http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
โฆษณา Oriental Princess : เป็นสิว = อาชญากรรม !!??

โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง



หมายเหตุ: ออนไลน์ครั้งแรกที่ //www.fuse.in.th/blogs/comment/3454


ทุกวันนี้เปิดโทรทัศน์ โฆษณาผลิตภัณฑ์ความงามทั้งหลายประเดประดังเข้าหาเราอย่างไม่หยุดหย่อน พวกเขาพยายามสร้างความคิดให้เราว่ามนุษย์ในอุดมคติต้อง ผิวขาว, ฟันขาว, รักแร้ขาว, หน้าอกใหญ่, ผมยาวสลวย ฯลฯ แต่ก่อนคนที่ต้องเครียดกับเรื่องพวกนี้มักจะเป็นคุณผู้หญิง แต่เดี๋ยวนี้คุณผู้ชายก็โดนด้วยเช่นกัน เพราะสินค้าพวกนี้มีชนิดแบบ For Men ออกมา

แต่พูดกันตรงๆ ยังไงโฆษณาของสินค้าพวกนี้สำหรับสุภาพสตรีก็นักหนากว่าของผู้ชายมาก ทั้งในแง่ปริมาณและความรุนแรง ...ความรุนแรงในที่นี้ผู้เขียนหมายถึง สาร, เนื้อหา หรือนัยแฝงเร้น ของโฆษณาดังกล่าว

ผู้เขียนเคยลองถามนักศึกษาในคลาสว่า โฆษณาครีมผิวขาว Whitening มักลงเอยด้วยตอนจบแบบไหน ไม่ต้องใช้เวลาคิดมาก นักศึกษาตอบทันทีว่า "มีแฟน" "ได้กับผู้ชาย" หรือบางคนตอบตรงไปตรงมาว่า "มีผัว" ซึ่งนี่แหละคือความน่ากลัวของโฆษณาเหล่านี้ที่สร้างความกลัว ความหวั่นวิตก ให้กับผู้บริโภคว่าถ้าไม่ขาวไม่สวยไม่เด้งแบบนางเอกในโฆษณา เธอจะหาแฟนไม่ได้น และต้องไม่ลืมว่าการเล่นกับความกลัวที่จะไม่มีแฟนหรือไม่ได้แต่งงานใช้ได้ ผลดีนัก 'รถไฟฟ้ามาหานะเธอ' หนังทำเงิน 150 ล้าน ก็เล่นกับวาทกรรมนี้นั่นแหละ

เราลองมาดูตัวอย่างสักสองชิ้น (ผู้เขียนสุ่มเอาจากค้นหาใน YouTube ไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีสินค้าของยี่ห้อใดเป็นพิเศษ)



นี่คือตัวอย่างเบาะๆ ของโฆษณาประเภทครีมหน้าสวย ที่ผู้หญิงไม่อาจยืนหยัดอยู่ด้วยคนเดียวได้ แต่จะต้องผู้ชายอยู่ร่วมในโฆษณาด้วยเสมอ ผู้หญิงในสปอตตัวนี้มีสถานะแบบ Passive อย่างยิ่ง เธอถูกหนุ่มๆ รุมจิ้มหน้า และดูเหมือนเธอก็จะยินยอม ผู้ผลิตพยายามจะบอกว่าเพราะเธอหน้าเด้งนี่ไง ถึงมีผู้ชายมารุมล้อมถึงสองคน



ผู้ชายในโฆษณาปิดป้องใบหน้าของหญิงสาวที่มีสิว พร้อมบอกว่าเขาเขินอาย มันสะท้อนค่านิยมผู้ชายเป็นใหญ่อย่างเห็นได้ชัด เพราะเพศชายกลายเป็นคนตัดสินถึงความงามบนใบหน้า แถมยังมีบทบาทปิดบังหรือเซนเซอร์นางเอกจากสาธารณชน และสุดท้ายแล้วเธอก็ต้องพยายามสวยเพื่อพระเอกของเรื่อง ไม่ใช่สวยเพื่อตัวเธอเอง



