http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
26 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Secret Sunshine: หัตถ์พระเจ้าในแสงตะวัน

โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง





(บทความนี้เปิดเผยเนื้อเรื่องและตอนจบ)



เมื่อศตวรรษที่ 19 นีทเช่ได้พูดประโยคก้องโลกที่ว่า “พระเจ้าตายแล้ว” หลายปีต่อมา Superman Return (2005) ของ ไบรอัน ซิงเกอร์ มีฉากสำคัญที่หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวหราว่า “ซูเปอร์แมนตายแล้ว” (Superman is dead.) แน่นอน ซูเปอร์แมนไม่ตายหรอก เพราะหนังบอกกับเราว่าเขาคือตัวแทนของพระเจ้าในโลกยุคใหม่ แต่ เอ๊ะ แล้วพระเจ้าตัวจริงไปไหน หรือพระเจ้าจะตายแล้วจริงๆ

ย้อนไปปี 1994 เทรนต์ เรซเนอร์ แห่ง Nine Inch Nails ชีวิตตกต่ำและสิ้นหวังขนาดหนัก จนแต่งเนื้อเพลงสำคัญขึ้นมาท่อนหนึ่งว่า “Your God is dead and no one cares.” ต่อมาในปี 2001 มาริลีน แมนสัน ศิษย์เอกของเรซเนอร์ ก็สืบต่อเจตนารมณ์ด้วยเนื้อเพลงว่า “I never really hate the one true God. But the God of people that I hate.”

ถ้าชินแอ นางเอกหนังเรื่อง Secret Sunshine ชอบฟังเพลงเมทัล เธอก็คงชอบเพลงพวกนี้ แต่พอดีว่าเธอเป็นครูสอนเปียโน ชินแอก็เลยอาจจะไม่ได้ฟัง แต่เดาว่าเธอคงไม่คิดต่างจากเนื้อหาในเพลงสักเท่าไร

Secret Sunshine เป็นหนังปี 2007 ของลีชางดอง เป็นผลงานหลังจากที่เขาไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมอยู่หลายปี สำหรับใครอยากดูหนังเกาหลีน้ำดี ก็ไม่ควรพลาดหนังของผู้กำกับคนนี้ ซึ่งตามเก็บได้ไม่ยากนักเพราะเขาทำหนังออกมาไม่กี่เรื่อง หนังดูไม่ยากนัก โดยส่วนใหญ่เป็นหนังดราม่า

แต่อย่าได้ถูกโปสเตอร์หนังหลอกว่านี่จะเป็นเกาหลีเศร้าซึ้งเรียกน้ำตา เพราะแท้จริงแล้ว Secret Sunshine เป็นหนังที่หนัก, หนักมาก หรือาจเรียกว่าหนักที่สุด

หนังเล่าถึง ชินแอ (จอนโดยอน) แม่ม่ายลูกติดที่ย้ายจากกรุงโซลมาเมืองชนบทที่ชื่อ Miryang (ชื่อภาษาเกาหลีของหนัง) สามีของเธอเพิ่งเสียชีวิตไป และเธอย้ายมาที่นี่ก็เพราะมันเป็นบ้านเกิดของคนรัก ระหว่างทางรถของชินแอเสีย ช่างรถชื่อ จองชาน (ซองกังโฮ – พระเอก The Host) มาจัดการซ่อมรถให้ หนังเปิดเผยตั้งแต่ฉากแรกๆ ว่าฝ่ายชายน่าจะปิ๊งชินแอ



ระหว่างทาง ชินแอถามอีกฝ่ายว่า Miryang เป็นเมืองแบบไหน แม้จะเป็นคนในพื้นที่ แต่จองชานกลับตอบไม่ได้ แถมไม่รู้กระทั่งความหมายของชื่อเมืองด้วยซ้ำ กลับเป็นชินแอที่ต้องอธิบายกับเขาว่ามันเป็นภาษาจีนที่มีความหมายว่า ‘แสงตะวันลับ’ (Secret Sunshine)

ในช่วงแรกด้วยฐานะผู้มาอยู่ใหม่ ชินแอค่อนข้างแปลกแยกข้างคนอื่นในเมือง ในฉากที่เธอนั่งอยู่ในร้านทำผม แม่บ้านอีกกลุ่มหนึ่งจับกลุ่มนินทาว่าเธอเป็น ‘คนแปลก’ หรือในฉากกินเลี้ยงของงานประชุมผู้ปกครอง หนังให้เราเห็นสายตาเคลือบแคลงของผู้ปกครองคนอื่น

แต่ชินแอก็ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในฉากที่น้องชายของเธอมาเยี่ยม เขาถามด้วยความสงสัยว่าทำไมเธอต้องมาอยู่ที่นี่ ชินแอเปิดเผยว่าไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นบ้านเกิดของสามีผู้ล่วงลับเท่านั้น แต่เพราะเมืองแห่งนี้ไม่มีใครรู้จักเธอ เธอสามารถเริ่มต้นใหม่อย่างอย่างสมบูรณ์แบบ

ชินแอเริ่มเป็นที่จับตามองจากคนอื่นเมื่อเธอประกาศว่าซื้อที่ดินผืนใหญ่ โดยจองชานก็คอยอาสาเป็นธุระให้อย่างเต็มที่ แต่ทว่าสิ่งนี้กลับนำภัยร้ายมาสู่ชินแอเมื่อลูกชายของเธอถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ ที่น่าเศร้าก็คือแท้จริงแล้วเธอไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย เธอทำไปก็เพราะอยากเป็นที่สนใจของคนอื่นๆ

หญิงสาวเบิกเงินทั้งหมดจากธนาคารไปให้เจ้าโจรชั่ว เธอพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยลูกน้อยของตน เธอไม่แจ้งตำรวจ ไม่บอกเรื่องนี้กับใคร (แม้แต่จองชาน) แต่สำหรับอีกฝ่าย เธอทำได้ไม่ดีพอ จำนวนเงินน้อยกว่าที่เจ้าโจรคาดไว้

ไม่กี่วันถัดมา ตำรวจแจ้งว่าพบศพของลูกชายเธอที่ริมแม่น้ำ และแท้จริงแล้วคนร้ายก็คือคุณครูผู้ขับรถรับส่งชินแอกับลูกอยู่ทุกวี่วัน (หนังยังเพิ่มความรวดร้าวด้วยการถ่ายชินแอไปดูศพลูกจากระยะไกล แล้วตัดภาพทันที ปล่อยให้เราจินตนาการเอาเองว่าสภาพของลูก และอาการของชินแอจะเป็นเช่นไร)



หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว หนังก็เริ่มดำดิ่งสู่ความเศร้าหดหู่ ในงานศพชินแอถูกญาติด่าทอที่ไม่ร้องไห้สักนิด แถมยังกล่าวหาว่าเป็นตัวซวยทำให้ทั้งผัวและลูกตาย เธอนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับที่ญาติพูด เธอบอกจองชานว่า “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมวันนั้นที่โรงพัก ฉันถึงเบือนหน้าหนีจากเขา (คนร้าย) ทั้งที่ฉันอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ”

ชินแอเต็มไปด้วยความเศร้าและสับสน เธอมีความขัดแย้งในใจมากมาย ในฉากถัดมาเธอไปอำเภอเพื่อแจ้งการตายของลูก แต่ในที่สุดเธอก็ทำไม่ได้ แล้วสติแตกขึ้นมา ในฉากนี้จอนโดยอนให้การแสดงที่น่าทึ่ง เธอร้องไห้อย่างเจ็บปวด เหมือนจะอาเจียนไปในคราวเดียวกัน เรารับรู้ได้ว่าเธอหัวใจสลาย ขณะเดียวกันร่างกายของเธอก็แทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ (นั่นคือเธอไม่ได้ร้องไห้แบบสวยๆ แบบนางเอกเกาหลีพิมพ์นิยม)

แต่แล้วชินแอก็พบที่พึ่งทางใจจนได้ เธอเหลือบเห็นโบสถ์คริสต์ที่เพื่อนบ้านผู้เคร่งศาสนาเคยพูดถึง และตัดสินใจเดินเข้าไป (ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอบอกอีกฝ่ายว่าไม่เชื่อในเรื่องพวกนี้) เทคนิคของฉากนี้น่าสนใจดี กล้องถ่ายให้เราเห็นผู้คนที่นั่งอยู่จากข้างหลัง ชินแอไม่อยู่ในเฟรมภาพ แต่เราได้ยินเสียงเธอร้องไห้ดังขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าไม่ต้องเห็นสีหน้าเราก็รับรู้ถึงความรู้สึกได้ หลังจากนั้นพอกล้องตัดภาพมาที่ชินแอก็เรียกได้ว่าไม่ต้องบรรยายอะไรกันอีกแล้ว เพราะมันช่างทรมานใจจริงๆ

หลังจากเข้าโบสถ์ไป ชินแอก็เปลี่ยนเป็นคนละคน สีหน้าเธอผ่องใสขึ้นราวกับไม่มีเรื่องเลวร้ายใดเกิดขึ้น เธอบอกกับเพื่อนๆ ชาวคริสต์ว่าความแค้นได้ออกไปจากใจเธอหมดสิ้นแล้ว จิตของเธอตอนนี้เต็มไปความสันติ เธอได้เปิดรับพระเจ้าไว้ในหัวใจ และเธอก็เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามประสงค์ของพระเจ้า (God’s will)

แต่ราวกับพระเจ้ากลั่นแกล้งส่งบททดสอบมาให้เธอ วันหนึ่งขณะขับรถอยู่ ชินแอเหลือบไปเห็นลูกสาวของคุณครูผู้พรากชีวิตลูกชายไป เด็กสาวกำลังถูกเพื่อนชายทุบตี สายตาของเธอกับชินแอประสานกัน ฝ่ายหลังลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะขับรถจากไปโดยไม่ได้ลงไปช่วยเหลือ

ชินแอคงนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาขบคิดแล้วตระหนักได้ว่าเธอยังทำไม่ดีพอ เพราะเธอยังไม่ได้ทำสิ่งสำคัญที่สุดนั่นคือ การอภัย เธอจึงแจ้งกับเพื่อนร่วมโบสถ์ว่าจะไปหาผู้ต้องหาในคุกเพื่อให้อภัยแก่เขา หลวงพ่อและเพื่อนๆ ต่างกังวลกับการตัดสินใจของเธอ แต่ชินแอก็ยืนยันว่าเธอทำได้

เมื่อได้พบหน้ากับคุณครู ชินแอเกริ่นเล่าให้เขาฟังว่าตนเองได้พบทางสว่างผ่านศาสนาคริสต์ และกำลังจะพูดเข้าประเด็น แต่อีกฝ่ายกลับแทรกขึ้นมาก่อนว่าเขาเองก็หันมาเข้าหาพระเจ้าเช่นกัน เขาได้พบความสงบสุขในใจ เพราะพระเจ้าได้ให้อภัยเขาแล้ว

คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ชินแอโกรธมาก เธอด่ากราดต่อเบื้องบนว่า พระเจ้าเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหน ถึงมีสิทธิให้อภัยไอ้คนชั่วนั่น ก่อนที่เธอจะให้อภัยมันเสียอีก ราวกับว่าชินแอทนไม่ได้ที่อีกฝ่ายมีสีหน้าสงบสุข ไม่มีความทุกข์สักนิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอทรมานจนแทบบ้า



สรุปแล้วศาสนาไม่ได้ช่วยอะไรชินแอเลย มันเป็นเพียงเปลือกบางๆ ที่รอวันฉีกขาด แถมชินแอยังโต้กลับอย่างรุนแรง เธอเลือกเชื่อในศาสนาคริสต์ และทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นการต่อต้านพระเจ้า ฉากหนึ่งที่เสียดสีมากคือ ตอนที่เธอแอบเอาซีดีเพลงไปเปิดในงานชุมนุมของชาวคริสต์ ระหว่างที่คนนำสวดพูดถึงความดีงามของพระเจ้า เพลงที่ดังขึ้นก็มีเนื้อร้องเกี่ยวกับ ‘การโกหก’

ในช่วงหลัง หนังเน้นย้ำถึงภาพที่ชินแอแหงนมองท้องฟ้า ซึ่งเป็นนัยถึงการท้าทายพระเจ้า ในฉากที่รุนแรงที่สุดคือตอนที่เธอยั่วผัวของเพื่อนบ้านมานอนด้วย กล้องถ่ายด้วยมุมสูงแบบ Bird’s eye view ภาพแบบนี้ในหนังของคริซตอฟ เคียลอฟสกี้ เป็นการแทนสายตาของพระเจ้าที่มองมายังโลกมนุษย์ แต่ใน Secret Sunshine กลับเป็นสายตาที่เย้ยหยันชิงชังของชินแอที่คุกคามพระเจ้า (หากว่าพระองค์ได้มองอยู่) แต่แน่นอนว่าการกระทำแบบนี้ไม่ได้ช่วยอะไรนัก ชินแอสะสมความป่วยไข้มากขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่บทสรุปที่เลวร้าย

ในหนังของลีชางดอง เราจะพบจุดร่วมเรื่องของ ‘ชะตากรรมอันน่าเศร้า’ ของมนุษย์ ใน Peppermint Candy (1999) ชีวิตของชายหนุ่มถูกความบ้าคลั่งของสงครามและการเมืองทำลายลงจนไม่เหลือชิ้นดี ถัดมาใน Oasis (2002) คือเรื่องความรักของสาวง่อยกับหนุ่มสติไม่เต็ม ส่วนใน Secret Sunshine คงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มอีก

จุดร่วมอีกอย่างคือ ลีชางดองมักทำให้นักแสดงของเขาปลดปล่อยการแสดงในขั้นสุดขีด ไม่ว่าจะเป็นโซลเคียงกู ใน Peppermint Candy หรือมูนโซริ ใน Oasis (ที่มีบางคนนึกว่าเธอเป็นง่อยจริงๆ) และไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับจอนโดยอนที่คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงมาจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ได้ (อย่างน้อยที่สุดรางวัลนี้ก็เชื่อถือได้ เพราะจางมั่นอวี้ -นักแสดงหญิงคนสำคัญของสองทศวรรษนี้- เป็นกรรมการในปีนั้นด้วย)



