|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
วัดโคกหลวง

ตำนานเก่าแก่ที่พวกผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง ทำให้เด็กๆอย่างเราติดใจใคร่รู้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล่าถึงวัดร้างแห่งหนึ่ง คงไม่พ้นเรื่องผีสางนางไม้ ในความรู้สึกของเด็กๆ คำว่าวัดร้างยิ่งทำให้รู้สึกถึงความลึกลับ ชวนให้ติดตาม อยากไปผจญภัย รบเร้าผู้ใหญ่แต่ไม่เคยได้ไป เมื่อวันเวลาผ่านไปชื่อวัดร้างแห่งนั้น ชักจะเลือนๆไปจากความทรงจำ
กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปหลายปี ผมได้ยินชื่อวัดร้างแห่งนั้นอีกครั้ง แต่ไม่ได้ร้างอย่างสมัยก่อน ในชื่อ "วัดโคกหลวง" ที่จริงชื่อวัดก็มีมาแต่เก่าก่อนเคียงคู่กับท้องถิ่นนี้มาสองร้อยกว่าปีแล้ว นับเป็นวัดเก่าแก่ ความเป็นมาไม่ชัดเจนนัก มีพระภิกษุจำพรรษาบ้าง ไม่มีบ้าง ในช่วงที่เป็นวัดร้างพระพุทธรูปต่างๆถูกเคลื่อนย้ายไปในวัดอื่นๆ มีการขุดเจาะหาของเก่ากันอยู่ทั่วไป

แม้ว่าวัดนี้ดูจะมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง แต่สิ่งสำคัญต่างๆได้ปรับปรุงใหม่ รื้อหลังคาเก่า มุงหลังคาใหม่ตามรสนิยมของผู้ที่เข้าไปจัดการ ของเก่าถูกทดแทนด้วยของใหม่ตามความรู้สึกที่เห็นดีเห็นงามของคนสมัยนี้ ความขลังความเก่าที่อยู่ในใจของผมคงไม่มีโอกาสได้เห็น ถึงกระนั้นก็ตาม การคืนชีวิตให้วัดแห่งนี้ อย่างน้อยก็ทำให้หัวขโมยนักขุดเจาะลามือไป

อุโบสถเก่าแบบสมัยอยุธยา กว้าง ๙ เมตร ยาว ๒๐ เมตร สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา มีลักษณะเป็น โบสถ์มหาอุด มีประตูเข้าโบสถ์ด้านหน้าด้านเดียว ไม่มีหน้าต่าง มีแต่ช่องลมเป็นหน้าต่าง ผนังก่ออิฐถือปูน อิฐ ขนาด ๑๕ x ๓๐ เซนติเมตร ฉาบด้วยปูนตำหมัก มีเสาเป็นเสาไม้เจริญสุข หลังคาเครื่องบนเป็นไม้สัก ผนังโบสถ์มีการฉาบทับกันหลายครั้ง ปัจจุบันบูรณะไปแล้ว ๘๐ เปอร์เซ็นต์

กำแพงแก้วเก่า รอบอุโบสถ ก่ออิฐถือปูน อิฐขนาด ๑๕ x ๓๐ เซ็นติเมตร ฉาบด้วยปูนตำหมักขนาดกำแพงกว้าง ๒๒.๕๐ เมตร ยาว ๔๔ เมตร หนา ๖๕ เซ็นติเมตร สภาพสมบูรณ์ราว ๗๕% ปัจจุบันยังไม่ได้บูรณะ

ระฆังเก่า มีตัวอักษรข้างระฆังเขียนไว้ว่า ระคังลูกนี้เจาคูนวัดช้างพลับ ซ้างไวยลงรับพระ
แล้วแตณวัน ๖ - ๙ ค่ำ ปีชวดโทกา
จุลกัศกราช ๑๒๐๒ ธเจาคูนพระปะลัดสีนเปนนา
..ลือพระภิขุตือๆเปนอะวะสารซือใหสร
..แดพระโพธิยาณในอนาคต เมื่อจุลกัศกราช ๑๒๐๒ เทียบเป็นพุทธศักราชคือ พ.ศ.๒๓๘๓
ของสำคัญที่ถูกเคลื่อนย้ายไป ในช่วงที่เป็นวัดร้างราว ๕๐-๖๐ ปี ได้แก่
- รอยพระพุทธบาทเนื้อสำริด กว้าง ๘๐ เซนติเมตร ยาว ๑๖๐ เซนติเมตร ปัจจุบันอยู่วัดสีดาราม - พระประธานในโบสถ์เนื้อทรายแดง หน้าตักประมาณ ๖๐ นิ้ว อัญเชิญไปอยู่ในโบสถ์วัดอมรญาติสมาคม เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๕๐๔
- พระบูชาเก่าๆหลายองค์ อัญเชิญไปไว้ตามวัดต่างๆ

ประวัติวัดโคกหลวง (อ้างอิงจากหนังสือที่ระลึกวัดหลักหกฯ พ.ศ. ๒๕๓๖)
วัดโคกหลวง เป็นวัดร้างในเขตตำบลแพงพวย อ.ดำเนินสะดวก จ. ราชบุรี สันนิษฐานว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๕๐ ปี อุโบสถหลังเก่ายังอยู่ ได้รับการบูรณะ มุงหลังคาใหม่ แต่เดิมมีบริเวณวัดกว้างขวาง ถือเป็นวัดใหญ่ที่มีความสำคัญของชุมชนในที่ราบลุ่มและมีต้นแพงพวยขึ้นอยู่ทั่วไป
วัดโคกหลวงเป็นวัดแห่งแรกในดำเนินฯ สร้างบนโคกที่เป็นเนินสูง มองเห็นได้แต่ไกล อุโบสถก่ออิฐถือปูนหลังใหญ่มาก น่าจะเจริญอย่างที่สุดใน พ.ศ. ๒๔๕๖ แล้วทรุดโทรมมาโดยลำดับ
พ.ศ. ๒๔๘๔ วัดนี้ทรุดโทรมมาก มีพระภิกษุจำพรรษาไม่กี่รูป ลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนไม่มีพระอยูเลย กลายเป็นวัดร้างไปในที่สุด เจ้าคณะอำเภอดำเนินสะดวกในสมัยนั้น ได้โอนวัดโคกหลวง (ร้าง) ให้มาอยู่ในการปกครองของเจ้าอาวาสวัดสีดาราม ซึ่งห่างออกไป ๒ ก.ม.
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ โบสถ์ชำรุดทรุดโทรมมาก หลังคามุงกระเบื้องในส่วนตอนหน้าของโบสถ์ มีกระเบื้องหลุดลงมาจนมองเห็นดวงดาว ถ้าฝนตก จะกำบังฝนที่สาดลงมาได้เพียงครึ่งเดียว เครื่องบนเป็นไม้สักล้วนๆ มีพระภิกษุอยู่ ๓ รูป สามเณร ๒ รูป ในระยะนั้นมีพระภิกษุหมุนเวียนเข้ามาจำพรรษา ออกพรรษาแล้วมีพระบ้าง ไม่มีบ้าง
หน้าโบสถ์มีศาลาเล็กๆ คล้ายวิหาร ๑ หลัง ก่ออิฐถือปูน ขนาดอาคารกว้าง ๔ เมตร ยาว ๘ เมตร มีประตูทางเข้าออก ๓ ประตู คือ ด้านหน้า ๑ ด้านข้างขวา ๑ ด้านข้างซ้าย ๑ ผนังวิหารด้านในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งสี่ด้าน อายุนับร้อยปี เดิมเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทสำริด
ด้านขาวมือของโบสถ์มีศาลาคล้ายศาลาการเปรียญ ๑ หลัง มีมีต้นลั่นทมขนาดใหญ่มากเกือบ ๑๐ ต้น บริเวณวัดกว้างมาก รกไปด้วยหญ้า ตอนนนั้น (๒๕๒๗)ในพระอุโบสถไม่มีพระพุทธรูปอยู่เลย คงมีพระปูนเล็กๆสำหรับแก้บนวางเรียงอยู่ ๓ - ๔ องค์
เมื่อวันที่ ๓๐ ก.ย. ๓๕ กรมศิลปากร ได้เข้ามาสำรวจและลงความเห็นว่ารูปแบบศิลปสถาปัตยกรรมของวัดโคกหลวง อยู่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ปัจจุบันถือเป็นโบราณสถานที่อยู่ในความดูแลของกรมศิลปกร

ในปีเดียวกันนั้น (๒๕๓๐) ผู้มีศรัทธารายหนึ่งได้สร้างพระปางไสยาสน์แทนที่พระประธานในอุโบสถ (ที่ถูกย้ายไปวัดอมรญาติสมาคม) เข้าใจว่าพระปางไสยาสน์นี้ต่อมาได้ถูกย้ายออกจากพระอุโบสถ เมื่อมีพระประธานองค์ใหม่แล้ว
พ.ศ. ๒๕๓๓ วัดโคกหลวงได้พัฒนาให้กลับมีชีวิตอีกครั้งโดยพระสงฆ์และได้รับการสนับสนุนจากฆราวาสจำนวนมาก
พ.ศ. ๒๕๔๖ มีมติจากมหาเถระสมาคมยกวัดโคกหลวง (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ที่ดินของวัดมีจำนวน ๑๘ ไร่ ๑ งาน ๓๙ ตารางวา ตามคำขอของจังหวัดราชบุรี
ปัจจุบันวัดโคกหลวงยังคงทิ้งร่อยรอยของวัดใหญ่ในอดีตที่เคยรุ่งเรืองในอาณาบริเวณวัดนับร้อยไร่ เป็นศูนย์รวมของชาวพุทธตั้งแต่ปลายสมัยอยุธยา ก่อนที่จะมีการสร้างวัดใหม่ๆตามมาในที่ห่างออกไปไม่เกิน ๒ - ๔ กิโลเมตร ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมวัดนี้จึงลดความสำคัญลงไปจนกลายเป็นวัดร้าง ถึงแม้จะไม่มีเรื่องราวความเป็นมาให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึง แต่สถานที่นี้ได้ให้ข้อคิดเตือนใจว่า สรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ตามธรรมดาของโลก
ภาพประกอบจาก //khokluang.homepage.in.th/index.html
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2555 5:45:49 น. |
|
25 comments
|
Counter : 8084 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:18:57 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:33:47 น. |
|
|
|
โดย: kimmy (kimmybangkok ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:52:33 น. |
|
|
|
โดย: เรือนเรไร วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:00:47 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:46:03 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:0:06:25 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:23:15 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:39:41 น. |
|
|
|
โดย: popang (popang ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:04:10 น. |
|
|
|
โดย: kimmy (kimmybangkok ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:01:12 น. |
|
|
|
โดย: namfaseefoon วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:05:35 น. |
|
|
|
โดย: วันสดใส วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:26:44 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:21:35 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:46:16 น. |
|
|
|
โดย: คนแพงพวย IP: 125.25.121.65 วันที่: 18 มีนาคม 2555 เวลา:0:16:09 น. |
|
|
|
โดย: ณลงกรณ์ เทพโปรแกรม IP: 182.93.185.94 วันที่: 7 ตุลาคม 2555 เวลา:11:55:56 น. |
|
|
|
โดย: Iam wayfarer IP: 125.27.183.137 วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:20:51:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]

|
ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
|
|
|
|
|
|
|
|
เกิดขึ้น
ตั้งอยู่
ดับไป
แต่สิ่งที่อยู่เหนือนั้นคือ หลักธรรมของพระพุทธองค์ครับ
สวัสดีกลางวันอากาศดีครับพี่