http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
26 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
สวรรค์บ้านนา + ภูเก็ต : เรื่องของ ‘พื้นที่’ และ ‘สถานที่’

โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง


(หมายเหตุ: ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสาร FINE ART ฉบับเดือนกันยายน 2553)


ชื่อของ อุรุพงศ์ รักษาสัตย์ อาจไม่เป็นที่คุ้นหูในวงกว้างนัก แต่ผู้คนในแวดวงหนังอิสระรู้จักเขาเป็นอย่างดี อุรุพงศ์คือคนทำสารคดีที่มีแนวทางชัดเจน นั่นคือการทำหนังว่าด้วยประเด็นเรื่อง ‘ชนบท’ หนังเด่นของเขา อาทิ ‘แข่งบั้งไฟ’ ถ่ายภาพประเพณีดังกล่าวตลอดทั้งเรื่อง และ ‘เรื่องเล่าจากเมืองเหนือ’ อันเป็นการร้อยเรียงหนังสั้นของเขาที่ว่าด้วยบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงราย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีหนังสั้น/หนังอิสระที่พูดประเด็นชนบทเป็นจำนวนมาก แต่หนังหลายเรื่องมักประสบปัญหาเรื่องมิติที่แบนราบจนเกินไป โดยเฉพาะการ romanticize ภาพชนบทให้เป็นพระเอก และมอบบทตัวร้ายให้กับสังคมเมือง (หรือกรุงเทพ) หนังของอุรุพงศ์ข้ามพ้นปัญหาเช่นนั้นไป เพราะเขาเติบโตจากพื้นที่นั้นจริงๆ หนังของเขาถ่ายทอดภาพของชนบทอย่างบริสุทธิ์และตรงไปตรงมา

อุรุพงศ์เป็นลูกชาวนา และภูมิใจในสถานะดังกล่าว หนังยาวเรื่องแรกของเขาอย่าง ‘สวรรค์บ้านนา’ (Agrarian Utopia) จึงว่าด้วยวิถีชีวิตของชาวนาและระบบกสิกรรมในประเทศไทย ผู้กำกับใช้วิธีการเช่าที่นาในจังหวัดเชียงรายให้กับสองครอบครัวชาวนาที่ตัดสินใจออกจากกรุงเทพเพื่อกลับบ้านเกิด หนังใช้เวลาถ่ายทำถึงหนึ่งปีเต็มๆ โดยมีทีมงานเพียง 2-3 ชีวิตเท่านั้น

ความโดดเด่นของ ‘สวรรค์บ้านนา’ คือเราไม่อาจแน่ใจได้ว่าส่วนไหนของหนังที่เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง เช่นว่า ครอบครัวชาวนาที่เห็นในหนังกลับมาทำนาจริงๆ หรือเป็นเซ็ตสถานการณ์ขึ้นมา อย่างไรก็ดี ผู้กำกับก็ทำให้เรื่องจริงและเรื่องแต่งกลมกลืนกันอย่างแนบเนียน จนเราไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด โดยเฉพาะกระบวนการทำนาและอุปสรรคที่เหล่าชาวนาต้องพบเจอ ล้วนเป็นของจริงแท้แน่นอน

สาเหตุที่หนังดูจริงอย่างยิ่ง ก็เพราะผู้กำกับใช้การถ่ายทำแบบลอบสังเกตการณ์ (Observational) กล้องตามถ่ายพวกเขา โดยที่ไม่มีผู้กำกับ/ผู้ดำเนินรายการเข้าไปแทรกแซงหรือตั้งคำถามสัมภาษณ์ หนังยังถ่ายทอดภาพกิจวัตรประจำวันของพวกเขาเป็นส่วนใหญ่ - การดำนา, ฝัดข้าว, ลากจูงกระบือ, พ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวด้วยกัน หรือเด็กๆ ที่วิ่งเล่นในโคลนตม - เหล่านี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกราวกับกำลังติดตามชีวิตของผู้คนอยู่จริงๆ

หนังยังมีจุดเด่นของงานด้านภาพที่สวยงาม ซึ่งทำให้เหมาะกับการชมในโรงภาพยนตร์เป็นอย่างยิ่ง ทุ่งนา, ท้องฟ้า, แม่น้ำ บนจอภาพดูทรงพลังมาก สิ่งที่เราเห็นเป็นราวกับ ‘สวรรค์’ หรือ ‘ยูโทเปีย’ ตามชื่อหนัง ถึงกระนั้นเหล่าชาวนาก็ต้องพบเจอ ‘นรก’ อยู่สองประการ นั่นคือ ภัยธรรมชาติ และระบบทุนนิยม โดยดูเหมือนว่าอย่างหลังจะมีความร้ายแรงกว่ามาก

ตลอดหนังทั้งเรื่องเราจะได้เห็นว่าชาวนามีความยากลำบากในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างยิ่ง พวกเขาถูกกดค่าตอบแทนจากนายทุนและพ่อค้าคนกลาง หนำซ้ำผืนนาแห่งนี้ก็ไม่ใช่ของเขาเสียอีก ในที่สุดเมื่อเจ้าของนาตัดสินใจขายมัน เหล่าชาวนาก็ต้องจำใจกลับไปยังกรุงเทพ (ทั้งที่เขาต่อต้านมันมาตลอด) ภาพในฉากถัดมาที่เราเห็นพวกเขาต้องไปทำงานก่อสร้างจึงเป็นความเจ็บปวดอย่างยิ่ง

ช่วงท้ายของ ‘สวรรค์บ้านนา’ ทวีความเข้มข้นด้วยการอิงกับประเด็นทางการเมือง หนึ่งในชาวนาได้เดินทางไปยังแถบราชดำเนิน เขาพบกับทั้งม็อบของกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดง (เหตุการณ์ในหนังเป็นช่วงที่พันธมิตรเริ่มชุมนุมใหญ่ก่อนหน้าจะเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมิ) เราไม่อาจแน่ใจได้ว่าชาวนาผู้นี้มีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร แต่ที่เรารับรู้คือเขามองสิ่งที่เห็นตรงหน้าด้วยความฉงนสงสัย

นั่นคือ นอกจากชาวนาจะสูญเสีย ‘พื้นที่’ ทำกินไปแล้ว เขายังหาจุดลงทางพื้นที่ทางการเมืองไม่ได้ คนดูและตัวชาวนาเองตระหนักไปพร้อมกันว่าตัวเขานั้นเป็นเพียงหน่วยเล็กๆ ในประเทศแห่งนี้ ที่ถูกแรงเหวี่ยงของสังคมกระทบซัดไปมาอย่างไม่สิ้นสุด ด้วยเหตุนี้เองสวรรค์ของเขาจึงพังครืนลงมา หรือบางทีมันอาจไม่มีอยู่จริงก็ได้ในยุคสมัยเช่นนี้



ในขณะที่ อุรุพงศ์ เป็นคนทำหนังที่มุ่งเน้นประเด็นเรื่องชนบท หนังของ อาทิตย์ อัสสรัตน์ (ศิลปินศิลปาธรสาขาภาพยนตร์คนล่าสุด) ก็ทำหนังที่มีธีมว่าด้วยเรื่อง ‘สถานที่’ มาตลอด ตั้งแต่หนังสั้นเรื่อง 705/1 Sukhumvit 55 ที่ถ่ายบ้านของเขาเอง, Wonderful Town หนังยาวเรื่องแรกว่าด้วย อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากเหตุการณ์สึนามิ และล่าสุดกับหนังสั้น 30 นาทีเรื่อง ‘ภูเก็ต’ ซึ่งก็ถ่ายทำที่จังหวัดดังกล่าว

หนังเล่าถึง จิน ดาราสาวเกาหลีชื่อดัง (นำแสดงโดย อิมซูจอง จาก A Tales of Two Sisters และ I'm a Cyborg, But That's OK) ที่หลบมาพักร้อนแบบส่วนตัวที่เกาะภูเก็ต แต่ก็ไม่วายถูกตามติดจากเหล่าแฟนคลับ เธอได้พบกับ พง (สรพงษ์ ชาตรี) คนขับรถที่ใช้ชีวิตที่นี่มากว่า 30 ปี ทั้งคู่ผูกมิตรภาพเข้าด้วยกัน และเดินทางไปยังที่ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต

แม้การแสดงของตัวเอกทั้งสองจะแปลกแปร่งอยู่บ้าง แต่หนังก็ออกแบบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้น่าสนใจดี โดยจินเป็นหญิงสาวที่อยู่กับพ่อมาตั้งแต่เด็ก ส่วนพงนั้นภรรยาเสียไปนานแล้ว และอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด ทั้งคู่จึงมีปฏิสัมพันธ์แบบพ่อกับลูกสาวไปโดยปริยาย จินพูดบ่อยครั้งว่าเห็นพงแล้วทำให้เธอนึกถึงพ่อของตัวเอง

จินค่อยๆ เปิดเผยถึงสาเหตุที่เธอหลบมาภูเก็ต เธอกำลังจะแต่งงานและรู้สึกไม่มั่นใจกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเข้ามา ฉากที่จินพูดคุยกับพงเรื่องชีวิตในภายภาคหน้าจึงคล้ายกับห้วงขณะที่ลูกสาวพูดคุยกับพ่อก่อนจะเข้าพิธีวิวาห์ แม้ว่าพงจะไม่ได้มีความเกี่ยวพันอะไรกับเธอเลยก็ตาม

ผู้กำกับเล่นกับเรื่อง ‘ความเปลี่ยนแปลง’ ผ่านการแต่งงานของจิน และสถานที่อย่างภูเก็ตไปพร้อมกัน ในฉากหนึ่งจินบอกว่าเธอเคยมาที่ภูเก็ตกับพ่อเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ภูเก็ตในวันนี้เปลี่ยนไปมากทีเดียว ขณะที่พงก็บอกว่าตลอดสามสิบปีที่เขาอยู่ที่นี่ เขาเห็นโรงแรมถูกสร้างเพิ่ม, ผู้คนหนาแน่นขึ้น, ชายหาดที่หน้าตาต่างไปจากเดิม อย่างไรก็ดี พงบอกว่าแม้ภูเก็ตจะเปลี่ยนไป แต่ชีวิตเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

ความน่าสนใจของ ‘ภูเก็ต’ จึงอยู่ที่ทัศนคติของหนังเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลง (หรืออีกนัยคือความเจริญของภูเก็ต) ดูเหมือนหนังจะไม่ได้มองสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเลวร้ายเกินไปนัก หนังพูดกับคนดูด้วยน้ำเสียงอันอ่อยโยนว่าความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่บางอย่างเราสามารถเก็บไว้เป็นความทรงจำได้ และสิ่งนั้นจะคงอยู่เสมอในใจเรา

อีกประเด็นที่น่าสนใจใน ‘ภูเก็ต’ คือการปะทะกันของวัฒนธรรมหรือสิ่งที่แตกต่างกัน ในที่นี้คือ เชื้อชาติและวัยของตัวเอกทั้งสอง ความแตกต่างแบบนี้พบได้ในหนังของอาทิตย์เสมอ อย่างเช่นใน Wonderful Town ที่พูดถึงพระเอกซึ่งเป็นคนเมืองมาพบรักกับนางเอกผู้เป็นคนในท้องถิ่น หรือ ‘ไฮโซ’ หนังยาวเรื่องล่าสุดของเขาที่นำแสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เล่าถึงหนุ่มลูกครึ่งที่กลับมาเมืองไทย หลังจากไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกเสียนาน ว่ากันว่านี่จะเป็นหนังส่วนตัวที่สุดของอาทิตย์ ซึ่งเราคงมีโอกาสได้ดูกันเร็วๆ นี้







Create Date : 26 เมษายน 2554
Last Update : 26 เมษายน 2554 6:29:23 น. 0 comments
Counter : 3028 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.