 สุราณี เศรษฐ์ธนานนท์ (ซ้าย) เจ้าของสูตร   อุปกรณ์การขาย  ตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์ 100 สาขา  โลโก้แฟรนไชส์ทอดมันแม่กน  รูปแบบคีออส แฟรนไชส์  ถุงกระดาษ เพิ่มมูลค่าให้ทอดมันดูดีมีราคา 
ทอดมันปลากราย เมนูยอดนิยมที่อยู่คู่ร้านอาหารมาช้านาน แต่ปัจจุบันไม่ได้มีเฉพาะร้านอาหาร เพราะ แม่กนก ทอดมันปลากราย ได้พัฒนาสูตรทอดมันดั้งเดิมของจังหวัดนครสวรรค์ออกมาจำหน่ายแก่ผู้สนใจต้องการมีอาชีพขายอาหารง่ายๆ แบบทอดมันปลากรายแท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ และเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า
สำหรับที่มาของ แม่กนก ทอดมันปลากราย เกิดขึ้นมาจาก สุราณี เศรษฐ์ธนานนท์ เจ้าของสูตรทอดมันปลากรายแม่กนก เธอชื่นชอบการกินทอดมัน แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ เมื่อไปกินทอดมันตามร้านอาหาร หรือตามตลาดนัดทั่วๆ ไป สิ่งที่เธอพบมันไม่ใช่ทอดมันปลากรายแบบเนื้อปลากรายแท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลายคนที่ชื่นชอบการกินทอดมันก็จะรู้สึกแบบเดียวกัน พอเธอคิดว่าจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่งที่มันไม่ยุ่งยาก สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของเธอก็คือ น่าจะเป็นทอดมันเนื้อปลากรายแท้ๆ
สุราณีเล่าว่า ครอบครัวของเราก็มีสูตรทอดมันปลากรายแท้ๆ ที่เป็นสูตรดั้งเดิมของจังหวัดนครสวรรค์ ที่เราเชื่อว่า มันจะอร่อยไม่แพ้สูตรทอดมันจากที่ไหน และจังหวัดนครสวรรค์เป็นแหล่งที่มีปลาน้ำจืดอยู่เป็นจำนวน การหาเนื้อปลากรายแท้ๆ ไม่ใช่เรื่องยาก และจุดเด่นของเราอีกอย่างหนึ่ง คือเครื่องแกงที่ผลิตสดๆ วันต่อวัน โดยใช้ส่วนผสมของเครื่องแกงที่เป็นสูตรเฉพาะอันเป็นเอกลักษณ์ของแม่กนก ซึ่งทำให้ได้เครื่องแกงที่มีกลิ่นหอม และสดใหม่ทุกวัน
นอกจากนี้ ได้เพิ่มเติมสูตรทอดมันเพื่อสร้างความแปลกใหม่ และรองรับกลุ่มคนรักษ์สุขภาพ ด้วยการเติมเห็ด และพริกสด ซึ่งเห็ดที่เลือกใช้จะเป็นเห็ดเออรินจิ และเห็ดหอมสด ทำให้เราได้ทอดมันอีก 1 รสชาติ เป็นทอดมันปลากรายสูตรเห็ดรวม โดยปัจจุบันทอดมันปลากรายแม่กนกทำออกมาด้วยกัน 3 รสชาติ ได้แก่ ทอดมันปลากรายสูตรโบราณดั้งเดิม ทอดมันปลากรายสูตรเห็ดรวม และสำหรับเด็กที่ไม่กินเผ็ดมีทอดมันปลากรายสูตรไม่เผ็ดสำหรับเด็ก
สุราณีเล่าว่า ตัดสินใจนำออกมาในรูปแบบของแฟรนไชส์เพราะช่วยให้เรากระจายสินค้าได้เร็ว และเป็นช่องทางในการสร้างอาชีพให้คนที่กำลังมองหาอาหารที่ทำง่าย และคนไทยชื่นชอบ โดยได้ทำแฟรนไชส์ออกมา 3 รูปแบบสำหรับคนที่มีงบมาก น้อยแตกต่างกัน รูปแบบที่ 1 ฟูลออปชัน งบลงทุน 39,000 บาท เป็นเคาน์เตอร์ไม้ ถอดประกอบได้ ขนาด 120x85x60 ซม.ชุปดที่ 2 สแตนดาร์ด งบลงทุน 25,000 บาท เป็นเคาน์เตอร์ไม้ ขนาด 100x80x55 ซม. รูปแบบที่ 3 ชุด สำหรับผู้ที่มีเคาน์เตอร์และอุปกรณ์แล้วแต่อยากขายทอดมันแม่กนก รับป้ายไปติดหน้าร้านพร้อมสินค้าไป ลงทุน 9,900 บาท
ส่วนอุปกรณ์ที่ทางเจ้าของแฟรนไชส์จัดให้สำหรับการขาย ได้แก่ ชุดสำหรับทอด กระทะอะลูมิเนียมขนาด 16 นิ้ว+ชุดแก๊ส (ไม่รวมถังแก๊ส) ถาดสเตนเลสตั้งโต๊ะ 1 ชุด, กระชอนรองน้ำมัน 1 อัน, อุปกรณ์สำหรับทอด ทัพพี 1 ด้าม, ที่คีบ 2 อัน, ชามสเตนเลส 2 ใบ ถุงกระดาษ+ไม้เสียบ 100 ชุด, สแตมป์โลโก้ 1 ชุด, น้ำมันปาล์ม 5 กิโลกรัม, ชุดเครื่องเสียง ประกาศโฆษณาหน้าร้าน+MP3 1 ชุด และทอดมันปลากราย 3 รส รสละ 5 กิโลกรัม, น้ำจิ้ม 3 กิโลกรัม
ถุงสำหรับใส่ทอดมัน เราจะมีการพิมพ์ลายโลโก้ลงบนถุงกระดาษสีน้ำตาล สร้างความแปลกใหม่จากร้านทอดมันทั่วไปให้ดูดีขึ้น เราตั้งใจจะขยายธุรกิจในทำเลตลาดน้ำที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีชุดเครื่องเสียงประกาศโฆษณาเป็นเสียงพูดสำเร็จไว้ให้ลูกค้ามือใหม่ หรือเด็กหน้าร้านที่ไม่ถนัดเชียร์สินค้า ก็ให้เปิดเทปเสียงเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้าน ช่วยดึงความสนใจลูกค้าและกระตุ้นยอดขายได้ ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2556 จะขยายสาขาแฟรนไชส์ให้ได้ 100 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คุณสุราณีกล่าวถึงแผนการตลาด
สำหรับราคาขายปลีกหน้าร้าน จำหน่ายชุดละ 35 บาท (80 กรัม) ทอดมัน 1 กิโลกรัมจะทอดขายได้ 12-13 ชุด รวมเป็นเงิน 435 บาท/กิโลกรัม (12.5x35) ราคาขายส่งทอดมันปลากรายดิบกิโลกรัมละ 250 บาท (ราคาขายปลีกหน้าร้านกิโลกรัมละ 380 บาท ซื้อ 10 กิโลกรัมแถมน้ำจิ้ม 1 กิโลกรัม) ดังนั้น กำไรต่อกิโลกรัมคิดเป็น (435-250 = 185 บาทต่อกิโลกรัม) ราคานี้ยังไม่รวมค่าเช่าพื้นที่ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งผู้ซื้อแฟรนไชส์จะขายได้มากน้อยขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง และจำนวนลูกค้าที่เข้ามาซื้อในแต่ละวัน โทร. 08-9799-0971
ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [
