* + * + * + * รีวิวเดอะเลจเจนด์ แม่กลอง (The Legend Maeklong) อดีตงามริมสายน้ำ ตอนแรก * + * + * + *
สวัสดีค่ะ
วันนี้มีรีวิวที่พักแห่งหนึ่งซึ่งเข้ารอบการประกวด Thailand Boutique Awards 2010 ( อ่านรายละเอียดคลิกที่นี่) นะคะ
ซึ่งก็ถือว่าตัวเองโชคดีมากๆ ค่ะ ที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมเป็น 1 ในทีมนักรีวิวของโครงการ Thailand Boutique Awards 2010 ซึ่งมีทั้งหมด 97 โรงแรมด้วยกัน (อยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้าง ก็คลิกตามลิงก์ข้างบนนะคะ) และตัวเองได้ไปเยี่ยมชมที่นี่เป็นที่แรก (นอกจากไปถ่ายรูป+เก็บข้อมูลเพื่อทำรีวิวแล้ว ก็ถือเป็นการตรวจสอบอะไรหลายๆ อย่างว่าตรงตามเกณฑ์ที่ทางผู้จัดการประกวดกำหนดไว้หรือเปล่าด้วยค่ะ)
ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการร่วมระหว่าง บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด โดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ค่ะ และมีสองหน่วยงานที่สนับสนุนงานครั้งนี้ก็คือ MasterCard และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ค่ะ
เอาหละค่ะ ว่าแล้วก็เข้าเรื่องกันเลย ที่ที่เราไปที่แรกเลยก็คือที่นี่ค่ะ
The Legend Maeklong : เดอะ เลจเจนด์ แม่กลอง
เว็บไซต์นะคะ //www.thelegendmaeklong.com
(เห็นราคาที่หน้าเว็บแล้วอย่าตกใจนะคะ เพราะจะมีโปรโมชั่นสำหรับลดเปอร์เซนต์ไปมาก-น้อยแล้วแต่ช่วงที่ไปพักน่ะค่ะ เพราะงั้นไม่ได้จ่ายราคานี้นะคะ แหะๆ)
สำหรับการเดินทางไปที่นี่นะคะ หลังจากวิ่งเส้นพระราม 2 ก็ต่อด้วยเส้นธนบุรี-ปากท่อ วิ่งผ่านมหาชัย จนถึงแยกแม่กลอง พอข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองปุ๊บ ก็ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อไปลอดใต้สะพานค่ะ (จุดสำหรับเลี้ยวจะอยู่หน้าโชว์รูม HONDA พอดี) พอลอดใต้สะพานแล้ว ก็เลี้ยวขวาที่ซอยแรกเลย จากนั้นก็วิ่งตรงไปจนเจอทีตัน ก็เลี้ยวขวา แล้วก็ตรงไป วิ่งตามป้ายเลยค่ะ ที่นี่จะอยู่ทางขวามือนะคะ เพื่อความชัดเจน ดูแผนที่อีกทีแล้วกันเนาะ

พอเข้าสู่ถนนปทุมมาลัยปุ๊บ ให้สังเกตนะคะ จะมีบ้านใหญ่ๆ สวยงามอย่างนี้อยู่ทางขวามือค่ะ

จากนั้นให้ดูป้ายทางขวามือไว้นะคะ จะเจอป้ายทางเข้าที่พักแบบนี้ค่ะ

ซึ่งก็จะอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนเทศบาล ๒ แสงวณิชอุปถัมภ์แบบนี้ค่ะ (ถ้ามาจากอีกทางก็สังเกตโรงเรียนเอานะคะ)

เลี้ยวเข้าไปปุ๊บ ก็จะเจอทางเข้าที่พักแบบนี้เลยค่ะ
ถ้าจะจอดรถก็ขับเข้าไปจอดในรั้วนะคะ
จอดได้ไม่เยอะมาก แต่ก็เหมาะสมกับจำนวนห้องพักของที่นี่แหละค่ะ 

จอดรถเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปค่ะ ทางเดินเข้าไปด้านในจะเป็นอย่างนี้นะคะ เพราะฉะนั้นขอแนะนำว่า ไม่ควรเอากระเป๋าล้อลากไปค่ะ 

ระหว่างเดินเข้าไปจะผ่านอาคารเรือนไทยทางซ้ายมือสองหลัง ซึ่งมีประตูทางเข้าร่วมกันแบบนี้นะคะ เรือนทางซ้ายมือคือ เรือนบางคนที ส่วนอาคารทางขวามือ คือ เรือนอัมพวาค่ะ

เรือนบางคนทีจะมีสองห้องนอน (แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว และเป็นห้องน้ำสไตล์พิเศษ แตกต่างจากห้องพักอื่นๆ ของที่นี่นะคะ จะเป็นกลมๆ หน่อย แต่ไม่มีรูปมาให้ดู เนื่องจากวันนั้นมีแขกพักอยู่ค่ะ)
ส่วนเรือนอัมพวา จะมีทั้งหมดสามห้องนอน มีรูปให้ดูนะคะ เพราะงั้นเดี๋ยวจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกทีพร้อมโพสต์รูปให้ดูค่ะ 
เลยจากอาคารเรือนไทยไป ก็จะเป็นล็อบบี้สำหรับติดต่อค่ะ

แต่เนื่องจากเราเป็นแขกที่ได้รับเชิญ (ไม่ใช่แขกไม่ได้รับเชิญนะ แฮ่ ) ก็เลยมีเจ้าหน้าที่ (คุณต้อง ซึ่งขอบอกว่า อัธยาศัยดีมากกกกกก ) มาต้อนรับ แล้วก็พาไปนั่งที่เรือนแม่กลองก่อนค่ะ ซึ่งในส่วนของเรือนแม่กลองนี้เอง ก็จะมีจุดเด่นเชิงประวัติศาสตร์ก็คือ ที่นี่เป็นบ้านตึกหลังแรกแห่งเมืองแม่กลองของขุนทวีราชทรัพย์ (ผัน โกมลมน) พระคลังข้างที่ประจำเมืองราชบุรี สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 โดยช่างฝืมือชาวจีน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทยกับตะวันตกด้วยค่ะ
รูปจะมีผสมๆ กันบ้างระหว่างกลางวัน เย็นย่ำ และกลางคืนนะคะ แหะๆ

นั่งอยู่แป๊บหนึ่ง คุณต้องก็นำน้ำ welcome drink เป็นน้ำใบเตย และกุญแจห้องพักมาให้ค่ะ

เราได้ห้องแม่กลอง 5 ซึ่งถ้าหันหน้าเข้าึตึก ก็จะอยู่ชั้นล่างทางขวามือค่ะ

ที่จริงแล้วห้องนี้เป็น Junior Suite นะคะ คือมีสองห้อง connecting กัน แต่เราไปแค่สองคน ก็เปิดแค่ห้องเดียวค่ะ ห้องสองห้องนี้จะเป็นตัว L (หรือจะเรียกว่า J ดี) แบบนี้ค่ะ

เปิดประตูเข้าไปปุ๊บ จะเป็นห้องโซนนั่งเล่นก่อนค่ะ มีโต๊ะทำงาน แล้วก็มีกำแพงแบบเจาะช่องกั้นระหว่างโซนนี้กับเตียงนอนค่ะ

เตียงแบบ double ค่ะ ซึ่งเตียงแบบนี้จะมีอยู่แค่ไม่กี่ห้องนะคะ ต้องตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่อีกทีค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเตียง twin (แยกสองเตียง) น่ะค่ะ ซึ่งคุณต้องบอกว่า เวลาลูกค้าจองมา ก็จะถามรายละเอียดเยอะหน่อย เพราะจะได้จัดห้องได้เหมาะกับลูกค้าค่ะ อย่างคราวนี้เราก็แจ้งว่าเป็นแฟนกัน เค้าก็เลยจัดห้องที่มีเตียงแบบนี้ให้
ส่วนถ้าเป็นลูกค้าที่สูงอายุ จะไม่จัดให้อยู่ชั้นบน เนื่องจากบันไดขึ้นไปชั้นบนจะค่อนข้างชันน่ะค่ะ

ถัดจากเตียงไปก็จะเป็นทีวี (ไม่น่าอยู่ข้างๆ เลยค่ะ ดูไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่อะนะคะ) หลังทีวีนั่นก็จะเป็นห้องน้ำนะคะ ซึ่งแยกอ่างล้างหน้าไว้ข้างนอก ตรงหน้าห้องน้ำค่ะ

ปลายเตียงจะเป็นประตู connecting กับอีกห้องค่ะ แต่ล็อกเอาไว้ เลยเปิดไปสำรวจไม่ได้
ส่วนบนเตียงก็จะมีผ้าขนหนูผืนใหญ่-เล็กอย่างละผืน โบรชัวร์ และการ์ดต้อนรับค่ะ



ไปดูห้องน้ำกันดีกว่าค่ะ
อย่างที่บอกนะคะ อ่างล้างหน้าจะอยู่ด้านนอกหน้าห้องน้ำ

ตรงอ่างล้างหน้า จะมีขวดโลชั่นอยู่ (ซึ่งเราว่าควรจะเป็นขวดสบู่เหลวด้วยนะคะ เอาไว้ล้างมือง่ะ)
ซึ่งก็จะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัวด้วยค่ะ
แล้วก็ในถุงผ้าซ้ายมือนั่น เป็นไดร์เป่าผมนะคะ


เข้าไปก็จะเจอโถสุขภัณฑ์ค่ะ (มีสายชำระให้) แล้วก็ในสุดจะเป็นฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่น
มีกระจกกั้นระหว่างโถสุขภัณฑ์กับส่วนอาบน้ำที่เป็น shower ค่ะ ซึ่งจะมีขวดสบู่เหลวกับแชมพูให้
พื้นจะเป็นหินทั้งหินเรียบและหินก้อนๆ ค่ะ สำรวจแล้วไม่มีคราบ ตะไคร่ สะอาดอยู่ค่ะ 



จะเห็นว่า ห้องนี้ไม่มีตู้เสื้อผ้านะคะ จะมีก็แต่ที่แขวนเสื้อผ้าให้ตรงใกล้ๆ ห้องน้ำแบบนี้ค่ะ

ใต้ทีวีเป็นตู้เย็นนะคะ บนตู้เย็นมีชากาแฟให้ฟรี ส่วนกระติกน้ำร้อนจะอยู่ที่โต๊ะทำงานค่ะ
ของในตู้เย็นมีไม่เยอะมากนักอะค่ะ


มองย้อนกลับไปที่เตียงและส่วนที่เป็นโต๊ะทำงานนะคะ จะเห็นกระติกน้ำร้อนอยู่ค่ะ
รวมทั้งตะกร้าที่มีสแน็คให้ด้วยค่ะ

ราคาของสแน็คและเครื่องดื่มค่ะ กินได้สบายกระเป๋าอยู่นะคะ ราคาใกล้เคียงข้างนอกเลยค่ะ 

บนโต๊ะจะมีนิตยสารภาษาต่างประเทศ ซึ่งฉบับนี้จะมีพาเที่ยวแม่กลองรวมทั้งที่พักคือที่นี่ด้วยค่ะ




รูปนี้ให้ดูความกว้างของห้องนี้นะคะ

ส่วนวิว ฝั่งหนึ่งจะเป็นหน้าต่างปิดตายค่ะ เปิดไม่ได้
ส่วนฝั่งที่ติดประตู จะเป็นวิวสวนเล็กๆ แบบนี้นะคะ แหะๆ (มีกระจกกั้นค่ะไม่ต้องกลัวยุง)
แต่ประตูนี่จิ ถึงจะปิดแล้วก็ยังมีช่องว่างระหว่างกรอบประตูกับประตูอะค่ะ แต่แปลกที่ไม่มียุงเลยนะคะ


จากนั้นก็ไปเก็บภาพอื่นๆ ค่ะ ไปเก็บภาพห้องโถงของเรือนแม่กลองก่อน
จะเป็นเหมือนห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่นของบ้านแหละค่ะ
เข้าไปก็จะเจอโต๊ะคู่สองตัวอยู่ทางขวามือก่อน
บนผนังจะมีรูปของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๗ และรูปของคุณปู่กับคุณย่าเจ้าของบ้านนะคะ


ฝั่งซ้ายมือจะเ็ป็นที่ให้นั่งเล่นต่างๆ พร้อมของสะสมของเจ้าของบ้านค่ะ
ทั้งตุ๊กตาต่างประเทศ เครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่า ฯลฯ มากมายค่ะ




จากนั้นก็เดินมาเก็บภาพโดยรวม ซึ่งพอมองไปจากริมน้ำ จะเจอเรือนแม่กลองอยู่ตรงกลาง ส่วนทางขวามือคือห้องอาหารหรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ร้านอาหารบ้านขุนทวีนั่นเองค่ะ แต่บรรยากาศแบบนี้ เลือกนั่งริมน้ำดีกว่าเนาะ

ไปนั่งเล่นที่ริมน้ำกันค่ะ บรรยากาศตอนเย็นๆ ดีมากค่ะ ซึ่งก็มีทั้งโซนที่มีหลังคาและเปิดโล่งให้นั่งนะคะ

อ้อๆ แล้วก็ที่นี่มีอินเตอร์เน็ตไร้สายให้เล่นฟรีนะคะ ตรงริมน้ำนี่ก็มีสัญญาณค่ะ เล่นเน็ตได้สบายเลย
หลังจากไต่ถามพนักงาน (คุณแก้ว) เรื่องอาหารแนะนำ (ซึ่งแน่นอนว่า แม่กลองก็ต้องปลาทูสิเคอะ) ระหว่างปลาทูซาเตี๊ยะ กับปลาทูต้มมะดัน (ซึ่งคุณแก้วให้ข้อมูลว่า เหมือนต้มยำค่ะพี่ แต่ให้ความเปรี้ยวด้วยมะดันแทน) ก็เลยเลือกปลาทูซาเตี๊ยะเป็นเมนูแรก
รสชาติ จะออกแนวสามรสน่ะค่ะ เค็ม เปรี้ยว หวาน
รสไม่เข้มข้นมากนักนะคะ แต่ก็ใช้ได้อยู่ค่ะ ถ้าชอบเผ็ดก็กินกับพริกในน้ำปลาพริกแล้วกันค่ะ


จานต่อไป ยังคงเป็นปลาทูค่ะ ชุดน้ำพริกกะปิ ปลาทู
ตัวน้ำพริกไม่ค่อยเผ็ดค่ะ (เอิ่ม...เริ่มรู้สึกว่าเค้าทำอาหารรสคนกรุงเทพฯให้กินง่ะ ไม่ใช่รสคนท้องถิ่น เพราะเคยกินอาหารร้านท้องถิ่น และบ้านเพื่อนที่อยู่แม่กลอง มันรสชาติเข้มข้น จัดจ้านกว่านี้อะค่ะ )
ตัวปลาทู ไม่ควรชุบอะไรแบบนี้ก่อนทอดน่ะค่ะ เพราะตัวเนื้อปลาทูก็สดดีอยู่แล้วอ้ะ

หมึกผัดกะปิ ตัวนี้อร่อยค่ะ recommend

ถ่ายรูปหมู่อาหารสามอย่างที่สั่งมาค่ะ

กินไปก็ชมวิวไป chill chill ค่ะ ที่นี่จะอยู่ตรงข้ามกับวัดบ้านแหลมเลยนะคะ

นั่งดูวิวไป ก็มีนกบินไปมาเป็นระยะค่ะ แอบซูมเก็บภาพมาตัวหนึ่ง (ไม่ใช่นักดูนก เลยไม่รู้ว่านกอะไรนะคะ แหะๆ) ยืนบนกอผักตบ ท่าทางแน่นิ่งมาก ตอนนี้น้ำทะเลกำลังขึ้นค่ะ น้ำในแม่น้ำเลยไหลจากฝั่งขวามือ (ทะเล) ไปทางซ้ายมือ (ต้นน้ำ)

