21 กรกฎาคม 2552

Last Update : 21 กรกฎาคม 2552 4:44:54 น.

8 comments

Counter : 2060 Pageviews.

5 อันดับหนังสั้นที่ชอบ (วีค 2)

1. ของเหลวที่หลั่งจากกาย

2. ตะเพียนริมคลอง

3. นักโทษ

4. บทสัมภาษณ์ ’ผมมีเวลาเป็นชาติเลย’

5. นิรันดร์

5 อันดับหนังสั้นที่ไม่ชอบ (วีค 2)

1. คล้ายคลึงกับ...

2. บางคนคิดว่าสิ่งนั้นไม่เคยเปลี่ยน

3. บ้าน ดั่งทารกในอ้อมกอดของนิทรา

4. ครูรุ้งดาว

5. ขโมย

โดย: merveillesxx

วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:4:52:18 น.