ตัวอย่างข้างต้นทำให้เราเห็นชุดความคิดหรือทัศนคติที่น่าระวังระไวอย่าง ยิ่ง และล่าสุดก็มีโฆษณาตัวหนึ่งที่เป็นที่ถกเถียง และำทำให้ชาวไซเบอร์หลายคนไม่พอใจอย่างยิ่ง นั่นคือ โฆษณาของ Oriental Princess ชุด 'เป็นสิว = สกปรก' ...ลองมาดูโฆษณาตัวนี้กันก่อน



อย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่าสปอตตัวนี้พยายามพูดเกินจริง (exaggerate) ในหลายๆ ประเด็นของการมีสิว ผู้ผลิตสร้างวาทกรรมที่ตีขลุมขึ้นมาว่า การเป็นสิวนั้นเกิดขึ้นเพราะเป็นคนสกปรก ดังเช่น

- ตอนต้นเรื่อง เพื่อนร่วมงานแสดงท่าทางรังเกียจนางเอกอย่างชัดเจน เพียงเพราะเธอมีสิว

- เสียงวอยซ์โอเวอร์ของนางเอกที่ว่า "คนเป็นสิว ก็เหมือนโดนสังคมตัดสินไปแล้่วว่าเป็นคน...สกปรก" ซึ่งแท้จริงแล้วสังคมใดๆ ที่ผู้คนมีสติสัมปชัญญะพอสมควร คงไม่คิดอะไรไร้สาระกันเช่นนี้ กลับเป็นโฆษณาตัวนี้ต่างหาก ที่สร้างชุดความคิดนี้ขึ้นมา

- ผู้คนรอบๆ ตัวนางเอกให้ขอสันนิษฐานต่างๆ ว่านางเอกเป็นสิวเพราะ ล้างหน้าไม่สะอาด, ไม่ค่อยสระผม, ไม่ซักปลอกหมอน ฯลฯ ทั้งที่ความจริงแล้ววิชาสุขศึกษาของทุกโรงเรียนต่างได้สอนว่าปัจจัยของสิว ยังมีเรื่องของ ฮอร์โมน กรรมพันธุ์ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม หรือ อาการแพ้ต่างๆ ด้วย ซึ่งผู้ผลิตโฆษณาส่วนใหญ่ต่างพร้อมใจกันละเลยความจริงพวกนี้ไป

สปอตดังกล่าวทำให้เรื่องสิว -ที่ทุกคนมีสามัญสำนึกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ- กลายเป็นเรื่องใหญ่โต แถมยังดราม่าเกินเหตุ (over-dramatize) ด้วยการแปรให้มันมีความรุนแรงเทียบเท่าอาชญากรรม เพราะสุดท้ายนางเอกต้องถูกจับขังคุก ซึ่งตัวนางเอกก็ยอมจำนน ประหนึ่งว่าเรื่องสิวเป็นเรื่องไม่มีทางแก้ ไม่มีทางที่เราจะต่อสู้ด้วยตัวเองได้ แต่ต้องรอใครสักคนมาชี้ทางสว่าง

นั่นก็คือ หญิงใส่แว่นที่รับบทคล้ายทนายสาว ซึ่งแท้จริงก็คือสัญลักษณ์แทนถึงผลิตภัณฑ์ของ Oriental Princess เธอมาด้วยประโยคที่เวอร์สุดๆ ว่า "คุณมีสองวิธีที่จะเป็นอิสระ" ตอนนี้กลายเป็นว่าการมีสิวตือการถูกจองจำคุมขัง ส่วนการที่มีหน้าสวยใสเด้งคืออิสรภาพ ทั้งที่จริงแล้วการพยายามดิ้นรนดั้นด้นจะมีหน้าสวยใสนั่นแหละคือ การเข้าสู่กรอบกับดักที่แน่นหนา

ท้ายสุดโฆษณาก็ปิดท้ายด้วยภาพนางเอกที่สวยเด้งขึ้นแบบเปลี่ยนไปเป็นคนละ คน พร้อมคำโปรยว่า "ถอดเรื่องจากความรู้สึกของ เอม อัจฉราพร" เพื่อสร้างเครดิตว่าโฆษณานี้เป็นการอิงเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องโม้โคมลอย ทั้งที่ประชาชนไทยเกินหนึ่งล้านคนคงนั่งงงแน่ว่า เอม อัจฉราพร นี่คือใครกันแน่ ขนาดกูเกิ้ลหาแล้วก็ยังไม่เจอ


ทั้งนี้ผู้เขียนได้ย้อนดูโฆษณาตัวก่อนๆ ของ Oriental Princess จึงได้ค้นพบว่าพวกเขามีทัศนคติการ 'กดทับ' คนที่เป็นสิวมาแต่ไหนแต่ไร



หญิงสาวที่เป็นสิว ต้องเดิมก้มหน้าไปตลอดชีวิต เธอจะเชิดหน้าชูตาได้ ก็ต่อเมื่อเป็นคนสวยไร้สิวเท่านั้น



ส่วนอันนี้ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะเทียบเคียงคนเป็นสิวกับผี


ผู้เขียนดูโฆษณาเหล่านี้แล้วก็ความเครียดขึ้นจนทำให้มีสิวบนใบหน้าเลยที เดียว อย่างไรก็ดี แม้ไม่ใช่ผู้เชียวชาญทางความงาม ผู้เขียนขอยืนยันว่าการเป็นสิวไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เรื่องน่ารังเกียจ หรืออาชญากรรม แต่โฆษณาที่ทำออกมาแบบขาดสติและขาดความรับผิดชอบต่างหากคืออาชญากรรมที่แท้จริง


==================


ข่าวประชาสัมพันธ์




เชิญชมหนังสั้น 'ภูเก็ต' ที่ SFW เซ็นทรัลเวิลด์

หนังสั้นเรื่อง ภูเก็ต ของ อาทิตย์ อัสสรัตน์ (ผกก. Wonderful Town) นำแสดงโดย สรพงษ์ ชาตรี และ อิมซูจอง (นางเอก ตู้ซ่อนผี) จะฉายที่ SFW เซ็นทรัลเวิลด์ ช่วง 30 กันยายน - 27 ตุลาคม 2553 พร้อมแถมหนังสั้นอีกสองเรื่องคือ Boy Genius และ The Sigh

ดูรายละเอียดที่ //www.extravirginco.com/directors-screen.html





Create Date : 01 ตุลาคม 2553
Last Update : 1 ตุลาคม 2553 7:51:15 น. 18 comments
Counter : 7321 Pageviews.

 
เขาแค่จะบอกว่า เป็นสิวมันดูสกปรก ไม่ว่าคุณจะคิดยังไง
"แต่ในความเป็นจริงมันเป็นเช่นนั้น คือมีสิว=สกปรก"

โฆษนาก็แค่ บอกว่า มีสิวมันดูสกปรกนะ(ไม่ว่าจะมีด้วยเหตุผลอะไร) ซึ่งในโฆษนาก็บอกเป็นนัยๆ แล้ว ว่า ผู้หญิงที่เป็นสิว ถูกตัดสินจากคนรอบข้าง ที่ไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง ของการเป็นสิว(ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคนสกปรก)

ถ้าไม่อยากดูสกปรกในสายตาคนอื่น มารักษาสิวกันเถอะ

แล้วคนเป็นสิวมีใครที่ไม่อายบ้าง เป็นใครก็ต้องอายทั้งนั้น เพราะถูกเพื่อนล้อได้ง่าย(ถ้าเป็นวัยรุ่น)


โดย: ผมว่าคุณดูแล้วตีความไม่ละเอียดมากกว่า IP: 58.9.129.253 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:3:38:08 น.  

 
มันอยู่ที่ฮอร์โมนแต่ละคนด้วยคับ โฆษณามันทำแบบเว่อเกินไป


โดย: 1144 IP: 183.88.61.142 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:5:02:58 น.  

 

ตอบ คห.ที่ 1

> แล้วคนเป็นสิวมีใครที่ไม่อายบ้าง
> เป็นใครก็ต้องอายทั้งนั้น
> เพราะถูกเพื่อนล้อได้ง่าย(ถ้าเป็นวัยรุ่น)

อันนี้จริงครับ

แต่คำถามคือ โฆษณาทำถูกหรือครับที่ยิ่งตอกย้ำความน่าอับอายนี้? นี่เป็นเรื่องชอบธรรมหรือครับ ส่วนตัวผมคิดว่า ไม่


โดย: merveillesxx วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:7:46:03 น.  

