http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

10 หนังแห่งปี 2008

by merveillesxx




10. Modern Life (2008, Raymond Depardon, France)

สารภาพอย่างตรงไปตรงมาว่าปกติไม่ค่อยอินกับหนังแนวภูธรหรือหนังสะท้อนความยากลำบากของชนชั้นล่างนัก แต่รู้สึกติดตราตรึงใจกับหนังเรื่องนี้เพราะมันถ่ายภาพสวยมาก (ทั้งที่จริงๆ ก็เป็นการตั้งกล้องนิ่งๆ เท่านั้น) หนังสารคดีเรื่องนี้สัมภาษณ์เหล่าเกษตรกรที่สะท้อนในเราเห็นว่าวิถีชีวิตแบบกสิกรรมกำลังจะล่มสลายในไม่ช้า ฉะนั้นยิ่งภาพสวยมากเท่าไรมันก็ยอกย้อนถึงความเศร้ามากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในฉากสุดท้ายที่กล้องค่อยๆ ถอยออกมาจากหมู่บ้านนั้นพร้อมกับภาพพระอาทิตย์ตกดินอันแสนสวยงาม







9. Water Lilies (2007, Celine Sciamma, France)

ถ้าพูดถึงหนังสำรวจผู้หญิง แคทเธอรีน เบรลญาต์ คงทำไปมากแล้ว (หรืออาจจะมากเกินไปเสียด้วย) หนังที่ได้ฉายาว่าร่างทรงของเบรลญาต์เรื่องนี้ไม่ได้พยายามทำตัวให้แรงหรือฉลาดแต่อย่างใด ตรงกับข้ามนี่มันคือ American Pie ภาคฝรั่งเศสด้วยซ้ำ คือการว่าด้วยการฝ่าฟันความอยากรู้เห็นทางเพศของวัยรุ่น เพียงแต่ตัดความตลกเปรอะเื้ปื้อนทิ้ง และมุ่งสำรวจทางจิตวิทยาแทน หนังเต็มไปด้วยฉากน่าจดจำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่นางเอกขุดคุ้ยขยะของหญิงสาวที่เธอแอบมาสำรวจ ดม และกิน, ฉากเซ็กซ์ระหว่างทั้งสองที่เหมือนฉากฆาตกรรม และฉากเอาคืนของสาวอวบในตอนท้าย นอกจากนั้นเพลงประกอบของหนังยังเพราะสุดๆ







8. Wall E (2008, Andrew Stanton, USA)

ห่างเกินกับ Pixar มานานพอสมควรทีเดียว เพราะไม่ได้ดูทั้ง Cars และ Ratatouille ไม่ได้คาดหวังอะไรกับมันมากนัก แต่เพียงแค่ 15 นาทีแรกก็ทำเอาแทบไม่กะพริบตาแล้ว ปกติเป็นคนไม่ได้หลงใหลในซีจีนัก แต่โลกเวิ้งว้าง Wall-E ทำให้รู้สึกทึ่งกับเทคโนโลยีนี้จริงๆ จุดที่ชอบคือหนังพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกทั้งสองได้อย่างละเอียดอ่อนมาก จนเรารู้สึกคล้อยตาม และลุ้นอย่างสุดตัว แม้ว่าจะรู้สึกติดขัดกับช่วงหลังของหนังบ้าง แต่ก็ควรบอกไว้ว่านี่เป็นหนังไม่กี่เรื่องที่ผมลุ้นให้มันจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง และคงไม่ให้อภัยผู้สร้างหากมันจบทำร้ายจิตใจคนดู







7. In the City of Sylvia (2007, Jose Luis Guerin, Spain)

นี่คือหนังที่ดูแล้วรู้สึกตื่นเต้นระทึกใจมากที่สุดในรอบหลายปี (แม้แต่ฝรั่งที่นั่งข้างๆ ในโรงจะหาวตลบเกือบ 85 ครั้งก็ตาม) หนังให้เราติดตามผู้ชายคนหนึ่งที่มาตามหาหญิงสาวที่ชื่อซิลเวียเป็นเวลา 3 วัน ตลอดเรื่องของหนังมีแต่การเดิน เดิน เดิน และการแช่กล้องนิ่งๆ จับคนหรือวัตถุต่างๆ นี่คือหนังที่ทำให้เราจำได้ว่าการเฝ้ามองนั้นมันงดงามเพียงใด คู่รักที่กำลังทะเลาะกัน สาวเสิร์ฟที่เก็บกดอารมณ์ของตนเอง หญิงสาวที่ทำหน้านิ่งไร้อารมณ์ หรือกระัทั่งแก้วน้ำที่ล้มลง สิ่งเหล่านี้ดูมีชีวิตและน่าจดจำมากกว่าพระเอกนางเอกที่สวยหล่อราวรูปวาดเสียอีก แต่ก็ปฏิเสธไม่้ได้ว่าทั้งสองน่ามองน่าชมจริงๆ โดยเฉพาะเมื่ออยู่บนจอภาพยนตร์







6. Vicky Christina Barcelona (2008, Woody Allen, Spain-USA)

หลายปีก่อนผมเคยตัด Match Point ออกจากท็อปเท็นของตัวเองอย่างเสียดาย แต่มาปีนี้ถึงเวลาที่ผมจะบรรจุหนังของ วู้ดดี้ อัลเลน ไว้อย่างไม่ต้องคิดซ้ำสองเสียที Vicky เป็นอย่างที่สนุก ตลก น่ารัก มีเสน่ห์ และฉลาด (สุดๆ) ไปพร้อมกัน ประเด็นของหนังทั้งรักรักสามเส้า, เซ็กซ์ และความสัมพันธ์หลายผัวเมีย (Polygamy) เป็นสิ่งที่รู้สึกอินสุดๆ พูดได้เลยว่านี่เป็นตัวแทนหนังที่สะท้อนชีวิตของผู้คนในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างดีเยี่ยม และต้องสารภาพบาปไว้เสียตรงนี้ ใครต่อใครอาจเทิดทูนการแสดงของ เพเนโลปี ครูซ (ซึ่งผมปลื้มเธอมาจาก Elegy) อย่างไรก็ดี สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน คือสิ่งที่สุดยอดในหนังเรื่องนี้สำหรับผมอยู่ดี







5. A Christmas Tale (2008, Arnaud Desplechin, France)

ตอนดูหนังจบใหม่ๆ ก็รู้สึกว่ามันพยายามที่ทำตัวฉลาดไปหน่อย แต่มาคิดดูอีกที เฮ้ นี่มันหนังฝรั่งเศสนี่นา จะมีประเทศไหนทำหนังแนวปัญญาชนได้ดีกว่าเมืองน้ำหอม หนังว่าด้วยครอบครัวใหญ่ที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง สิ่งที่ดีคือหนังไม่ได้เชิดชูความรักเชิงครอบครัวเท่าไร เพราะหลายตัวละครในเรื่องนี้เกลียดกัน และความเกลียดชังก็ถูกถ่ายทอดอย่างซับซ้อนมากๆ ด้วย ชอบที่หนังไม่เลือกจบอย่างเพ้อฝัน แต่จบแบบสมจริงและวิทยาศาสตร์เอามากๆ ที่สำคัญต้องขอกราบเท้าการแสดงอันน่าทึ่งของ เอมมานูเอล เดโวส์ และ มัลธิเออ อัลมาริค ไว้ด้วย โดยเฉพาะฝ่ายแรกที่ไม่ได้ทำอะไรเฮี้ยนๆ เลย แต่ดูมีของสุดๆ







4. The Mist (2007, Frank Darabont, USA)

หลายคนอาจด่าที่ แฟรงค์ ดาราบองต์ ยังหากินอยู่กับนิยายของ สตีเฟ่น คิง ไม่เลิกรา แต่บางทีเขาก็คงเป็นคนที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดกระมัง สิ่งที่โดนใจมากๆ คือ คิดว่าสัตว์ประหลาดในหนังไม่ได้น่ากลัวเท่าไรหรอก แต่สิ่งที่น่ากลัวคือเรื่องของพื้นที่ปิด สถานการณ์บีบคั้น และการกระทำของมนุษย์ หนังมันเค้นเรื่องความชั่วร้ายของมนุษย์ออกมาได้เข้มข้นจริงๆ หลายคนอาจพูดถึงฉากจบอันอื้อฉาวของมัน (ซึ่งที่จริงแล้วผมคิดว่ามันดูจงใจไปหน่อย แต่ก็ชอบมันอยู่ดีในแง่ความกล้า) แต่สิ่งที่น่าคิดคือ การที่เรารู้สึกสะใจกับสิ่งที่เกิดกับตัวละครของ มาร์เซีย เกรย์ ฮาร์เดน พอๆ กับการตัดสินใจของ นิโคล คิดแมน ในหนังเรื่อง Dogville







3. There Will Be Blood (2007, Paul Thomas Anderson, USA)

ไม่เสียแรงที่ตั้งความหวังไว้อย่างสูงส่ง ผู้กำกับสุดหล่อคนนี้ำไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ หลายคนอาจสนุกในการตีความเรื่องทุนนิยมและศาสนา แต่สำหรับผมแค่ดูพัฒนาการของตัวละครในเรื่องก็ขนลุกพอแล้ว ดูหนังเรื่องนี้เหมือนความร้อนที่ทวีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ การปะทะกันของ แดเนียล เดย์-ลูอิส และ พอล ดาโน่ ก็น่ากลัวมากๆ หนังทำสำเร็จในการปูทางไปสู่ตอนจบที่รุนแรง หลอกหลอน ชนิดผ่านไปหลายวันหน้าของลุงลูอิส 'แอม ฟินิช' ก็ยังติดตา ความเจ๋งของหนังยังอยู่ที่เพลงประกอบฝีมือ จอนนี่ กรีนวู้ด ณ Radiohead ซึ่งรายนี้ก็ไม่เสียแรง (เหมือนกัน) ที่อุตส่าห์ติดตามมาตลอด







2. Summer Hours (2008, Olivier Assayas, France)

ดูหนังของอัสซายาสมาหลายเรื่อง ยอมรับว่าเขาเป็นผู้กำกับที่น่าสนใจและทำหนังหลายแนวเก่งดี แต่ไม่ค่อยอินกับหนังของเขาเท่าไรนัก (ซึ่งเขาก็คงตั้งใจ) แต่ Summer Hours เป็นหนังที่สะเทือนใจมากๆ โดยที่ไม่ต้องมีการเร้าอารมณ์อะไรเลย หนังเป็นเหมือนด้านตรงข้ามของ A Christmas Tale ที่พูดเรื่องครอบครัวเหมือนกัน แต่ไม่ต้องใส่ความเป็นปัญญาชนมากนัก แต่ทำให้ตัวละครดูเป็นมนุษย์อย่างเราๆ หนังเศร้ามากตรงที่พูดเรื่องความล่มสลายของสถาบันครอบครัวแบบเก่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในวันนี้ แต่สิ่งที่ดีคือหนังไม่ได้พูดในเชิงฟูมฟาย แต่มองว่าเป็นเพียงการผลัดเปลี่ยนในอีกวาระหนึ่ง (อนึ่ง นี่เป็นหนังที่ ความสุขของกะทิ ควรไปศึกษาว่าทำ 'หนังคนรวย' อย่างไรไม่ให้น่าหมั่นไส้)







1. Let the Right One In (2008, Tomas Alfredson, Sweden)

เป็นหนังที่เริ่มต้นมาแค่ 30 วินาทีก็รู้เลยว่าต้องชอบ หนังใช้ประโยชน์ของบรรยากาศแถบแสกนดิเนเวียอย่างคุ้มค่า หิมะขาวโพลน ความหนาวเหน็บ ความหลอกหลอน จุดน่าสนใจอยู่ที่ส่วนผสมระหว่างหนังหลายแนวอยู่ในเรื่องเดียวกัน ทั้งหนังก้าวผ่านวัย, หนังแวมไพร์ และหนังโรแมนติก ซึ่งหนังก็ทำได้ดีทุกส่วน แล้วก็ชอบที่หนังเล่นประเด็นของความเป็นคนนอก (เด็กที่ถูกรังแก/แวมไพร์/เกย์) กับเรื่องของความคลุมเครือทางเพศไปพร้อมกัน เหนืออื่นใดนี่เป็นหนังศิลปะที่ดูและเข้าถึงได้ง่ายมาก โดยเฉพาะตอนจบที่เป็นการ "ให้คนดูเห็นในสิ่งที่อยากเห็น" ซึ่งก็ทำได้อย่างมีรสนิยมและน่าจดจำ





MER MOVIE AWARDS 2008

Film of the Year: Let the Right One In

Short Film of the Year : เกมผีปากกา (วีระศักดิ์ สุยะลา)

Scene of the Year: น้องว่านเก็บบอร์ด - ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น

Performance of the Year: Heath Ledger in The Dark Knight

Guilty Pleasure of the Year: My Blueberry Nights

Discovery of the Year: Sombre (1998, Philippe Grandrieux)

Overrated Film of the Year: The Dark Knight / Juno

Underrated Film of the Year: The X-Files: I Want To Believe



สถิติบ้าๆบอๆ

ดูหนังโรงทั้งหมด 81 เรื่อง
ดูคนเดียว 78
ดูคนเพื่อน 2
ดูกับกิ๊ก 1
ดูกับแฟน 0




 

Create Date : 19 มกราคม 2552
45 comments
Last Update : 19 มกราคม 2552 5:59:38 น.
Counter : 6599 Pageviews.

 

สิ่งที่ได้ดูและฟังช่วงนี้

1. ความสุขของกะทิ (2009, เจนไวยย์ ทองดีนอก, C+)

เดาว่าครอบครัวของกะทิคงชอบดูหนังกันมาก ไล่ตั้งแต่แม่ของกะทิคงชอบเรื่อง The End of the Affair เลยสาบานตัวแบบบ้าๆบอๆ ตาม จูลี่แอน มัวร์ หรือฉากที่กะทิวิ่งสโลว์โมชั่นร้องไห้ไปเจอม้าสีหมอก (!?) เธอก็ต้องกำลังคิดว่าตัวเองเป็น เฮเลน มีร์เรน ที่ร้องไห้แล้วเจอะกับเจ้ากวางน้อยเข้าให้ แล้วไหนจะเสื้อสีฟ้าที่เธอใส่ตลอดเรื่องที่คงได้แรงบันดาลใจมาจากสีเขียวใน Great Expectations ส่วน น้อย วงพรู ก็คงเป็นเหยื่อที่รอดมาจากเรื่อง '13 เกมสยอง' เพราะเขาแสดงเป็นคนมีอาการทางจิตได้แนบเนียนเหลือเกิน (ไม่แปลกใจเลยที่กะทิจะกลัวจนวิ่งหนี)

ตระกูลของกะทิคงชอบดูละเวทีมากๆ ด้วย ดูได้จากฉากร้องไห้ในครัวที่จัดบล็อคกิ้งหมู่ได้แนบเนียน ชนิดที่ว่าละครคณะพระจันทร์เสี้ยวยังต้องกราบ และแม้พวกเขาจะมีความทุกข์กันชิบหายขนาดไหน ก็ยังไม่ลืมที่จะแต่งตัวดีๆ ออกจากบ้านไปดู 'นางสีดาลุยไฟ'

ความสุขของกะทิยังมีคุณูปการต่อการเรียนการสอนภาพยนตร์อย่างมาก นศ.ได้ดูแล้วของใช้กล้องเก่งระดับออสการ์ เพราะทุกฉากต้องนำเข้าด้วยการ tilt ลงจากต้นไม้ ส่วนบ้านคุณตาคุณยายก็ขาย dolly เป็นอาชีพหลัก ยังไม่นับเรื่องสัญลักษณ์สีฟ้าที่ตีความกันได้เป็นวัน, การจัดองค์ประกอบฉาก (ผ้าม่านปลิวไสวนั่นไง) หรือกระทั่งศิลปะแห่งความคลุมเครือ เพราะดูจบไปสามวันแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจว่า ไมเคิล, น้อย, เชอร์รี่ เป็นใคร มีความสัมพันธ์อะไรกับกะทิ หรือกระทั่งมาแส่อะไรกับเรื่องนี้ อ้อ แล้วยังมีประเด็น surrealism อีก ทั้งรถไปรษณีย์เคลื่อนที่ ทั้งลิ้นชักอลังการอันเขื่องนั่น

กะทิยังเป็นหนัง feminism สุดๆ ด้วย ดูได้จากฉากที่ไม่ยอมแลกข้าวกับผู้ชาย, ฉากที่เธอขึ้นรถ แล้วไปขึ้นฝั่งคุณยาย จนคุณยายต้องหลีกให้เธอ แล้วไหนจะฉากที่เธอแสดงความกลัวต่อหนุ่มฝรั่งเศสอย่างชัดเจน เพราะว่าเธอรู้ว่าชาตินี้แหละที่ยึดดินแดนจากไทยไปในสมัย ร.5 จนเรื่องเขาพระวิหารยังเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ แม้ว่าศาลโลกจะมีคำตัดสินไปชาติกว่าแล้วก็เถอะ

จะขัดใจหน่อยก็แค่ฉากกะทิเจอแม่ครั้งแรก ถ้าเป็นฉัน ฉันคงเปลี่ยนให้กะทิสปินนิ่งเบิร์ดคิกใส่คุณแม่สักสามรอบ ข้อหาที่ว่ารวยจะตายห่า แต่ดันส่งลูกไปเรียนโรงเรียนบ้านนอก ยังดีว่าตอนหลังไถ่โทษด้วยคอนโดหรูใจกลางเมือง (พร้อมกับลิ้นชักที่ดูเล่นไปได้ตลอดชีวิต)

พูดถึงหนังเรื่องนู่นนี่แล้ว เกือบลืมบอกว่าไปช่วงฉากบ้านริมทะเล (เซอร์เรียล) ในหนังเนี่ย ฉันมีความคิดอย่างแรงกล้าอยู่ตลอดเวลาเลยว่า "นี่แหละคือครอบครัวที่สมควรถูกกระทำเหมือนในหนังเรื่อง Funny Games" เพราะงั้นถ้าใครจะรีเมคหนังเรื่องนี้เวอร์ชันไทยล่ะก็ บ้านหลังนี้แหละเหมาะสุดๆ

สุดท้ายหนังเรื่องนี้ยังทำเก๋ด้วยการขึ้น text ตรงกลางเรื่องด้วย (เหมือนกับที่หนังร็อตเทอร์ดามชอบทำไง) แต่แหม ไม่รู้ทำไม text ที่ฉันเห็นตลอดเรื่องมันถึงขึ้นว่า PRETENTIOUS

อ๊ะ ว่าแล้วขอไปอ่าน 'ความเลอเลิศของกะทิ' ของ คำ ผกา อีกสักรอบดีกว่า เผื่อจะเข้าใจอะไรในหนังมากขึ้น



2. Yes Man (2008, Peyton Reed, B+)

3. The Three Burials of Melquiades Estrada (2005, Tommy Lee Jones, A- )

4. Funny Games U.S. (2008, Michael Haneke, A+)

5. The Living World (2003, Eugene Green, A+++++)

6. Borat (2006, Larry Charles, A-)

7. High School Musical (2006, Kenny Ortega, A-)

8. High School Musical 2 (2007, Kenny Ortega, B+)

9. ทราม (2009, เชิดศักดิ์ ประทุมศรีสาคร, A)

10. Slowdive: Pygmalion (1995, A++++++)

 

โดย: merveillesxx 19 มกราคม 2552 5:52:55 น.  

 

นี่เธอเขียนถึงกะทิยาวกว่า หนังแห่งปี ทั้งบล๊อกอีกมั้งเนี่ย 555+

หนังที่ชาวบ้านเขาชอบแต่ฉันเฉยๆ : In Bruges
หนังที่ชาวบ้านรุมด่าแต่ฉันชอบจัง : ฝัน (มะเดี่ยว)

guilty pleasure of the year : The Midnight Meat Train

โปรดรออ่าน Nanoguy Awards (ที่ยังไม่ถึงไหนเลย ฮือๆ จะสอบแล้ว)

 

โดย: nanoguy IP: 125.24.116.127 19 มกราคม 2552 8:11:39 น.  

 

ท่าทางคงปลื้มหนูกะทิเอามั่กๆ...555

แสดงว่า...ความรู้สึกแปลกๆ กับความเซอร์ของภาพที่เห็นในตัวอย่าง มันเป็นจริงในหนังเต็ม....

ขอทำใจสักพักก่อนดู (หนังแผ่น) แล้วกาน...

สงสัยต้องกลับไปดู There will be blood ให้จบ ..เดี๋ยวหาซับก่อน...

(เอ่อ..ดู High School Musical เป็นด้วย...555)

 

โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) 19 มกราคม 2552 10:00:11 น.  

 

High School Musical (2006, Kenny Ortega, A-)

พิศวาสใครในหนังเรื่องนี้หรือเปล่าเนี่ย..

เริ่มเขียนลิสต์ของตัวเองไปแล้วเหมือนกัน.. แต่ก็หยุดกลางคัน.. ใครจะมาอยากเห็นลิสต์ของฉัน..

แต่เดี๋ยว ถ้ามีอารมณ์ อาจจะต่อให้จบ..

*ทึ่งจริงๆ กับคนที่อัพบลอกได้สม่ำเสมอ.. ทำได้ไงอ่ะ*

ปล. ผลผู้เข้าชิงเฉลิมไทยอวอร์ด ออกมาแล้วนะ.. หาดูเองแล้วกัน.. ก็.. อ่ะนะ predictable ตามสไตล์เฉลิมไทยอวอร์ด

 

โดย: จูริง 19 มกราคม 2552 10:36:12 น.  

 

ในสิบเรื่องที่น้องเมอร์ว่ามาเราได้ดูแต่ There Will be Blood เราเห็นด้วยที่ว่าแค่ดูพัฒนาการของตัวละครก็เสียวไปถึงรูตูดแล้ว ไม่น่าแปลกใจที่ฉากสุดท้ายมันจะเสื่อมกันได้ขนาดนั้น

ชีวิตเราปีนี้ก็ไดู้ดูแต่หนังแผ่นเหมือนเดิม โรงหนังแถวนี้ขนาด Australia มันยังพากย์ไทยเลย (ไม่เข้าใจจริง ๆ) ถ้าอยากดูก็ต้องถ่อไปดูที่เมเจอร์ซีนีเพลกซ์ ณ เซนทรัล แอร์พอร์ต ที่คนเยอะเวอร์น่าเบื่อ

Discovery of the Year ของเราในปีนี้พึ่งได้ดูเมื่อไม่กี่วันมานี้คือ The Phantom of the Liberty ของบุนเยล อาจารย์แดงเอามาฉายให้ดู แล้วรู้สึกว่าแม่งเจ๋งสุดยอด คิดได้ไงว่ะ

ส่วน The X-File ได้รางวัลอุปการณ์การเรียนการสอนว่าด้วยการวิจัยเชิงปริมาณและวิจัยเชิงคุณภาพแห่งปี 555

 

โดย: I will see U in the next life. 19 มกราคม 2552 12:30:50 น.  

 

"นี่แหละคือครอบครัวที่สมควรถูกกระทำเหมือนในหนังเรื่อง Funny Games" เพราะงั้นถ้าใครจะรีเมคหนังเรื่องนี้เวอร์ชันไทยล่ะก็ บ้านหลังนี้แหละเหมาะสุดๆ

อ่านถึงตรงนี้แล้วแทบจะลุกขึ้นยืนปรบมือ 555++ (โดยเฉพาะอีคุณตาที่แสนจะเข้าใจโลกนี่ต้องเอาให้หนัก)

There Will Be Blood นี่ยังดูไม่จบ ไม่สามารถผ่านช่วงแรกของเรื่องไปได้ หลับหัวทิ่มเลย(เราผิดเองที่ดันเอามาเปิดตอนเที่ยงคืน) ไว้จะพยายามใหม่

 

โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 19 มกราคม 2552 12:43:38 น.  

 

ตอบ nanoguy

จริงๆ แล้วบล็อกนี้เป็นการชื่นชม ความสุขของกะิทิ แต่เอา 10 หนังมาบังหน้าไง



ตอบ หมีบางกอก

แหม๊ ผมก็คนธรรมดาๆ ชอบแตงโม ดูเป็นต่อ ฟังบริทนี่ย์ นะครับ ทำไมจะดู High School Musical ไม่ได้ จะบอกว่าหนังภาค 3 นี่เป็นหนังรอคอยแห่งปีเชียวนะ อิอิอิ



ตอบ จูริง

ตอนแรกๆ ก็ชอบ Zac Efron อยู่ แต่ดูไปดูมามันก็ไม่ได้หล่ออะไรมาก แถมชอบทำหน้าตลกๆ แหยๆ เหมือนปวดขี้อยู่ตลอด เลยเปลี่ยนมาชอบยัย Ashley Tisdale เพราะเธอเสียสติดี ส่วนยัยดำตับเป็ด Vanessa Hudgens นี่เกลียดมากกก ไม่เข้าใจเลยเอามันมาเป็นนางเอกได้ไง ยกเว้นเหตุผลในแง่ชาติพันธุ์ (เอ๊ะ นี่ชั้น racism หรือเปล่า)



ตอบ I will see U in the next life.

