เร่งระบายน้ำท่วมลงสู่แม่น้ำมูล ลดผลกระทบเมืองโคราช
กรมชลประทาน เกาะติดสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ลุยนำเครื่องจักร-เครื่องมือ เข้าติดตั้งในพื้นที่ประสบอุทกภัยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ คาดสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 3 วันนี้
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง สถานการณ์น้ำปัจจุบัน (21 ต.ค. 63) เขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำ 335.56 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 107 % ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน 5.57 ล้าน ลบ.ม. แนวโน้มน้ำไหลลงอ่างฯลดลง ยังสามารถรับน้ำได้อีก 40 ล้าน ลบ.ม. และยังคงปิดการระบายน้ำออกจากอ่างฯ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อท้าย สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำพระเพลิง ปัจจุบัน(21 ต.ค. 63) มีปริมาณน้ำ 162.25 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 104.68 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ ประมาณ 1.689 ล้าน ลบ.ม. แนวโน้มน้ำไหลลงอ่างฯลดลงอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งคลองระบายน้ำเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองปักธงชัย หลายจุดเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่งที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง กรมชลประทาน จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ต่อไป
กรมชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด พร้อมนำเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ เข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ อาทิ รถแบคโฮกำจัดวัชพืชกีดขวางทางน้ำ และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อเร่งการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
พร้อมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปสำรวจจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์ส่วนใหญ่จะเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติภาย 2-3 วันนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวของและประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และคอยรับฟังประกาศแจ้งเตือนจากทางหน่วยบงานราชการ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อโรงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร 1460 ได้ตลอดเวลา
ชลประทานยืนยันเขื่อนลำตะคอง ไม่มีการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายอ่างฯ
นายชยุธพงศ์ อำรุงสุข ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคอง ปัจจุบัน (20 ต.ค. 63) มีปริมาณน้ำประมาณ 330 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 102 % ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 43 ล้าน ลบ.ม. จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ ไปส่งผลกระทบแต่อย่างใด การระบายน้ำจะดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ มีระดับน้ำลดลง ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากจะมีการระบายน้ำออกจากอ่างฯ จะทำการแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงต่อไป
"เกษตรฯ"ตั้งWarroom ติดตามสถานการณ์น้ำเร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า จากสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่
จึงได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดแต่ละจังหวัด ติดตามและรายงานสถานการณ์น้ำและปัญหาอุทุกภัย รวมทั้งรายงานความเสียหาย เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปบูรณาการช่วยเหลือ โดยในเบื้องต้นได้รับฟังและติดตามสถานการณ์จากสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดแต่ละจังหวัด อาทิ จังหวัดเพชรบุรี สระแก้ว นครราชสีมา กาญจนบุรี ราชบุรี และจันทบุรี เป็นต้น ผ่านการประชุมทางไกล Video Conference เพื่อให้สามารถติดตามและช่วยเหลือแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้จัดตั้ง Warroom เพื่อรายงานสถานการณ์เร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะทำหน้าที่รายงาน แจ้งเตือน รวมถึงออกมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันความเสียหายและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ต่อประชาชน เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
เตือน ! แม่น้ำเพชรบุรีระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเพชรบุรีว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณภาคใต้ตอนบนทำให้มีฝนตกหนัก ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำแก่งกระจานมากขึ้น ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 315 ล้านลูกบาศก์เมตร (44 % ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบายน้ำ
ส่วนอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 38 ล้านลูกบาศก์เมตร (90 % ของความจุอ่างฯ) ระบายน้ำ 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอ่างเก็บน้ำห้วยผากมีปริมาณน้ำ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร (56 % ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบาย จากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ ประกอบกับปริมาณน้ำที่เกิดจากฝนตกด้านท้ายอ่างฯ ส่งผลให้ลำห้วยแม่ประจันต์ ที่สถานีวัดน้ำท่า B.6A บริเวณบ้านท่าเกวียน มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 259 ลบ.ม./วินาที
ส่วนแม่น้ำเพชรบุรี ที่สถานีวัดน้ำท่า B.9 บริเวณ บ้านสารเห็ด มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 55.4 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มมากขึ้น คาดว่าปริมาณน้ำดังกล่าวจะเดินทางมาถึงเขื่อนเพชรภายในเย็นวันนี้(10 ต.ค. 63) ทั้งนี้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ได้บริหารจัดการน้ำ โดยการผันน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนเพชร เข้าสู่คลองส่งน้ำสายใหญ่ 3 ระบายน้ำไปยังคลองระบายน้ำ D.9 ในอัตรา 80 ลบ.ม/วินาที พร้อมกับเพิ่มการระบายน้ำเข้าคลองส่งน้ำอีก 3 สาย ในอัตรารวม 45 ลบ.ม/วินาที ก่อนระบายออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังได้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเพชร ลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ในเกณฑ์ประมาณ 120-150 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ ยังคงมีปริมาณน้ำที่เกิดจากฝนตกท้ายอ่างเก็บน้ำไหลหลากลงสู่เขื่อนเพชรค่อนข้างมาก ทำให้ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
หากมีแนวโน้มปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น จะได้แจ้งให้ประชาชนทราบโดยเร็วต่อไป กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในเมืองเพชรบุรีและอำเภอบ้านแหลมแล้ว 15 เครื่อง พร้อมกับสำรองเครื่องสูบน้ำที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ทันทีไว้ด้วยแล้ว อย่างไรก็ตามกรมชลประทาน ได้ประสานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง พร้อมทั้งประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งแม่น้ำเพชรบุรีติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน
หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชน ได้ตลอดเวลา