สิ่งที่ผมชอบอีกอย่างใน Secret Sunshine คือหนังมีเนื้อเรื่องหลายๆ อย่างที่ไม่เอาใจคนดูสักเท่าไรนัก จากพล็อตเรื่องที่ว่ามาข้างต้น ถ้าเป็นหนังทั่วไปท้ายสุดแล้วพระเอกกับนางเอกก็คงลงเอยกัน แต่ในที่นี้แม้จองชานจะยอมทำแทบทุกอย่างเพื่อชินแอ (ถึงขนาดยอมนับถือคริสต์ตามเธอ) กลับดูเหมือนว่าชินแอจะไม่ค่อยแคร์ฝ่ายชายเท่าไรนัก ที่จริงดูเหมือนเธอใช้ประโยชน์จากเขาตลอดมาด้วยซ้ำ

หรือตามสูตรหนังทั่วไป หนังแนวนี้ก็ต้องจบด้วยการที่นางเอกเรียนรู้อะไรสักอย่าง สามารถฝ่าฟันความขัดแย้งในใจได้ นั่นคือ การให้อภัยหรือหาความสงบในใจได้ (เหมือนที่นาโอมิ วัตตส์ ยกโทษให้ เบนิซิโอ เดล โทโร่ ใน 21 Gram) แต่สำหรับชินแอแล้วดูเหมือนเธอจะไม่มีอะไรอย่างที่ว่ามาเลย

กุญแจสำคัญคือฉากชินแอเไปตัดผม พระเจ้าเล่นตลกกับเธออีกครั้ง ช่างตัดผมกลายเป็นลูกสาวของฆาตกร ช่วงแรกทั้งสองก็พูดคุยกันอย่างปกติดี จนเราเผลอวางใจว่าเธอคงละวางได้แล้ว แต่ทันใดนั้นชินแอก็ลุกพรวดพราดออกไปจากร้าน เธอต่อว่าจองชานที่พามาร้านนี้ พร้อมยังเงยหน้าไปบนท้องฟ้า พูดด้วยน้ำเสียงเสียดเย้ยว่า “ร้านก็มีตั้งหลายร้าน ทำไมนะ ทำไมต้องพามาร้านนี้” ที่จริงเธออาจจะไม่ได้โกรธจองชานก็ได้ แต่เธอคงโกรธคนบนฟ้ามากกว่า

แต่อย่างน้อยที่สุด ในฉากสุดท้ายที่ชินแอกลับมาบ้านแล้วตัดผมด้วยตัวเอง ก็แสดงถึงการที่เธอเลือกจะพึ่งพาตัวเอง (มากกว่าพระเจ้า) ส่วนตอนจบที่กล้องเคลื่อนมายังพื้นดินที่มีแสงแดดรำไรก็เปิดให้คนดูตีความเอาตามสะดวก บางคนอาจมองว่ามันเป็นแสงที่สื่อถึงความหวัง แต่คนมองโลกในแง่ร้ายอย่างผมเห็นพื้นดินแบบนี้แล้วนึกไปถึงโคลนตมริมแม่น้ำที่พบศพของลูกชาย ผมเชื่อว่าชินแอจะไม่มีวันสลัดเรื่องนี้ออกไปจากใจได้ ว่าไปแล้วการให้อภัยอาจไม่มีอยู่จริง มันก็เป็นเพียงแค่ ‘การลืม’ ในรูปแบบหนึ่ง

แสงแดดในฉากจบยังสอดคล้องกับชื่อหนัง ในช่วงที่ชินแอเลิกนับถือพระเจ้า เพื่อนบ้านของเธอได้พูดว่าพระเจ้าปรากฏอยู่ทุกหนแห่ง แม้แต่ในแสงตะวัน พลางชี้ไปยังแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้อง ชินแอเดินไปยังแดดที่ว่า พร้อมกับพูดว่าไม่เห็นจะมีอะไรเลย

บางทีพระเจ้าอาจมีอยู่จริง แต่พระองค์คงซ่อนตัวอยู่ในแสงอาทิตย์อย่างที่ยากจะมองเห็น ไม่เฉพาะแต่ในสายตาของชินแอ หรือตัวละครในหนังของลีชางดองเท่านั้น แต่กับมนุษย์ทุกผู้ที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังหรือความเคียดแค้น


ป.ล. จอนโดยอน ยังให้การแสดงที่ดีมากๆ ในหนังเรื่อง Happy End (1999) หนังมี DVD ขายที่ร้านแมงป่อง ชื่อไทยว่า ‘จะต้องรักอีกสักเท่าไหร่’




ตัวอย่างหนัง Secret Sunshine




ภาพบรรยากาศ จอนโดยอน รับรางวัลนำหญิงที่คานส์




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2552 10:41:11 น. 33 comments
Counter : 8387 Pageviews.

 
หนังที่อยากดู


Un Lac - Philippe Grandrieux



เพลงที่อยากฟัง


Pet Shop Boys - Yes



Depeche Mode - Sounds of the Universe



Royksopp - Junior


โดย: merveillesxx วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:48:06 น.  

 
โอ้ว หน้าปกอัลบั้มแต่ละอัน เก๋ ๆ ทั้งนั้น

เราได้รับ sms ละ แม่งฮาดีว่ะ ความสุขของกะทินี่นะ หนังไซไฟ หน้าหนังมันให้ขนาดนั้นเลยหรอ 555


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:59:53 น.  

 
การให้อภัยอาจไม่มีอยู่จริง
มันก็เป็นเพียงแค่ ‘การลืม’ ในรูปแบบหนึ่ง


พยักหน้าเห็นด้วย
ร้ายเนอะ...พวกมนุษย์เนี่ย


โดย: Evil is Live วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:23:55 น.  

 
อ่านแล้วสนใจโคตรๆ

หนังหนัก..แต่..ท่าทางจะโดน หุๆ

ชอบพล็อตเรื่องที่ไม่เอาใจคนดูเหมือนกัน มัน "จริง" ดี (แต่ก็ต้องดูในเวลาที่ภูมิคุ้มใจแข็งแรงดีนะ ไม่งั้นจะหดหู่ไปหลายวัน อย่าง Dancer in the Dark เป็นต้น)


ทว่า..จะหาดูได้จากไหนฟระนี่?


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:47:26 น.  

 
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับว่านี่เป็นหนังที่หนักมากๆๆๆ

การแสดงของจอนโดเยนนั้นไม่แปลกใจเลยที่คว้ารางวัลที่คานส์ เพราะเธอน๊อตหลุดได้แบบโครตเชื่อเลย

แอบซะใจมากๆกับเรื่องความเชื่อในพระเจ้าที่เรื่องนี้เหมือนตบกบาลฉาดใหญ่

ปล.นอกเรื่อง: เพิ่งอ่านหนังสือ คิมคีด็อก จบครับหลังจากดองไว้ตั้งนาน มีเห็นด้วยบ้าง ไม่เห็นด้วยบ้าง แต่ก็ทำให้ต้องกลับไปดูหนังของพี่แกอีกครั้งแล้วล่ะ เขียนได้ดีครับ จะติดตามเล่มหน้านะครับ ^^


โดย: Seam - C IP: 58.9.220.220 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:56:19 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านนะคะ
แต่จะบอกว่า ตอนที่ดูดีวีดีเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้ว หนังคว้าใจเราไปเลย

จริงๆ มันคือหนังที่เรา "รัก" มากที่สุด ในจำนวนหนังที่ได้ดูเมื่อปีที่ผ่านมาเลย

เคยถกกับเพื่อน (สายธรรมมะ) เรื่องประเด็นการให้อภัยในเรื่อง (การให้อภัยคนที่ฆ่าลูกของนางเอก) จำไม่ได้แล้วว่าเพื่อนตอบว่าอะไร...

แต่มันเป็นหนึ่งในประเด็นที่ท้าทายเรามากๆ เลย
ไว้เดี๋ยวเคลียร์งานเสร็จ จะกลับมาอ่าน :)


โดย: tiktok IP: 58.8.18.86 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:47:27 น.  

 
+ ยังไม่ได้ดู (และอยากดู) เลยยังไม่กล้าอ่านละเอียด ได้แต่สแกนผ่านๆ ลงมาอ่ะครับ ไว้ได้ดูเมื่อไหร่ จะย่องตามมาแกะรอยข้อมูลที่หน้านี้ใหม่เน้อ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:12:07 น.  

 
เป็นหนังดราม่าที่หนักหน่วงเหลือแสนจริงๆ แต่เราก็ชอบมากๆ มีหนังเกาหลีน้อยเรื่องมากที่เราชอบ

นางเอกเล่นดีระดับสุดยอด มีฉากการแสดงที่น่าจดจำแบบอ้าปากค้างมากมาย นอกจากฉากร้องไห้ตอนไปแจ้งตายลูกแล้ว เราก็ชอบฉากตอนเธอเข้าไปฟังเพลงในโบสถ์ครั้งแรกนั่นด้วย และเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าฉากจากระยะไกลที่เธอไปดูศพลูกที่ที่เกิดเหตุนั่นน่ะ เป็นฉากที่โคตรทรงพลังเลย โดยที่ไม่ต้องโคลสอัพเลยสักนิด

ชอบทุกฉากที่เธอเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา มันดูดิบจริงในรายละเอียดราวกับสารคดี แต่ก็มีน้ำเสียงเสียดเย้ยอยู่ในทีตลอดเวลา

โอ๊ย.. เขียนได้ไม่จบ ยาวเกินไปละ พอก่อน

แต่ Oasis เราไม่ชอบว่ะ ทนดูไม่จบเลยด้วยซ้ำ



โดย: เอกเช้า IP: 124.122.153.248 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:56:17 น.  

 
อย่างหนึ่งที่พี่รับรู้จากการอ่านบล็อคของรีวิวหนังของน้องเมอร์ก็คือ มันจะทำให้หนังเรื่องนั้นๆน่าดูขึ้นมาอย่างมหาศาล (แม้หลายๆเรื่องพอไปหามาดูแล้วพี่จะไม่ชอบมันเลยก็ตาม)

กับเรื่องนี้ก็ไม่แตกต่าง คงต้องไปหามาดูอีกตามเคย


โดย: แฟนผมฯ IP: 117.47.154.26 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:12:40 น.  

 
เรื่องนี้ไปซื้อมาตั่งแต่หนังยังดังๆซิงๆเลย แต่ก็ให้แฟนไปเพราะอ่านซับอิงไม่ออก

ทำให้อยากดูนะเนี่ย แง่ว


โดย: ต้องบอกด้วยเหรอ วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:06:01 น.  

 
ตอบ I will see U in the next life.

คือข้อสอบมันเป้นถูกผิดน่ะ แล้วมีข้อนึงถามว่า -หนังเรื่องความสุขของกะทิ เป็นหนังไซไฟ- แล้วปรากฏว่ามีเด็กตอบว่าถูกกันตรึม งงเลยทีเดียว



ตอบ Evil is Live

ฮ่าๆ จริง ถ้าเราจำไม่ผิด ริค วริชปิลันธ์ เขาตะเคยพูดประมาณว่า "มนุษย์เรากล่องบรรจุความชั่วร้าย"



ตอบ สาวไกด์ใจซื่อ

เรื่องนี้หาไม่ยากนะ ร้านตามสีลม จตุจักร ฟอรฺจูน มีหมดแล หรือร้านในเน็ทแผ่นละ 40 บาท ซับไทย ยังมีเลย



ตอบ Seam - C

ไปอ่านบทสัมภาษณ์มา จอนโดยอนบอกว่า ตอนที่เล่นหนังเรื่องนี้ของลีชางดอง เธอต้องลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเรียนรู้มาในชีวิต

ขอบคุณที่อุตส่าห์อ่าน pocketbook นะครับ ^^



ตอบ tiktok

เห็นด้วยเลย จริงๆ เราว่าหนังมันสุ่มเสี่ยงต่อการอื้อฉาวเหมือนกัน ใน youtube ก็มีเถียงกันใหญ่เลยว่าหนัง Anti-Christ แต่ส่วนตัวเราคิดว่าหนังใช้แค่เรื่องศาสนาเป็นกระจกสะท้อนมนุษย์มากกว่า



ตอบ บลูยอชท์

ขอให้หามาดูได้ ในเร็ววันนะจ๊ะ



ตอบ เอกเช้า

เราเองก็ดู Oasis รอบแรกไม่จบเหมือนกัน หนังมันค่อนข้างทรมานนะเราว่า แต่พอดูไปตอนท้ายๆ ก็ชอบ แต่หนังของคนนี้เราชอบ Peppermint Candy ที่สุด เราว่ามันเจ็บปวดมาก



ตอบ แฟนผมฯ

>แม้หลายๆเรื่องพอไปหามาดูแล้วพี่จะไม่ชอบมันเลยก็ตาม

สรุปว่าพี่เลิกเชื่อผมดีกว่ามั้ยอ่ะ 555555555



ตอบ ต้องบอกด้วยเหรอ

อ่านซับอิงค์ไม่ออกคือมันนรก หรือยังไงอ่ะ แต่ซับอิงค์เรื่องนี้ไม่ค่อยยากนะ ยกเว้นตรงพระเจ้าๆ ก็รู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง


โดย: merveillesxx วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:34:35 น.  

 
มีแผ่น Peppermint Candy ให้ยืมหรือเปล่้าอะ
ดู Oasis แล้วชอบมาก เจ็บจริงๆ (แต่ เปปเปอร์มินต์ เจ็บกว่าอีกเหรอเนี่ย)

Secret Sunshine นี่ดองแผ่นไว้เป็นปีแล้ว (ตั้งแต่มันได้นำหญิงคานส์นั่นแหละ) พอเลื่้อนผ่านแวบๆ เห็นมีัเรื่องศาสนาด้วย เลยอยากดูเข้าไปใหญ่ คาดว่าคงจัดการได้หลังสอบ


โดย: nanoguy IP: 125.24.134.22 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:58:47 น.  

 
อ่านแล้วก็อยากหามาดูชมมั้ง

แต่ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ดู




โดย: zoxmok IP: 123.243.95.199 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:08:13 น.  

 
Secret Sunshine เป็นหนังปี 2007 ของลีชางดอง เป็นผลงานหลังจากที่เขาไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมอยู่หลายปี
^
^ น่าสนใจว่ะ เมืองไทยน่าจะมีรมต.กระทรวงวัฒนธรรมที่เป็นแบบนี้มั้งนะ
(แต่เขามาทำหนังหลังจากเป็น รมต.แล้วใช่ไหม หรือก่อนหน้าเป็น รมต.ก็เคยทำหนังมาก่อน)


โดย: grappa IP: 58.9.184.115 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:06:16 น.  

 
ไปรื้อกองดีวีดีมา เพิ่งรู้ตัวว่ามีหนังของเขาครบเซ็ท 555 (Peppermint Candy, Oasis, Secret Sunshine) แต่ยังไม่ได้ดูสักเรื่อง

ส'สัยมัวแต่เอาเวลาไปดู Cyborg She 555


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:50:35 น.  

 
ตอบ nanoguy

แผ่น Peppermint Candy พี่มีนะ แต่รู้สึกอยู่กับเพื่อนว่ะ



ตอบ grappa

ก่อนหน้าเป้น รมต. เค้าก็ทำหนังไป 3 เรื่องจ้า พอเป็น รมต. ก็หายไปเกือบ 5 ปี แล้วก็มาโผล่ที่ Secret Sunshine นั่นแล



ตอบ ฟ้าดิน

Cyborg, She ผมยังไม่ได้ดูเลยครับ ไม่กล้าดูกลัว ผกก. คนนี้ (ผมยังสยองกับ Windstruck ไม่หาย)


โดย: merveillesxx วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:0:07:23 น.  

 
หนังเล่นกับอารมณ์ได้ดีมากครับ
ดูไปไม่รู้ว่าเอาไงต่อ เหนื่อย แต่ก็ชอบ

ตอนเลือกนักแสดงหญิงแห่งปีของปีที่แล้ว
ผมยกให้ จอนโดยอน เป็นอันดับหนึ่ง


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:0:05:30 น.  

 
(ย่อหน้าสุดท้าย อาจสปอยล์หนังนะจ๊ะ)

หลังจากพยายามปลุกปล้ำกับแผ่น Frost/Nixon อยู่เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วไม่สำเร็จ (ต้องรีบเอาไปเปลี่ยน) ก็เลยได้ฤกษ์หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดูเสียที

ขอกราบ จอนโดยอน แปดที
เธอคือทุกสิ่งทุกอย่างของหนังเรื่องนี้จริงๆ
ถ้าได้ดูในโรง คาดว่าอาจสติแตกตามเธอได้

นอกจากเรื่องของศาสนาคริสต์ (อันเป็นศาสนาที่คนเกาหลีนับถือเยอะที่สุด) แล้ว ส่วนตัวคิดว่าหนังยังท้าทายถึงสภาพปิตาธิปไตยของเกาหลีด้วย สังเกตจากตัวละครที่พบกับความทุกข์ระทมทั้งเรื่องล้วนแต่เป็นเพศหญิง (ชินแอ และ เด็กสาววัยรุ่นตอนท้ายเ้รื่อง) ในขณะที่ผู้ชายนั้นแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆเลย หรือไม่ก็ทำหน้าที่เป็นแค่บาทหลวง ผู้นำสวด ซึ่งก็ = พระเจ้า นั่นเอง

จริงๆ ตอนดูรู้สึกถึงอณูแห่งความชั่วร้ายที่ปรากฏอยู่ในเรื่องเกือบตลอดเวลา (หรืออาจเ็ป็นอณูแห่งความคิดชั่วร้ายของข้าพเจ้าเอง 5555+) ว่าแท้จริงแล้วเหล่าแม่บ้านผู้ศรัทธาทั้งหลายนั่นแหละที่รวมหัวกันทดสอบ "ศรัทธา" ของชินแอผู้มาใหม่......


โดย: nanoguy IP: 125.24.163.114 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:7:02:29 น.  

 
ไว้ไปหามาดูแล้วจะมาอ่านใหม่จ่ะ กลัวโดนสปอยล์ๆๆๆ 5555




โดย: เด็กม.ปลาย IP: 158.108.92.69 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:20:45:24 น.  

 
สุขภาพ


โดย: mlmboy วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:22:24:43 น.  

 
Hello, Chong :)
This is Suwat เด้อลา :D

ช่วงนี้เราว่างๆหงะ เลยมานั่งเขียน blog เล่น... ว่างๆ เบื่อๆ ดึกๆ เราไม่ออน แล้วนายไม่มีไรทำ ก็มานั่งอ่าน blog เราได้เน้อ... พยายามจะเขียนขำๆ แก้เซ็งหงะ...

ตามมาเม้นท์ได้เน้อฉ่องเน้อ :D

ปล. เราอยากดู "ความจำสั้น แต่สั้นหลังยาว" อ่ะ แต่ว่ายังหาเวลาว่างไปดูม่ะได้เลย ถ้านายไปดูมาแล้วก็มาเล่าให้ฟังด้วยเน้อ มาหนังดีป่าวอ่ะ :D


โดย: Pond Suwat (LP. E. no SAINT ) วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:0:03:44 น.  

 
อ้าวเห้ย โทษทีหวะ ลืม Post โฆษณา Blog เรยตรู

ดูได้ที่
ppoundsterling.multiply.com
ppoundsterling.bloggang.com

ได้ 2 ที่เลยเน้อ แต่ที่ Multiply จะมีเยอะก่า

ไปหละ อย่าลืมตามมาอ่านเน้อ...


โดย: LP. E. no SAINT วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:0:06:55 น.  

 
ขอซีร็อกจากคุณพ่อมาให้หน่อยดิ
เราไม่มีญาติเป็นสายตำหนวดเลย
เพื่อจะช่วยได้บ้าง
ช่วงนี้พี่เขาขยันเหลือเกิน


โดย: พรเก้าประการ วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:2:54:53 น.  

 
ง่า เอาน่า เราก้หาคนดูใหม่ หรือไม่ก้ชิวๆดูคนเดียวก้สบายดี


โดย: nida mailo IP: 125.25.149.157 วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:9:36:19 น.  

 
แอบคนเห็นอู้งานไปช้อบปิ้งแถว ๆ เพลินจิตด้วยยยย

ทักก็ไม่หันมานึกว่าหยิ่ง ที่ไหนได้ใส่หูฟังอยู่

ซื้อกันเป็นอุตสาหกรรมเรยยยย อย่าลืมเอามาอวดกันบ้างนะ รอดูอยู่จ้า

เราได้มาแค่ 3 แผ่น อยากซื้อมากกว่านี้ แต่ ปัจจัยไม่เอื้อ


โดย: เอิ้น IP: 58.8.18.139 วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:17:17:45 น.  

 
^
^
^


เพิ่งไปอ่าน entry อันเก่า ชอบ crash ของ เดวิด โครฯ ด้วยหรือนั่น



ว่าง ๆ เราไปเดท กันที่สุสานรถกันดีไหมเมอร์ ฯ

เผื่อว่าเราจะได้ . .. ...





โดย: เอิ้น IP: 58.8.18.139 วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:18:28:46 น.  

 
^
^
เอ่อ ผมว่าทักผิดคนแล้วมั้งครับ

เพราะว่าปกติแล้วผมจะไม่ใส่หูฟังนะครับ ผมเลิกพกหูฟังตั้งแต่ ม.6 แล้ว เพระาหมอสั่งห้าม

แต่ว่าไปถล่มที่แพลทตินั่มมาจริงครับ 55


โดย: merveillesxx วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:7:15:49 น.  

 
มาหา แล้วก็ได้อ่านหนังดีๆ กลับไปหนึ่งเรื่อง


โดย: KiSs MoRe IP: 210.253.198.241 วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:14:16:16 น.  

 
ปกติเราไม่ค่อยดูหนังเกาหลีเท่าไหร่
แต่เล่าแบบนี้ อยากดูไปเลย


โดย: fonkoon วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:11:27:13 น.  

 
ผมก็นึกว่านางเอกเรื่อง Oasis เป็นง่อย จริงๆด้วย

จอน โด ยอน เล่นหนังเก่งจริงๆ ได้ดูเรื่อง I Wish I had a Wife ไหมครับ ดูประกอบกับ Happy End จะสนุกมาก เพราะ เรื่องนั้นเธอเล่นบนคน จืดๆ จืดสนิทจริงๆ

ขอบคุณ ที่เฉลย ประเด็นสำคัญของหนัง คือ บอกว่าเป็นของผู้กำกับ Oasis น่ะ ตอนที่ดูเรื่องนั้นจบ ก็ทำให้ตั้งใจไว้ว่า จะ ไม่หาหนังเศร้ารันทด แบบ จริงจัง ขนาดนั้นมาดูอีกต่อไป เรื่องนี้ก็จะได้ไม่เผลอไปหามาดู ครับ


โดย: รถเล็ก IP: 124.121.116.26 วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:11:47:30 น.  

 
ู^
^
I Wish I had a Wife ได้ดูครับ เฉยๆ กับหนัง แต่ก้ชอบตรงที่หนังมันเรียบๆ ร่มรื่นดี ไม่มีการบิวด์อะไรมากนัก


โดย: merveillesxx วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:8:21:02 น.  

 
หนังเรื่องนี้ของเรายังแอบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ยังไม่ได้ดูเลย

ชอบภาพที่นอนบนโซฟา เคยเห็นเอามาเป็นโปสเตอร์ด้วย สวยดี



โดย: renton_renton วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:12:14:55 น.  

 
เราซื้อเรื่องนี้มา และดองเอาไว้โคตรนาน 5555
คิดเอาไว้ว่าจะดูๆๆๆๆๆ ก็ไม่ได้ดูซักที

มาดูกันซิว่า หลังจากอ่านบล็อกนี้แล้ว
เราจะไปหยิบมันมาดูเมื่อไหร่



แล้วจะมาบอกกกกก!!!


โดย: ยิ่งยง นั่งยองยอง วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:23:41:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.