เ ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพรำๆ กบมันก็ร้องงึมงำ ระงมไปทั่วท้องนา...Ž เพลงของ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ นักร้องลูกทุ่งชาวเพชรบุรีดังขึ้น เมื่อรู้ว่าได้ไปร่วมทริปโปรโมตกิจกรรมท่องเที่ยวเพชรบุรี กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นความบังเอิญหรือเปล่าไม่รู้... แต่ เดือนหก-ฝนตก-เพลงของรุ่งเพชร-เพชรบุรี... ดูเข้ากันดี เป้าหมายครั้งนี้ คือ เขาวัง หาดชะอำ และ ปึกเตียน ออกเดินทางจากกรุงเทพฯท่ามกลางบรรยากาศกึ่งแดดกึ่งฝน ไปตามถนนพระราม 2 เพียงชั่วโมงเศษก็ถึงเมืองเพชร ด้วยสภาพท้องฟ้าสว่างสดใส แดดร้อนเปรี้ยง ราวกับคนละประเทศกับที่ที่เราจากมา แวะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรก กราบ พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธบาทจำลอง และ พระเจ้าอู่ทอง ที่ ถ้ำเขาย้อย ลงจากรถก็พบกับลิงฝูงใหญ่ แต่ไม่ต้องกลัว มีอาสาสมัครตำรวจชุมชนสวมชุดเขียวสะท้อนแสงดูแลความเรียบร้อย ไม่ให้ลิงขโมยหรือทำร้ายนักท่องเที่ยว และก่อนเข้าถ้ำต้องถอดรองเท้า ก็ไม่ต้องกลัวว่ารองเท้าคู่งามหายเพราะมีอาสาสมัครตัวน้อยดูแล... สบายใจได้ เมื่อถึงปากถ้ำ จะพบพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ให้เราได้สักการะ รอบๆ ถ้ำมีพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย เงยหน้าขึ้นไปจะเห็นหินย้อยซึ่งมีความวิจิตรมาก ด้านหลังองค์พระประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง เดินต่อไปอีกหน่อย จะพบทางลงไปยังถ้ำพระเจ้าอู่ทอง ซึ่งภายในประดิษฐานพระเจ้าอู่ทอง พระพุทธรูปประจำวันเกิด และเจ้าแม่กวนอิม แนะว่าใครสุขภาพไม่ดีควรเลี่ยงที่จะเดินเข้าถ้ำ เพราะค่อนข้างอับ อาจหายใจไม่ออกได้ง่ายๆ ที่หมายต่อไป อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี หรือ เขาวัง พระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 สร้างบนเขา 3 ลูก ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเขาย้อยนัก อากาศร้อนจนต้องตัดสินใจขึ้น เคเบิลคาร์ อาเขตŽ เพราะถ้าเดินขึ้นเขาไป หยอกล้อกับลิงจ๋อสองข้างทางไป คงเป็นลมให้เพื่อนๆ แบกลงมาแน่ ควักกระเป๋าคนละ 40 บาท ตั๋วใบเดียวได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ช่วยย่นระยะเวลาได้มาก แต่คนที่กลัวความสูงคงต้องสั่นไม่มากก็น้อย เมื่อถึงพระราชวังด้านบน ยังต้องระวังลิงที่มีท่าทีก้าวร้าว ก๋ากั่นกว่าในเขาย้อย จากนั้นจ่ายเงินอีกคนละ 20 บาท เป็นค่าเข้าชมภายในเขตพระราชฐาน อันประกอบด้วยสถานที่สำคัญ อาทิ พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ พระที่นั่งปราโมทย์ มไหสวรรย์ พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท พระที่นั่งราชธรรมสภา และหอชัชวาลย์เวียงชัย (กระโจมแก้ว) เป็นต้น น่าเสียดายหน่อย เพราะเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในพระที่นั่ง