 บรรยากาศยามค่ำคืน "แยกราชประสงค์"  ร้านค้าบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  ผู้คนคึกคัก ที่ ศาลพระพรหม  ศาลพระพิฆเนศวร  บรรยากาศภายใน วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร  หลวงพ่อพระเสริม
"ราชประสงค์" ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านกลางเมือง เป็นศูนย์กลางการค้าและการชอปปิ้งของกรุงเทพฯ บริเวณสี่แยกราชประสงค์หรือที่หลายคนเรียกว่า "แยกพระพรหม" เป็นจุดตัดของถนนเพลินจิตและถนนราชดำริของเขตปทุมวัน รายล้อมไปด้วยหมู่อาคารขนาดใหญ่ รถราสัญจรขวักไขว่ มีผู้คนพลุกพล่านทั้งไทยและชาวต่างชาติที่มาเดินเที่ยวและซื้อของในศูนย์การค้ามากมายหลายแห่งในบริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัลเวิลด์ เกษร พลาซ่า อัมรินทร์พลาซ่า บิ๊กซีสาขาราชดำริ (ยังไม่นับรวมสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามสแควร์ซึ่งอยู่ใกล้เคียง) จึงทำให้ย่านแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายของคนทุกเพศทุกวัย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้ย่านราชประสงค์แห่งนี้คึกคักไปด้วยผู้คนทั้งในวันธรรมดา วันหยุด
อีกทั้งลานบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมใหญ่ๆ ไม่ว่าจะในช่วงปีใหม่ สงกรานต์ หรืองานเทศกาลต่างๆ ทำให้บริเวณนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ก็ว่าได้ และกิจกรรมเหล่านั้นก็ยิ่งสร้างสีสันให้กับย่านราชประสงค์แห่งนี้อยู่ไม่น้อย
แต่อีกหนึ่งชื่อเสียงของย่านราชประสงค์นอกจากการเป็นแหล่งชอปปิ้งแล้ว บริเวณนี้ยังเรียกว่า สี่แยกเทพเจ้า อีกด้วย เพราะบริเวณพื้นที่ย่านราชประสงค์แห่งนี้เป็นที่ตั้งของศาลเทพเจ้าในศาสนาฮินดูมากถึง 8 ศาลด้วยกัน โดยแต่ละศาลนั้นก็มีผู้มากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก ไม่เฉพาะคนไทยแต่รวมถึงชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน และในการมาสักการะขอพรนั้น แต่ละศาลก็จะมีการขอพรที่แตกต่างกันออกไป ศาลเทพเจ้าฮินดูทั้ง 8 แห่งดังกล่าวได้แก่ ศาลท้าวมหาพรหม ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล ศาลตั้งอยู่บริเวณสี่แยก ใกล้กับโรงแรมเอราวัณ ตามความเชื่อทางศาสนาฮินดูว่าพระพรหมเป็นผู้สร้าง เป็นหนึ่งใน 3 เทพสูงสุด ทรงเปี่ยมไปด้วยเมตตา หากผู้ใดต้องการมากราบไหว้และมีจิตใจศรัทธาก็จะพบแต่ความสมหวัง
บริเวณห้างเซ็นทรัลเวิลด์และอิเซตัน เป็นที่ตั้งของ ศาลพระตรีมูรติ และ ศาลพระพิฆเนศวร พระพิฆเนศวรเป็นมหาเทพที่ผู้คนนับถือในฐานะเทพแห่งศิลปวิทยาการ ขจัดอุปสรรคและอำนวยความสำเร็จในทุกสิ่ง อีกพระองค์ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งสากลที่มีผู้เคารพนับถือมากที่สุดองค์หนึ่งในทั่วโลก ส่วน พระตรีมูรติ หรือ เทพทัตตาเตรยะ เป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์ เป็นการรวมกันของมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ถึง 3 พระองค์เข้าด้วยกัน ซึ่งก็คือ พระพรหม พระวิษณุ และ พระศิวะ บูชาย่อมบังเกิดความเป็นสิริมงคล และความสมบูรณ์พูนสุขในชีวิต มักมีผู้คนมาขอพรท่านเรื่องความรักเสมอๆ
นอกจากนั้นก็ยังมี "ศาลพระนารายณ์ทรงครุฑ" อยู่บริเวณหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล "ศาลพระลักษมี" อยู่บริเวณดาดฟ้าชั้นสี่ห้างเกสรพลาซ่า "ศาลท้าวอัมรินทราธิราชเจ้า" หรือพระอินทร์ อยู่บริเวณศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า "ศาลพระแม่อุมาเทวี" อยู่บริเวณด้านหน้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ และ "ศาลพระนารายณ์ประทับยืนบนพญาอนันตนาคราช" ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ไม่เพียงเทพเจ้าเท่านั้น ในย่านราชประสงค์ยังเป็นที่ตั้งของวัดสำคัญอย่าง วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร วัดงามกลางใจเมืองซึ่งตั้งอยู่ริมถนนพระรามที่ 1 ระหว่างศูนย์การค้าสยามพารากอนและห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นอีกหนึ่งจุดสงบกลางใจเมืองและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของย่านแห่งนี้ ภายในวัดนั้นเป็นตั้งของพระเจดีย์ที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิ พระราชสรีรางคาร และพระอัฐิของพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ในราชสกุลมหิดลหลายพระองค์ พระอุโบสถภายในวัดประดิษฐาน หลวงพ่อพระเสริม พระพุทธรูปทองคำอันงดงามที่ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับหลวงพ่อพระใส (ประดิษฐานที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย) อีกทั้งภายในพระอุโบสถยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามให้ผู้ที่มาเยือนได้ชม
นอกจากจะมาชอปปิ้งแล้ว หากใครมาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในย่านราชประสงค์ได้ครบก็นับเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง หรือเพียงได้เดินเล่นชมผู้คนและความเป็นไปในย่านนี้เพลินๆ ก็ถือว่าไม่เสียเที่ยวที่ได้มา เพราะนี่คือมนต์เสน่ห์ของย่านราชประสงค์ ที่แม้ครั้งหนึ่งที่นี่จะเคยถูกเผาทำลายจากฝีมือของคนเลวๆ จำนวนหนึ่ง แต่หลังจากฟื้นฟู วันนี้ย่านราชประสงค์ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับใครที่อยากลิ้มลองอาหารอร่อยในย่านราชประสงค์ที่ไม่ใช่ร้านรวงแพงๆ ในห้าง ไม่ใช่อาหารไฮโซแต่เป็นอาหารข้างทางที่ไม่ต้องเสียสตางค์มากมายนัก ก็สามารถคลิกอ่านตามลิงก์นี้ได้เลย
การเดินทางมายังราชประสงค์ สามารถมาโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลมหรือสถานีสยาม เรือโดยสารคลองแสนแสบ ลงท่าสะพานเฉลิมโลก หรือเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง สาย 2, 15, 16, 25, 40, 45, 48, 54, 73, 79, 204, 79, 29, 501, 508
ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [
