http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2547
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
29 ธันวาคม 2547
 
All Blogs
 
LOVE & POP – ขอรักอันวิเศษนั้นแก่ฉันอีกสักครั้ง

โดย merveillesxx



ออนไลน์ครั้งแรก: //www.bioscopemagazine.com/review/index-in.php?id=11714 (19 ตุลาคม 2547)

‘เอ็นโจโคไซ’ คือคำที่ใช้เรียกกลุ่มนักเรียนสาวที่ปฏิบัติการ ‘รับจ้างออกเดท’ กับชายวัยกลางคน อาจจะเป็นได้ทั้งเพื่อนกินข้าว, เพื่อนเดินเล่น, เพื่อนซื้อของ ไปจนถึง เพื่อนนอน

ฮิเดอากิ อันโนะคือ ผู้กำกับที่โด่งดังจากอนิเมชั่นสุดฮิตเรื่อง Evangelion ที่สร้างปรากฏการณ์ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ชมสูงสุดชนิดไม่เคยมีมาก่อน, การที่ได้กลับมารีรันอย่างรวดเร็ว และเป็นการ์ตูนที่ดูแล้วไม่รู้เรื่องมากที่สุดในโลก! LOVE & POP (1998) เป็นงานกำกับเรื่องแรกของเขาที่ใช้คนแสดงจริง หนังเล่าถึงเด็กสาว ม.ปลาย 4 คน กับเหตุการณ์ใน ‘หนึ่งวัน’ ที่ฮิโรมินัดเจอกับเพื่อนของเธอ นาโอะ, จิเอะ และซาจิ พร้อมกันนั้นหนังก็บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของพวกเธอไปด้วย

เรื่องราวมันเริ่มต้นที่ฮิโรมิอยากได้แหวนวงหนึ่ง แต่ราคามันสุดแสนจะแพง พวกเธอทั้งสี่เลย ‘รับจ้างออกเดท’ ไปกับชายคนหนึ่งโดยตกลงกันว่าจะไปร้องคาราโอเกะ พวกเธอบอกย้ำกับชายผู้นั้นว่าพวกเธอจะเป็นแค่เพื่อนร้องคาราโอเกะ ไม่ใช่เพื่อนนอน ชายคนนั้นยืนยันว่าไม่ได้ต้องการมีเซ็กซ์กับพวกเธอ … แต่ความต้องการที่แท้จริงของเขานั้นมันน่าตกใจไปกว่าที่พวกเธอคิดหลายเท่านัก มันทำให้พวกเธอไม่มีวันลืม ‘หนึ่งวัน’ วันนี้ ฮิโรมิบอกกับเราว่าหลังจากนั้นพวกเธอไม่เคยพูดถึงเหตุการณ์นี้อีกเลย

แม้จะได้เงินมา แต่ฮิโรมิก็รู้สึกผิดและตัดสินใจแบ่งให้เพื่อนไปเท่าๆกัน เธอจึงมีเงินไม่พอที่จะซื้อแหวนวงนั้น แต่เธอก็ยืนยันว่า ‘ฉันจะซื้อมันวันนี้’ กับเวลาที่เหลืออยู่ไม่กี่ชั่วโมง บทผจญภัยของเธอจึงเริ่มขึ้น แต่ไม่ใช่ในฐานะพวกฮีโร่หญิงจำพวกวันเดอร์วูแมน แต่ในฐานะ ‘เอ็นโจโคไซ’! … วันนั้นเธอพบปะกับเหล่า ‘ลูกค้า’ มากมาย (ที่แต่ละคนก็พิสดารไม่แพ้กัน - แถมหนึ่งในนั้นคืออาซาโน่ ทาดาโนบุ! ที่มาในบทรับเชิญสั้นๆ แต่ก็ ‘หักหลัง’ เราชนิดที่ว่าลืมไม่ลง) รวมถึงผู้คนที่เข้ามาพัวพันกับเธอเพราะ ‘โทรศัพท์มือถือ’ ที่เธอยืมมาจากเพื่อน …คนเหล่านี้นี่เอง ที่จะทำให้ชีวิตของฮิโรมิเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

หนังเรื่องนี้มีการเล่าเรื่องและถ่ายทอดตัวเองที่แปลกมาก หน้าหนังที่ดูเหมือนหนังชีวิตรันทดของเด็กวัยรุ่น แต่หนังกลับเล่าเรื่องอย่างราบเรียบ ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเป็นเพียงชีวิตประจำวันหรือเหตุการณ์ในวันๆหนึ่ง ไม่มีฉากเร้าอารมณ์ ไม่ต้องมีการบีบคั้นใดๆ แถมด้วยการที่หนังถ่ายทำด้วยกล้องดิจิตอล แต่ดันใช้เพลงประกอบเป็นเพลงคลาสสิก รวมถึงการถ่ายภาพแบบฉวัดเฉวียนชวนมึนและมุมกล้องแปลกๆ ที่มีให้เห็นนับไม่ถ้วน อาทิ ภาพที่มองออกมาจากเตาไมโครเวฟ, ภาพที่มองผ่านซี่พัดลม ไปจนถึงภาพจากใต้กระโปรง!

สิ่งที่น่าสนใจมากๆก็คือ ภาพแทนสายตาของตัวละคร (โดยเฉพาะฮิโรมิ) บ่อยครั้งที่หนังใช้มุมกล้องแบบนี้ ซึ่งมันทำให้เรามีความรู้สึกและอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครได้อย่างดี เราเห็นเหมือนสิ่งที่เธอเห็น หากเธอล้างหน้าเราก็รู้สึกเปียก หากเธอเจ็บเราก็รู้สึกเจ็บ อีกสิ่งก็คือ เทคนิคการใช้กรอบเฟรมภาพที่บางทีก็แคบ บางทีก็กว้าง รวมไปถึงการแบ่งจอภาพด้วย

ในฉากหนึ่งฮิโรมิร้องไห้ เพราะเธอรู้สึกว่าเพื่อนๆกำลังจะทอดทิ้งเธอไป (ซาจิกำลังไปจะเป็นแดนเซอร์มืออาชีพ, จิเอะได้มีประสบการณ์อย่างว่ากับพวกผู้ใหญ่, นาโอะสามารถเก็บเงินซื้อคอมพิวเตอร์เองได้) เธอกำลังจะต้องอยู่คนเดียว เธอกำลังทิ้งห่างจากเพื่อนๆ เธอวิ่งตามไม่ทัน … เธอร้องไห้ไม่ใช่เพียงเพราะรู้สึกเดียวดาย แท้จริงเพราะเธอไม่สามารถพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ เธอไม่อาจถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเอง … ในฉากนี้กรอบเฟรมภาพจะเล็กแคบมาก จนรู้สึกได้ถึงสภาพกดดัน อันทำให้เราร่วมสัมผัสสภาวะ ‘ตีบตัน’ ในสมองของฮิโรมิได้

ฮิโรมิบอกเราว่าความจริงพวกเธอทั้ง 4 คนไม่ได้สนิทสนมกันเลย เพราะพวกเธอไม่อาจเข้าใจซึ่งกันและกัน (เมื่อจิเอะถูกคนรักบอกเลิก ทั้งสามก็ได้แต่นั่งเงียบ) สิ่งที่ทำให้พวกเธอคบกันก็เพราะ เมื่อใครคนหนึ่งไม่ต้องการตอบ คนที่เหลือก็จะไม่ถาม และเมื่อใครคนหนึ่งต้องการถาม คนที่เหลือก็จะพูดคำตอบไม่หยุด

สิ่งที่ฮิโมริต้องการจะพูดก็คือ ‘อย่าทอดทิ้งฉันไป ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอ ฉันไม่อยากให้พวกเราต้องแยกจากกัน’ …แล้วทำไมเพียงประโยคธรรมดาสามัญแค่นี้ เธอถึงพูดมันออกมาไม่ได้ แต่กับเรื่องแฟชั่น กับเรื่องเสื้อผ้า เรื่องผู้ชาย เรื่องแฟน เธอกลับพูดได้…เพราะอะไร?

นั่นคืออีกประเด็นที่หนังบอกไว้ มันคือเรื่องของ ‘โทรศัพท์มือถือ’ จะเห็นว่าหลายครั้งมือถือมีส่วนสำคัญต่อเหตุการณ์ในเรื่อง รวมไปถึง ‘การรับจ้างเดท’ พวกเธอทั้งสี่ก็ใช้การหาลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ ทั้งผู้ให้บริการและลูกค้าจะเข้าไปฝากข้อความเสียงเอาไว้ (คล้ายกับระบบ 1900 ในบ้านเรา) ชายคนหนึ่งพูดเป็นต่อยหอยในโทรศัพท์กับฮิโรมิ แต่พอเจอกันจริงๆ เขากลับพูดอ้ำๆอึ้งๆ และบอกกับเธอว่าเขาไม่ได้พูดกับผู้หญิงมา 5 ปีแล้ว! ภาวะที่เหล่าผู้คนพูดกันในโทรศัพท์กันอย่างคล่องปาก แต่ในชีวิตจริงกับมิอาจสื่อสารกับผู้คนได้ สภาสังคมแบบนี้มันอะไรกัน! โลกใบนี้เป็นอะไรไปแล้ว!