เช่นเดียวกับพระราชวังอีกหลายแห่งพระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ เป็นพระที่นั่งองค์ใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองรวมถึงการออกขุนนาง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ อาทิ รูปปั้นโบราณ ถ้วยชามจากต่างประเทศ กล่องบุหรี่ แท่นบรรทม ขวดไวน์ ไปจนถึงอาวุธโบราณ เป็นต้น ถัดมาเป็น พระที่นั่งปราโมทย์มไหสวรรย์ ที่ประทับของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี มเหสีองค์ที่ 2 ในรัชกาลที่ 4 ห้องนี้จำกัดจำนวนผู้เข้าชมเพราะพื้นที่คับแคบ และต้องใช้ความระมัดระวังขณะเดินเพราะ พื้นดูอ่อนไหว ยวบยาบ น่าตื่นเต้น เดินชมยังไม่ทั่ว เพราะเป็นวังที่กว้างเหลือเกิน ก็ถึงเวลาต้องเดินทางต่อไปยัง พระราชวังรามราชนิเวศน์ หรือ พระราชวังบ้านปืน วังนี้สร้างขึ้่นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับตากอากาศ มีลักษณะเหมือนคฤหาสน์ต่างประเทศ เพราะออกแบบโดยนายช่างชาวเยอรมัน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของมณฑลทหารบกที่ 15 ตัวอาคารของพระราชวังบ้านปืนแบ่งเป็น 2 ชั้น เมื่อเข้าไปด้านในจะพบห้องรอเฝ้าสำหรับข้าทาสบริวารที่มารับเสด็จ ถัดไปเป็นห้องท้องพระโรง ใช้ออกว่างาน เมื่อเดินต่อไปจะเป็นห้องเสวยที่สร้างตามศิลปะแบบอาร์ต นูโว (Art Nouveau) เน้นความงามจากธรรมชาติ จึงมีการติดรูปสัตว์น้ำหลากสีที่ผนัง บริเวณชั้นสองเป็นห้องทรงพระอักษรที่ยังมีโต๊ะและเก้าอี้ที่ใช้ทรงงานตั้งอยู่ ถัดไปเป็นห้องบรรทมของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระราชโอรส และพระราชธิดา ที่มีรูปแบบและการตกแต่งเรียบๆ คล้ายกัน ส่วนห้องด้านในสุดเป็นห้องบรรทมของพระมหากษัตริย์ ปัจจุบันประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง จะเห็นเขาวังอย่างชัดเจน ที่น่าตื่นเต้น คือห้องสรงที่มีนวัตกรรมล้ำยุคอย่างชักโครก และอ่างน้ำปรับอุณหภูมิได้ในห้องบรรทมของพระมหากษัตริย์! เย็นวันนั้น เราเดินทางไปยังหาดเจ้าสำราญ สถานที่จัดงานแสดงดนตรี Chill n Grill Music Weekend@หาดเจ้าสำราญ ในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน โดยมีวงดนตรีเข้าร่วม เช่น สิงโต นำโชค, ตู่ ภพธร โป้ โยคีเพล์บอย และรูม 39 บริเวณชายหาดแห่งนี้ตามปกติมีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำจำนวนมาก ร้านขายของเปิดประปราย โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ไม่มีเก้าอี้ผ้าใบ แต่ใช้เสื่อปูนั่ง บางคนเลือกขับรถไปยังหัวหินเพื่อหาที่พัก เช้าวันต่อมาเราใจไม่ดี เพราะฝนตั้งเค้าทำท่าจะตก แต่ก็บ่ยั่น เรามุ่งหน้าไปยัง ชะอำ เอทีวี พาร์คŽ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมครอบครัว ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 ให้บริการรถเอทีวีที่มี 3 เส้นทางให้เลือกทั้งลุยน้ำ วิ่งทางวิบาก และยิงเพนต์บอล หรือใครจะประลองเพนต์บอลแบบทีมก็มีให้เลือก หรือจะเสริมสมาธิด้วยการยิงธนูก็ได้ มื้อเที่ยงได้ลิ้มลอง เย็นตาโฟสองสี ของ ร้านเย็นตาโฟทูโทน อยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงก่อนเลี้ยวเข้าหาดชะอำ ครั้งนี้ได้ลองเย็นตาโฟสีฟ้าน้ำทะเล... ใครเห็นแล้วคงอยากลอง ท้องอิ่มแล้ว คณะ ททท.แวะไปหาดเจ้าสำราญอีกครั้ง เพื่อดูว่ารีสอร์ตแต่ละแห่งพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวหรือยัง แห่งแรกเป็นไอธารา รีสอร์ท (iTARA Resort and Spa) ที่เต็มแทบทุกสัปดาห์เพราะมีสปาและห้องพักสำหรับผู้พิการ, เคปสโตนรีสอร์ท ที่นำรูปปั้นไมโอ สัญลักษณ์ของมรดกโลกในชิลีมาประดับตกแก่ง และสุดท้ายที่ ชิดลม รีสอร์ท ซึ่งด้านหลังติดกับหาดเจ้าสำราญพอดี คณะเราออกเดินทางไปยังชายหาดอีกแห่งของเพชรบุรี นั่นคือ หาดปึกเตียน มีรูปปั้นนางผีเสื้อสมุทรและพระอภัยมณีผู้โด่งดังจากวรรณกรรมของสุนทรภู่ นอกจากนี้ ยังมีรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมและศาลาเต่าด้วย หลังอาคารค่ำ เราเลือกไปเดินย่อยอาหารที่ เพลินวาน จุดถ่ายรูป เช็ก-อิน สุดฮิตของหัวหิน บรรยากาศตอนสองทุ่มยังคึกคัก พ่อค้าแม่ขายยังไม่ปิดร้านขายอาหารและสินค้าย้อนยุคหนี จนถึงแก่เวลาก็กลับที่พัก จบคืนนั้นอย่างสบายๆ เช้าวันถัดมามุ่งหน้าไปยัง อ.ท่ายาง เพื่อชิม ผัดไทท่ายางŽ ร้านขึ้นชื่อของย่าน แน่นอนว่าคนแน่นร้านจนได้ยินเสียงท้องร้องโครกครากลั่นร้าน เมื่อเห็นหน้าตา ได้ชิมแล้วไม่ผิดหวัง รสชาติน่าพอใจ ราคาไม่แพง คุ้มค่าแก่การรอคอย ก่อนกลับ กทม. เราแวะ กลุ่มแปรรูปเกลือกังหันทอง ที่นำเกลือมาแปรรูปทั้งน้ำดื่ม สบู่ โลชั่น ไปจนถึงเกลือขัดผิว จนเป็นสินค้าโอท็อปของจังหวัดเพชรบุรี เร็วๆ นี้จะจัดแสดงที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีกด้วย 3 วัน 2 คืน จบลงอย่างรวดเร็ว พร้อมความรู้ใหม่ๆ จากความหลากหลายของเพชรบุรี งานนี้ประทับใจไม่รู้ลืม อาถรรพ์ หาดปึกเตียน ว่ากันว่าบริเวณหาดปึกเตียน จะมีคนมาเสียชีวิตเพราะจมน้ำกันอยู่บ่อยๆ เนื่องจากเป็นอาถรรพ์ของรูปปั้นนางผีเสื้อสมุทร โดยผู้เสียชีวิตมีทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก ซึ่งมักจะเป็นผู้ชาย ในทางวิทยาศาสตร์ว่ากันว่า บริเวณนั้นเป็นพื้นหาดที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ต่างจากชายหาดทั่วไปที่มีพื้นเรียบเท่ากัน รวมถึงการที่มีกระแสน้ำแรง ทำให้เกิดเป็นจุดน้ำวน ที่ง่ายต่อการจมน้ำ ดังนั้น ผู้ที่ไปเที่ยวที่หาดปึกเตียน ควรให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ ไม่ลงไปเล่นน้ำในช่วงที่มีคลื่นแรง รวมถึงเวลาที่เสพของมึนเมา รวมทั้งผู้ใหญ่ควรช่วยกันสอดส่องบุตรหลานของตัวเองเพื่อความปลอดภัย อย่ากล่าวโทษอาถรรพ์เลย ข้อมูลโดย มติชน

Create Date : 09 มิถุนายน 2556
Last Update : 9 มิถุนายน 2556 11:04:53 น.		2 comments
Counter : 2895 Pageviews.
Share Tweet