ซึ่งนอกจากลูกค้าที่มาพักที่นี่แล้ว ก็มีหลายคนค่ะที่มาเพื่อรับประทานอาหารที่นี่โดยเฉพาะ
ส่วนใหญ่ก็เลือกนั่งริมน้ำกันแหละค่ะ


แต่ถ้าท่านใดไม่ถนัดนั่งพื้น (ถึงจะมีเบาะรองก็เหอะนะ) ก็แนะนำให้นั่งส่วนของร้านอาหารของเขาดีกว่าค่ะ เพราะจะเป็นโต๊ะ-เก้าอี้ ที่นั่งได้แบบปกติเหมือนร้านอาหารทั่วไปน่ะค่ะ

ซึ่งแม้กระทั่งลูกค้าที่มารับประทานอาหารอย่างเดียว คุณต้องก็ยังยินดีพาชมห้องพักโน่นนี่ค่ะ รูปนี้แอบถ่ายลูกค้ากลุ่มนี้มา กำลังชี้ชวนให้ดูมะพร้าวเก้ายอดกันอยู่ค่ะ 

สำหรับบล็อกวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนนะคะ บล็อกหน้าจะพาไปดูห้องพักแบบอื่นๆ รวมทั้งอาหารเช้าของที่นี่ด้วยค่ะ ปิดท้ายกันด้วยรูปวิวริมน้ำยามค่ำคืน กับวิววัดบ้านแหลมที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามนะคะ (ถ้าช่วงลอยกระทง ท่าทางจะสนุกอ้ะ อิอิ )

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาที่บล็อกเราค่ะ
730460/5963/497
Create Date : 04 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 4 ตุลาคม 2553 8:58:44 น. |
|
30 comments
|
Counter : 16866 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: iamorange วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:9:51:48 น. |
|
|
|
โดย: nLatte วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:9:52:20 น. |
|
|
|
โดย: no filling วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:10:33:29 น. |
|
|
|
โดย: cakecode วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:10:37:07 น. |
|
|
|
โดย: nLatte วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:10:48:15 น. |
|
|
|
โดย: โอ-พิน (o_pinP ) วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:11:15:33 น. |
|
|
|
โดย: narellan วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:12:06:45 น. |
|
|
|
โดย: Panino วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:12:29:49 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:13:07:44 น. |
|
|
|
โดย: ปลาทอง9 วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:15:43:01 น. |
|
|
|
โดย: คนหัวฟู วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:20:53:48 น. |
|
|
|
โดย: pinkypunch วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:21:52:38 น. |
|
|
|
โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:8:43:10 น. |
|
|
|
โดย: ellie@aggie วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:11:04:43 น. |
|
|
|
โดย: since (Phuphamok ) วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:12:21:15 น. |
|
|
|
โดย: since (Phuphamok ) วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:14:15:31 น. |
|
|
|
โดย: since (Phuphamok ) วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:14:50:25 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:16:20:05 น. |
|
|
|
โดย: iamorange วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:21:26:32 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:22:43:08 น. |
|
|
|
โดย: kirofsky วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:23:34:15 น. |
|
|
|
โดย: คนบางคณฑี IP: 122.154.18.254 วันที่: 26 กันยายน 2555 เวลา:12:51:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]

|
ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ
เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก
ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com หรือ https://www.facebook.com/saoguide
|
|
|
|
ขอตามมาเที่ยว รีวิวเดอะเลจเจนด์ แม่กลอง ด้วยคนค่ะ
ที่พักบรรยากาศ ธรรมชาติ ติดแม่น้ำด้วย สวย จิง จริง ค่ะ
ไว้มีโอกาส จะไปพักบ้างค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะค่ะ