All Blog
เตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูง
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติประกาศฉบับที่ 13/2565เรื่อง  แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง พบว่าระดับน้ำที่สถานีเขื่อนจิ่งหง (ประเทศจีน) เพิ่มขึ้นสะสมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 9 – 11 พฤษภาคม 2565 ประมาณ 1.25 เมตร หรืออัตราการระบายน้ำสะสม 1,105 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากการระบายน้ำเพิ่มขึ้นและมีฝนตกบริเวณท้ายเขื่อน




 





 
กอนช. ได้คาดการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจากสถานการณ์ดังกล่าวพบว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 11 – 19 พฤษภาคม 2565 ดังนี้

1. บริเวณสถานีเชียงแสน จังหวัดเชียงราย คาดว่าระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นสะสม ในช่วงวันที่ 11 – 15 พฤษภาคม 2565 ประมาณ 1.20 – 1.40 เมตร โดยเฉพาะในวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นสูงสุด ประมาณ 0.70 – 0.80 เมตร





 





 
2. บริเวณตั้งแต่สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย ถึงสถานีโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี คาดว่าระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 11 – 19 พฤษภาคม 2565 สะสมประมาณ 1.20 – 1.50 เมตร โดยขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

กอนช. ขอให้จังหวัดบริเวณริมแม่น้ำโขง โปรดประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง และแจ้งเตือนให้ประชาชนที่สัญจรทางน้ำและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง 8 จังหวัด ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขงในช่วงเวลาดังกล่าว




 





 



Create Date : 11 พฤษภาคม 2565
Last Update : 11 พฤษภาคม 2565 18:22:14 น.
Counter : 374 Pageviews.

0 comment
เตือน ! ระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-น้ำท่วมฉับพลัน
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ออกประกาศฉบับที่ 11/2565 เรื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งนี้จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วงวันที่ 7 - 10 พฤษภาคม 2565 ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้นทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และฝนตกหนักบางแห่ง





 





 

ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลนและเคลื่อนขึ้นไปปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงน้ำไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงระหว่างวันที่ 7 - 10 พฤษภาคม 2565 ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา






 





 

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

1. ติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ

2. ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ และติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากป้องกันน้ำท่วม ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. เตรียมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที

4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ และเตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

 

ประกาศ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2565







 








 



Create Date : 07 พฤษภาคม 2565
Last Update : 7 พฤษภาคม 2565 17:51:14 น.
Counter : 288 Pageviews.

0 comment
"สทนช."เชื่อมหน่วยงานเร่งแก้แหล่งน้ำขนาดเล็กแม่ฮ่องสอน
สทนช.จับมือกรมชลประทานเสริมศักยภาพ อ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง เมืองแม่ฮ่องสอน หลังประสบปัญหาท่อส่งน้ำอุดตันจากกรณีฝนชะล้างดินตะกอน ล่าสุดเร่งแก้ปัญหาให้ส่งน้ำให้ประชาชนในพื้นที่ได้แล้ว พร้อมเตรียมแผนพัฒนาเพิ่มเติมภายในปีนี้

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า การพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ถือเป็นแผนงานโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานด้านน้ำให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำที่ประชาชนในชุมชนใช้ประโยชน์โดยตรงที่ช่วยเก็บน้ำฝนไว้ใช้ช่วงแล้ง โดยเฉพาะน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ที่ผ่านมาได้ประสานหน่วยงานด้านน้ำแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถใช้น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งได้เนื่องจากท่อส่งน้ำตัน





 





 
สนทช.จึงได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 1 (สทนช.ภาค 1) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวิน ดำเนินการประสานงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยลงพื้นที่เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้นำชุมชนและกรรมการกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านห้วยโป่ง พร้อมประสานทางกับโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอนที่รับผิดชอบดูแลอ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำในโครงการชลประทานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีระดับความจุกักเก็บน้ำได้ 436,000 ลบ.ม. ส่งน้ำครอบคลุมพื้นที่ 350 ไร่

จากการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงในพื้นที่ พบว่า การอุดตันของระบบส่งน้ำเกิดจากในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกและได้ชะล้างดินที่มีการไถเปิดไว้ไหลลงสู่อ่าง ประกอบกับในพื้นที่ด้านบนของอ่างเก็บน้ำเองที่เป็นพื้นที่รับน้ำ มีการเพาะปลูกพืชของเกษตรกรค่อนข้างมาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตะกอนดินทรายไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นจำนวนมาก

ที่ผ่านมาโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ได้เข้าไปดำเนินการโดยการสูบน้ำจากด้านท้ายฉีดล้างดินตะกอนที่อยู่ในท่อและฉีดจนดินที่อยู่ในอ่าง บริเวณหน้าท่อออก ทำให้น้ำสามารถส่งต่อได้และได้สอนวิธีในการบริหารจัดการท่อส่งน้ำ เพื่อไม่ให้ท่อส่งน้ำตันอีก ประกอบกับทางกลุ่มผู้ใช้น้ำได้เข้ามาร่วมดำเนินการอัดน้ำเข้าท่อร่วมกับทางโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน และไม่เคยประสบปัญหาในการใช้น้ำแต่อย่างใด

จากการหารือระหว่าง สทนช.ภาค 1 ร่วมกับโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่มีน้ำใช้อย่างมั่นคงในระยะยาว ได้กำหนดแผนเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน โดยการส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจและคุยกับกลุ่มผู้ใช้น้ำ ขณะเดียวกัน ในเบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการอัดน้ำเข้าท่อส่งน้ำ ซึ่งได้เริ่มส่งน้ำได้ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา และระยะต่อไป โครงการฯ จะประสานงานกับส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเสนอแผนปรับปรุงระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งเพิ่มเติมจากของเดิมให้สามารถดำเนินการได้ภายในปี 2565 เพื่อให้เร็วขึ้นกว่าจากเดิมที่จะดำเนินการในปี 2566 ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ใช้ประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำได้เต็มศักยภาพโดยเร็ว




 




 



Create Date : 25 เมษายน 2565
Last Update : 25 เมษายน 2565 17:17:07 น.
Counter : 306 Pageviews.

0 comment
"พล.อ.ประวิตร"ย้ำเขื่อนสานะคามต้องข้อมูลชัด
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย พร้อมเปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทยครั้งแรกของปีในวันนี้ ได้ร่วมรับทราบความคืบหน้า พร้อมทั้งพิจารณาแนวทางการดำเนินการตามกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าภายใต้ระเบียบปฏิบัติ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (PNPCA) โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคาม สปป.ลาว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย

ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการชี้แจงข้อมูลโครงการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชน รวมถึงจัดประชุมระดับนโยบายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และล่าสุดฝ่ายไทยได้มีการประชุมร่วมกับสปป.ลาว และ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา และได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินการต่อไปของกระบวนการ PNPCA





 






 
ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ สทนช. ยังคงยืนยันที่จะขอรับข้อมูลที่เพียงพอจาก สปป.ลาว หรือ MRCS ต่อการประเมินผลกระทบข้ามพรมแดนของชุมชนท้ายน้ำ และการประเมินผลกระทบต่อเขตแดน เพื่อนำเสนอในกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ PNPCA โดยมอบหมาย สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาข้อมูลที่ สปป.ลาว จะจัดส่งให้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมแก่ประเทศไทยต่อไป

 ที่ประชุมยังได้พิจารณาเกี่ยวกับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนภูงอย สปป.ลาว ที่ สปป. ลาวเสนอให้เริ่มกระบวนการ PNPCA โดยมอบหมายให้ สทนช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ TNMC ดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมข้อมูลโครงการ โดยเฉพาะผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทย สำหรับการดำเนินการตามกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้า เพื่อแจ้งข้อบกพร่องของข้อมูลต่อ MRCS แต่หากข้อมูลมีความครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ ให้สามารถพิจารณาเริ่มกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าได้













 
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้ติดตามความก้าวหน้าของร่างแนวคิดการดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติเรื่อง การติดตาม ตรวจสอบการใช้น้ำ (PWUM) ซึ่งอยู่ในระหว่างการพัฒนาโดยคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) และประเทศภาคีสมาชิก 4 ประเทศ เพื่อเป็นกรอบการทำงานเพื่อสร้างระบบติดตามตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพในการใช้น้ำในแม่น้ำโขงสายประธานและแม่น้ำสาขาหลักของแม่น้ำโขง อีกทั้งยังเพื่อเป็นการส่งเสริมความเข้าใจที่ดีและความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก ผ่านระบบการติดตามตรวจสอบการใช้น้ำที่โปร่งใสและมั่นใจได้

ที่ประชุมมีมติให้ สทนช. ติดตามการดำเนินการให้อยู่ภายในขอบเขตของความตกลงว่าด้วยการพัฒนาลุ่มน้ำโขงอย่างยั่งยืน (Mekong Agreement 1995) ตลอดจนระเบียบปฏิบัติ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ที่กำหนดให้ติดตาม ตรวจสอบการใช้น้ำที่มีขอบเขตเฉพาะการใช้น้ำที่อาจส่งผลกระทบที่สำคัญต่อการไหลของแม่น้ำโขงเท่านั้น ซึ่งจะไม่รวมถึงการใช้ในครัวเรือนและการใช้ส่วนน้อยที่ไม่มีผลกระทบที่สำคัญ

“สทนช. ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการพิจารณาถึงผลกระทบและมาตรการตามหลักวิชาการของโครงการที่เกิดขึ้นในแม่น้ำโขง จะดำเนินการอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างสูงสุด โดยจะมีการนำข้อมูลความคืบหน้าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องและตรงไปตรงมา และสำหรับข้อสั่งการจากการประชุมที่ได้รับในวันนี้ จะมีการเร่งดำเนินการให้เกิดรูปธรรมอย่างชัดเจน และนำมารายงานผลให้คณะกรรมการทราบโดยเร็วต่อไป” เลขาธิการ สทนช. กล่าว





 




 



Create Date : 22 เมษายน 2565
Last Update : 22 เมษายน 2565 18:28:18 น.
Counter : 293 Pageviews.

0 comment
“ทูตฮังการี”พบ“ประวิตร”สานสัมพันธ์ร่วมมือด้านน้ำระหว่างประเทศ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายชานโดร์ ชีโปช เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง และหารือทวิภาคีด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจด้านน้ำระหว่างไทย-ฮังการี โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะประธานกรรมการดำเนินงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (ฝ่ายไทย)

เข้าร่วม โดยมีประเด็นที่หยิบยกในการหารือครั้งนี้ ได้แก่ ความร่วมมือเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำไทย-ฮังการี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจด้านน้ำระหว่าง สทนช. และกระทรวงมหาดไทยของฮังการี และการมอบเครื่องกรองน้ำ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ให้กับโรงเรียนชุมชนวัดรางบัว (แหลมราษฎร์บำรุง) จ.ราชบุรี โดยเลขาธิการ สทนช. เป็นผู้รับมอบ นอกจากนี้ ยังได้หารือในประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-ฮังการี และความร่วมมือด้านต่างๆ รวมถึงโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2566 ด้วย






 






 
รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลฮังการีที่ได้ร่วมสร้างและพัฒนาการความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างทั้งสองประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และยินดีในความสำเร็จของการบูรณาการขับเคลื่อนความร่วมมือในการจัดการน้ำร่วมกัน ภายหลังการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่าง สทนช. และกระทรวงมหาดไทยฮังการี (เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562) ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความเชี่ยวชาญ นวัตกรรมและเทคโนโลยี

รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยเฉพาะการจัดการน้ำเสียและคุณภาพน้ำ แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 พร้อมขอบคุณฮังการีสำหรับการมอบเครื่องกรองน้ำให้โรงเรียนชุมชนวัดรางบัว (แหลมราษฎร์บำรุง) จ.ราชบุรี ซึ่งช่วยให้คนในชุมชนได้เข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัย ที่เป็นความจำเป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิต อันส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

สำหรับการหารือในครั้งนี้ ไทยได้แสดงความประสงค์เชิญให้ฮังการีร่วมหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในสาขาที่ฮังการีมีความเชี่ยวชาญ เช่น อาหารและการเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ การบริหารจัดการน้ำและการจัดการน้ำเสีย วิทยาศาสตร์การแพทย์ และยานยนต์แห่งอนาคต รวมทั้งสนับสนุนการลงทุนของไทยในฮังการีเพื่อผลิตสินค้าเข้าสู่ตลาดยุโรป ด้านฮังการีได้แสดงความประสงค์ให้ไทยใช้กลไกความใกล้ชิดทางการเมืองเพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันกับประเทศสมาชิก EU ประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตร อาหาร เทคโนโลยีการบริหารจัดการน้ำ และอุปกรณ์การแพทย์ พร้อมการผลักดันการเยือนระดับสูงและการประชุมตามกลไกทวิภาคีของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งเสริมสร้างความสามารถในการดึงดูดและสร้างการมีส่วนร่วม หรือ soft power ในไทย ผ่านความร่วมมือด้านการศึกษา และการมอบทุนการศึกษาให้นักศึกษาไทยไปศึกษาที่ฮังการี




 




 



Create Date : 22 เมษายน 2565
Last Update : 22 เมษายน 2565 18:10:42 น.
Counter : 217 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments