http://twitter.com/merveillesxx
และ
http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
MOVIE PLAY
MUSIC
CONCERT REVIEW
สาระ+จับฉ่าย
BOOK
นิยาย-เรื่องสั้น
mer's BIOGRAPHY
คลังข้อสอบ
GALLERY
Teaching
Third Class Citizen
<<
พฤษภาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
20 พฤษภาคม 2551
เกราะเพชรเจ็ดสี + The M Project
All Blogs
ตามรอยโลเคชั่น Solanin
The 10 Best Films of 2014
Bleak Night : ค่ำคืนอันโหดร้าย
Enemy : แมงมุมขยุ้มชีวิต
My fluid thought on UNDER THE SKIN
A Story of Yonosuke : เรื่องราวในชีวิตเราจะเป็นประวัติศาสตร์ในใจใครได้บ้างหรือเปล่า?
The Letter เกาหลี vs. ไทย
TOP10 FILM : 10 หนังที่ชอบที่สุดปี 2013
ตามรอยหว่องกาไว ฉบับปี 2013
คู่กรรม 2013 : พี่ชาย ชั้นไม่เข้าใจพี่เลย!
Dreams for Sale : ไม่ถึงฝั่งฝัน
The Kirishima Thing : คิริชิม่า(กู)อยู่ไหน!?
Desire (Yokubo) : สิ่งนั้นชื่อว่าแรงปรารถนา
Solanin : ร้องเพลงบอกลาเธอ
คิมจองอิลตายแล้ว : โลกหลังความตาย(ของท่านผู้นำ)
ตามรอยโลเคชั่น All About Lily Chou-Chou
TOP 10 : FILM 2012
TOP 10 : STAGE PLAY 2012
Caesar Must Die : ภาพยนตร์และระยะห่างกับผู้ชม
ตะลุย World Film Festival 2012
6 ตุลาปาร์ตี้ : ความลื่นไหลและไร้ตัวตนของ 6 ตุลา
แผ่นดินอื่น / The Other Land 2012 : กลับมาอีกครั้ง ผียังคงอยู่
Marina Abramovic: The Artist Is Present : ศิลปะแห่งขีดสุด
The Odd Couple (Queer Version) (รักนะ อีดอก) : สนุกมากค่ะ อีดอก!
กุหลาบสีเลือด : กุหลาบดอกเก่า
สยามมิสฉัน The Musical : ฉันผิดเองที่ไปดู
วงกฎ : มาถูกทางแล้ว...
Fat the Musical : ความตลกเรื่อยเปื่อยเกินเหตุ
The Dark Knight Rises : เมืองนี้ต้องการฮีโร่ แต่ไม่ต้องการประชาชน
หลังคาแดง เดอะ มิวสิคัล : ละครบำบัดคนปกติ...ให้เป็นบ้า
OXYGEN : เมื่ออากาศเป็นพิษ
Blood Brothers : นี่สิ...มิวสิคัล!
รักจับใจ เดอะ โรแมนติก มิวสิคัล : ไม่-จับ-ใจ
ทึนทึก 4 กลัวน้ำ (รู้สึกไปเอง) : คิดเองเออเอง
Michael : เมื่อ Pedophile เป็นมนุษย์
Never Let Me Go : โมงยามสู่ความตาย
ที่รัก + The Kid with a Bike : พ่อ...ที่หายไป
American Reunion : A Beautiful Reunion Party
Wheat Harvest : ตามติดชีวิตกะหรี่
บันทึก The 9th World Film Festival of Bangkok 2012
Film of the Year 2011 : สิบหนังปี 2011
Theatre of the Year 2011 : สิบละครเวทีที่ชอบที่สุดของปี 2011
We Have a Pope : เมื่อโป๊ปไม่อยากเป็นโป๊ป
Elena : เลือด(ชั่ว)ย่อมข้นกว่าน้ำ
Kimjongilia / North Korea's cinema of dreams : แด่ท่านผู้นำ คิมจองอิล
Martha Marcy May Marlene : ผู้หญิงสองโลก
เสวนา : ผู้หญิงโลกตะวันออก ตามทัศนะภาพยนตร์ฮอลลีวูด ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
A & A2 : แสงสว่างในความมืดของโอมชินริเกียว
Post Mortem : หลังความตายอันเยือกเย็น
Guilty of Romance : ปราสาทที่ไม่มีวันไปถึง
Kiseki (I Wish) : ปาฏิหาริย์(ไม่)มีจริง
Paradise Kiss : โจทย์โหดหินของการแปลงงานของ ไอ ยาซาว่า
Finisterrae : ผีคนเป็น
Bandage : ความวนเวียนของหนังวงดนตรี
Halfway : ครึ่งทางของความเข้าท่าและไม่เข้าท่า
Hi-So : ความทรงจำเก่าๆ
Zangief Kid : ไวรัลจากความรุนแรง
ผลงานคุณเมอร์ในเดือนตุลา 54 (aka โครงการระดมทุนช่วยคุณเมอร์เลี้ยงเมียเด็ก)
Kafka & I : คนกลายเป็นแมลง แต่แมลงจะไม่กลายเป็นคน
Scott Pilgrim เล่ม 4 : สก็อตต์ พิลกริม กับเธอและฉัน บนรอยแยกระหว่างกัน
Hedwig and the Angry Inch + วิปริต : ร็อค / คลั่ง
ทวิภพ เดอะ มิวสิคัล : ทวิลักษณ์ของความรัก
กางจอ 18+ : ปีนี้อุเบกขา
สก็อตต์ พิลกริม กับความเศร้าเขย่าดวงดาว + โอ้ละหนอ...ไทยแลนด์
วันที่สหายพายุกลับบ้าน : วันที่ความเชื่อพังทลาย
เดวิด โอไรลีย์ (David O'Reilly) : ป่วงป่วยอย่างสุดขีด
Frankenstein : เฟล-อะเกน-ตามสไตล์?
"FIN" : Fetishism Story เรื่องของความฟิน / เพศ / การเสพติด
Hedwig and the Angry Inch : กำแพงที่แบ่งกั้นตัวฉันอีกครึ่งหนึ่ง
สวรรค์บ้านนา + ภูเก็ต : เรื่องของ ‘พื้นที่’ และ ‘สถานที่’
The Farewell : หนึ่งวันกับชายชื่อ Bertolt Brecht
Akunin (Villain) : คนเลวที่เธอรัก
Attenberg : เรื่องน่าปวดหัวของเซ็กซ์และความตาย
Suck Seed ห่วยขั้นเทพ : ถึงไม่เทพ แต่ก็ไม่ห่วย
Blindness : เมื่อโลกมืดบอด
Scott Pilgrim : สก็อตต์ พิลกริม กับชีวิตกระจิ๊ดริดมหาศาล + สก็อตต์ พิลกริม กับศึกกิ๊กเก่าเขย่าโลก
บทวิจารณ์รางวัล มล. บุญเหลือปี 2553 + ความเห็นของคณะกรรมการ
ภูเขาำไฟพิโรธ : ควันแห่งความทรงจำ
รวมมิตรโฆษณา: เจเล่บิวตี้-ขาวอมชมพู-ซิซซ์เลอร์
10 หนังที่ชอบที่สุดของปี 2010
หนังโป๊สรรพสัตว์สุดสยิวของ อิซาเบลลา รอสเซลลินี
ศาสตร์และศิลป์ของคลิปยำหนัง
ผลการประกวดบทวิจารณ์และละครดีเด่น กองทุนหม่อมหลวงบุญเหลือ เทพยสุวรรณ ประจำปี 2553
"ลูกโลกทองคำ 2011" @ รายการศิลป์สโมสร
10 ละครเวทีที่ชอบที่สุดของปี 2010
"หนังแฉ" @ รายการศิลป์สโมสร
It Gets Better : โปรเจคต์รวมหมู่เพื่อให้กำลังใจวัยรุ่นเกย์ในอเมริกา
Attraction : หนังรณรงค์ไม่สูบบุหรี่...ก็เก๋ได้
ร่วมลงนามเรียกร้องให้มีการชี้แจงเรื่องการแบนหนัง Insects in The Backyard
Moon : ฤๅเลือดคน (โคลน) มันไร้ค่า?
THIRD CLASS CINEMA 020 : WELL DONE, MEDIUM & RARE พบกับหนังสั้นและเอ็มวีสุดพิเศษ
โฆษณา Oriental Princess : เป็นสิว = อาชญากรรม !!??
วิจารณ์ แอนิเมชั่น "เพลงพระอาทิตย์"
ดาลิต ผู้เป็นที่รัก : ชนชั้นของวรรณะและชั้นเชิงของละครเวทีนักศึกษา
ภาพยนตร์เหตุการณ์ 9/11 @ รายการศิลป์สโมสร
คลิป "คุณครูฟิวส์ขาดขว้างบีบี" กับเรื่องความจริง/ความลวง และอำนาจของครูในสังคมไทย
'The Social Network' Effect
Crime and Punishment บนจอภาพยนตร์
5 หนังโดดเด้งจาก กางจอสิบเจ็ด ลูกเป็ดขี้เหร่
The Road : ถนนของคู่ตรงข้าม
Sign : เราทุกคนล้วนต้องการ 'สัญลักษณ์'
เชงเม้ง + เด๊ดสะมอเร่ : Will you go to Qingming or Hell?
Apichatpong Weerasethakul and his Palm d'Or
ความทรงจำเล็กๆ น้อยๆ ต่อโรงหนังสยาม
ผู้กำกับอิหร่าน จาฟาร์ ปานาฮี ประท้วงอดข้าวแลกอิสรภาพ
M.I.A. : Born Free จะแรงไปเพื่อ...!
Afterschool : ความรุนแรงแบบไวรัล
BIOSCOPE #100
(500) Days of Summer : ห้าร้อยวันฉันรักเธอ
10 หนังแห่งปี 2009
10 ละครเวทีแห่งปี 2009
My 10 Best Films of the Decade (2000-2009)
เฉือน ฆาตกรรมรำลึก : อาจยังไม่คมพอ
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ : รถไฟฟ้าแห่งวาทกรรมอันซ้ำซาก
หนีตามกาลิเลโอ : การเดินทางอันว่างเปล่า
Winter Love Movies : 5 หนังประจำฤดูหนาว
10 หนังหลอน-สยองไม่ควรพลาด
กิจกรรมทางเลือก นอกจากการดู AVATAR
2009 Year In Review by JibJab : ลาทีปี 2009!
Leave Me : ดูแล้วตายไปเลย
Keira Knightley in “The Cut”
Sony Bravia Paint Ad : โฆษณาในตำนาน
Zapping : รีโมตเจ้าปัญหา
Metamorphosis : พริ้วไหวอย่างบาดใจ
The Horribly Slow Murderer with the Extremely Inefficient Weapon
One Future : ดูหนังเขา แล้วย้อนดูบ้านเรา
รู้จักคลิป Viral มาแรงล่าสุด UCB's Noteworthy - Poker Face
Paranormal Activity : ผู้หญิงกับอาการผีเข้า/ผีหลอก
Stealth : คน ตัวตน เพศสภาพ และชาติพันธุ์
Silent Scream : ถึงจะกรีดร้องอย่างเงียบงัน แต่ฉันก็ได้ยิน
Seminar: The World of Apu, Woman in the Dunes, Casablanca
Versailles : คนไร้บ้านข้างแวร์ซายส์
Xavier Le Roy's Self Unfinished : ร่างกายใต้บงการ
I Killed My Mother : ศิลปะแห่งมาตุฆาต
Eccentricities of a Blond Hair Girl : สาวน้อยคนนั้น
Huacho : ทุกข์ชาวบ้าน x 4
Visitors : การเยี่ยมเยือนอันแสนเศร้า
All Around Us : การล่มสลายของสถาบันครอบครัวที่ความรักอาจเยียวยา
PREVIEW: Bangkok International Film Festival 2009
The Piano Teacher (excerpt from seminar @ BU)
นางไม้ : ความคลุมเครือของเป็นเอก
Star Trek 2009 : หนังตลาดก็ดีได้
R.I.P. Alexis Tioseco and Nika Bohinc
THIRD CLASS CITIZEN : HOMELESS (AGAIN) ANNOUNCEMENT
13th Short Film Festival Marathon (Week 4)
13th Short Film Festival Marathon (Week 3)
13th Short Film Festival Marathon (Week 2)
13th Short Film Festival Marathon (Week 1)
French Film Festival 2009
World Comedy Film Festival 2009
Italian Film Festival 2009
A Chronicle of Love and Pain : WORLD PREMIERE
All About Actresses
Still Walking : มหากาพย์ 24 ชั่วโมง
Dream : ความฝันของผู้กำกับวิกลจริต
Slumdog Millionaire : จากเรื่องในจอสู่เรื่องนอกจอ
High School Musical 3 : จากหนังเพลงลั้ลลาสู่เรื่องระบบการศึกษา
The Convert + Suddenly, Last Winter : ความรักหลากมิติ
A Chronicle of Love and Pain : SECOND LOOK
A Chronicle of Love and Pain : FIRST LOOK
NICOLE KIDMAN IN "BIRTH"
ภาพบรรยากาศ Once Upon a Time in Bangkok
'Wherever You Will Go' in Once Upon a Time in Bangkok
Secret Sunshine: หัตถ์พระเจ้าในแสงตะวัน
นารีสมรส : เราสมรสโดยไม่มองหน้ากัน?
10 หนังแห่งปี 2008
Finale Program for 2008
Third Class Citizen wanna say "THANK YOU!"
Sunflower : Everybody Hurts
REMAKE-ABLE : 8 ผู้กำกับบ้าจี้ รีเมคหนังกันเอง
พ็อคเก็ตบุ๊ค "คิมคีด็อค แกะดำของหนังเกาหลี"
PUT THE GUN DOWN! : เมื่อตำรวจวางปืน แล้วหันมาถือกล้อง
Bangkok International Film Festival 2008 (PART 2)
Bangkok International Film Festival 2008
Let's Talk About KIM KI DUK
La Maison de Himiko / A Blue Automobile : รักสามเพศ + รักสามเศร้า
เทศกาลหนังสั้นครั้งที่ 12 (รอบมาราธอน)
Serbis : Cinema Inferno
Winai Kitcharoen : The Man without the Movie Camera
I'm Fine, Thank You. And You? : สารคดีใหม่ พัฒนะ จิรวงศ์
The Mourning Forest : ป่าแห่งการร่ำไห้
UNDER THE BLANKET : โลกโต้ผ้าห่มของทศพล บุญสินสุข
The Happiest Days of Our Lives (สารคดีเรื่องแรกของน้องเมอร์!)
สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ (Man of La Mancha) : ฝันที่เป็นจริง (ของละครเวที)
คู่สัมพันธ์วินาศ: ภาพยนตร์ความขัดแย้งระหว่างประเทศเชิงทวิสัมพันธ์
กางจอ 15 หยกๆ สิบหกหย่อนๆ
The Mind Game : Waiting in the Dark
Neo-Realism in Modern Cinema
French New Wave: Weekend + Jules et Jim
Satyricon (Federico Fellini)
Neorealism: The Bicycle Thief + La Strada
Realism and Formalism in Citizen Kane
Wonderful Town : อดีตกาลและเคหะสถาน
ผ่าผิวน้ำ (Breaking the Surface) : If only I could turn back time
17 พฤษภา My Valentine : The Invisible Rose
เทศกาลละครสั้นหน้ากากเปลือย 2551
Children of Men : โลกาวินาศสันตะโร
อีกด้านหนึ่งของ หนังเปียโน
เรื่องเราเล่าย๊าวยาว : หนังมหากาพย์ว่าด้วยคนตัวเล็กๆ
Henris Hands : ด้วยมือเล็กๆของเราเอง
เกราะเพชรเจ็ดสี + The M Project
VIDEOTOP : มิวสิควิดีโอลูกทุ่งไทยเจิดจรัสเหนือจินตนาการ
The Orpheus Schemata : นรก 4 แพร่ง
Welcome to Nothing : Absurdity is all around
SUN/SCREEN : อาทิตย์ อัสสรัตน์ / เรโทรสเป็คทีฟ
Happiness : เศษสุขส่วนทุกข์
The Raspberry Reich + The Doom Generation : ตายเสียเถิด ความสัมพันธ์แบบชายหญิง!
ปิดเทอมใหญ่ชิบหายยกรุ่น
FUSE SHOWCASE VOL.2
The 5th Bangkok Experimental Film Festival
OFF RECORD + FUSE CAMP 10
Atonement : Sorry Seems to Be the Hardest Word
"Time Still Destroys Everything You Touch" again and again
Magnolia
10 อันดับหนังยอดเยี่ยมประจำปี 2007
"Time Still Destroys Everything You Touch" World Premiere
BIOSCOPE #74 : AMERICAN GANGSTER
คืนข้ามปี กับหนังที่คุณเลือก
The Cinematic Curse for the Actors
2008 : Very Short New Year Cine-bration
รักแห่งสยาม : The Power of Love
THE LOVE OF SIAM SAVED MY LIFE : เมื่อ รักแห่งสยาม ช่วยชีวิตผมไว้
รักแห่งสยาม (Love of Siam)
ด่วน! ร่างพรบ.ภาพยนตร์อันล่าสุด มีเรต "ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 25 ปีดู"
5th World Film Festival (PART 4)
5th World Film Festival (PART 3)
5th World Film Festival (PART 2)
5th World Film Festival (PART 1)
Prime + Summer Palace : Best of Times / Changes of Life
"PENGUIN" World Premiere
The Descent : ถ้ำแดงเดือด
เทศกาลหนังสั้นครั้งที่ 11 (PART 3)
เทศกาลหนังสั้นครั้งที่ 11 (PART 2)
เทศกาลหนังสั้นครั้งที่ 11 (PART 1)
ME, MYSELF WITH THE SAME MOVIES IN DIFFERENT PLACE & TIME
Bangkok International Film Festival 2007 (PART 3)
Bangkok International Film Festival 2007 (PART 2)
Bangkok International Film Festival 2007 (PART 1)
ครอบครัวในฝันของฉัน (MY IDEAL FAMILY)
BIOSCOPE #68 : Harry Potter and the Order of the Phoenix
เขาวานให้หนูเป็น guest speaker !?
AOI MIYAZAKI : MY ANGEL HAS GONE
CANNES 2007 : ฅนค้นคานส์
The Host : ยื้อก็เหมือนเราจะยิ่งเหนื่อย รัฐไม่ช่วยอะไรเลย
นันทขว้าง สัมภาษณ์สด กองเซ็นเซอร์แสงศตวรรษ !
เมื่อกองเซ็นเซอร์ดับ แสงศตวรรษ
ประกาศ งดฉาย "แสงศตวรรษ"
Maborosi : แรงระเบิดของคำถาม
แฝด (alone)
Everyone's a critic
10 อันดับหนังยอดเยี่ยมประจำปี 2006
Lost In Translation : Cries and Whispers
Bashing : She doesnt live here anymore
Agnes Varda : ENDLESS LOVE
Birth of the Seanema : BEYOND THE VISIBILITY
Destricted : ก้าวข้ามเส้นแบ่งแห่งศิลปะกับอนาจาร
NANA 2 มาแว้วววววววววววววววว !!!
ตะลุยเทศกาล 4th World Film Festival (PART 4)
ตะลุยเทศกาล 4th World Film Festival (PART 3)
ตะลุยเทศกาล 4th World Film Festival (PART 2)
ตะลุยเทศกาล 4th World Film Festival (PART 1)
Blue + The Child : ชื่อหนังบอกอะไร?
Earthcore + 12 : Just My Imagination
A Day on the Planet + Josee, the Tiger and the Fish : หนุ่มหล่อกับสารพัดสัตว์
Me and You and Everyone We Know : หนังของเธอ หนังของฉัน หนังของเรา
DVD เด็กโต๋ : มาโต๋ถึงบ้านท่านแล้ว
ตอบจดหมายผู้อ่าน : ปริศนาห้วงรักของ In the Mood for Love
A Bittersweet Life หวานอมขมกลืน
FAT FILM 4 : เมื่อเพลงบันดาลใจ...ใครๆ ก็เลยทำหนัง
ก่อนจะกลับมากู้ภารกิจลับเป็นรอบที่ 3 ทอม ครูซเขาเคย
Fallen Angels คนตกสวรรค์ในวันฟ้าเปิด
A History of Violence ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์แห่งความรุนแรง
Course Outline : Adorable Woman & Literature through Modern Media
แฉชีวิตคนตะลุยเทศกาลหนัง
ตะลุยเทศกาลหนัง Bangkok International Film Festival 2006 (Part 2)
ตะลุยเทศกาล Bangkok International Film Festival 2006
10 หนังยอดเยี่ยมประจำปี 2005
April Snow ปลายทางของคนรักหลงฤดู
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 5)
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 4)
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 3)
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 2)
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 1)
3-Iron เทวดาตกสวรรค์ผู้นำความฝันมาบรรจบพบความจริง
The Scarlet Letter มนุษยอัปลักษณ์
About Love เรื่องรักโลกาภิวัตน์
[บล็อกเชียร์หนัง] Farewell, Kuro หนังสำหรับคนรักหมา หนังสำหรับคนรัก หนัง
FaT Film 3 ไม่ใช่แค่ หนังขำขำ
Millennium Mambo แสงไฟแห่งสหัสวรรษใหม่
A Snake of June วงกลมพิศวงในหน้าฝนสีน้ำเงิน
ตะลุยเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ (Bangkok International Film Festival 2005)
ตะลุยเทศกาลภาพยนตร์ฝรั่งเศส (French Film Festival 2005)
ตะลุยเทศกาลภาพยนตร์ยุโรป (EU Film Festival 2005)
มหาลัย เหมืองแร่ เกียรติที่ต้องขุด มิตรภาพที่ต้องถักทอ
เฉิ่ม คลื่นรักลอยอ้อยอิ่งในโลกที่วิ่งติดจรวด
21 Grams น้ำหนักจิ๊กซอว์ที่ปะต่อชีวิต
ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ภาพแห่งความเจ็บปวด
Happy Berry มิตรภาพสีลูกกวาด
My First Boyfriend ความรักครั้งแรก กับความทรงจำตลอดกาล
Code 46 เมื่อสิ่งสุดท้ายที่รู้คือ ความจริง
House of Flying Daggers ความจริง ความลวง ตัวจริง ตัวปลอม ความรัก
The Last Samurai ซามูไร คนสุดท้าย หรือซามูไรที่จะคงอยู่ ชั่วนิรันดร์
Life is Beautiful ชีวิตที่สวยงามกับคำโกหกอันแสนหวาน
La Belle ความรักสีขาวอันว่างเปล่า
Formula 17 เกย์โทเปีย เป็นแดนสวรรค์หรือเพียงฝันจำแลง?
Hana & Alice ความรักหลังลิ้นชัก
แด่ ร้านพี่คนนั้น
All About Lily Chou-Chou – แด่เธอ…บทเพลงแห่งอีเธอร์ (2)
All About Lily Chou-Chou แด่เธอ บทเพลงแห่งอีเธอร์ (1)
Wong Kar Wais Anthology แด่...โลกของหว่องกาไว
2046 รถไฟสายอดีต
ระลึกถึงภาพยนตร์-ศิลปะบนแผ่นฟิล์ม-จากวงการ J-ROCK
Crying Out for Love, In the Center of the World กู่ก้องร้องบอกรัก จากใจกลางโลก
ชำแหละปีศาจ Monster ใครกันแน่ที่เป็น ปีศาจ?
กำเนิดแห่งรัก...จากหนัง Hedwig and the Angry Inch
LOVE & POP ขอรักอันวิเศษนั้นแก่ฉันอีกสักครั้ง
Swallowtail Butterfly จดหมายเหตุถึงโลกของชุนจิ อิวาอิ
I Not Stupid ผมไม่โง่ แต่ถึงผมจะโง่ผมก็มี จิตใจ
พระเอกหน้าตาย-หลายบุคลิก ซาโตชิ ทซึมาบูกิ (Satoshi Tsumabuki)
Jam Films 2 ขบวนการรวมฮิตผู้กำกับญี่ปุ่น มากลับมาอีกครั้ง
Vibrator แรงสะเทือน ถึงหัวใจ
Requiem for a Dream บทสวดศพแด่ฝันและวันที่สิ้นสลาย
2046 ความเปลี่ยวเหงาล้ำอนาคตกับการรอคอยชั่วนิรันดร์
'นิยามมนุษย์' จากโลกภาพยนตร์
เกราะเพชรเจ็ดสี + The M Project
โดย merveillesxx
ได้ยินเสียงร่ำลือถึงละครถาปัดมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่เคยดูเสียที เพิ่งจะได้ดูครั้งแรกก็งานนี้แหละ
วันอาทิตย์ก็รีบตื่น + ออกจากบ้าน พอเดินเข้าไปในจุฬาก็แปลกใจ เพราะเงียบมากกก ไม่มีคนเลย ก็เลยเริ่มหวั่นใจ เอ๊ะ นี่กูจำวันผิดหรือเปล่า แต่พอไปถึงหน้าหอประชุมก็เจอผู้คนมากมาย ทุกเพศทุกวันตั้งแต่แก่ยันเด็ก (แสดงว่าละครเจ้านี้มีกลุ่มผู้ชมกว้างมาก) มีบูธขายของกิน ขายเสื้อ ขายโปสการ์ด อะไรเต็มไปหมด ซึ่งแน่นอน ไม่ซื้อเลยสักอย่าง 555
ไปยืนรอหน้าประตู ประมาณ 13.30 ก็เปิดประตู ก็เข้าไปนั่งที่ตัวเอง มองไปรอบๆ ก็ระลึกความหลัง เพราะสมัยเรียนสาธิตจุฬาต้องมาทำพิธีไหว้ครูที่นี่ทุกปี สักพักก็มีคนมานั่งข้างหน้า ปรากฏว่าเป็นคู่แฟนกัน แล้วผู้ชายก็ดันตัวสูง ตอนดูละครก็เลยต้องนั่งตัวตรงสุดๆ (หอประชุมที่นี่ มันไม่ค่อยมี slope) ส่วนด้านหลังเป็นคุณป้าแก่ๆ 2 คน ที่มากับลูกหลานเป็นพรวน ป้าแกก็พูดไม่หยุดเลย แต่ฟังแกคุยไปก็เพลินดี แต่ไอ้ที่กังวลก็คือ ไอ้คนข้างๆ เรานี่สิ ทำไมมันไม่มาเสียที (เดี๋ยวนี้เป็นโรควิตกจริตไปแล้ว เจอซวยไปนั่งกับคนดูโสๆ เวลาจองที่เลยขอนั่งติดทางเดินไว้ก่อน อย่างน้อยกูก็จำกัดคนไปได้หนึ่งข้าง)
รอสักพัก ไฟก็ดับมืด ละครเริ่มเล่นแล้ว ปีนี้ก็เป็นแนวจักรๆวงศ์ๆ ซึ่งเข้าใจว่ายำๆ กับมาจากหลายๆเรื่องนะ เนื้อเรื่องก็ประมาณว่า จักรวงศ์ (พระเอก) ถูกท้าวพรหมทัต (พ่อตา) กีดกันไม่ให้คบกับมณีรัตนา (นางเอก) และบอกว่าถ้าจักรวงศ์ไปหาเกราะเพชรเจ็ดสีมาได้ถึงจะให้แต่งงานกับลูกสาว ส่วนอีกด้านหนึ่งพระยานาคราช (ชื่อนี้ป่าววะ จำไม่ได้) ก็ฟื้นคืนจากการจำศีล 2000 ปี และต้องการเกราะเพชรเจ็ดสีมาครอบครองเช่นกัน
ช่วงครึ่งแรก ละครก็ดูเพลินดี มุกตลกก็ขำหมดนะ ถึงบางมุกจะไม่มีที่มาที่ไป หรือเป็นพวกมุกควาย เราก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ที่ดีมากๆ ก็คือ ฉาก อลังการสุดๆ (ก็เค้าเรียนถาปัดกันนี่นา) การเปลี่ยนฉากก็ทำได้ดี พวกแสงสีเสียงก็ดีเหมือนกัน ส่วนคนดูรอบๆ ก็ปกติกันดี คุณป้าข้างหลังก็นั่งดูอย่างสงบ คู่แฟนข้างหน้าถึงจะจู๋จี๋กันทุก 5 นาที และเอนหัวเข้าหากันตลอดเวลา แต่ก็ยังทนด้ายยย (กัดฟันพูด) ส่วนคนข้างๆ ก็มาสายตามคาด เป็นผู้หญิงมาคนเดียว แต่เค้าก็มารยาทดีนะ ตอนเข้าที่นั่งเขาก็ขอโทษเรา
เล่นไปประมาณชั่วโมงนึง ก็พักครึ่ง 15 นาที ไอ้เราก็ขี้เกียจออกไป เลยนั่งอยู่ที่เดิม แล้วก็นอนพักสายตา แต่ปรากฏว่าหลับไปเลยจริงๆ วูบนึง มารู้สึกตัวเพราะผู้หญิงที่นั่งข้างๆ เอามายืนรอจะเข้า (เขาคงเกรงใจไม่กล้าปลุกเรา 5555 รู้สึกเขินนะเนี่ย) จริงๆ ก็อยากจะชวนคุยนะ เพราะเห็นว่ามาคนเดียวเหมือนกัน แต่วันนี้เหนื่อย เลยไม่เอาดีกว่า
ระหว่างที่รอต่อไป คุณป้าข้างหลังก็กลับมา แกก็วิพากษ์วิจารณ์ละครครึ่งแรกกัน แกก็บอกว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไร มุกออกจะฝืดๆ (แต่ผมเห็นป้าขำทุกมุกเลยนะ) แล้วก็ไม่ค่อยมีเรื่องการเมืองเท่าไร (อ้าว ป้านี่ละครถาปัดนะ ไม่ใช่รัฐศาสตร์) แต่ฟังคุณป้าแล้วได้ประโยชน์จริงๆ ท่าทางแกดูละครถาปัดกันมาทุกปี เพราะแกก็คุยย้อนหลังถึงละครเรียงปีมาเลย (ตอนแรกเข้าใจว่าหลานๆ ชวนแกมาดู จริงๆแล้วเป็นคุณป้าชวนหลานมาดูมากกว่า)
แล้วไฟก็มืด กลับมาเล่นกันต่อ สำหรับครึ่งหลัง รู้สึกว่าคุณภาพมัน drop ลงไปทุกด้านเลยนะ ไม่ว่าจะบท การแสดง หรือความลื่นไหล (แถยยังโชคร้ายว่ามีตอนที่คนพากย์พูดผิด แทรกขึ้นมากลางคันด้วย แต่ก็ตองชมว่านักแสดงไม่หลุด เล่นต่อได้) สิ่งที่ติดใจมากๆ คือ ช่วงท้ายมันห้วนมาก อารมณ์เหมือนเวลาหมด ก็เลยต้องรีบจบ การคลี่คลายของเรื่องที่น่าจะเป็น climax ก็ไม่ได้อารมณ์เท่าที่ควร (แถมยังกลายเป็นว่าตัวร้ายเด่นมาก พระเอกไม่มีบทอะไรเลย) น่าเสียดายว่า เวลาหนึ่งชั่วโมงในครึ่งหลังถูกจัดสรรไม่ค่อยดีเท่าไร เช่น ฉากนางเอกในป่าหิมพานต์ไม่ทำให้เรื่องเดินไปไหนเลย แต่เหมือนเป็นฉากที่มีเพื่อโชว์ musical ก็เท่านั้น
จริงๆ ก่อนจะมาดู รุ่นน้องคนนึงที่ดูไปแล้ว ก็บอกว่าครึ่งหลังของละครแย่มากๆ (จริงๆ น้องเค้าใช้คำแรงกว่านี้นะ 555) ซึ่งน้องเค้าบอกว่ามันอาจจะไม่ดีเพราะเค้าดูรอบแรกของการแสดงเลย แต่เราว่าตรงจุดนี้มันไม่ใช่เพราะน้องเค้าดูรอบแรกหรอก เราว่ามันเป็นปัญหาที่โครงสร้างบทนั่นแหละ
โดยรวมแล้วละครก็ไม่ได้แย่อะไรหรอกนะ ก็ดูเพลิน หลายมุกก็ขำเด็ดขาดจริงๆ (เช่น มุกเทวดา รับปริญญา อันนี้ตายไปเลย) แต่ถ้าครึ่งหลัง smooth กว่านี้ ก็คงดีขึ้นเยอะเลย
เกราะเพชรเจ็ดสี เหลืออีก 5 รอบ
ศุกร์ที่ 23 พ.ค. เวลา 18.00
เสาร์/อาทิตย์ 24 และ 25 พ.ค. เวลา 13.30 และ 18.00
บัตรราคา 160 200 240
//www.arch-armour.com/
หลังจากไม่ค่อยปลื้มนักกับละครถาปัด ก็ไปนั่งพักกินข้าวที่พารากอน เติมพลังงานเพื่อเตรียมตัวเดินสายไปดูงาน The M Project ที่ Gossip Gallery (อยู่ ซ.สุขุมวิท 28 แถวๆ เอ็มโพเรียม นั่นแหละ)
The M Project เป็นโปรเจคต์ของกลุ่ม Bangkok Troupers ที่รวมการแสดง 3 อย่าง เพื่อสะท้อนประเด็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ คือ 1.ละครใบ้ (ข่าวเศรษฐกิจ) 2.creative movement (ข่าวการเมือง) และ 3.Butoh (เป็นการแสดงแบบญี่ปุ่น) (ข่าวคุณภาพชีวิต) ตอนอ่านเจอข่าวของงานนี้ก็รู้สึกว่ามันเก๋มาก และก็กลัวเหมือนกันว่ามันจะเซอร์แดกจนดูไม่รู้เรื่อง (ฮา) แต่แน่นอนเซอร์แค่ไหน เราก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว (ชอบลองของค่ะ)
ตอนแรกก็หวั่นใจเหมือนกันว่างานนี้มันจะมีคนดูเปล่าหว่า เพราะดู PR ไม่ค่อยเยอะเท่าไร (กลัวมากๆ คือ ทั้งงานมีคนดู 3 คนไรงี้) แต่พอไปถึงที่แกเลอรี่ก็เห็นคนนั่งอยู่ 10 กว่าคน ก็ค่อยอุ่นใจหน่อย (แต่มารู้ทีหลังว่าครึ่งนึงก็เป็นพวกทีมงานอ่ะแหละ 555)
อาจจะงงว่าทำไมการแสดง physical performance ถึงมาเล่นใน gallery ได้ เรื่องของเรื่องคือ โครงสร้างของ Gossip Gallery มันก็เอื้อกับการแสดง(เล็กๆ)แบบนี้ เพราะมีพื้นที่พอควร แถมยังมีบันไดตั้งอยู่ตรงกลางด้วย ซึ่งก็ทำให้ออกแบบลูกเล่นของการแสดงได้เยอะขึ้น
หลังจากรออยู่สักพัก ก็เริ่มการแสดงชุดแรก เป็นละครใบ้เดี่ยว (ถ้าจำไม่ผิดจะชื่อตอนว่า ต้องปล้น) ซึ่งก็ดูยากประมาณหนึ่ง เพราะว่าบางทีก็จิตนาการหรือคิดไม่ทันว่า นักแสดงกำลังสื่อถึงอะไร (แต่โดยคร่าวๆ ก็น่าจะเล่าถึงชีวิตของโจรคนหนึ่ง) รู้สึกติดขัดนิดหน่อยคือ การใช้เพลงประกอบที่เยอะและรกเกินไปหน่อย
ชุดที่สองเป็น creative movement เล่นกันทั้งหมด 5 คน อันนี้เป็นอันชอบมากที่สุด เพราะรู้สึกว่าเค้าเล่นกันกันได้สุดยอดมากๆ และทำให้อารมณ์เราพีคได้ โดยช่วงแรกนักแสดงขยับแบบภาพ slowmotion แต่พอถัดมาก็จะเล่นกันเร็วๆ เหมือนภาพ fast forward อาจจะเพราะมันมีการขยับกันมาก ก็เลยดูไม่ยากนัก โดยการแสดงชุดนี้น่าจะสื่อถึงการแย่งชิงความเป็นใหญ่ และผู้นำบ้าอำนาจ อีกอย่างที่ชอบคือ การจัดแสงที่ทำได้สวยมาก
สุดท้าย เป็นการแสดงเดี่ยวแบบ
Butoh
อันนี้ดูนามธรรมมาก สารภาพว่าดูไม่รู้เรื่องเลย 555 (ข้างหน้าเรามีเด็กมาดูด้วย พอถึงตรงนี้มันก็เริ่มงอแงจะกลับบ้าน) แต่มันก็ดูทรงพลังและขลังมาก (อาจจะเพราะด้วยแสง + เพลงประกอบ ที่ออกหลอนๆ + น่ากลัว) โดยเฉพาะช่วงท้ายที่นักแสดงทำท่าทางทรมาน (คล้ายๆ กับอาเจียน) ก็ยิ่งสื่อความทุกข์ทรมานได้เป็นอย่างดี
โดยรวมแล้ว ทั้งหมดก็เล่นประมาณ 45 นาที (แต่ละอันเล่น 15 นาที) แต่ก็รู้สึกว่าคุ้มค่ามากเลยที่มาดู จริงๆ งานนี้เขาเปิดให้ดูฟรี แต่ตอนท้ายก็เชิญให้บริจาคตามอัธยาศัย เราก็ให้ไปเลย 100 บาท แบบไม่เสียดายเงินเลย (จริงๆ น่าจะเอา 240 บาทจากละครถาปัดมาให้อันนี้นะ 555555555)
ใครว่างๆ ก็ลองไปดูละกันเน้อ
The M Project เหลืออีก 4 รอบการแสดง
เสาร์/อาทิตย์ที่ 24 และ 25 พ.ค. เวลา 14.00 และ 18.00
ดูฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
เล่นที่ Gossip Gallery (ซ.สุขุมวิท 28 / ลง BTS พร้อมพงศ์ เดินไม่เกิน 10 นาที)
สอบถาม 02-258-6247
//kenzoflower.hi5.com
Create Date : 20 พฤษภาคม 2551
Last Update : 20 พฤษภาคม 2551 6:08:33 น.
28 comments
Counter : 10851 Pageviews.
Share
Tweet
MER's TOP5 MUSIC
1. L'Arc~en~Ciel : MY HEART DRAWS A DREAM (Kiss, 2007)
กวีสุดๆ
2. Nine Inch Nails : mr self destruct (The Downward Spiral, 1994)
ฝันร้ายสุดๆ
3. Pulp : We Are The Boys (Velvet Goldmine OST, 1998)
แร่ดสุดๆ
4. Remioromen : Konayuki (1 Litre of Tears OST, 2005)
แมนสุดๆ
5. Bing Bang : Always (1st Mini Album, 2007)
น่ารักสุดๆ
ไม่ต้องไปถึงฮ่องกงแบบใครบางคน ก็เห็นได้ อิอิ
(ไปจเอที่ร้าน DVD ตรง BTS ชิดลมจ้ะ)
"ภูมิใจฉันได้เธอมา จะถนอมกล่อมเธอ~"
ขอบคุณป้าโดที่ทำให้ผมได้ซาวด์แทร็กสุดเปรี้ยวนี้มาครองจนได้
(แม้ราคาจะแพงจนเป็นลมก็ตาม)
โดย:
merveillesxx
วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:6:08:11 น.
ยังไม่เคยมีโอกาสได้ดูละครเวทีเลย แม้จะเป็นความใฝ่ฝันมานานแล้วก็ตาม
อยากฟัง Pulp
โดย:
renton_renton
วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:15:59 น.
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่ควรคาดหวังอะไรทั้งสิ้นกับงานนักศึกษา
โดย:
I will see U in the next life.
วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:43:51 น.
ยังไม่ได้ฟัง MY HEART DRAWS A DREAM
โดย:
แพนด้ามหาภัย
วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:39:29 น.
เลวเจงๆ
อ่ะ อย่างน้อยโปสเตอร์แบบกูก็สัมผัสอากาศฮ่องกงมานะเว่ย ถือว่า authentic 555
โดย: เต๋อ IP: 161.200.255.162 วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:17:15 น.
ยังไม่เคยดูละครถาปัดเหมือนกัน
แต่ถ้าบทครึ่งหลังแย่ขนาดนั้น เห็นทีปีนี้ต้องขอผ่านอ้ะ
เฮ้ย...จริงง่ะ ไม่ได้ดูหนังเดือนหนึ่งแล้ว จริงเหรอ?
เฮ้ย..เป็นไปไม่ได้ เกิดไรขึ้น
เรื่องเพเนโลปี้นี่ ถ้าไม่ได้ตั๋วฟรีมาคงไม่ได้ไปดูเหมือนกัน เพราะหน้าหนังไม่ใช่แนวพี่
แต่ไปดูแล้วก็โอเคอยู่นะ ก็หนังเบาๆ น่ะแหละ
โดย:
สาวไกด์ใจซื่อ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:56:23 น.
1. คุณจะรักเพลง Konayuki ของ Remioromen ขึ้นอีกเป็นร้อยเท่าหลังจากละครตอนที่ 8 จบลง (ชื่อตอนชื่อเดียวกับชื่อละคร ถือเป็น title track เอ๊ย! title episode ได้ไหมเนี่ย) มันเป็นตอนที่ดีที่สุด พีคที่สุด ซึ้งที่สุด และเพลงนี้ก็ดังขึ้นอย่างถูกจังหวะเวลาที่สุด ชื่อเพลงแปลว่า "เจ้าละอองหิมะ" เพลงมันดังขึ้นพร้อมกับหิมะแรกแห่งฤดูตกลงมาพอดี ตายไปเลยครับ!
2. Velvet Goldmine สนุกนะ ไอ้โจนาธานมันเอาหนังอยู่ทีเดียว
3. โปสเตอร์น่ะ ไม่ต้องซื้อหรอก แนะนำให้ยืมเต๋อมาซีร็อกซ์ เผื่ออากาศฮ่องกงจะติดมามั่ง 555
โดย: เอกเช้า IP: 124.120.192.111 วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:30:36 น.
หมู่นี้พี่รู้สึกว่าน้องต่อใช้ชีวิตน่าอิจฉามากเลยนะครับ เสพศิลปะเป็นอาหาร เข้ามาบล็อคทีไรเหมือนหลงเข้ามาในโลกอินดี้เด็กแนว ทำเอาบางครั้งรู้สึกเขินๆเพราะตามโลกแบบนี้ไม่ทัน แต่ด้วยความที่ยังอยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตน้องต่อเลยต้องกัดฟันติดตามต่อไป
ทิ้งท้ายให้สยองเล่นซะงั้น 5555555
โดย:
แฟนผมตัวดำ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:38:18 น.
ไม่เคยดูละครถาปัดเหมอืนกัน ฮ่าๆ
จะว่าไป ขนาดละครเจซี คณะเราเอง ยังเคยดูแค่ครั้งเดียว ตอน ขบวนการ 5 สี วีเรนเจอร์อ่ะ
เพราะว่าตอนนั้นช่วยทำงานด้วย
เราไม่รู้ว่าเราชอบละครเวทีรึป่าว แต่อารมณ์ประมาณ ขี้เกียจดู
โดย: เสจัง IP: 124.121.166.147 วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:33:35 น.
พี่เมอร์
ผมจะไปดูเหมือนกันวันศุกร์นี้
(แน่ล่ะ!ไปดูคนเดียว)
ดูด้วยความอยากรู้ว่าละครถาปัดเป้นไงเพราะไม่เคยดู
แต่ว่าหอประชุมใหย่ มานอยู่ไหนล่ะเนี่ย?T_T
โดย: ปัน IP: 124.120.84.11 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:28:48 น.
ไม่ชอบดูละครเวทีเลย
ยกเว้นวิก07 ในทีวีตอนเด็กๆอ่ะ
เดี๋ยวว่าจะไปกอซซิบแกลอรี่เหมือนกัน
โดย: เอสเตร่า IP: 58.64.102.42 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:56:55 น.
^
^
ก็อยู่กลางจุฬา นั่นแหละ
เดินไปตามถนนใหญ่ ฝั่ง ร.ร.เตรียม มองหาสระน้ำใหญ่ๆๆๆ ที่มี รูปปั้น ร.5 + 6 หอประชุมก็อยู่หลังรูปปั้น เป็นทรงไทยๆ สีแดงๆ ขาวๆ
หรือก็ไม่ถามคนแถวนั้น
โดย:
merveillesxx
วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:2:05:46 น.
