The Orpheus Schemata : นรก 4 แพร่ง
โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
The Orpheus Schemata กำกับโดย: meLe Yamomo + ภัทรสุดา อนุมานราชธน ความยาว: 57 นาที (ไม่มีพักครึ่ง)
ยังจำเรื่องของเทพปรณัมกรีก Orpheus กับ Eurydice ได้มั้ยครับ?
ทั้งสองเป็นคู่รักกัน แต่วันหนึ่ง Eurydice ถูกงูกัดตาย Orpheus จึงลงไปยังนรกเพื่อขอร้อง Hades และ Persephone (เทพและธิดาแห่งความตาย) ให้ฟื้นชีวิตแก่ Eurydice อีกครั้ง ซึ่งพวกเขาตอบตกลงโดยมีเงื่อนว่าในขณะเดินทางกลับโลก Orpheus จะต้องเดินนำหน้า Eurydice ตลอด และห้ามหันหลังกลับมามองฝ่ายหลังเด็ดขาด
แต่แล้ว ณ ปากทางออก Orpheus ก็เผลอหันกลับมามอง Eurydice ...ทั้งสองจึงพรากจากกันตลอดกาล
เรื่องราวโศกนาฏกรรมของ Orpheus + Eurydice นั้นเป็นแรงบันดาลใจต่อศิลปะหลายแขนงมากมาย ไม่จะเป็นหนังไตรภาคของ Jean Cocteau หรือฉากสำคัญในหนังเดนมาร์กเรื่อง Reconstruction (2003, Christoffer Boe) ละครเวที The Orpheus Schemata ก็เช่นกัน โดยละครใช้โครงสร้างหลวมๆ จากโอเปร่า Orfeo ed Euridice ของ Christoph Willibald Gluck อีกที (อย่าเพิ่งงงครับ ทำใจดีๆก่อน)
ละครไม่ได้พูดถึงการสูญเสียคนรัก แต่มันพูดถึงเรื่องที่ว่า บางทีการตามหาความรัก ก็เปรียบเสมือนการเดินลงไปในนรก โดยละครแบ่งเป็น 4 ตอนย่อยๆ (ทำเก๋โดยแต่ละตอนเป็นชื่อสถานีรถไฟฟ้า) เท่าที่พอจะจับได้ก็มีเรื่องของ สาวอังกฤษที่มีคนรักเป็นชาวพม่า, คู่รักที่ต้องจากกันเพราะคลื่นสึนามิ และลูกสาวที่พร่ำเพ้อถึงแม่และความทรงจำของตัวเอง
สารภาพตามตรงว่าผมเองก็ดูละครไม่ค่อยรู้เรื่องนัก เพราะ The Orpheus Schemata ไม่ได้เล่าเรื่องอย่างตรงไปตรงมา หรือมีเส้นเรื่องให้จับต้องได้มากนัก แต่ใช้การผสมหลายๆ อย่าง เช่น การพูดเดี่ยว (Monologue), การแสดงด้วยท่าทาง (physical performance) ประกอบกับการใช้เสียงและวิดีโอ ซึ่งทั้งหมดนั้นออกจะเป็นนามธรรม คือไม่ใช่การเล่าเป็นเรื่องราว แต่แสดงถึงอารมณ์และความรู้สึก
สาเหตุอีกประกานหนึ่งที่การทำให้ละครค่อนข้างดูยากคือ การเล่นละครเป็น 4 ภาษา (ไทย, อังกฤษ, รัสเซีย, อิตาลี) โดยในส่วนของภาษาอังกฤษ ผู้แสดงก็สำเนียงอังกฤษจ๋ามาก ฟังยากเอาการ (ไปสืบมาก็พบว่าเธอร่ำเรียนมาจากลอนดอนนั่นเอง) ส่วนภาษารัสเซียนั้นก็จะมีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษขึ้นให้ด้านหลัง แต่ก็อ่านไม่ค่อยจะทันกัน (หรือบางทีผู้สร้างอาจจะไม่ได้ต้องการใช้ผู้ชมโฟกัสตรงจุดนั้นมากก็ได้)
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเนื้อเรื่อง แต่สิ่งที่ละครทำได้ดีมากๆ คือ การแสดงอันยอดเยี่ยมของนักแสดงทุกคนที่สื่อสารถึงอารมณ์และสภาวะความทุกข์จองตัวละครแต่ละตัวได้อย่างชัดเจน เปรียบได้กับว่าเรากำลังดูตัวละครทั้งหลายโหยหวนด้วยความทรมานจากการไคว่ขว้าหาบางสิ่ง (ซึ่งน่าจะเป็นความรัก) แต่พวกเขาก็ด่ำดิ่งสู่นรกมากขึ้นทุกที
คำถามที่น่าคิดคือ พวกเขาสร้างนรกนี่ขึ้นมาเองหรือเปล่า เหมือนกับตอนหนึ่งที่ตัวละครพูดว่า ตอนที่ออร์ฟิอุสสูญเสียยูริดีสไป เป็นเวลานานเท่าไรที่เธอเฝ้ารอเขา เวลาบนโลกกับเวลาในนรกนั้นเท่ากันหรือเปล่า หนึ่งวินาทีของเขาจะเท่ากับตลอดกาลของเธอ....แล้วฉันทำอะไรถึงต้องมารอในนรกนี่!
และสำหรับใครที่ชอบอะไรเซอร์ไพรส์ The Orpheus Schemata ก็เหมาะทที่จะดูอย่างยิ่ง เพราะช่วงท้ายของละครมีอารมณ์ที่รุนแรงมาก แถมฉากจบก็ชวนอึ้งจริงๆ (แน่นอน เราจะไม่บอก ต้องไปดูกันเอง)
หาก The Orpheus Schemata พูดถึงนรก มันก็เป็นนรกสำหรับตัวละคร แต่เป็นสวรรค์สำหรับคนดู
ป.ล. ถ้าไปดูละครเรื่องนี้แล้วเห็นคนดูหน้าตาดีผิดปติก็อย่าตกใจไป เพราะว่าผู้กำกับเขาเป็นอาจารย์ที่แอแบคจ้ะ เดาว่าเหล่าลูกศิษย์คงมาให้กำลังใจอาจารย์
The Orpheus Schemata เหลือแสดงอีก 5 รอบ
ศุกร์ 16 พ.ค. เวลา 19.30 เสาร์/อาทิตย์ 17 และ 18 พ.ค. เวลา 14.00 และ 19.30
แสดงที่ โรงละครมะขามป้อม สี่แยกสะพานควาย (เดิน 5 นาทีจาก BTS สะพานควาย)
บัตรราคา 200 บาท (นักเรียน/นักศึกษา 150 บาท)
สอบถาม + จองที่นั่ง 086-9000-445
รายละเอียด //www.makhampom.net/studio/Bua.html //www.nuniproductions.com/
Create Date : 13 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2551 7:11:26 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1901 Pageviews. |
|
|
|