ภาวะนี้เกิดจากเหล่า ‘เทคโนโลยีทันสมัย’ ที่กลับทำให้ผู้คน ‘ล้มเหลวทางการสื่อสาร’ จึงไม่แปลกเลยที่เด็กในยุคโลกาภิวัตน์ ยุคมือถือระบาดอย่างฮิโรมิ จะไม่สามารถพูดประโยคแบบนั้นบอกมาได้… ดังนั้นภาพที่เหล่าตัวละครที่พูดคุยกันแต่กลับมีสิ่งมากั้นกลางพวกเธออยู่เสมอ (จากการใช้อุปกรณ์ในฉากเช่น ขาโต๊ะ) คงสื่อถึงประเด็นนี้ และในหนังเรื่อง All About Lily Chou-Chou ชุนจิ อิวาอิ ก็ต่อยอดประเด็นนี้ผ่านทาง ‘อินเตอร์เนท’ และ ‘เวบบอร์ด’

ความล้มเหลวทางการสื่อสารถูกย้ำโดยพฤติกรรมของฮิโรมิที่ชอบถ่ายรูปเพื่อนๆของเธอตลอดเวลา เธอกลัวที่จะเสียเพื่อน เสียความทรงจำไป เธอจึงต้องถ่ายเก็บเอาไว้ การกดชัตเตอร์ของฮิโรมิก็คือการสื่อสารถึงคนอื่นในแบบของเธอ เธอพูดคุยกับรูปถ่ายแทนที่จะคุยกับเพื่อนจริงๆ (คงคล้ายกับเหลียงเฉาเหว่ยที่ต้องคุยกับสบู่ใน Chungking Express) เธอไม่รู้หรือไงว่าถ้าคนเราสื่อถึงกัน ความทรงจำมันก็จะไม่เลือนหาย

ภาพที่ปรากฏในหนังบ่อยครั้งคือ ภาพรถไฟวิ่งวนไปบนราง ดังจะบอกว่าชีวิตเราก็เหมือนรถไฟต้องวิ่งอยู่ในเส้นทางเดิม ต้องเจอกับสิ่งเดิมๆ อยู่ในกรอบที่กักขังเราเอาไว้ …’หนึ่งวัน’ ของฮิโรมิก็เหมือนกัน เธอออกบ้านไปผจญภัยตาม ‘สถานี’ ต่างๆ สุดท้ายเธอก็ต้องกลับมาที่สถานีต้น นั่นก็คือ ‘บ้าน’ เธอล้มตัวลงบนเตียง ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ผ่านมา เธอบอกพ่อแม่ว่าวันนี้เธอ ‘เหนื่อย’ เหลือเกิน…ในความเงียบงัน เธอเริ่มพูดคุยกับตัวเอง (ฮิเดอากิ อันโนะ เป็นคนที่เก่งมากกับฉากประเภท ‘คุยกับตัวเอง’ เพราะมีฉากแบบนี้เยอะมากใน Evangelion) บางทีคนเราทุกวันนี้อาจจะอยู่ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีมากเกินไป จนลืมคุยกับตัวเองก็เป็นได้ และในที่สุดฮิโมริก็พบกับบางสิ่งบางอย่างที่เป็น ‘เส้นทางใหม่’

เช้าวันรุ่งขึ้น ภาพขบวนรถไฟวิ่งออกจากชานชลาอีกครั้ง แต่คราวมันไม่ได้วิ่งวนอยู่ในเส้นทางเดิม มันวิ่งออกมาข้างนอก และมุ่งตรงไปข้างหน้า เด็กสาวทั้งสี่คนจับมือกันเดินเคียงคู่ไปข้างหน้า เธอรู้แล้วว่าเส้นทางใด วิถีทางใดที่เธอควรจะมุ่งไป ฮิโรมิรู้แล้วว่าสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เงิน ไม่ใช่แหวนวงนั้น…เพราะภาพตอนท้ายเด็กสาวร่วมกันร้องเพลงท่อนหนึ่งซ้ำไปมาว่า… “ขอรักอันวิเศษนั้นแก่ฉันอีกสักครั้งเถอะนะ”

ใช่แล้ว! ที่เธอต้องการก็แค่นั้นเอง


---------------------------

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
//www.imdb.com/title/tt0168972/
//www.rottentomatoes.com/m/love_and_pop/
//www.evaotaku.com/Anno/loveandpop.html
//movies.yahoo.com/shop?d=hv&id=1808573522&cf=info&intl=us