เรายังไม่ได้ดู The Phantom of the Liberty เลยง่ะ



ตอบ แฟนผม

เอาเป็นกำลังใจให้ดู There Will Be Blood อย่างลุล่วงนะเคอะ

 

โดย: merveillesxx 19 มกราคม 2552 15:17:46 น.  

 

ชอบ Let the right one in เหมือนกัน ( หลังจากเข้าไปนั่งกด sub ให้หนังเรื่องนี้สองรอบ ) แต่ก็หลงรักตั้งแต่รอบแรกที่ดูแล้ว ^^

เห็นว่า hollywood จะเอาหนังเรื่องนี้มารีเมคใหม่ ..

 

โดย: Soundsyndrome (เด็กน้อยกว่า ) 19 มกราคม 2552 17:21:54 น.  

 

อันดับ 1 กับ 2 รอคิวดูอยู่ครับ
ส่วนอันดับ 4 เป็นหนัง overrated (ในเมืองไทย) แห่งปี สำหรับผม หุหุ

The X-File ผมก็ชอบนะ
แม้เนื้อหาไม่ค่อยจะ X-File เท่าไหร่ โดยเฉพาะการทำเป็นหนังใหญ่
ออกแนวดราม่าระหว่างโมลเดอร์กับสกัลลี่มากกว่า ซึ่งผมอินมาก
ชอบฉากหลังเครดิตตอนจบด้วย


กะทิยังไม่ได้ดูครับ
เรื่องนี้ทำให้ไม่อยากเข้าเฉลิมไทยไปพักใหญ่

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 19 มกราคม 2552 19:31:55 น.  

 

เราก็เจอว่ะน้องเมอร์ ที่นักศึกษาไม่เคยดู Titanic นี่ขนาดห่างกันแค่ไม่กี่ปีนะนี่ ถ้าเวลาผ่านไปอีกสักห้าปี ยังสงสัยว่ามันจะรู้จักกันเปล่า

 

โดย: I will see U in the next life. 19 มกราคม 2552 19:46:29 น.  

 

In the City of Sylvia และ Summer Hours เป็นหนังในดวงใจแห่งปีของเราเหมือนกัน
Summer Hours ทำให้เรารู้สึกเศร้าได้ทั้งเรื่อง ทั้งๆที่ไม่มีการ tearjerker ตามขนบใดๆทั้งสิ้น และเราเห็นตัวเองเป็นหนึ่งในสามพี่น้องอยู่ตลอดเวลา โคตรเศร้า

เดย์-ลูอิสใน There Will Be Blood เล่นดีโคตรนั้นไม่แปลก แต่พอล ดาโน่นี่สิ อย่างเซอร์ไพรส์ ชอบเวลาที่มันตะคอกแล้วเสียงแตกพร่าตอนท้ายประโยคเสมอๆ ได้อารมณ์ดี เราว่ามันเหมือนละครมารยาริษยาภาคผู้ชายอยู่เหมือนกัน ตอนจบโคตรสะใจ

The Mist นี่ยังหาดูอยู่ Let the Right One In นี่ถือว่าผิดพลาดมหันต์แห่งปีสำหรับเราที่ไม่ได้ดู

ดูหนังโรงน้อยนะแกปีนี้

และสำหรับกะทิ อ่านของแกแล้วมันมาก 555 ส่วนเรา ก็ตามที่ sms ไปนั่นแหละ ฉากจักรยานตูร์ เดอ ฟร้องซ์นั่นก็อีก จะประดิษฐ์สวยงามกันไปถึงไหน อีกอย่างคือ ถ้าเราเป็นแม่กะทิ คิดไม่ออกจริงๆว่าเก๊ะปี 2529 กรูจะใส่อะไรลงไป.. แต่เชื่อดิ วิบากกรรมของกะทิยังไม่หมดหรอก เพราะหน้าหนังนี่จะได้เข้าชิงสุพรรณหงส์ทองคำหลายตัวแหงๆ เหอๆๆ

 

โดย: เอกเช้า IP: 124.120.194.158 19 มกราคม 2552 20:34:09 น.  

 

อยากดู In the City of Sylvia

 

โดย: คนขับช้า 19 มกราคม 2552 23:22:34 น.  

 

ชะแว็บ มาแอบดู ลิสต์คุณพี่เมอร์

เรามีเหมือนกันตั้ง 3 เรื่องแหะ ..วิกกี้ / หมอก / ป๋าแดเนียล

แอบอึ้งๆ ที่ปีนี้มีหนังตลาดหลุดมากะเขาด้วย อิอิ

อยากดู Let the Right One In กะ Christmas Tale และ ..ใครๆก็บอกว่าแหล่ม

 

โดย: OncE UPoN'-'a MaN 20 มกราคม 2552 0:04:57 น.  

 

ผมกลับคิดว่า wall-e เป็นหนัง overrate แฮะ (แต่ก็ยังอยู่ในขั้นชอบอยู่)

 

โดย: ฟ้าดิน 20 มกราคม 2552 3:19:27 น.  

 



อยากดูหนังเรื่องนี้มากๆ!


-------------------------------

ตอบ Soundsyndrome

โอ้ว เป็นคนกดซับเรื่องนี้ซัด้วย เท่นะเนี่ย อิอิอิ

ใช่ ฮอลลีวู้ดซื้อหนังไปรีเมคแล้ว แถมผู้กำกับคือ แมฟ รีฟส์ คนทำเรื่อง Cloverfiled (อืม) ว่าแล้วอยากให้นิยายมาอ่านแฮะ



ตอบ แค่เพียงรู้สึกสุขใจ

คุณ MdS เคยบอกผมว่านักวิจารณ์ที่เมืองนอกด่า The Mist กันมาก แต่ดูเหมือนนักวิจารณ์ในไทยจะชอบเรื่องนี้กัน เห็นว่าใน Starpics เล่มกะทิ ก็มีหลายคนเลือก The Mist เป็นหนังท็อปเท็น



ตอบ เอกเช้า

ใช่ ปีนี้ดูหนังน้อยมาก ปีนี้ 81 ปีที่แล้ว 164 ลดลงเท่านึง 555 แต่ก็เอาเถอะ มันเป็นไปตามยถากรรม



ตอบ ฟ้าดิน

อันนี้ก็เห็นด้วยครับ เพราะมีเพื่อนนผมบางคนก็ไม่ชอบ หรือเฉยๆ กับ Wall E เหมือนกัน

 

โดย: merveillesxx 20 มกราคม 2552 3:21:30 น.  

 

น่าจะเปลี่ยนเป็นความสุขของกะเทย จะถูกจริตของจขบ. 5555

 

โดย: pick IP: 58.137.81.212 20 มกราคม 2552 7:00:52 น.  

 

^
^
นอกจากจะตลกๆ เจ็บๆ คันๆ กับคอมเม้นต์ของจขบ.
มาเจอคอมเม้นต์อันข้างบนนี่ ขำกลิ้งจนตื่นเลย ฮ่าๆ

 

โดย: fonkoon 20 มกราคม 2552 9:09:39 น.  

 

อืมม เป็นการจัดอับดับที่สมกับตัวตนของจขบ.ดีน่ะ... อ่านแล้วก็อยากจัดอันดับกับเขาบ้างจัง (แต่อันดับเพลงยอดเยี่ยมที่เปรยไว้เป็นชาติก็ยังไม่เสร็จซะที 555+)

เห็นมีคุยเรื่องหนังโอเวอร์เรทประจำปี... เราว่าทุกเรื่องที่อยู่ข้างบนมันก็ดีหมดน่ะ โดยส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยชอบใช้คำว่าโอเวอร์เรทเลย เราว่าการที่หนังเรื่องนั้นจะเข้าขั้นโอเวอร์เรทได้ ก็แสดงว่ามันต้องผ่านมาสักช่วงเวลาแล้ว อย่างรุ่นเราอาจจะบอกว่า "เฮ้ย สโนวไวท์ โอเวอร์เรทหว่ะ ทำไมคนดูตอนนั้นถึงชอบกัน" (อันนี้เรื่องสมมุติน่ะ 55+) สำหรับเราแล้ว คำว่า overhype น่าจะเหมาะที่สุดสำหรับหนังที่อยู่ในช่วงยุคของเรา อย่างจูโน่โดนใจวัยรุ่นหนังอินดี้ พวกเขาก็พยายามบอกเล่าเก้าสิบว่าหนังเมฆขิงๆ (ซึ่งอาจจะต้องเจอกับคนที่แอนตี้การไหลตามเทรนด์) หรือเดอะมิสที่หลายๆคนชอบเพราะการมองโลกในแง่ร้ายของมัน ก็จะชวนผู้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ (ที่อาจไม่อยากเผชิญหน้ากับฉากเช่นนั้น) เข้าไปชม นั้นแหละ เราว่ามันคือคำที่เราพูดมากกว่าคำว่าโอเวอร์เรท (นี้เรากำลังพล่ามอะไรอยู่... จบดีกว่า 55+)

ปอลอ. สถิติน่าสงสารมาก แต่ชวนกิ๊กไปดูหนังอย่าง Let the Right One In ก็กระไรอยู่น่ะ (เออ ถ้าเป็น Twilight สิถึงใช่ 55+)

 

โดย: BloodyMonday 20 มกราคม 2552 17:30:19 น.  

 

หนูขออนุญาตคัดสำเนาอันดับของท่าน Merveillesxx ไปแปะใน blog ของหนูด้วยนะคะ

 

โดย: MdS IP: 58.136.25.233 20 มกราคม 2552 21:42:58 น.  

 

วันนี้เราไปอ่านบล๊อกของไบโอมา
อยากดูเรื่องเดียวกับที่เจ้าของบล๊อกอยากดูเหมือนกัน
ว่าแต่จะเข้าที่เมืองไทยไหมอ่ะ

 

โดย: christmas IP: 58.8.117.203 20 มกราคม 2552 22:37:54 น.  

 

อันนี้ก๊อปไปลงกลแสงได้ปะเนี่ย

 

โดย: FILMSICK IP: 222.123.100.63 20 มกราคม 2552 22:54:54 น.  

 

อยากให้พี่ต่อไปฌพสต์ความเห็นหนัง
ตวามสุขของกะทิ ในพันทิปจัง
ม้าเยอะเหลือเกินน
เห็นด้วยอย่างสุดซึ้งงงง^^

 

โดย: ปัน IP: 124.120.45.209 20 มกราคม 2552 23:13:09 น.  

 

หนังดีทั้งนั้นเลยนะครับ คุณต่อ

ผับผ่าสิ ยังไม่ได้ดูสักเรื่อง ว้า!

 

โดย: lolay IP: 58.9.202.130 20 มกราคม 2552 23:22:14 น.  

 

สะใจกับการจวกหนัง Tolar อย่างกะทิมาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะเอาโปรดักชั่นมากลบทำไม

(สงสัยถ้าไม่เน้นงานภาพคนดูคงหลับกันเสียครึ่งโรง)

แต่ตกใจที่พี่เมอร์ให้ HSM ซะ

7. High School Musical (2006, Kenny Ortega, A-)

8. High School Musical 2 (2007, Kenny Ortega, B+)

เยอะจริงๆ

ภาค 3 เพิ่งไปดูมาวันนี้ ฉากไฮโซมากมายทำตัวดัดจริตมาก ไปดูเอาเองแล้วกัน

ส่วน There will be Blood หนังแมร่งเฮี้ยน จนพาลนึกไปถึงรางวัลออสการ์ปีที่แล้วว่า แม่งมีแต่คนบ้าได้รับรางวัลทั้งนั้น

 

โดย: เด็กม.ปลาย (Onlineza ) 21 มกราคม 2552 0:46:53 น.  

 

อ่อ เราลืมบอกไปว่า

เรา+ปุ้มปุ้ย น่ะ เป็น FC HSM ไงมาเป็น FC ด้วยกันเปล่า

 

โดย: เด็กม.ปลาย (Onlineza ) 21 มกราคม 2552 0:50:10 น.  

 


ตอบ BloodyMonday

พูดถึง Twilight แล้วยังสยองไม่หาย เพราะตอนเราไปดูเนี่ย เจอเด็กสก๊อย 5 คนนั่งข้างหลัง เลยสาบานกับตัวเองแล้วว่าจะเลิกดูหนังที่พารากอนโดยเด็ดขาด



ตอบ MdS

ยินดีอย่างยิ่งค่ะ



ตอบ christmas

คิดว่าเพิ่งแผ่นผีจะง่ายกว่า



ตอบ FILMSICK

ได๋ค่ะ



ตอบ ปัน

อย่าเลย พี่ยังอยากมีชีวิตยืนยาวต่อไป



ตอบ lolay

ก็ลองหามาดูนะจ๊ะเน้อ



ตอบ เด็กม.ปลาย

High School Musical ไม่ได้ชอบถึงขั้นจะเป็นแฟนคลับได้หรอกนะ แต่มันก็ดูเพลินๆ ตอแหลดี เหมาะกับชีวิตช่วงนี้ที่งานเยอะ และเจออะไรเครียดๆ หลายอย่าง

 

โดย: merveillesxx 21 มกราคม 2552 3:05:13 น.  

 

Guilty Pleasure of the Year: My Blueberry Nights

Underrated Film of the Year: The X-Files: I Want To Believe
^
^
^
แอบอยากรู้คำบรรยายของสองเรื่องข้างบนค่ะ

ทำไมรู้ว่า My Blueberry Nights มันห่างไกลจัง เหมือนเป็นหนังที่นานมาแล้วมากมาก มันเพิ่งปีที่แล้วเองเหรอเนี่ย


ขำเรื่องรับประทาน ความสุขของกะทิ ไปจ้วงใหญ่มาก อ่านไปขำไปสุดๆ (เสียดายไม่ได้ดูเอง -จะได้ช่วยจ้วงด้วย 555 - เพราะตอนนี้มาเรียนต่อแล้ว อยู่ประเทศเจ้าแม่หนังติสต์นั่นล่ะค่ะ อาร์ตตัวแม่ -- ---") เห็นจขบ.พูดถึง คำ ผกา แล้วอยากอ่านเลย เธอเขียนถึงหนังเรื่องนี้ด้วยเหรอคะ (ลงมติชนใช่ไหมอ่ะ?) คงแสบ สะเด็ด เผ็ด มัน ตามเคย

 

โดย: RUBIS 21 มกราคม 2552 7:55:26 น.  

 

ดูกะทิแล้ว นึกถึง The End of the Affair กะ the Queen เหมือนกันเลย มันเป็นหนังที่เหมือนซ่อนอะไรไว้เยอะนะ

แต่ว่ามันไม่สนุกเลยอะ... -___-"

 

โดย: ole IP: 202.28.182.12 21 มกราคม 2552 17:31:53 น.  

 

แต่ฉากม้านี่ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าต้องการสื่ออะไร ทั้งๆที่อ่านหนังสือมาแล้ว
เข้าใจครับพี่ ฮ่าๆๆๆ เพราะในนั้น"ความเห็นที่แตกต่าง คือ ศัตรู"

 

โดย: ปัน IP: 124.122.134.39 21 มกราคม 2552 22:12:00 น.  

 

ปีที่แล้วอัตราการดูหนังในโรงลดลงอย่างน่าใจหาย

ปีที่แล้ว ดูในโรงเพียง หนึ่ง เรื่องถ้วน (!!!)

คือ Wonderful Town

ปีนี้หวังว่าจะมีเวลาดูมากขึ้น

 

โดย: zoxmok IP: 123.243.95.199 22 มกราคม 2552 8:57:26 น.  

 

ตามการจัดอันดับหนัง ได้ดูแค่เรื่องเดียวคือ หนังในอันดับ 3 ซึ่งดูจบออกมาแล้วก็ปวดหัวมากมาย

 

โดย: grappa 22 มกราคม 2552 9:40:26 น.  

 

จากที่เฉยๆ มากกกกก เธอทำให้ฉันอยากดูหนังกะทิขึ้นมาทันใด 555

Vicky Christina Barcelona ดูแล้วรู้สึกว่าไอ้ตัวละครเสียสติพวกนี้มันมีเสน่ห์จับใจ คือดูแล้วอยากสวิงกิ้งกับทั้งสามคน โดยเฉพาะ Penelope จากที่เคยรัก Scarlett มากๆ ตอนนี้เพเนโลเป้นำอยู่นิดๆ 555 ฮาร์เวียร์ บาเด็มหล่ออย่างแรง ดูแล้วเชื่อว่าฮอตจริง ต้องยกความดีความชอบให้ปู่วู้ดดี้ กำกับนักแสดงให้โคตร sex appeal ผ่านจอทั้งหญิงและชาย

ป.ล.เธอสอนที่ไหน ฉันสงสารเด็ก 555 ม.รังสิตป่ะ เผื่อเจอแตงโม

 

โดย: MoOk IP: 124.120.135.136 22 มกราคม 2552 19:09:43 น.  

 

อ่าน sms แกแล้วฮาดีว่ะ 555

 

โดย: เสจัง IP: 124.121.167.150 22 มกราคม 2552 22:33:28 น.  

 

ผมอยากหางานของคุณคำ ผกา มาอ่านจังเลย

ได้ยินตั้งแต่ตอนอ่านหนังสือจบใหม่ๆแล้ว

ปล.ตอนอ่านจบแล้วผมน้ำตาซึมแหละ

ดูหนังแล้วก็ชอบนะ สงสัยเพราะอ่านมาแล้วมั้ง

 

โดย: [N]iGht pRinc[E] IP: 58.64.79.82 22 มกราคม 2552 22:50:29 น.  

 

อ๊ากก!!! อยากดู Let the Right One In

ผมกำลังตัดต่อช่วงที่คุณเล่า Lilly Chou-Chou กำลังตัดสินใจว่าจะใส่หนังลงไปจริงๆดีรึเปล่า กลัวปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์

 

โดย: ต้องบอกด้วยเหรอ 23 มกราคม 2552 0:18:02 น.  

 

วันนี้ไปดู สามก๊ก 2 มา

จอห์น วู นอกจากกำกับฉากแอคชั่นสนุกแล้ว

พี่แกยังถนัดทำหนัง "โฮโมอิโรติก" อีกแหละ !

 

โดย: เด็กม.ปลาย (Onlineza ) 23 มกราคม 2552 3:58:33 น.  

 

ตอบ RUBIS

ก็ง่ายๆ ครับ My Blueberry Nights เป้นหนังซ้ำซาก และเสร่อมาก แต่ผมก็ชอบมันมากๆ มันให้ความรู้สึกที่อิ่มเอมใจกับผมดี โดยเฉพาะฉากจบ แต่พอกลับบ้านผมก็เศร้าครับ เพราะคิดว่าชีวิตเรามันคงไม่เป็นแบบนั้น หนังมันเปิดตัวที่คานส์เมื่อ พ.ค. 2007 ครับ แต่มาเข้าไทยตอนต้นๆ ปี 2008

ส่วน The X-Files รู้สึกว่ามันแย่มากๆ ในด้านเป็นหนังไซไฟ แต่หนังมันเน้นเรื่อง spiritual มากกว่า

คำ ผกา เขียนถึง กะทิ ในวารสาร 'อ่าน' ครับ



ตอบ ปัน

ฉากม้าสื่อว่า ที่นั่นคือ หัวหินครับ



ตอบ MoOk

แตงโมเข้าย้ายจาก ม.รังสิต ไปที่อื่นแล้ว ส่วนฉันน่ะส่วนมหาลัยย่านประชาชื่น ซึ่งเป็นมหาลัยที่แตงโมย้ายไปนั่นแหละ แต่ไม่เคยเจอเลย แต่ (อีกที) นศ. บอกมาว่าเคยเจอแตงโมที่ตึกที่ฉันสอนนั่นแหละ รู้แล้วก็อยากกรี๊ด



ตอบ ต้องบอกด้วยเหรอ

มันมีปัญหาลิขสิทธิ์ยังไงหว่า งง

 

โดย: merveillesxx 23 มกราคม 2552 4:38:12 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
เล่นนานๆออกทีเลยลืม 'อ่าน' ไปเลย (เห็นฟ้อนต์หน้าปกครั้งแรกดันอ่านเป็น 'งาน') เคยซื้อฉบับปฐมฤกษ์มาแล้วอ่านไปไม่ถึงไหน อัตราความเร็วช้ากว่าอ่านหนังสือเรียนหรือฟ้าเดียวกันอีก (น่ากลัวมาก) แถมเล่มแรกคุณ คำ ผกา เขียนเรื่องนักเขียนอินโดฯ โอ้ว อ่านไปได้หน้านึงแทบหลับ

แต่กลับไทยไป จะไปลองหามาอ่านต่อค่ะ
อย่างไรเสีย นิตยสารในค่ายนี้ก็น่าสนใจและไม่อยากปล่อยให้เจ๊ง 5555 (กลัวจะเจ๊งจริงๆนะเนี่ย..)

 

โดย: RUBIS 23 มกราคม 2552 5:11:05 น.  

 

Let the Right One In ชนะเลิศ

 

โดย: เจ้าชายไร้เงา 23 มกราคม 2552 10:04:24 น.  

 

อ่านแล้วอยากหามาดูให้ครบ

แต่ท็อปเท็นน้องเมอร์ พี่ดูเรื่องเดียวและชอบ คือ วอลล์อี

ไม่ได้คุยกันนานเลยนะนี่

ปีนี้ฝรั่งเศสมาแรงเนาะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 23 มกราคม 2552 17:11:18 น.  

 

+ จะขอสารภาพว่า จริงๆ พี่แอบย่องมาอ่านหน้านี้ของน้องต่อไว้ตั้งแต่วันอังคาร วันพุธโน่นแล้วแหละ (ดีนะที่ยังไม่เปลี่ยนหน้า) แต่พอดีอ่านจบแล้วมันมีหลากหลายความรู้สึก ที่ต้องใช้เวลาและอารมณ์ในการกลั่นออกมาให้เป็นตัวอักษรที่อยากจะคีย์ ก็เลยหน่วงมาจนถึงวันนี้อ่ะขอรับ

+ ขำ กะทิ (พี่ยังไม่ได้ดูนะ) ปกติพี่จะพยายามไม่อ่านสปอยล์ก่อน แต่รอบนี้น้องต่อจ้วงเอง เลยอดอ่านไม่ได้ (ยังคิดว่าอาจไปพิสูจน์อยู่ ถ้าดูทัน)

+ ใน 10 เรื่องของน้องต่อ พี่ได้ดูตั้ง 8 เรื่องแฮะ หลายเรื่องก็เป็นหนังดีจริงๆ แหละ แต่พี่ไม่คลิกกับมันเท่าที่ควรเอง แต่มี Wall-E, Sylvia, Blood และ Let the right one in อยู่ใน 10 อันดับของพี่เช่นกัน แต่สลับลำดับกันกับของน้องต่อ (แต่ก็ไม่นึกนะเนี่ยว่า Let จะขึ้นถึงอันดับ 1 เพราะจากตอนที่คุยกันหน้าโรง ช่วงได้ดูใหม่ๆ นั้น ... ก็นึกว่าแค่ติดใน 10 อันดับเฉยๆ แสดงว่าหนังมันโดนจริงๆ แหละครับ ของพี่ก็อยู่อันดับ 2)

+ 55 และตามมาขำข้างล่างกับเม้นต์เรื่อง High School Musical ... ว่าแต่จะตามไปดูภาค 3 ในโรงป่าวครับเนี่ย? เอิ๊กๆ

 

โดย: บลูยอชท์ 23 มกราคม 2552 17:49:11 น.  

 

หอย ลาออกแล้วเอาอะไรรับประทานล่ะคะคุณน้องขา

ปล.ได้แมสเสจหรือเปล่า? แกอัพไว้ตรงไหนวะ

 

โดย: meichan IP: 124.121.117.233 24 มกราคม 2552 7:59:29 น.  

 

ตอบ RUBIS

เราไม่ได้ซื้อ อ่าน น่ะ เพราะมันคงกลายเป็นนิตยสาร ไม่อ่าน ไปในที่สุด 555 ขนาดฟ้าเดียวกัน ยังอ่านไม่ค่อยทันเลย



ตอบ สาวไกด์ใจซื่อ

ไม่รู้ทำไม ปีนี้หนัง Fr เยอะจัง



ตอบ บลูยอชท์

HSM 3 ดูแล้ว ก็เพลินๆ ดี แต่ตอนจบพาฝัน น่าเบื่อมาก



ตอบ meichan

เรื่องนั้นไม่ได้อัพลงบล็อกนะ

 

โดย: merveillesxx 25 มกราคม 2552 0:22:30 น.  

 

ฮ่าๆๆๆ ท่าทางจะชอบกะทิเข้าอย่างจังเลยนะเธอ
เราไม่รู้ว่าเรื่องเป็นยังไง แต่ถ้าเหมือนกับที่เธอปลื้มจนต้องชื่นชมถึงแบบนี้แล้วล่ะก็ สิ่งที่ดีที่สุดของหนังคงจะเป็นทีเซอร์ของหนังซะล่ะมั้ง

เป็นไงมั่ง สบายดีป่ะ

ส่วนเรากำลังสงสัยอยู่ว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งมันกวนตีนเหมือนกันหมดทุกที่รึเปล่า

 

โดย: May Apri Story IP: 115.67.179.204 25 มกราคม 2552 1:11:58 น.  

 

ชอบ vicky กับ let the right one in มาก จ้า

 

โดย: DropAtearInMyWineGlass 28 มกราคม 2552 2:10:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.