 
โฆษนามันคือการตอกย้ำความรู้สึกอยู่แล้วครับ

โฆษนาอาหาร ก็ต้องตอกย้ำว่ามันอร่อยโง้นงี้ ให้ดูน่ากิน ให้คนรู้สึกหิว

โฆษนาประกันก็ตอกย้ำว่า ชีวิตมีความเสี่ยง ทำประกันซะตายไปลูกหลานจะได้สบาย

โฆษนารักษาสิว เขาก็ต้องตอกย้ำสิครับว่า สิว มันดูสกปรก น่ากลัว ไปรักษาซะ

คุณบอกว่า ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นธรรมกับใครล่ะครับ คนที่เป็นสิวอยู่ เขาดูแล้วจะยิ่งรู้สึกอยากรักษาให้มันหายๆไปซะ (มีใครไม่อยากให้สิวหายบ้าง) ซึ่งเป็นเรื่องดี

คนที่ไม่ได้เป็นก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่ได้รังเกียจคนเป็นสิวเพิ่ม

แล้วใครล่ะที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม?

โฆษนาก็แค่เอาเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว มาขยายความแค่นั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโฆษนา


โดย: ลองตีความดูดีๆ IP: 58.9.129.253 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:10:40:32 น.  

 
เป็นสิว เป็นเรื่องน่าอับอาย คุณต้องรีบรักษา ไม่งั้นคนรอบข้างจะรังเกียจ...


มีโอะไรที่มันโง่บัดซบกว่านี้ได้อีกไหมเนี่ย!!







โดย: ข้าวผัดบูด วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:12:02:10 น.  

 
คห.4 ฮะ การที่โฆษณาตอกย้ำว่าการเป็นสิวเป็นเรื่องเลวร้ายในการดำเนินชีวิต เเล้วคุณยังจะมาถามอีกหรอครับ ว่าใครไม่ได้รับความเป็นธรรม?? การที่โฆษณาสร้างภาพให้ดูเลวร้ายขนาดนี้เเล้วยังบอกว่าก้เป็นเรื่องปกติที่รับได้ ผมก็คงจะพูดเเบบเดิม
"มีอะไรที่มันบัดซบกว่านี้อีกมั้ย"


โดย: ข้าวผัดบูด IP: 182.52.64.9 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:18:46:55 น.  

 
คุณ "ผมว่าคุณดูแล้วตีความไม่ละเอียดมากกว่า" และ "ลองตีความดูดีๆ" - สิวเป็นเรื่องธรรมชาติครับ ตั้งแต่ลืมตาดูโลกมา ผมยังไม่เคยรังเกียจคนเป็นสิวเลยนะ - 5555


โดย: นายสุภาพ ข้าวหลามอร่อย IP: 111.84.0.86 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:19:06:17 น.  

 
ในฐานะที่เรียนสายโฆษณาขอตอบตรงๆว่า

ถ้า Creative ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพที่เพียงพอ ผลของโฆษณาก็จะออกมาเป็นแบบนี้

แต่จะว่าไปเอาแค่คำว่าจรรยาบรรณมาตั้งเป็นเกณฑ์ไว้ ก็คงไม่เพียงพอ เมื่อระบบทุนนิยมซึ่งหมายถึงเจ้าของบริษัทที่อยากให้ผลิตภัณฑ์ของตนออกมาในรูปแบบไหน และคาดหวังว่ากลุ่มเป้าหมายเค้าเป็นยังไง

แต่ก็เห็นด้วยว่า การสร้างทัศนคติว่าการมีสิวเป็นเรื่องที่ จะทำให้ตัวเองกลายเป็นคนชายขอบนั้น เป็นทัศนคติที่เหยียดหยามความเป็นมนุษย์ด้วยกันอย่างชัดเจน

แล้วถ้าหากการ "ตีความ" ที่ขาดวิจารณญาณที่ดีแล้ว การปล่อยให้ชิ้นงานโฆษณาสามารถโน้มน้าวความคิดเราได้สำเร็จถือเป็นความสำเร็จของชิ้นงาน

แต่คนที่ตกเป็น "เครื่องมือ" ให้เค้าจูงจมูก คงไม่ต้องบอกมั้งว่าหมายถึงอะไร ?


โดย: Onlineza วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:22:52:01 น.  

 
คุณความเห็นที่หนึ่งนั่นแหละ ที่ไม่รู้จักตีความ...
ไม่น่ามาลั่นให้ดูโง่เลย...เฮ้อ


โดย: ต่อแถวคริสปี้ ครีม IP: 58.9.89.222 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:23:25:50 น.  

 
แปลว่าถ้าผมเป็นสิวผมควรรีบนำเงินที่หามาได้ไปรักษาโดยด่วนเลยใช่ไหมครับ เพราะว่ามันเป็นการน่าอับอายมากที่สังคมเขาจะรับไม่ได้

เงินนั้นผมหามาได้จากการทำงานหนัก อาชีพผมเป็นอาชีพที่ทำงานเพื่อผู้อื่น เพื่อสังคม แต่ถ้าผมเป็นสิว มิติในชีวิตด้านอื่นของผมหมดลงทันทีใช่ไหมครับ ผมต้องรีบไปรักษาสิวก่อน จากนั้นค่อยมาว่ากันใช่ไหมว่าผมทำงานหนักแค่ไหน มีคุณค่าต่อชีวิตผู้อื่นยังไง เลี้ยงดูพ่อแม่ดีหรือเปล่า

ผมเข้าใจเขาว่าทำไมมันถึงออกมาแบบนี้ จากที่เคยมีเพื่อนทำงานโฆษณาอยู่บ้าง คำถามที่ผมอยากตั้งไม่ใช่ว่าคนทำโฆษณาผิดหรือเปล่า แต่จรรยาบรรณของการขายสินค้า ที่ลดค่าความเป็นมนุษย์ของเรา บางทีเราเองห้ามไม่ได้ แต่เราต้องรู้จักพิจารณาครับ ว่าโฆษณาไม่ใช่ของดี และอย่าไปยอมรับว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องขายของ เรามีสิทธิไม่เชื่อได้ครับ


โดย: คน(เคย)ทำโฆษณา IP: 183.89.81.138 วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:0:44:02 น.  

 
นี่แหละทัศนคติของเอเยนซี่โคดสะนา(และลูกค้า)ยุคนี้

สมัยก่อน โฆษณาแนว negative approach แบบนี้จะถูกยิงตกตั้งแต่ในห้องประชุม

เดี๋ยวนี้ยิ่งฉีก ยิ่งเว่อร์ในการนำเสนอเท่าไร ยิ่งดี ตกลงทำโคดสะนาสนองตัณหาคนทำกันหรือไงไม่ทราบ

ส่วนสูตรสำเร็จฮาร์ดเซลเรื่องใช้แล้วกระรอกผู้ชายได้เป็นฝูงเนี่ย คิดว่าต้องคงอยู่คู่ Product พรรค์นี้ไปชั่วฟ้าดินสลาย

ข้ออ้างคงมาจากการวิจัยถึงวิสัยทัศน์ชะนีไทย ว่ายังไงเรื่องพูชายต้องมาก่อน ส่วนจะมีผลต่อทัศนคติคนดูยังไงขอไปวิจัยชาติหน้าตอนค่ำๆ แร้วกาน


โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:3:31:01 น.  

 
มันเป็นเรื่องที่เล่นกับ Insight ของมนุษย์ครับ
ตัวเองก็รู้สึกเช่นนัน้ว่า การมีสิว = สกปรก ผมคนนึงที่คิดเช่นนั้น และ ก็คิดว่ามีคนอีกจำนวนไม่น้อยรู้สึกเช่นนี้ เหมือนกัน ผมกลับมองว่า โฆษณานี้ ถูกทำขึ้น เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายได้หันมาดูแลตัวเอง และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของเจ้าของสินค้า
และแน่นอน ค่านิยมทางสังคมก็มีให้เห็นกันอยู่แล้วว่า ไร้สิว ย่อมดีกว่า มีสิว

แต่สำหรับกลุ่มคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย ดูไป ก็อาจจะรู้สึกได้ในอีกแง่หนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมือถามว่าโฆษณานี้ ผิดจริยธรรมไหม ผมว่า ไม่ผิด เพราะ โฆษณาหยิบยกเรื่องค่านิยมที่มีอยู่จริงในสังคมมาพูดให้ชัดขึ้น ซึ่งหล่านี้ล้วนเป็น Insight ที่มีอยู่จริงในมนุษย์ครับ ไม่ใช่โฆษณาเป็นตัวสร้างขึ้น


โดย: ขยายความ IP: 183.89.13.165 วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:13:46:29 น.  

 
มันเคยมีเหรอ ไอ้คนเป็นสิว ต้องถูกไล่ออกจากงาน
(แต่ถ้าทำงานอยู่พวก ร้านขายยาเสริมความงาม หรือยารักษาสิว อันนี้ก็มีสิทธิ์โดนไล่ออกอะนะ)

แต่ถึงขั้นไปติดคุกนี่เอ่อ...

ไอ้สิ่งที่สื่อว่า สิวเป็นเรื่องสกปรก ลามไปถึงน่ารังเกียจ
ทั้งที่สิวนี่ เรื่องธรรมชาติ ต่อให้รักษาตัว รักษาหน้าแค่ไหน
ใครบ้างไม่เคยเป็นสิวฟะ ปัจจัยในการเกิดสิว แม่งเยอะสัด!

แน่นอน ผู้หญิงเวลามีสิว เธอก็อาย
แต่มันไม่ได้เลวร้าย หรือต้องทำให้รู้สึกแย่ขนาดนั้นโว้ย
แล้วมึงจะบอกว่า ไม่ผิดจรรยาบรรณอีก
ไอ้การสร้างค่านิยมผิดๆ น่ะ ไม่เรียกผิดจรรยาบรรณ
แล้วเรียกว่าไร หรือเรียกว่า ผิดที่โง่เชื่อกูเองใช่ไหม!!

โทษทีเหอะ คุณขยายความนี่ ถ้าไม่ใช่ทีมผู้ทำโฆษณาชุดนี้
ก็คงเป็นสุดยอดผู้คน ที่เข้าใจงานนี้ได้อย่างเยี่ยมยอดมากกกกก
สุดยอดมากครับท่าน!!!

คนที่บ้าน คนทั้งซอย คนไม่รู้เท่าไหร่ที่ผมรู้จักและไม่รู้จักใน internet (เท่ห์ไหม ผมพิมพ์อังกฤษได้)
เขาดูแล้วรู้สึกว่า "แม่งเวอร์ ปัญญาอ่อน โฆษณาห่าไรเนี่ย"

คนทำโฆษณาชุดนี้เจ๋งจริงๆ ที่ทำให้คนเกลียดได้เยอะแยะมากมาย
แต่มีคนชอบที่เข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง ชนิดที่ ต้องด็อกเตอร์กันเลยทีเดียว อย่างคนจำนวนนึง แถมเสือกเป็นผู้ชายด้วย
สุดยอดมากครับ!


โดย: วัชผู้มีสิวเป็นล้าน แต่ไม่เคยโดนไล่ออกและติดคุกเพราะมีสิว! IP: 61.90.76.83 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:1:30:03 น.  

 
^^ สวัสดีครับ
ผมเองก็เคยทำรายงานส่งอาจารย์
หัวข้อ สัญญะแฝงในสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์
ผมหยิบโฆษณาของ Oriental Princess ชุดก้มหน้า
มาเขียน

แล้วผมก็ประทับใจในBlog ของพี่
เพราะว่ามุมมองของผมที่เขียนส่งอาจารย์
ก็เป็นเช่นนี้เลย

สร้างค่านิยมผิดๆ บั่นทอนจิตใจสตรี
บางคนขาดความมั่นใจไปเลย

เป็นสิวแล้วจะไม่กล้ามองท้องฟ้าหาความสดใสและแสงสว่างได้เลยหรือ

มันอยู่ที่จิตใจภายในมากกว่า เย้

สู้สู้ครับพี่ ขยันเขียนๆครับ
ผมจะมาอ่านบ่อยๆ


โดย: Toto3113 IP: 118.172.55.58 วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:1:37:44 น.  

 
ขอบคุณมากครับ :)


โดย: merveillesxx วันที่: 20 ตุลาคม 2553 เวลา:11:35:23 น.  

 
ไม่ได้เข้ามาอ่านบอล็คคุณเมอร์ตั้งนาน สบายดีไหมครับ บอยดูโฆษณาชุดนี้แล้วรู้สึกว่า ตัวของโฆษณาพยายามสร้างค่านิยมใหม่ๆให้กับสังคมไทย คือ สิว = อาชญากรรม พูดตามตรงว่าโฆษณาชุดนี้เหมือนเป็นการซัฟฟอร์ตพวกคลีนิคผิวหนังไปด้วย

ตามตัวผลิตภัณฑ์ Oreintal Princess จะเน้นไปที่สาวมหา'ลัยหรือพวกสาวออฟฟิตช่วงตนๆ ซึ่งจะคลั่งในพวกเครื่องสำอาง แฟชั่น ความงามอย่างกู่ไม่กลับ พอโฆษณาตัวนี้ออกมา แล้วไม่มีข้อมูลว่าสิวเกิดจากอะไร ( อย่าง Smooth E ถึงจะมีเรื่องผู้ชาย ผู้หญิง แต่ก็ยังบอกปัญหาของสิว ) มันก็เลยทำให้คนดูบางกลุ่มรู้สึกว่า " ฉันมีสิวไม่ได้ ถ้ามีสิวสังคมต้องรังเกียจฉันแน่ๆ" ทั้งๆทีทุกคนก็เคยเป็นสิว ( สาวหน้าใส ยังเคยมีสิว ไปหาหมอหน้าเด้ง แต่หลังก็มีสิว ) เพราะฉะนั้นตัวโฆษณาเลยตัดบทซะ ถ้าเธอเป็นสิว ( ที่หน้า ) สังคมก็จะรังเกียจ ( ไม่มีเหตุผล )


แต่ถ้าบอยมองในแง่การตลาด โฆษณาตัวนี้ต้องการฉีกแนวผลิตภัณฑ์อื่นๆที่มุ่งเน้้นด้าน Sex Appeal ว่าหน้าใสสาวติด-หนุ่มติด มาเล่นด้านอื่นแทน คือเขาอาจต้องการทำสื่ออกมาแรงๆเพื่อให้คน " ด่า " เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีชื่อติดตลาดเหมือนดารามีเรื่องฉาวๆ แล้วขายดีกว่าเดิม

อันนี้คือที่บอยคิดได้ครับ


โดย: BOY IP: 115.87.232.110 วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:23:10:47 น.  

 
ผมเป็นคนนึงที่ทำโฆษณา แม้จะไม่เกี่ยวกับ oriental princess แต่อย่างใด

แต่ผมว่า ที่คุณเขียนก็ดูจะเกินไปหน่อย เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคมีสมองมากกว่าที่คุณคิด แค่บอกว่าสิวมันน่าอาย เค้าก็ไม่ได้อายตามที่พูดหรอกครับ แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้เค้าซื้อของอยู่แล้ว และที่สำคัญ ผมว่า โฆษณาตัวนี้ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่า น่าอายฉิบหาย ตรงไหน.. ดูแล้วขำๆมากกว่า

(ผมก็มีสิว คุณอาจจะไม่ได้มีสิว คุณเลยรู้สึกว่า ด่า หรือคิดมากไป)

แต่คนมีสิวแบบผมดูแล้วกลับรู้สึกว่า 'มันไม่ได้ขนาดนั้นหรอก ฮ่าๆ'


โดย: คิดเยอะไปครับ มนุษย์มันซับซ้อนกว่านั้น IP: 124.120.196.32 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:09:47 น.  

 
ผู้หญิง น้อยคนมากค่ะ ที่จะไม่กังวลเรื่องสิว
อืม...จะว่ายังไงดีล่ะ
มันจะเป็นเพราะฮอร์โมนรึเปล่านะ
แบบว่าเอสโตรเจนที่มีมากส่งผลต่อความเป็นคนรักสวยรักงามอะไรแบบนี้(แฮ่..พยายามเอามาโยงๆกันอยู่ )

เรื่องแบบนี้
มันมีหลายมิติมากนะคะ
โดยส่วนตัวแล้ว รับได้ค่ะ
รับได้ถ้าหน้าเป็น สิว
มิบังอาจแสดงความคิดเห็นบอกว่า ความคิดไหนถูกหรือผิด

แต่ว่า พอมีสิว ขึ้นที่หน้า

เราก็จะเกิดอาการแบบนี้ค่ะ

ว๊า!!!
สิวจ่า
ย้ายไปอยู่ที่ก้นกันได้มั้ยเนี้ย....






เขินอายค่ะ
แต่ชั้นคิดแบบนั้นจริงๆ


โดย: nobuta wo produce วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:20:01:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.