--------------------------

เกร็ดภาพยนตร์
- หลายฉากของหนังเรื่องนี้น่าจะมีอิทธิพลต่อ All About Lily Chou-Chou ของชุนจิ อิวาอิ รวมถึงเพลงประกอบด้วย เพราะอิวาอิใส่เพลงจากหนังเรื่องนี้ลงไปใน All Aboutฯ
- ชุนจิ อิวาอิ เป็นนักแสดงนำในหนังเรื่อง Shiki-Jitsu (2000) ของฮิเดอากิ อันโนะ
- เสียงพากย์ในหนังเป็นเสียงของ เมงุมิ ฮายาชิบาระ หรือสาวเสียงเย็น ‘เรย์’ จากเรื่อง Evangelion นั่นเอง
- สาวน้อยที่แสดงเป็น จิเอะ ในเรื่องก็คือ ยูกิเอะ นากามะ ที่เรารู้จักเธอจาก ซาดาโกะ (เวอร์ชันน่าสงสาร) ใน Ring 0 และสาวสวยสุดเฉี่ยวจอมปลิ้นปล้อนในเรื่อง g@me. แหม…โตเป็นสาวแล้วสวยได้ใจจริงๆ
- ส่วนสาวที่เล่นเป็นฮิโรมิ ก็คือ อาซึมิ มิวะ ที่เราน่าคุ้นหน้าเธอจากเรื่อง Ping Pong




Create Date : 29 ธันวาคม 2547
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2548 18:49:06 น. 8 comments
Counter : 4595 Pageviews.

 
คอมเมนต์เป็นคนแรกเลยแฮะ ทั้งที่reviewก็ออกมานานแล้ว สงสัยจะไม่ค่อยมีคนดูเรื่องนี้นะครับ :D

ทีแรกหนังเรื่องนี้ซื้อมาดองไว้เพราะอ่านหลังปกรู้ว่าเป็นฮิเดอากิ อันโนะกำกับ อีกอาทิตย์หลังจากนั้น ไม่มีอะไรทำจึงหยิบมาดูเล่นๆ หวังเอาว่าพอถึงตอนน่าเบื่อก็จะพักแล้วไปหลับ ที่ไหนได้!! กว่า2ชั่วโมงที่ผมดูหนังเรื่องนี้จนจบ+ไล่ดูtrailer&music videoที่แถมมาในแผ่น อยากจะบอกว่าผมชอบL&Pมากครับ ทุกอย่างทั้งบรรยากาศ บท ตัวแสดง เรียกได้ว่าประทับใจเลยทีเดียว ในส่วนของเนื้อหาคงไม่ต้องบอกอะไรอีก เพราะคุณmerveillesxxปอกจนหมดเปลือกแล้ว เอาสั้นๆว่าอันโนะ ผมรักคุณครับ!! และจะรอดูผลงานชิ้นต่อไปคือShiki-Jitsu(2001) ไม่ทราบว่าคุณmervilleดูรึยังครับ? :D


โดย: Killy IP: 203.114.112.197 วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:5:36:59 น.  

 
เรื่อง Shiki-Jitsu ผมยังไม่ได้ดูเลยครับ แผ่นก้ยังไม่ได้ซื้อ แต่รู้สึกว่าร้านพี่คนนั้นจะทำออกมาได้สักพักแล้ว


โดย: merveillesxx วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:2:34:54 น.  

 
น่ า ดู ช ะ มั ด เ ล ย อ ะ

ส า ย ไ ป รึ เ ป ล่ า เ นี่ ย ย

ทำ ไง ดี อะ


โดย: KaEw IP: 222.123.30.154 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:02:42 น.  

 
อ่านแล้วชักอยากจะดูบ้างจัง


โดย: coming soon (The Yearling ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:56:34 น.  

 
เพิ่งเคยดูอาทิตย์ที่แล้วเองครับ ประทับไปมาก เคยเห็นแบบผ่านๆ ไม่น่าโดนหน้าปกหลอกเลย หนังหม่นๆดี


โดย: Baritoreca IP: 61.90.72.241 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:21:07:43 น.  

 
ใครรู้บ้างว่ามีแผ่นขายที่ไหม บอกที


โดย: cos IP: 125.24.221.238 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:58:50 น.  

 
1 หนังในดวงใจอีกเรื่องเลย


โดย: Baritoreca IP: 117.121.208.2 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:38:16 น.  

 
เคยดูlilyนะ แต่อยากหาที่ซื่อlilyกับlove&popด้วยอะ
ใครรู้ก็บอกกันทีนะ คิดว่าlove&popต้องหายากมากๆแน่เลย


โดย: ซู IP: 125.25.1.159 วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:8:13:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.