 |
|
Metapolitic อภิการเมือง
Metaphysic อภิปรัชญา ปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการเห็นทั่ว ๆ ไป หรือความรู้ที่อยู่นอกเหนือการรู้เห็นใด ๆ แต่สามารถรู้และเข้าใจด้วยเหตุผล
Metapolitic อภิการเมือง คือการเมืองที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการเห็นทั่ว ๆ ไป หรือการเมืองที่อยู่นอกเหนือการรู้เห็นใด ๆ แต่สามารถรู้และเข้าใจด้วยเหตุผล
การเมืองการปกครองที่แบ่งออกเป็น 2ระดับคือ ในระดับการเมืองธรรมดาและ ระดับอภิการเมือง 1 ระดับการเมืองปกติ ที่จะเป็นได้ว่าเป็นการเมืองที่จับต้องได้และมีบทบาทกับประชาชนทั่วไป มีตัวตนที่ชัดเจน เรื่องของระบบตัวแทน เรื่องของการจัดการ การแบ่งการกระจายอำนาจหน้าที่ การกำหนดบทบาทของประชาชนและ อำนาจรัฐ เป็นการเมืองที่ระบุชัดลงในเนื้อหาและมีพื้นฐานที่แน่อนบนตัวบทกฏหมาย 2 ระดับอภิการเมืองที่จะกล่าวถึง คือ เรื่องราวของการปกครองแบบที่นอกเหนือไปจากข้อแรก ที่สามารถรับรู้ได้ว่ามีอยู่จริงแต่ไม่สามารถที่จะระบุชัดได้ และมีบทบาทอยู่เหนือการเมืองปกติอีกทอดหนึ่งซึ่งจะมีส่วนครอบงำ การเมืองระดับปกติ ทั้งนี้มีได้ตั้งแต่ระดับเบาบางไปจนถึงระดับเข้มข้น ตามแต่สถานการณ์
อภิการเมืองที่อยู่เหนือการเมืองปกติ และไม่อาจจะสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายๆ อาจเกิดขึ้นได้ กับบางสถานที่ๆ เหล่าผู้คนปราศจากความรู้ความคิด และการถูกครอบงำ และชี้นำทางการเมืองมากเสียจน ขาดความสามารถทางการเมือง ความสามารถทางการเมืองที่ว่าคือ เรื่องของ สิทธิ เสรีภาพและหน้าที่ ที่เป็นหลักการพื้นฐานของประชาชนที่จะมีได้ในทุกๆระบอบการปกครอง
แต่ทว่าในระดับอภิการเมืองจะไม่ยินยอมให้ การเมืองระดับปกตินั้นเติบใหญ่ได้มาก เพราะนั่นจะเป็นการสั่นคลอนอำนาจที่อยู่นอกเหนือระบอบปกติ และนั่นก็เป็นสาเหตุของการเกิดขึ้นของการเมืองในระดับอภิการเมือง
อภิการเมืองเองเกิดขึ้นจากส่วนที่อยู่เหนือกว่าความเข้าใจทั่วไป และการเกิดที่ไม่ปกติย่อมนำไปสู่การคงอยู่ที่ไม่ปกติด้วย เพราะกรรมวิธีการทำให้อำนาจที่เหนือกว่าอำนาจปกติยังคงอยู่ได้ ย่อมต้องอาศัยกระบวนการที่นอกเหนือไปจากกระบวนการปกติด้วย ไม่เช่นนั้น มันจะเป็นอำนาจที่อยู่เหนือกว่าปกติไม่ได้
และนั่นย่อมนำไปสู่การเติบโตที่ไม่หยุดยั้งของอภิการเมือง เพราะยิ่งมีวิธีการนอกเหนือกว่าปกติมากเท่าไหร่ การเมืองปกติก็ จะด้อยค่าลงมากขึ้นเท่านั้น และบทบาทของเหล่าผู้มีส่วนร่วมในการเมืองระดับปกติก็ จะถูกควบคุมผ่านอภิการเมืองอีกที ซึ่งทำให้ อำนาจที่แท้จริงจะไปตกอยู่กับกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในระดับอภิการเมือง
ประชาชนก็จะได้รับความไม่เป็นธรรมที่มากมาย เพราะ ผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวและการซัดทอดความผิดที่จะตกอยู่เพียงในระดับการเมืองปกติที่มองเห็นและจับต้องได้ ส่วนในระดับอภิการเมืองจะเป็นส่วนที่ลอยตัว แต่ทั้ง2ส่วนก็จะเสพเอาผลประโยชน์ที่เหล่าประชาชนพึงได้รับด้วยกันทั้งคู่
และด้วยการเสพผลประโยชน์ของทั้งคู่ ก็ จะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง2ส่วนเกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้เกิดการแย่งชิงอำนาจอยู่บ่อยครั้ง และฝ่ายอภิการเมืองที่มีอำนาจเหนือกว่ามักจะได้เปรียบเสมอๆ ประชาชนมักจะไม่รู้สึกถึงความมีอยู่ของอภิการเมือง เพราะการทำให้เสมือนไม่มีอยู่ด้วยวิธีการต่างๆที่แยบยล แต่คงไว้ซึ่งความรู้สึกถึงได้ แต่ก็ ไม่สามารถที่จะสัมผัสได้เหมือนการเมืองระดับปกติทั่วไป ทำให้ การเมืองที่เป็น2ส่วนนั้นปรากฎเพียงส่วนเดียว ให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจคือส่วนที่มองเห็นได้ เพียงเท่านั้น
การมีอยู่ของการเมืองระดับอภิการเมืองนั้นมีจริงๆ แต่ทว่าการพยายามทำให้ไม่มีนี่เอง ทำให้ การเมืองระดับปกติปราศจากความมั่นคง และส่งผลถึงความยากต่อการพัฒนาการเมืองให้เติบโตไปได้
นอกจากจะทำให้ไม่อาจจะพัฒนาได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือการทำให้ถดถอยลงด้วย เพรา การมีอยู่ของอภิการเมืองจะบั่นทอนอำนาจลงจากส่วนการเมืองปกติและ นั่นเอง ก็เป็นการบั่นทอนอำนาจจากส่วนของประชาชนด้วย จนในที่สุดแล้วประชาชนก็ จะเป็นเพียงผู้อยู่ใต้การปกครองของการเมือง และการเมืองนั้นก็อยู่ใต้อภิการเมืองอีกทอด
ท้ายที่สุดแล้ว อภิการเมืองจะเพิ่มความเข้มแข็งต่อไปอย่างไม่จบสิ้น และนำพากลับไปสู่การเมืองแบบดั้งเดิมที่ปราศจากความคิด การเมืองที่อาศัยความเชื่อ ปราศจากซึ่งเหตุและผล
ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง หลังจากการเดินทางไปไม่ถึงจุดหมาย และการเดินทางครั้งไหนๆ ก็วกกลับมาเสมอๆ ราวกลับว่าการเมืองนี้ได้สร้างจุดวกกลับไว้ ณ จุดนั้น ทำให้ไปไม่ได้ไกลกว่านั้นเลยแม้แต่น้อย
Create Date : 12 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 12 ตุลาคม 2550 14:10:59 น. |
|
5 comments
|
Counter : 694 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: PPpIRCU (PPpIRCU ) วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:6:16:41 น. |
|
|
|
โดย: Darksingha วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:15:30:36 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:3:49:38 น. |
|
|
|
โดย: KongMing วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:22:22:57 น. |
|
|
|
| |
|
 |
KongMing |
|
 |
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
เล่าจื้อกล่าวว่า"ผู้รู้เขาคือปราชญ์" และกล่าวอีกว่า"ผู้รู้เราคือปัญญาชน" ณ ปากทางเข้าถ้ำวิหารเทพอพอลโล่แห่งเดลฟี มีป้ายทองคำเขียนว่า "Know thyself" แปลว่า รู้จักตนเอง "temet nosce" ภาษาลาตินที่Oracleกล่าวให้ Neo รู้จักตนเอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดของคนเราอยู่ที่ คำกล่าวเหล่านี้
|
|
|
metaphysics and metapolitics
(ศึกษาปรัชญาอยู่ด้วย)
แต่ว่ามันดูนามธรรมมากๆเลย
ถ้ามีตัวอย่างประกอบด้วยน่าจะยิ่งดีขึ้นไปอีก