|
เคลื่อนทัพสงครามไขมัน วันที่ 52 (FAT WAR # 6) เรื่องเล่าเช้านี้ของพี่ปลา_อัญชัน
วันพุธที่ 2 มี.ค. 54
เรื่องเล่าเช้านี้ของพี่ปลา 2 อัญชัน รู้สึกว่าพักนี้วิญญาณนักเขียนจะเข้าสิงพี่ปลาซะแล้ว เพราะมีเรื่องราวมาเขียนเล่าให้ฟังติด ๆ กันหลายวันแล้ว เหตุผลหนึ่งคือ พักนี้มีเวลาว่างเพราะว่านักเรียนปิดแล้ว งานที่เหลือก็ค่อย ๆ ทยอยทำไม่ได้มีการเข้าบรรยายแต่อย่างใด ก็เลยทำงานสบาย ๆ ค่ะ
พอทำงานสบาย ๆ ก็เลยมีเวลานั่งเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้พานพบมาให้ฟังค่ะ อัญชันเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่ง มีสีน้ำเงินเข้ม มองเผิน ๆ คล้ายสีม่วง มีสรรพคุณมากมายหลายอย่าง ที่เด่นชัดก็คือ นำมาเป็นส่วนประกอบในแชมพูสระผม
แต่ที่พี่ปลาจะเล่าถึงนี่ไม่ใช่ดอกอัญชันนะคะ แต่เป็น ชื่อ ของหมอนวดแผนไทยที่พี่ปลาบังเอิญไปเป็นคนไข้ประจำของพี่เค้าค่ะ ที่บอกว่าบังเอิญก็คือ ครั้งแรก ๆ ที่เข้ารับการรักษาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อพี่ปลารักษากับหมออีกคนค่ะ ที่นี้วันที่พี่ปลานัดกับหมอประจำไว้ หมอเกิดนัดคนไข้อีกคนไว้ด้วยในเวลาเดียวกัน เป็นป้าสูงวัยกว่าพี่ปลาค่ะ และเดินทางมาไกล พี่ปลาก็เลยเสียสละให้ป้าคนนั้นนวดกับหมอประจำคนก่อนไป
ก็บังเอิญว่า หมออัญชัน หรือขอเรียกว่า พี่อัญชันคนนี้ แกว่างพอดี คนไข้ที่นัดไว้ไม่มา พี่ปลาก็เลยลองนวดกับพี่แกดู เรียกว่า ลองดูไม่อยากมาเสียเที่ยว ถ้าไม่ดีคราวหน้าก็เปลี่ยนหมอใหม่ แต่ปรากฏว่า พี่อัญชันนวดแล้วทำให้อาการปวดไหล่ของพี่ปลาดีขึ้นมาก ดีขึ้นกว่าที่นวดกับหมอคนเดิมเสียอีก ก็เลยเป็นที่มาของการเป็นคนไข้ประจำกันเลยทีเดียว
พี่อัญชันเป็น หมอนวดแผนไทย เป็นสาวใหญ่ อายุราว 47 ปี รูปร่างสูง ใหญ่ ลำตัวหนา ผิวคล้ำ เวลาแก สรวมเครื่องแบบที่มีลักษณะคล้ายเสื้อกราวด์ของหมอแต่ตัวสั้นกว่า แกมักจะเก็บรวบผมตรึงและใช้ตาข่ายผูกผมที่มีโบว์สีดำผูกเป็นมวยเอาไว้ที่ด้านหลังเรียบร้อย ไปกี่ครั้งก็เห็นแกแต่งตัวลักษณะนี้ทุกครั้ง เรียกว่าคงเป็นยูนิฟอร์มสำหรับตัวพี่อัญชันเลยทีเดียว
ถึงจะรูปร่างสูงใหญ่ ตัวหนา ล่ำสัน บ่งบอกให้รู้ได้เลยว่า ถ้าลงได้นวดกับแกแล้วละก็ไม่แข็งแรงแข็งแกร่งพอ กระดูกกระเดี้ยวอาจหักได้ แต่ภายใต้ใบหน้า เรียบ ๆ ค่อนข้างดุ ไม่มีการแต่งหน้าทาปากแต่อย่างใด มีจุดเด่นที่สุด ก็เห็นจะเป็นดวงตาที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าของผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างหนักแค่ไหน
หมอนวดแผนไทยสาวร่างใหญ่ท่านนี้มีเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มที่ฟังดูก็รู้ว่า จริงใจ แม้คำพูดสำเนียงจะไม่อ่อนโยนอ่อนหวาน เหมือนเช่นคนที่เรียนหนังสือมาเยอะ (แต่บอกได้เลยว่า การศึกษาไม่ได้ทำให้คนทุกคนเป็นคนดี น่าคบเสมอไปค่ะ) ทุกครั้งที่เข้าไปทำการรักษาก็จะได้รับการดูแลรักษา อย่าเต็มที่ทุกครั้งไป
พี่อัญชัน ช่างพูดช่างคุย ช่างซัก ช่างถาม เรียกว่า ถ้าลงนวดกับแกแล้ว ที่คิดว่าจะได้นอนหลับน่ะฝันไปเถอะ จะหลับตาลงได้อย่างไร มือแกหนักมาก ๆ กดจุดแต่ละที โอ๊ย ๆ ๆ กันเลยทีเดียว (ปวดน้ำตาแทบไหล) เดี๋ยวถามว่าเป็นไงบ้าง เราก็ต้องตอบแกไปเนอะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเสียมารยาท ระหว่างที่นวดไป พี่อัญชันก็ได้เล่าเรื่องราวของตัวแกมากมายให้พี่ปลาฟัง
ฟังไปแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกทึ่งในชีวิตของหญิงสาวร่างใหญ่อารมณ์ดีคนนี้ไม่ได้ พี่อัญชันเล่าว่า สามีแกตายด้วยโรคฝี (สอบถามไปมาได้ความว่า ฝีขึ้นที่ใต้รักแร้ เป็นลักษณะของโรคมะเร็วต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย) มีลูกชายด้วยกัน 1 คน เมื่อสามีตายแกต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ทำงานทุกอย่าง ตั้งแต่ เป็นแม่ค้าขายข้าวขายข้าวแกง ขายขนมจีนน้ำจา ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน (ที่แกคุยนักหนาว่าอร่อยมาก) ขับมอเตอร์ไซด์วินรับจ้าง ทำขนมขาย ทำยาหม่อง ทำน้ำมันเหลืองขาย รับจ้างกวาดทำความสะอาดตลาดสด ซึ่งได้รับค่าแรงวันละ 50 บาท ได้เงินเดือน ๆ ละ 1500 บาท (ฟังตัวเลขของเงินแล้วแอบนึกในใจ แล้วกินอะไรเนี่ย 1500 บาทใช้ทั้งเดือน ) เรียกว่าพี่เค้าเป็นคนทำมาหากินจริง ๆ ไม่เคยเกี่ยงเรื่องอาชีพ เป็นผู้หญิงที่น่านับถือมาก ๆ
แกเล่าว่าเหตุที่มาเป็นหมอก็เนื่องมาจาก มีคนจ้างให้ไปช่วยบีบนวดให้ แล้วแกบังเอิญทำได้ดี จับเส้นจับสายได้ถูกขึ้นมา คน ๆ นั้นก็เลยแนะนำให้มาเรียนแพทย์แผนไทย และนับแต่นั้นมาแกก็มีอาชีพเป็นหมอนวดแผนไทย ทั้งเคยนวดที่ตามร้านนวด และปัจจุบันก็สอบเข้ามาเป็นหมอนวดแผนไทย สังกัด โรงพยาบาลจนถึงทุกวันนี้ ค่านวดก็ได้รับเป็นจำนวนหัวค่ะ หัวละ 120 บาท วันหนึ่งนวดได้เต็มที่ 5 คน ซึ่งคิดเป็นรายได้ วันละ 600 บาท ดีมากแล้วสำหรับตัวแก เพราะเป็นงานที่ไม่ได้หนักหนาอะไร (แกบอกงั้น แต่พี่ปลาว่า คนเป็นหมอนวดแบบนี้ก็เหนื่อยนะคะ ใช้แรงมากทีเดียว)
ในสายตาที่พี่ปลามองเห็นพี่อัญชันเวลานี้ คือ ผู้หญิงแกร่ง สู้ชีวิต เป็นคนขยันทำมาหากิน ไม่เอาเปรียบใคร มีความอดทน ที่สำคัญมีน้ำใจค่ะ มีน้ำใจอย่างไรหรือคะ คือ อย่างนี้ พี่ปลาบ่นว่า ตัวพี่ปลาน่ะเป็นคนหลังแข็งมาก ก้มไม่ค่อยลง (ที่ก้มไม่ค่อยลงในที่นี้คือ เวลาเล่นโยคะ ในท่ายืนก้มหลังน่ะ ถึงแม้ว่าจะมือจะแตะพื้นได้ แต่หลังมันจะโก่งไม่สามารถพับแนบกับต้นขาได้ ) ด้วยความมีน้ำใจของพี่แก แกเห็นพี่ปลาบ่นอย่างนั้น ขณะที่กำลังนวดท่านอนหงาย พี่แกก็บอกวิธีการแก้การหลังแข็ง คือ นั่งแบบท่าผีเสื้อ และทำท่าสาธิตให้ดูว่าให้พยายามดันเข่าลงให้ขนานกับพื้นและก้มศรีษะให้หน้าผากจดส้นเท้า ให้ทำประจำทุกวัน ขณะที่แกสาธิตและบอกพี่ปลานั้น แสงแห่งความปรารถนาดีอย่างจริงใจเปล่งอยู่ในแววตา ทำให้อดซาบซึ้งไม่ได้ ก็เลยต้องอือออ ห่อหมกไป และกล่าวขอบคุณพี่เค้าที่กรุณาสอนพี่ปลา (ซึ่งคนที่เล่นโยคะเป็นประจำแบบพี่ปลาน่ะ ทำได้อยู่ล่ะ) แต่เมื่อเห็นท่าทีบอกกล่าวสั่งสอนอย่างต้องการให้ความรู้และอยากให้เราหายขนาดนั้นของพี่เค้า พี่ปลาก็ได้แต่อมยิ้ม คล้อยตามว่า อ๋อ ต้องทำแบบนั้นเหรอคะถึงหาย ไม่ได้ปฏิเสธความปรารถนาดีของพี่เค้า และก็ไม่ได้บอกพี่เค้าหรอกนะ ว่าทำเป็นประจำอยู่แล้ว
จากการที่ได้รู้จัก หมอนวดแผนไทยที่ชื่อ อัญชัน คนนี้ ทำให้พี่ปลาได้รับบทเรียนชีวิตอีกบทหนึ่งที่ว่า เมื่อมีคนแสดงความปรารถนาดี อยากช่วยเหลือ แม้ว่าเราจะรู้ดีอยู่แก่ใจแล้ว เราก็ควรจะแสดงความสนใจ และศึกษาเรียนรู้จากคน ๆ นั้นอีกครั้ง อย่าได้ทำเป็นหยิ่ง จองหอง ว่าชั้นรู้แล้ว ชั้นทำได้ดีกว่าที่บอกเสียอีก มันจะไม่น่ารักเลย มานึกดูอีกที ถ้าขณะที่พี่แกลงทุนนั่งและสาธิตให้ดูแล้วพี่ปลา เอ่ยปากอย่างจองหองว่า โอ๊ยท่านี้ทำได้แล้วค่ะ ทำเป็นประจำ เลย แกคงจะเสียหน้าและเสียน้ำใจมากแต่ไหน
พี่ปลาคงไม่ทำเช่นนั้นแน่ และรู้เลยว่าตัวเองไม่มีวันหักหาญน้ำใจของพี่เค้าได้ เมื่อมองสบสายตาที่แสดงความจริงใจขนาดนั้น การทำตัวแบบน้ำที่ไม่เต็มแก้ว จะทำให้คนรอบข้างรู้สึกสบายใจ และเอ็นดูเราได้มากกว่านะคะ เพราะตั้งแต่นั้นว่า พี่เค้าก็อาสาจองวันเวลาที่จะเข้ารับการรักษาในครั้งต่อไปให้ สั่งให้โทรมาบอกล่วงหน้าถ้ามาไม่ได้ แหมแค่ได้น้ำใจไมตรีจากพี่เค้าเราก็ปลื้มใจแล้วนะคะ
จะเห็นได้ว่าแม้พี่เค้าจะเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดา ๆ ความรู้ก็ไม่ได้มากมายอะไร จบการศึกษาแค่ชั้น ป. 4 ไม่ได้มีเงินเดือนก็เพียงน้อยนิด แต่พี่เค้าก็ทำงานในหน้าที่อย่างมีความสุข เต็มความสามารถ (ก็นวด 5 คน คนละ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ไม่แข็งแรงจริงทำไม่ได้นะคะเนี่ย) เป็นคนดีมีน้ำใจได้ ประกอบอาชีพของตัวเองอย่างซื่อสัตย์ การประกอบอาชีพอย่างซื่อสัตย์สำหรับพี่ปลา หมายถึง การทำอาชีพของตัวเองอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ไม่เอารัดเอาเปรียบ คนอื่น ทำอย่างดี อย่างมีความสุข เป็นข้อคิดอีกอย่างว่า ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพไหน ถ้าเรารู้จักสร้างสุขและทำงานอย่างมีความสุข แม้บางครั้งจะเกิดเหตุให้เราต้องเหนื่อยต้องท้อ ถ้าเราคิดบวกและผ่านมันไปได้ เราก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ เหมือนหมอนวดไทยคนนี้
พี่ปลานอนมองพี่อัญชัน ด้วยความเห็นอกเห็นใจ และก็ซาบซึ้งในความมีน้ำใจของพี่แก เห็นทีพี่ปลาคงเป็นไปเป็นคนไข้ของพี่แกตลอดไปเสียแล้วซีคะ ถึงจะกระดูกลั่นกร๊อบแกร๊บ แต่พอเสร็จแล้วเบาสบายตัวมากค่ะ มาช่วยกันสนับสนุนคนดีกันดีกว่านะจ้ะ นอกจากสนับสนุนคนทำดีแล้ว ตัวเราเองก็ต้องหมั่นทำดีให้คนอื่นดูเป็นตัวอย่างด้วยนะคะ
Create Date : 02 มีนาคม 2554 |
|
26 comments |
Last Update : 2 มีนาคม 2554 21:08:19 น. |
Counter : 484 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ญ. 2 มีนาคม 2554 9:33:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ping IP: 202.183.176.65 2 มีนาคม 2554 9:44:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 2 มีนาคม 2554 9:52:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: araya.m 2 มีนาคม 2554 13:46:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ping IP: 202.183.176.65 2 มีนาคม 2554 16:19:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: mai_z2 2 มีนาคม 2554 16:19:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 2 มีนาคม 2554 16:50:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: โบว์ (Niiziie ) 2 มีนาคม 2554 19:41:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: Choco-latte IP: 192.168.0.18, 124.120.93.205 2 มีนาคม 2554 20:25:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: chon Kun (kon-gang ) 2 มีนาคม 2554 22:32:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: araya.m 3 มีนาคม 2554 1:05:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เจิมหรือเปล่า