มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
12 มิถุนายน 2556

แบรนด์ใจใส ชูจุดเด่น”น้ำมันมะรุม-น้ำมันมะพร้าว”












ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นสำหรับผู้ประกอบการบางรายแล้ว ธุรกิจแรกอาจจะไม่ใช่คำตอบไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่เป็นบันไดไปสู่ธุรกิจที่ใช่ในเวลาต่อมา ซึ่งกว่าจะมีวันนี้ได้คนกลุ่มดังกล่าวต้องล้มลุกคลุกคลาน ผ่านประสบการณ์อันเจ็บปวดมาแล้วนักต่อนัก อย่างไรก็ตามบทเรียนชีวิตเหล่านั้นก็ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งและมั่นคงขึ้น



“คุณธัญญ์นภัส ภัทรฐานนท์ชัย” ก็อยู่ในข่ายนี้ เธอเคยอยู่ในธุรกิจร้านอาหาร เคยขายเสื้อผ้ามาก่อน แต่ประสบปัญหามากมาย จนกระทั่งต้องล้มเลิกกิจการ และหันเหมาสู่ธุรกิจความงามที่เน้นใช้วัตถุดิบจากสมุนไพรเป็นหลัก ปัจจุบันเธอมีผลิตภัณฑ์หลากหลายทั้งที่ทำจากน้ำมันมะรุม และน้ำมันมะพร้าว และสมุนไพรไทยนานาชนิดที่มีสรรพคุณในการดูแลผิวพรรณฯลฯ โดยใช้ชื่อแบรนด์”ใจใส” (Jaisai)


0000ธุรกิจอาหาร-เสื้อผ้าไปไม่รอด


คุณธัญญ์นภัสเล่าว่า หลังจากเรียนจบจากคณะสารสนเทศคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เคยทำงานที่เซ็นทรัลเวิล์ด แต่อยู่ได้แค่หกเดือนก็รู้ว่าไม่ใช้ทิศทางของตัวเอง จึงหันมาทำร้านอาหารตามสั่งที่ยูเนี่ยนมอลล์ แต่สู้ค่าเช่าเดือนละ 6 หมื่นกว่าบาทไม่ไหว เลยมาขายเสื้อผ้าเมื่อ3 ปีก่อน ช่วง 6 เดือนแรกใช้วิธีบินไปซื้อเสื้อผ้าที่เมืองกวางโจว ประเทศจีนแล้วนำมาที่ขายประตูน้ำ โดยเน้นขายส่งมากกว่า และยังเปิดขายที่สวนจตุจักรด้วย แต่ก็เจอปัญหาผู้ขายกดราคาขายแข่งกัน จึงตัดสนใจลงทุนตัดเย็บเองดีกว่าเพราะมองว่าน่าจะทำเงินได้ง่ายกว่า


เธอใช้ชื่อแบรนด์”ระริกระรี้” เป็นงานผ้าชีฟอง แนวเสื้อผ้าแฟชั่น ทั้งผลิตเองและขายเอง โดยขายส่งในราคาตัวละ 140-200 บาท ลูกค้าต่างจังหวัดนำไปขายในราคาตัวละ 350-450 บาท



“ด้วยภาวะเศรษฐกิจ แล้วเจอค่าแป๊ะเจี๊ยะค่าเช่าค่าเซ้งแผงที่ประตูน้ำแพงขึ้น จากเดิม 35,000 บาทต่อเดือน เป็น 55,000 บาท โดยขายแค่รอบตลาดเช้า ตั้งแต่ตี 5 จนถึง 9 โมงเช้า ไม่กี่ชั่วโมง จะมีแม่ค้าจากต่างจังหวัดนั่งรถตู้แล้วก็มารับของไปขาย ซึ่งชั่วโมงการขายนั้นสั้นมาก ขณะที่เสื้อผ้ามันล้นตลาด เขาขายกันถูก เลยต้องหยุดขายที่ประตูน้ำไปเมื่อปี2554 เพราะสายป่านเรายังไม่ยาวพอ ไม่สามารถที่จะสู้ค่าเช่า สู้ค่าแรงได้ เลยไม่ทำต่อ สุดท้ายก็เจ๊งหมดเป็นหลักล้าน”



000สารพันปัญหารุมเร้าจนโรคถาโถม



ในปีนั้นเธอต้องเจอกับปัญหาสารพันรุมเร้าทั้งความเครียดจากธุรกิจของตัวเอง เศรษฐกิจของประเทศที่ย่ำแย่ และปัญหาน้ำท่วม เลยส่งผลถึงสุขภาพหลายโรครุมเร้า แม้จะอยู่ในวัย 30 ต้นๆก็ตาม



“โรคทุกโรคมันเข้ามา เริ่มเป็นกรดไหลย้อน คือ กินแต่ยา ตอนนั้นไปหาหมอบอกว่าถ้ารักษาไม่หาย มีสิทธิ์เป็นมะเร็ง และก็มาเป็นสะเก็ดเงิน ทุกคนพูดตรงกันว่าโรคนี้รักษาไม่หาย แล้วต้องใช้ยาพวกสเตอรอยด์ ซึ่งถ้าใช้มากๆจะมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง จึงตัดสินใจหันมาออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะ วิ่งและว่ายน้ำ พร้อมกับหันมาดูแลเรื่องสุขภาพ ทานผักผลไม้ และใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่คุณแม่เป็นคนทำเอง ทั้งทาผิวและอม รวมทั้งใช้น้ำมันมะรุมแต้มตุ่มที่ขึ้น ทำให้ยุบลง นอกจากนั้นแล้วก็ใช้หลักธรรมะของพระพุทธเจ้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน“



ด้วยการปฏิบัติธรรมและใช้สมุนไพรไทยต่างๆ ส่งผลให้หน้าตาผิวพรรณดูดีขึ้น ใสขึ้น ใครเห็นใครก็ทัก และเมื่อพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าทั้งน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันมะรุมมีสรรพคุณดีจริง จึงเริ่มคิดทำเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายในปี 2555 ในชื่อแบรนด์”ใจใส” โดยใช้วิธีจ้างผลิตแล้วเน้นสร้างแบรนด์ของตัวเอง



000เน้นขายตามตลาดนัดเที่ยงวัน



ทั้งนี้เธอจะไม่เน้นการเปิดร้านเพราะมองว่าต้องใช้เงินลงทุนหลักแสน จึงใช้วิธีขายตรงตามตลาดนัดต่างๆ อย่างเช่นที่ตลาดรวยทรัพย์ติดกับ มศว.ประสานมิตร อีกวันก็อาจจะขยับไปที่ท่าอากาศยาน ไปที่สีลม ไปที่ เอสซีจี เรียกว่าตระเวนไปขายตามตลาดนัดเที่ยงวันตามออฟฟิซ อย่างวันที่คุยกันนั้น เขายอยู่ในตลาดเที่ยงที่ช่อง 3 ย่านคลองเตย ซึ่งมีลูกค้าผู้หญิงหลายรายสนใจเข้ามาสอบถาม และเมื่อเธอแนะนำว่าใบหน้ามีฝ้าแบบนี้ควรให้น้ำมันมะรุม100 % เพื่อช่วยให้ฝ้าจางลง ลูกค้าก็มักจะซื้อไปทดลองใช้



Ooooน้ำมันมะรุมสรรพคุณเพียบ



สำหรับน้ำมันมะรุม100 %นี้ ข้างกล่องเขียนบรรยายไว้ว่า สกัดด้วยวิธีบีบเย็นจากเมล็ดพันธุ์ออแกนิค เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ อุดมไปด้วยวิตามินและมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวชุ่มชื่นเรียบ เต่งตึงกระชับไม่เหี่ยวย่น คืนสมดุลสู่ผิวอีกครั้ง มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อ ลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบตัวและสมานแผลเป็นให้หาย และลบเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระได้อย่างเห็นผล เนื้อน้ำมันใช้ง่าย ซึมซับไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ



คุณธัญญ์นภัสเล่าว่า ผลิตภัณฑ์แบรนด์ใจใสที่ขายดีก็มีน้ำมันมะรุม และมะขามขัดผิวแบบสูตรโบราณ สามารถใช้แทนสบู่ และใช้ได้ทุกเวลาไม่ต้องใช้สบู่ล้างตามอีกรอบ ทั้งยังสามารถใช้ขัดตัวได้อีกด้วย และตัวจะไม่เหลือง



สำหรับน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นนั้น คุณธัญญ์นภัสยืนยันว่า บริสุทธิ์จริงๆเพราะคุณแม่ที่อยู่เกาะช้าง จ.ตราด เป็นคนทำเอง และเป็นออแกนิกส์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ขนาด 200 ml. ขายอยู่ที่ 280 บาท และ 100 ml. -ขายอยู่ที่ 150 บาท
ในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจผลิตภัณฑ์ใจใส มักจะเน้นไปที่วัตถุดิบอย่างมะรุม ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้กระแสมะรุมมาแรง ไม่ว่าจะเป็นมะรุมอัดเม็ดที่ใช้รับประทานหรือน้ำมันมะรุม โดยมะรุมในประเทศไทยมีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด จึงต้องสั่งนำเข้าจากประเทศอินเดีย



“จะมีเจลมะรุม ซึ่งจะแตกต่างจากเจ้าที่ทำเป็นเนื้อโลชั่น โดยใช้น้ำมันกับเกสรดอกบัวหลวงทำเป็นเนื้อเจล คุณสมบัติจะซึมเข้าผิวได้าก และด้วยคุณค่าของมะรุมจะต่อต้านอนุมูลอิสระ 46 ตัว มีวิตามินเอ อี ซี เพราะฉะนั้นสรรพคุณของมะรุมจึงเยอะมาก แต่คนไทยอาจจะยังไม่รู้มากเท่าไหร่ แม้จะรู้จักมะรุมก็ตามแต่ไม่รู้จักสรรพคุณเท่าไหร่ ช่วงแรกโปรโมตมะรุม มะพร้าว มะขาม อย่างเนื้อเจล 150 ml. ราคา 280 บาท”



สำหรับเจลมะรุมนั้น มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย เมื่อทาตัวพอออกแดดจะไม่เหนียว จะมีสี่แบบ แบบแรกเป็นมะรุมผสมเกสรดอกบัวหลวง สำหรับคนที่ทำงานในห้องแอร์ จะช่วยผิวกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวชุ่มชื้น แบบที่สองมะรุมผสมกระบองเพชร สำหรับคนที่ออกแดดเวลาคนออกแดดจะแดง ดำ จะลดรอยแดง ดำ แต่ของเราไม่มีSPF สามมะรุมผสมเกรพฟรุ๊ตจะช่วยลดเซลลูไลท์ สี่มะรุมผสมชุมเห็ดเทศสำหรับผิวอักเสบ สิวอักเสบที่มีปัญหาเรื่องผดผื่นทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชายที่มีสิวตรงแผ่นหลังก็ใช้ตัวนี้ได้



วันที่สนทนากันนั้น คุณธัญญ์นภัสก็ยืนขายไปด้วย และเนื่องจากเป็นช่วงพักกลางวันจึงมีลูกค้าเข้ามาสอบถามคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลายราย ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานออฟฟิซ ซึ่งเธอก็จะเล่าประสบการณ์ของตัวเองที่ใช้ทั้งน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันมะรุมในการดูแลใบหน้าและผิวพรรณตามร่างกาย


000เชื่อกระแสสุขภาพช่วยธุรกิจรื่น


“ตามแผนการตลาดจะเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าตั้งแต่ล่างขึ้นบน ซึ่งที่ผ่านมาไม่คิดว่าพนักงานขายยาคูลล์ แม่บ้าน หรือพนักงานล้างจานจะมาใช้ของใจใส แต่เขาก็มาซื้อใช้ แล้วก็ซื้อซ้ำอีกเพราะมันใช้ดี ส่วนมากจะใช้เซรั่มมะรุมเพราะคนพวกนี้จะมีปัญหาเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือผดผื่น คนบางคนเป็นแผลเบาหวานใช้มันน้ำมะรุมทาก็หาย พอลูกค้าใช้เขาจะเห็นผลอย่างชัดเจน ตอนนี้ขาย 5 ml. ราคา 350 บาท โดยในช่วงแรกเราทำจะทำโปรโมชั่น ซื้อสองแถมหนึ่ง ปรากฎว่าได้ลูกค้าจากระดับล่างขึ้นบนเลย เขาใช้แล้วกลายเป็นลูกค้าโทรมาตามเรา”



อย่างที่บอกไปแล้ว ในการทำตลาดนั้นนอกจากคุณธัญญ์นภัส จะใช้วิธีขายตรงตามตลาดนัดเที่ยงวันตามย่านออฟฟิซ ต่างๆแล้ว เธอวางแผนจะเจาะในเขตปริมณฑล หลังจากนั้นขึ้นห้าง ตามด้วยการเข้าสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งเจ้าตัวค่อนข่างมั่นใจว่าธุรกิจนี้ไปได้ดีแน่ และไปได้สวยในระยะสิบกว่าปีนี้ เพราะว่ากระแสดูแลสุขภาพมาแรง ที่สำคัญเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิกส์
นอกจากนี้เธอยังช่องทางการขาผ่านออนไลน์


โดยใช้เฟซบุ๊คwww.facebook.com/jaisaimarket.ukซึ่งแม้จะเปิดได้ไม่นาน แต่ปรากฏว่ามีผู้คนให้ความสนใจมาก เห็นได้จากจำนวนผู้คนที่มีการกดไลท์


คุณธัญญ์นภัสฝากบอกไปยังผู้สนใจว่า กำลังรับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ลูกค้าจะได้หาซื้อได้ง่ายขึ้น โทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 084-384-1854



ข้อมูลโดย มติชน













Create Date : 12 มิถุนายน 2556
Last Update : 12 มิถุนายน 2556 15:38:26 น. 1 comments
Counter : 5563 Pageviews.  

 


โดย: ญามี่ วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:15:39:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]