http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
12 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Suck Seed ห่วยขั้นเทพ : ถึงไม่เทพ แต่ก็ไม่ห่วย

โดย merveillesxx



(หมายเหตุ: บทวิจารณ์นี้เขียนลงใน facebook จึงอาจไม่ได้ใช้ภาษาทางการ และมีคำหยาบคายเพียบ)


Suck Seed ห่วยขั้นเทพ (2011, ชยนพ บุญประกอบ, A-)

It's Oh So OK!

ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนว่าฉันมีความทรงจำอัน เลวร้ายกับหนังชุด Suck Seed มาก คือได้ดูหนังเรื่องนี้สักภาค (ภาค 1.5 มั้ง) ในงานกางจอสามสี่ปีก่อน ซึ่งดูแล้วทุกข์ทรมานมาก จนถึงขั้นอยากกรี๊ดลั่นห้อง ดร.เทียม ทีเดียว แต่ คุณ นวพ. ก็ให้ความกระจ่างว่าหนังภาคต้นๆ มันดีนะนาย นี่มันไม่ใช่ทีมต้นฉบับทำ (อะไรประมาณนี้แหละ ถ้าข้อมูลผิด ขอภัย) แต่ก็ไม่ได้สนใจมาก เพราะความทรมานยังบังตาอยู่

จนรู้ว่าหนังจะถูกพัฒนาเป็นหนังใหญ่ก็แอบงงๆ พอดูตัวอย่างก็หวั่นๆ เพราะพูดตามตรง หนัง GTH ในช่วงสองปีที่ผ่านมาทำให้ฉันอาการฮิสทีเรียกำเริบเสียทุกครั้งไป (ฮิสทีเรียในที่นี้ไม่ได้แปลว่าอาการอยากมีผัว แต่หมายถึงอาการจิตแตกแหกกระเจิง)

หนังเรื่องนี้เข้า 17 มีีนา แต่ฉันก็มาดูเอาวันที่ 5 เมษา นั่นก็แปลว่าตอนแรกฉันกะจะปล่อยผ่านปล่อยเลยหนังเรื่องนี้ไป แต่ด้วยกระแสของคนรอบข้าง เหล่าลูกศิษย์ลูกหาก็ชอบกันเสียเหลือเกิน ในที่สุดฉันก็เลยตัดสินใจผ่ากระแสยุทธนาวีดู หนังเรื่องนี้จนได้ ซึ่งก็พบว่าหวิดจะเข้าขั้น surprise film of the year ทีเีดียว ในแง่ที่ว่า นี่เป็นหนัง GTH ในรองสองปี (อีกแระ) ที่ฉันเดินออกจากโรงมาหายใจอย่างคล่อง ขึ้นแท็กซี่กลับบ้านอย่างสบายใจ ไม่ต้องโทรศัพท์ไปด่าหนังให้ใครฟัง

สิ่งที่ฉันชอบอันดับต้นๆ ของหนังเรื่องนี้คือ sense ความตลกของมัน หนังเรื่องนี้ทำให้การหัวเราะคลื่นความถี่สูงแบบตอนดูหนังสั้นมาราธอนของฉันกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เจอแฮทริกแห่งความหดหู่ด้วยหนังอาร์ต จอมปลอมอย่าง The King's Speech, The Figther และ Norwegian Wood ฉันขำกับหลายๆ มุก และหลายๆ จังหวะของหนัง ชอบความเป็น cartoonish ของมัน โดยเฉพาะเมื่อมันมีฉากการ์ตูนโผล่มาจริงๆ

น้อง รชภ. เขียนไว้น่าสนใจว่าดีใจที่ได้ดูหนังจากฝีมือของ คนเจเนเรชั่นเดียวกัน Suck Seed นี่น่าจะเป็นหนังรักวัยรุ่น (หนังสตูดิโอ) เรื่องแรกๆ เลยมั้ง ที่มันมาจากผลิตผลจากเจเนเั่รชั่นวายอย่างแท้จริง (ก็คือคนรุ่นๆ ฉันนั่นแหละ) ดังนั้นฉันเลยรู้สึกว่าผู้กำกับเรื่องนี้กำลังพูดภาษาเดียวกับฉัน มีคลื่นความถี่เดียวกับฉัน อย่างมุกการ์ดยูกินั่นปะไร ฉันขำระดับที่การ์ดบลูอายไวท์ดราก้อนยังแพ้เชียว

หลายคนชอบหนังเรื่องนี้เพราะอินเรื่องวงดนตรี บางคนเคยทำวง บางคนเคยขึ้นคอนเสิร์ตโรงเรียน บางคนเคยแอบชอบนักร้องโรงเรียน แต่ชิบหายเถอะ ฉันไม่เห็นมีเรื่องอะไรแบบนั้นเลย (แม้แต่เล่นถ่ายรูปตู้สติกเกอร์หรือเล่นเคาท์เตอร์ส ไตรค์สักครั้งฉันยังไม่เคย!) แต่ฉันก็อินกับการเลือกเพลงในเรื่องมาก มันคือบทบันทึกย่อๆ ของเพลงปลายยุค 90 จนถึงต้นยุค 00 ก็ว่าได้ ซึ่งมันเป็นช่วงที่ฉันยังศรัทธาในเพลงไทย วลีว่า "กูฟังเพลงไทย" ในตอนนั้นเป็นอะไรที่เท่ชิบหาย (และมันก็ถูกทำลายไปในวันที่คลื่นแฟตเรดิโอเปิดเพลงวง Clash)

ฉาก เพลงที่ฉันชอบมากๆ ก็เช่น ตอนเพลง ยิ่งโตยิ่งสวย ของ แบล็คเฮด ฉันชอบการนำเสนอของฉากนี้มากๆ มันชิบหายดี และพี่ปู แบล้คเฮด ก็หน้าเหี้ยมากๆ (เหี้ยในที่นี้เป็นคำชม), ฉากเพลง เพียงรัก ของ Silly Fools ก็ถือว่าโคตรพีค ชอบที่ผู้กำกับใช้เพลงนี้ในรูปแบบเสียงที่มา จากคอนเสิร์ต รู้สึกว่าผกก. สามารถโกงฉากนี้เป็นฉากฟูมฟาย พีคๆ พระเอกเดินสโลว์โมชั่น แล้วเพลงดังๆๆๆ ขึ้นมา แต่ผกก. ไม่ทำ เจ๋งว่ะนาย แต่สำหรับฉันที่พีคที่สุดคือฉากเพลง เลี้ยงส่ง ของ So Cool บนรถไฟ อันนี้ถือว่าฮาขั้นเทพ บวกกับมีเหตุผลส่วนตัวเล็กน้อย เช่้น ฉันเคยนั่งรถไฟชั้นสามเชียงใหม่-กรุงเทพเหมือ นกับพวกพระเอก (โรงเรียนหลอกฉันไป ใครอยากรู้หลังไมค์มาถามละกัน), ฉันชอบเพลง เลี้ยงส่ง มาก ถึงขนาดร้องคาราโอเกะทุกครั้งอยู่สองปี, และฉันเคยแสดงเป็นพี่โจ๊ก โซคูล จากเอ็มวีนี้ตอนงานบายเนียร์ (เหตุผลอะไรวะเนี่ย)

แต่..แต่...แต่ แม้ฉันจะชอบพาร์ทคอมิดี้ของหนังมาก แต่กับพาร์ทดรามาของหนัง ฉันไม่รู้สึกอะไรสักกะผีกเดียว ไม่รู้ว่าฉันใจด้านชา หรือผู้กำกับกำหนดจังหวะไม่แม่นยำพอกันแน่ แต่ฉันรู้สึกว่าหลายๆ ฉากมันกระโดดขึ้นบันไดเร็วมาก และมันไม่จูงใจให้เชื่อเลย อย่างเช่น ตอนที่เป็ดกับเอิญสารภาพรักกัน อยู่ๆ มันก็เป็นแฟนกันง่ายๆ ซะงั้น แล้วพอมันมีปัญหากัน มันก็เลิกกันง่ายๆ ซะงั้น แต่นังเอิญยังมาร้องไห้ฟูมฟายอะไรก็ไม่รู้ อันนี้ฉันงงมากๆ งงจริงๆ แบบว่า WTF ลอยขึ้นมาเต็มจอ

ฉันว่าจริงๆ หนังมันสามารถคลี่คลายได้อย่างเข้มข้นกว่านี้ โดยรักษาความเป็นดรามาติกไว้ แต่ช่วง 30 นาทีสุดท้าย หนังก็เริ่มทำสิ่งที่ฉันกลัว นั่นคือ การเข้าสูตร GTH ทุกอย่างก็ดูคลี่คลายง่ายๆ ทุกคนมีความสุข เพื่อนทะเลาะกันแก้ปัญหาด้วยการกระโดดขึ้นไป ร้องเพลงบนเวที (อย่างไรก็ดี ชั้นก็คิดว่าฉากนี้มีความดีตรงที่ ผกก. นำเสนอให้ร้องเพลงออกมาง่อยๆ ไม่ได้ออกมาเป็นฉากเทพๆ แบบพวกหนังเรื่อง Fame ทั้งที่มันเื้อื้อให้ทำได้) แต่ที่ฉันรับไม่ได้มากที่สุดคือ ไอ้ฉากเพลงร้องเพลงในเกษตรแฟร์อะไรนี่แหละ มัน too optimistic กันแบบไม่บันยะบันยังอีกแล้วใช่มั้ย โอ้ละหนอ ยูโทเปียของวัยรุ่นในงานเกษตรแฟร์ ฉันแอบกุมหัวเล็กๆ แต่เอาวะ หนังมันดีมาตั้ง 90 นาที ฉันเลยโอเค

(จริงๆ ฉันจะชอบมาก ถ้าหนังตัดจบแม่งตั้งแต่ฉากที่เป็ดนั่งอยู่ริม สระน้ำ แล้วมีมโนภาพพวกคุ้ง เอ็กซ์ มาเล่นดนตรีข้างๆ แต่แน่นอนว่าถ้าจบแบบนี้ ฉันคงถูกใจอยู่คนเดียว แต่ชาวบ้านชาวเมืองคงด่ากันเละ)

อีกนิดนึง ฉันว่าน้องคุ้งเล่นดี (หล่อ รวย แถมยังเป็นรุ่นน้องโรงเรียนฉันอีกด้วย โฮะ โฮะ โฮะ) คงจะดีถ้าน้องคุ้งมีบทบาทในการชิงรางวัลด้านการ แสดงอะไรสักอย่างในปีหน้าบ้าง ส่วนน้องเก้า บางฉากหน้าน้องหมองมาก เหมือนมีวิญญาณตาม ฉันเกือบโทรเรียก คุณริว จิตสัมผัส มาไล่ผีให้ทีเดียว






Create Date : 12 เมษายน 2554
Last Update : 12 เมษายน 2554 10:14:39 น. 0 comments
Counter : 2694 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.