Eccentricities of a Blond Hair Girl : สาวน้อยคนนั้น
โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
(ตีพิมพ์ครั้งแรก - หนังสือพิมพ์ FESTIVAL DAILY ฉบับ 29 September 2009)
ลองจินตนาการดูสิว่าตอนอายุ 70-80-90 คุณจะทำอะไรอยู่ ช่วยเลี้ยงหลานอยู่บ้าน, อ่านหนังสือบนเก้าอี้โยกไม้, ฟังพระเทศน์ในวัด, หรือเล่นเฟสบุ๊ค ...แล้วในวัยขนาดนั้นพวกเราจะไปเทศกาลหนังบางกอกฟิล์มกันอยู่มั้ยนะ เอ๊ะ แล้วเราจะยังสนใจดูหนังกันอยู่หรือเปล่า
โอเค เรายังไม่รู้หรอกว่าตัวเราในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ในวันนี้ผู้กำกับชาวโปรตุเกสนาม มาโนเอล เดอ โอลิเวียร่า มีอายุทะลุไปถึง 100 ปีแล้ว เขากำกับหนังมาตั้งแต่ยุค 30 และในทุกวันนี้เขาก็ยังทำหนังอยู่และจะทำต่อไป อย่างที่คุณทวดแกพูดไว้ว่า “สำหรับผม การหยุดทำหนังก็เหมือนตาย และผมจะได้พักผ่อนก็ตอนทำหนังนี่แหละ” (เท่มากค่ะคุณทวด!)
ปัจจุบันโอลิเวียร่าถือสถิติผู้กำกับภาพยนตร์ที่อายุมากที่สุดในโลก ลองจินตานาการถึงชีวิตของเขาแล้วมันช่างน่ามหัศจรรย์นัก เพราะภาพยนตร์เพิ่งมีอายุได้เพียง 114 ปี (ถือกันว่าหนังกำเนิดขึ้นในปี 1895 ด้วยฝีมือของพี่น้องลูมิแยร์) แปลว่าโอลิเวียร่าผ่านหนังมาแล้วทุกรูปแบบ ตั้งแต่หนังเงียบ หนังเสียง หนังขาวดำ หนังโปรปากันดา หนังด่าคอมมิวนิสต์ หนังนิวเวฟ หนังด็อกม่า หรือกระทั่งหนัง(บ้าเห่อ)สามมิติในยุคปัจจุบัน
หนังเรื่อง Eccentricities of a Blond Hair Girl (เวลาซื้อตั๋วต้องอ่านชื่อแม่นๆ ไม่งั้นคนขายจะงง) หรือ ‘ความประหลาดเลิศล้ำของหญิงสาวผมบลอนด์’ เป็นหนังลำดับที่ 46 ของโอลิเวียร่า ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของ Eça de Queirós นักเขียนชาวโปรตุเกสที่มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนแนวสัจนิยม (Realism) ที่ดีที่สุดของโปรตุเกส
เรื่องราวว่าด้วย มาคาริโอ้ (ริคาร์โด เทรปา - หลายชายและนักแสดงประจำของโอลิเวียรา) ชายหนุ่มผู้กำลังเดินทางโดยรถไฟ เขาดูสีหน้าอึดอัดกระสับกระส่ายพิกลยิ่ง มาคาริโอ้เริ่มบทสนทนากับหญิงวัยกลางคนที่นั่งติดกัน เขาบอกเธอว่าเพิ่งประสบกับเหตุการณ์ประหลาดที่สุดในชีวิต แล้วมาคาริโอ้ก็เริ่มเล่าเรื่องของสาวผมบลอนด์ให้อีกฝ่ายฟัง
โครงสร้างของหนังเป็นกันตัดสลับไปมาระหว่างฉากในรถไฟกับฉากแฟล็ชแบ็คของมาราริโอ้กับสาวผมบลอนด์ โอลิเวียร่าทำได้ดีกับการกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนดู อย่างเช่น เมื่ออารมณ์ของฉากย้อนอดีตกำลังถึงจุดหักเห เขาก็จะตัดมาที่ฉากในรถไฟทันที เหมือนละครทีวีที่ตัดเข้าโฆษณาในฉากสำคัญนั่นแหละ
แต่ด้วยความที่หนังมีความยาวแค่ 63 นาที และจุดไคลแม็กซ์ของหนังก็ไม่ได้พิสดารมากมายตามที่หนังบิวด์มา ผู้ชมบางส่วนอาจแอบบ่นในใจว่า ‘แค่นี้เหรอ?’ ก็เป็นได้ เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว Eccentricities of a Blond Hair Girl นั้นเหมาะกับการเป็นหนังสือมากกว่า เพราะเหตุการณ์เล็กน้อยต่างๆ สามารถบรรยายผ่านความวิจิตรของตัวอักษรได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ดี หนังก็ยังแสดงถึงความช่ำชองในภาษาภาพยนตร์ของโอลิเวียร่า นอกจากเรื่องการสร้างอารมณ์ที่กล่าวไปแล้ว การกำกับภาพและการจัดองค์ประกอบภาพของหนังก็ยังอยู่ในขั้นเทพ และที่สำคัญหนังยังถ่ายทอดความลึกลับพิศวงของพฤติกรรมมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม
Create Date : 02 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 10:55:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1547 Pageviews. |
|
|
|
|
|