ดูหนังคนเดียวก็เคยมาแล้ว
กลัวอะไรกับการดูเพอร์ฟอร์มานซ์คนเดียว
แต่ก็ อะนะมีเพื่อนดูก็ดีกว่าในบางหน
ยังไม่ได้ดูละครถาปัด เลยยังบอกไม่ได้ ว่าจะชอบหรือไม่
โดย: grappa IP: 58.8.92.133 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:55:03 น.
+ พี่เคยเป็นแฟนละครถา'ปัตย์เมื่อหลายปีก่อน เพราะมีเพื่อนคนนึง มันติดหนี้พี่ แต่เป็นลูกหนี้แบบ 'หลังเย็น' (ทุกวันนี้ก็ยังเหลือยอดหนี้อยู่!) มันก็เลยบอกว่าขอจ่ายดอกเป็นตั๋วฟรีละครถา'ปัตย์ (เพราะมันจะหาคนไปดูด้วย) แทนแล้วกัน เปรี้ยวซะ! พี่ก็เลยได้ดูติดๆ กันอยู่ราวๆ 3-4 ปีอ่ะครับ
+ ช่วงหลังๆ มานี่ เพื่อนคนที่ว่าบวชเป็นพระไปซะแล้น
แถมยังไม่สึกอีกต่างหาก พี่ก็เลยไม่รู้จะดูกับใครอ่ะครับ
ดูดิ หลอกให้อยาก(ดู) แล้วจากไป(บวช) ซะงั้น เหอๆๆ
+ แหม! แต่ละครปีนี้ น้องต่ออุตส่าห์มาโปรโมต แต่คอมเม้นต์ไว้เยี่ยงนี้ ก็เลยทำให้คิดหนักเหมือนกันนะเนี่ย
โดย:
บลูยอชท์
วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:16:21 น.
^
^
ไปดู The M Project ดีกว่า เก๋กว่า ฟรีด้วย
โดย:
merveillesxx
วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:08:57 น.
ขอบคุณมากค่ะที่มาชม The M Project
ดีใจที่คุณชอบ ขอเวลาอีกสักพักเดี๋ยวจะกรีดไอเดียใหม่ ๆ ออกมาให้ชมกันอีกค่ะ
ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ
และสิ้นเดือนนี้ Bangkok Troupers จะมีละครสั้นที่ Crescent Moon Space ทองหล่อ เป็น แนว intriguing suspense drama แสดงเป็นภาษาอังกฤษ และมีบทบรรยายไทย
30 พ.ค. ถึง 1 มิ.ย. เวลา 7:30 pm. เสาร์-อาทิตย์ มีรอบ 4:00 pm. ด้วยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 080-606-0522
ถ้าพอมีเวลาว่าง แวะมาให้กำลังใจกันอีกนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ปัณณทัต โพธิเวชกุล
Artistic Director
โดย: Arts Hub Group IP: 203.156.27.78 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:23:15 น.
อะไรเอ่ย? The M Project
The M Project เป็นผลงานการแสดงชิ้นแรกของคณะละคร Bangkok Troupers ที่นำเสนอการแสดงในรูปแบบของ Physical Theatre
เป็นโปรเจ็ค์ที่เกิดจากไอเดียกิ๊บเก๋ของครูหนุน หรือ คุณปัณณทัต โพธิเวชกุล ที่ต้องการนำเสนอข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ผ่านภาษาของร่างกาย และผ่านทางการแสดง Movement ใน 3 รูปแบบ คือ Mime, Creative Movement, และ Butoh
โดยนักแสดงในแต่ละ part จะรับผิดชอบหน้าข่าวของตัวเองไป โดยมีครูหนุนเป็นผู้ให้โจทย์นั้น ซึ่งคุณสุวัฒน์ สุวรรณเดโชชัย (ศิลปินรับเชิญ ของ Bangkok Troupers) รับผิดชอบ "ข่าวเศรษฐกิจ"
คุณศิลปาคร คงสกุล (Resident artist ของ Bangkok Artists Society) รับผิดชอบ "ข่าวการเมือง"
และคุณอาชวิชญ์ กฤษณสุวรรณ (Resident artist & Chairman ของ Bangkok Artists Society) รับผิดชอบ "ข่าวเกี่ยวกับสภาพการณ์ของสังคม"
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว ... ไม่น่าพลาดนะครับ
โดย:
merveillesxx
วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:42:12 น.
ไม่เคยไปดูละครถาปัดเลยเรา เชยมั้ยเนี่ย
โดย:
fonkoon
วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:52:08 น.
ไปดูเกราะเพชรเจ็ดสีมาเหมือนกันครับ
จากประสบการณ์การดูละครสถาปัตย์เกือบทุกปี (ปีนี้เป็นปีที่สิบ)
ขอพูดในสไตล์ติเพื่อก่อว่า นี่เป็นละครสถาปัตย์ที่แย่ที่สุดตั้งแต่ผมเคยดูมา
(ผมไม่ได้ดู moulin rouge แต่เรื่องนั้นเขาก็บอกว่า ละครมีปัญหาไม่แพ้กัน)
โอเค ไม่ขำไม่เป็นไร ให้อภัยได้ (ผมขำอยู่ 2 มุขคือ มุขเทวดารับปริญญากับมุขเทพบุตรอ๊อด) -แม้ว่าส่วนใหญ่คนที่ไปดูเขาก็คาดหวังความตลกจากมันเป็นอย่างแรกอ่ะนะ
แต่บทละครเรื่องนี้มีปัญหาอย่างรุนแรง
ทั้งการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างทื่อ ไม่มีจุดพลิกผัน ไม่มีมุขแบบเหนือชั้น ไม่มีความเซอร์ไพรส์ ตัวแสดงก็ยังดูติดๆ ขัดๆ
บางช่วงก็ใช้เวลานานเกินไปจนคนดูเบื่อ จนหลายคนหลับคาโรงละคร
(เพื่อนผมบอกว่า เหมือนดูละครที่นักศึกษาน้องใหม่เล่นตอนรับน้องมหาลัยเลย)
แต่นอกจากเรื่องนั้นแล้ว เรื่องฉาก แสงสีเสียง โปรดักชั่นต่างๆ ยังสุดยอดเหมือนเดิม ขอปรบมือให้
สุดท้ายก็ยังหวังว่า ละครปีหน้าจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้ เอาใจช่วยอยู่เพราะถึงยังไงก็เป็นแฟนคลับติดตามมาจนครบปีที่สิบแล้ว
ปล.ในสูจิบัตรมีรูปน้องแต้วแต่งตัวเป็นนางเอกอยู่ ไอ้เราเห็นแล้วก็หลงดีใจนึกว่าน้องเขาจะมาเล่นเป็นนางเอก
ที่ไหนได้ ตอนละครจริงไม่เห็นโผล่มาสักฉาก อย่างนี้ถือว่าเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคหรือเปล่าเนี่ย 555 (สงสัยมัวแต่ไปเป็นดรัมงานบอลอยู่)
โดย:
ฟ้าดิน
วันที่: 23 พฤษภาคม 2551 เวลา:2:02:45 น.
^
^
555555555
พอดีผมไม่รู้ข้อมูลเรื่องนักแสดงก่อนเลยอ่ะครับ เลยไม่ได้คาดหวังอะไร
อ่านเจอในกระทู้ pantip ว่า น้องแต้วแค่มาถ่ายแบบให้เฉยๆ จ้ะ 555
(ว่าแต่น้องแต้วอะไรนี่ดังมากเลยเหรอ ไม่เห้นรู้จัก แหะๆ)
โดย:
merveillesxx
วันที่: 23 พฤษภาคม 2551 เวลา:2:47:53 น.
SPOILED!!!!!!!
ดูแล้วววว
พระเอกบทน้อยกว่าตัวร้าย(พญานาคราชอีกอะ)
หลังจากพักเบรคแล้วเรื่องมันอ้อยอิ่งๆยังไงไม่รู้เนาะ
แล้วราชินีมักกะลีผลโผล่มาทำไมหว่า?
มุขที่ผมโดนได้แก่
-มุขพระอินทร์มอบยา(ที่ล้อ เดอะ เมทริกซ์อ่ะ)
-วันเฉลือม กะ ดวงฉลาม
-โงกุน ดราก้อนบอล
ปล
1.พี่เมอร์นั่งแล้วอึดอัดมั่งมั้ยครับเราน่าจะไซส์เดียวกัน^^)
2.รอบที่ดูนี่เจอผีเยอะมากครับ ทั้งผีคุยโทสับ ผีพากย์
ผีมาสาย ผีเอาเกี๊ยวซ่าเข้ามากิน เซ็งครับ
โดย: ปัน IP: 124.120.85.112 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:42:39 น.
^
^
พี่ไม่อึดอัดมาก เพราะว่าเลือกที่นั่งติดทางเดินนะครับ (แต่ว่าหอประชุมนี้ก็นั่งไม่ค่อยสบายหรอก)
ที่พี่หงุดหงิดมากกว่าคือ หอมัน slope ไม่ค่อยดีน่ะ นั่งยืดตัว จนปวดหลังเลย
โดย:
merveillesxx
วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:37:17 น.
ได้ pulp มารอบครองแหล่ว วันที่30จะไปดู ละครสั้นหน้ากากเปลือยมั่ง
โดย: หนวดฟู IP: 124.121.193.163 วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:23:37 น.
เพิ่งมาอ่านบล็อคของต่อ
น่าจะอ่านให้เร็วกว่านี้ ไม่น่าพลาดไปดูเลยยยยยยT^T
โดย: ^^ IP: 58.9.139.171 วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:20:54 น.
Comment from MdS
2.THE M PROJECT (Bangkok Troupers, A+++)
2.1 MIME (Suwat Suwandechochai, A)
2.2 CREATIVE MOVEMENT (Silpakorn Kongsakul, A+++)
2.3 BUTOH (Archawit Kritsanasuwan, A+++++)
I dont understand this performance, but I think it is very powerful and haunting.
โดย:
merveillesxx
วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:4:24:55 น.
ไม่รู้มาเม้นช้าไปรึเปล่านะครับ
แต่ลองสังเกตดูสิครับว่า
ทำไมการแสดงในอาทิตย์หลัง
บัตรขายหมดเร็วกว่าอาทิตย์แรกมากๆ
นั่นก็เป็นเพราะมันเป็นพัฒนาการของละครเวทีไงล่ะครับ
พอจบอาทิตย์แรกปุ๊ป
ก็มาไล่บท ใส่มุข ปรับแก้
จนที่มันไม่ขำ ก็จะเอาให้ขำให้ได้หน่ะครับ
ส่วนเรื่องบท การเดินเรื่อง
พัฒนาไม่มากแน่นอนครับ
แต่ถ้าอยากดูความฮา แนะนำให้ซื้ออาทิตย์หลังครับ
(ที่จริงก็ไม่เห็นด้วย ที่ราคาตั๋วมันเท่ากันนะครับ
แต่ผมทำอะไรไม่ได้)
ปกติจะแสดงอาทิตย์ละ 5 รอบ
แนะนำให้ซื้อรอบ 7 - 9 ครับ
โปรดระวังรอบ 10 เพราะเป็นมุขภายในที่ใส่เข้ามา
(ก็มันรอบสุดท้ายนี่ครับ)
สุดท้าย อยากให้ลองไปดูละครในปีหน้าอีกสักครั้งนะครับ
ในรอบที่ได้แนะนำไป
ผมว่า พี่เมอร์น่าจะสนุก
กับละครถาปัด มากกว่านี้มากๆ
(เพราะตอนผมดูรอบ 1 ก็หมดแรงเหมือนกัน)
โดย: คนวงใน IP: 58.9.184.247 วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:3:30:56 น.
ขอบคุณที่ชอบการแสดงนะค่ะ
:))
โดย: หนึ่งสองสาม IP: 124.120.158.233 วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:0:12:26 น.
พูดถึงละครถาปัด
พึ่งได้ดูแค่สองเรื่องคือ บุญชู สระอูย้านยาย
กับเกราะเพรชเจ็ดสี
แต่เห็นเค้าว่าถ้าในช่วงปีหลังๆของละคร ถาปัด
หละก็ต้องเป็นเรื่อง ปริศนา ที่ตอนหลังเอามาทำเป้นเรื่องชายกลาง
เห็นบอกกันว่าบทปีนี้ดี เพลงประกอบกอบก็ทำไว้ดี
ถ้าจำไม่ผิดเป้นของปี 2546
เสียดายตอนนั้นยังอยู่ ตจว อยู่ เลยอดดู
โดย: Heyo IP: 124.121.137.9 วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:2:00:04 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [
?
]
สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Mint@da{-"-}
grappa
I will see U in the next life.
cottonbook
strawberry machine gun
fonkoon
แพนด้ามหาภัย
renton_renton
DropAtearInMyWineGlass
พรเก้าประการ
แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
วัชเจียเหว่ย
KiSs MoRe
ต้องบอกด้วยเหรอ
แฟนผมตัวดำ
BlueWhiteRed
Evil is Live
ปลาทองแก้มยุ้ย
ฟ้าดิน
ยิ่งยง นั่งยองยอง
BloodyMonday
Webmaster - BlogGang
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
BioScope
House
Apex Siamsquare
วินทร์ เลียววาริณ
สำนักหนังสือไต้ฝุ่น
THAIWRITER.NET
Madeliene du Scudery
มูลนิธิหนังไทย
thaishortfilm.com
เจ้าชายน้อย
โอเพ่นออนไลน์
Riverdale
Nomorebrain
visuallyyours2
Boat@CalArts
ทศพล บุญสินสุข
MurderCase & Mystery
BLACK FOREST
danaya
lolay
nanoguy
THIRD CLASS CITIZEN
Bioscope blog
Fuse blog
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
MER's TOP5 MUSIC
1. L'Arc~en~Ciel : MY HEART DRAWS A DREAM (Kiss, 2007)
กวีสุดๆ
2. Nine Inch Nails : mr self destruct (The Downward Spiral, 1994)
ฝันร้ายสุดๆ
3. Pulp : We Are The Boys (Velvet Goldmine OST, 1998)
แร่ดสุดๆ
4. Remioromen : Konayuki (1 Litre of Tears OST, 2005)
แมนสุดๆ
5. Bing Bang : Always (1st Mini Album, 2007)
น่ารักสุดๆ
ไม่ต้องไปถึงฮ่องกงแบบใครบางคน ก็เห็นได้ อิอิ
(ไปจเอที่ร้าน DVD ตรง BTS ชิดลมจ้ะ)
"ภูมิใจฉันได้เธอมา จะถนอมกล่อมเธอ~"
ขอบคุณป้าโดที่ทำให้ผมได้ซาวด์แทร็กสุดเปรี้ยวนี้มาครองจนได้
(แม้ราคาจะแพงจนเป็นลมก็ตาม)