"กรมชลฯ"เดินแผนป้องกันน้ำท่วมอีสานกลาง
"กรมชลฯ"เดินแผนป้องกันน้ำท่วม 5 จังหวัด อีสานกลาง เตรียมใช้เส้นปฏิบัติการกักเก็บน้ำใหม่ที่ระดับ 80% ของเขื่อนนายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมแผนรับสถานการณ์น้ำท่วม ปี พ.ศ.2562 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ในฤดูฝน ในพื้นที่ภาคอีสานกลาง ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และกาฬสินธ์ ซึ่งอาจทำให้บางพื้นที่ในเขตรับผิดชอบเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หรือบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก รวมถึงพิจารณาการตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ปี พ.ศ.2562 ณ ห้องประชุมศูนย์ฝึกอบรมชลประทาน สำนักงานชลประทานที่ 6ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 62 และเตือนว่าในช่วงนี้ประเทศไทยจะมีฝนตกหนัก กรมชลประทานจึงได้สั่งการให้ศูนย์เครือข่ายปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1-17 ที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำที่อาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน สำนักงานชลประทานที่ 6 จึงได้เชิญโครงการชลประทานที่อยู่ในความรับผิดชอบทั้ง 5 จังหวัด มาหารือ
ทุกโครงการฯ ได้เตรียมแผนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และเตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือไว้ประจำตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งจะสามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที นอกจากนั้นได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังติดตาม ตรวจสอบอาคารชลประทาน สิ่งกีดขวางทางน้ำ ให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ และบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ให้อยู่ในเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำ (Rule Curve) อย่างเคร่งครัด รวมทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ ด้วย
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น มีปริมาณน้ำกักเก็บ 588 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 24 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้จริงประมาณ 6 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯวันละประมาณ 1.55 ล้าน ลบ.ม. และมการระบายน้ำวันละ 500,000 ลบ.ม. จนถึงขณะนี้เขื่อนอุบลรัตน์ มีการนำน้ำก้นอ่างฯขึ้นมาใช้เพียงประมาณ 9 ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น จากที่คาดการณ์ไว้ถึง 120 ล้าน ลบ.ม. และคาดว่าหากยังมีฝนตกในพื้นที่ทำให้น้ำไหลเข้าอ่างฯ อย่างต่อเนื่อง อาจจะไม่ได้นำน้ำก้นอ่างฯขึ้นมาใช้อีกส่วนเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำประมาณ 534 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ เขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ มีปริมาณน้ำประมาณ 80 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯ ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 69 แห่งในพื้นที่ 5 จังหวัดอีสานกลาง มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 129 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 29 ของความจุอ่างฯรวมกัน ซึ่งพบว่าอ่างฯ ขนาดกลางมีแนวโน้มสถานการณ์น้ำที่ดีขึ้น เนื่องจากฝนที่ตกในพื้นที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าช่วงนี้กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเข้าสู่ฤดูฝน และมีฝนตกในหลายพื้นที่ แต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน ไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม อาจจะมีฝนทิ้งช่วง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่เกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าวนาปี ดังนั้น จึงขอให้เกษตรกรติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมทั้ง ขอให้ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด และเพาะปลูกพืชตามแผนที่ทางราชการได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
เร่งสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยเฮี้ย
"ชลประทาน"เร่งสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยเฮี้ย-ระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ร.9 พร้อมสร้างฝายต้นลำใย จ.ลำปาง แล้วเสร็จธ.ค.นี้ ช่วยราษฏรได้เร็วขึ้นมีน้ำกินใช้ตลอดทั้งปีนายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ 2 กรมชลประทาน พร้อมด้วย นายศราวุธ โลหะโชติ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม และนายสุทัศน์ สุวัจนพรพงศ์ หัวหน้าฝ่ายก่อสร้างที่ 3 ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยเฮี้ยพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลนิคมพัฒนา และฝายต้นลำใยพร้อมระบบส่งน้ำ ตำบลเสริมขวา อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง
สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยเฮี้ยตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 6 บ้านวังทอง ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นโครงการพระราชดำริ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำพร้อมระบบส่งน้ำ ความจุประมาณ 392,000 ลูกบาศก์เมตร ความยาวสันเขื่อนประมาณ 197เมตร สูงประมาณ 20 เมตร พร้อมระบบท่อส่งน้ำ ยาว 5,240 เมตร ปัจจุบันมีผลการดำเนินงานด้านก่อสร้างคิดเป็นร้อยละ 20 ของแผนฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน เดือนธันวาคม 2562 หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้กับราษฎรในพื้นที่ได้มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดทั้งปี รวมทั้งมีพื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์ประมาณ 1,500 ไร่
ส่วนฝายต้นลำใยพร้อมระบบส่งน้ำ ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านทุ่งไผ่ ตำบลเสริมขวา อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง เป็นฝายที่ได้รับการร้องขอจากราษฎรในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2551 มีลักษณะเป็นฝายคอนกรีต ยาวประมาณ 38 เมตร สูงประมาณ 2.5เมตร พร้อมระบบส่งน้ำระยะทางประมาณ 1,870 เมตร ปัจจุบันมีผลการดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ 38 ของแผนฯคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน เดือนกันยายน 2562 หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้กับราษฎรในพื้นที่ได้มีน้ำ,กินน้ำใช้ตลอดทั้งปี รวมทั้งมีพื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์ประมาณ 2,000 ไร่