+ + = = = + + เที่ยวระนอง ตอนที่ 10 Blue Sky@เกาะพยาม + + = = = + +
สวัสดีค่ะ
รีวิวล่าสุด รีวิว กระต่ายขาวซีฟู้ด โคราช (คลิกเพื่ออ่าน)
หน้าแฟนเพจ สำหรับเผื่อจะไปไต่ถามอะไร หรือพูดคุยกัน
คลิกโลโก้ด้านล่างแล้วคลิกไลก์เพื่อเป็นแฟนเพจได้เลยค่ะ ^^

หลังจากรีวิวทริประนองมาแล้วดังนี้
1. อาบน้ำแร่เพื่อความสดชื่น (คลิกเพื่ออ่าน)
2. โรตีนิสรา ณ หงาว (คลิกเพื่ออ่าน)
3. รีวิว Blue Sky Resort@Ranong (Sorrento) ห้อง Junior Suite (คลิกเพื่ออ่าน)
4. รีวิว Blue Sky Resort@Ranong (Sorrento) ห้อง Deluxe และ Suite(คลิกเพื่ออ่าน)
5. รีวิว ส้มตำเจ๊ต้อม แซ่บอยู่ค่า (คลิกเพื่ออ่าน)
6. รีวิวไข่น้ำแร่ (คลิกเพื่ออ่าน)
7. รีวิววัดบ้านหงาว พระประธานดีบุก (คลิกเพื่ออ่าน)
8. รีวิววัดวารีบรรพต สังขารหลวงพ่อด่วน ไฟไม่ไหม้ (คลิกเพื่ออ่าน)
9.รีวิวพระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) (คลิกเพื่ออ่าน)
วันนี้ก็พาไปดูอาหารเช้าของที่นี่ รวมทั้งจะไปดูที่พักอีกแห่งในเครือของที่นี่ด้วยนะคะ นั่นก็คือ Blue Sky@เกาะพยาม (Maldives) นั่นเองค่าา
แต่ก่อนจะพาไปเที่ยวก็ขอพาไปหม่ำอาหารเช้าของบลูสกาย ณ ระนองหรือซอเรนโต้ด้วยกันก่อนนะคะ ซึ่งอาหารเช้าที่นี่จะไม่ได้เป็นบุฟเฟท์นะคะ เป็นเซ็ตเมนูซึ่งก็เลือกได้ค่ะว่าจะเอาข้าวต้มโป๊ะแตกหรือจะเป็น ABF ค่ะ
มาดูหน้าตากันดีกว่าเนาะ
ของเราค่ะ ข้าวต้มโป๊ะแตก พร้อมน้ำส้ม (ไม่ได้คั้นสด) กับชา (ลิปตัน )

ผลการกินนะคะ ข้าวต้มโป๊ะแตกอร่อยมวั่กกกกกกที่สุดในสามโลก รสจัด เผ็ด เปรี้ยว ครบรส อร่อยมากๆ ไม่ได้กินข้าวต้มอร่อยแบบนี้จากที่ไหนมาก่อน ส่วนน้ำส้มกับชา เอ่อ..แนะนำไปแล้วค่ะว่าควรเปลี่ยนเพราะมันไม่เหมาะกับระดับของโรงแรมอ้ะ รวมทั้งซองน้ำตาลที่เป็นซองพลาสติกยี่ห้อ aro ด้วยค่ะ
แต่ GM แจ้งว่าที่จำเป็นต้องใช้ซองพลาสติกเพราะที่นั่นชื้นมาากค่ะ ทำให้ใช้ซองกระดาษไม่ได้ พอเป็นซองพลาสติกก็มีอยู่ยี่ห้อเดียว ส่วนจะทำใส่เป็นโถก็ไม่ได้อีก เพราะมันจะชื้นเสียหมดเลย
ก็เลยไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าจะมียี่ห้ออื่นดีๆ ให้เค้าใช้ได้มั้ยในสภาวแวดล้อมอย่างนั้นอะค่ะ แต่อย่างไรก็ตามแต่ ตัวชาควรเปลี่ยนอยู่ดีอะค่ะ แหะๆ เราว่ามันไม่โอถ้ารร.นี้จะใช้ยี่ห้อนี้อะน้า เง่อ...
ตัวนี้เป็นลาเต้ของพี่อีกคนค่ะ เอ..หรือโกโก้ไม่แน่ใจนะคะ

ถ้าเป็นเอบีเอฟก็จะมีหน้าตาตามนี้เลยนะฮ้าบบ

ห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ กับห้องอาหาร (ตรงด้านหลังเคาน์เตอร์เครื่องดื่มอะค่ะ) สวยดีอ้ะ ชอบม่านเค้ามากๆ

อิ่มอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยังท่าเรือที่จะพาเราไปยังบลูสกายเกาะพยามแล้วค่ะ
นั่งรถตู้ไปจากที่พักราวๆ สัก 40 นาทีได้มั้งคะ (จำไม่ค่อยได้แล้วง่ะ )
ก็จะถึงท่าเรือตรงนี้ค่ะ จะมีอาคารซ้ายมือแบบนี้ชื่อว่า Blue Monkey อยู่
เป็นกึ่งๆ ร้านอาหารแล้วก็เป็นที่ให้แขกของบลูสกายรอเรือ พักอิริยาบถและเข้าห้องน้ำได้ด้วยค่ะ

ภายในของบลูมั้งกี้นะคะ มีที่ใ้ห้นั่งแล้วก็มีของขายอยู่บ้างพอสมควรค่ะ

ระหว่างรอเรือของทางรีสอร์ท ก็มีเรือเมล์มาพอดีค่ะ เลยถามไถ่ข้อมูลมาฝากกันนะคะ
เรือเมล์ไปเกาะพยามจะมีด้วยกัน 2 รอบนะคะคือ 09.30 น.กับ 14.30 น.ค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ไม่เกินสองชั่วโมง ค่าโดยสารอยู่ที่ 150 บาทต่อท่าน (ราคาเมื่อมีนาคม 55) แต่ถ้าเป็นเที่ยวที่ออกจากเกาะ จะออกเวลา 08.00 น.กับ 14.00 น.ค่ะ ซึ่งจะจุได้ที่ประมาณ 130 คนนะคะ

แต่เรือของเราทริปนั้นเป็นสปีดโบ๊ทค่ะ ซึ่งจะจุได้ที่ 20-25 คนต่อเที่ยว ถ้าเลือกเดินทางโดยวิธีนี้ ก็จะเสียค่าใช้จ่าย 350 บาทต่อคนต่อเที่ยว ใช้เวลาเดินทาง 45 นาทีค่ะ (เร็วกว่าเกินครึ่งอ้ะ) ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 เที่ยวดังนี้นะคะ
ออกจากฝั่ง - 10.00 11.30 14.30 และ 16.30 น.ค่ะ
ออกจากเกาะ - 09.00 10.00 11.00 และ 15.00 น.ค่ะ

นอกจากนั้นที่ท่าเรือนี้ก็ยังมีเรือไปเกาะช้างด้วยนะคะ (ไม่ใช่เกาะช้างที่ตราดเน้อ เหอๆ
ซึ่งเรือที่จะไปเกาะช้างจะออกเร็วกว่าเกาะพยาม 30 นาทีอะค่ะ ถามพี่เค้าพี่เค้าบอกว่า เกาะช้างจะธรรมชาติดีอยู่ เจริญสู้เกาะพยามไม่ได้ แล้วก็มีมอร์แกนด้วย แต่ตัวหาดของเกาะพยามจะสวยกว่า แล้วก็มีกาหยูด้วยค่ะ
และแล้วเรือก็ออกเดินทางค่ะ
เท่าที่จำได้ ทางขวามือ จะผ่านเกาะสอง เกาะสน เกาะหลาม (ซึ่งพี่เค้าบอกว่าเมื่อก่อนเคยเป็นของไทย ตอนนี้เป็นของพม่าไปแล้ว) เกาะสิบไห ซึ่งมีชาวมุสลิมกับพม่าอยู่นะคะ (อันนี้เป็นของไทย) ส่วนทางซ้ายมือจะเห็นน้ำตกหงาวอยู่ไกลๆ
ก่อนจะถึงเกาะพยามจะเห็นเกาะช้างก่อนด้วยค่ะ (แต่ภาพที่ถ่ายๆ มานี่จำไม่ได้แล้วว่าเกาะไหนเป็นเกาะไหนอะค่ะ แหะๆ )


ระหว่างนั้นก็แซงเรือลำนี้ไปค่ะ ไม่แน่ใจว่ากำลังจะเดินทางไปไหน แล้วถ้าต้องการนั่งเรือแบบนี้ต้องติดต่อที่ไหนยังไงนะคะ ไม่มีข้อมูลตรงนี้เลยง่ะ 

ภาพนี้ถ้าจำไม่ผิดนะคะ คือ เกาะช้าง ณ ระนองค่ะ

ส่วนนี่จะอยู่เยื้องไปทางซ้ายนะคะ เกาะทะลุค่ะ

และแล้วก็ถึงเกาะพยามค่ะ
ที่เห็นสีขาว-ชมพูนั่นคือวิหารกลางน้ำนะคะ
สีทองๆ นั่นรูปเหมือนของกรมหลวงชุมพรฯ ค่ะ
ส่วนที่อยู่บนฝั่ง ไล่จากทางขวาไปซ้ายจะเป็นพระสังกัจจายน์ พระพุทธรูป แล้วก็จะมีศาลพ่อตาหินขาวอยู่

ถ้ามองไปทางซ้ายมือก็จะเห็นอาคารหลังคาซุ้มเห็ดแล้วนะคะ
ตรงนั้นก็คือล็อบบี้ / ห้องอาหารของบลูสกาย ณ เกาะพยามแล้วหละค่ะ

เรือจอดที่ท่าค่ะ ซึ่งจะต้องเดินบนสะพานปูนยาวๆ ไปพอสมควร ลอดซุ้มไปก็เจอรถกอล์ฟของทางรีสอร์ทมาจอดรออยู่แล้วค่ะสองคัน

มองย้อนกลับไปทางซุ้มจะเจอพี่วินมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายอยู่อย่างนี้เลยนะคะ เกาะพยายามมีเนื้อที่ประมาณ 36 ตารางกม.ค่ะ ประมาณเกาะเสม็ดได้
สำหรับค่ามอเตอร์ไซค์ ถ้าเราเรียกไปที่บลูสกายก็ 20 บาทค่ะ สำหรับการเช่าในการขับบนเกาะ ถ้าเป็นออโต้วันละ 250 บาท ถ้าธรรมดาวันละ 200 ส่วนน้ำมัน ณ วันนั้น (มีนา 55) อยู่ที่ลิตรละ 50 บาทค่ะ
ถ้าเราเรียกมอเตอร์ไซค์ไปอ่าวกวางปีบ อยู่ที่ 100 บาท ถ้าเรียกไปบ้านสวนตาหยู 80 บาท มอเตอร์ไซค์นี่จะมีอยู่ราวๆ 30 คันนะคะ ก็ให้ไว้เป็นข้อมูลเผื่อใครเอาไปใช้ประโยชน์ได้เนาะ

นั่งรถกอล์ฟไปแป๊บหนึ่งก็จะถึงที่ล็อบบี้แล้วหละค่ะ ก็มีเวลคัมดริ๊งค์มาต้อนรับค่ะ คราวนี้เป็นน้ำสตรอเบอรี่ผสมส้มหละค่ะ อร่อยไปอีกแบบเหมือนกันค่ะ

หน้าตาบริเวณล็อบบี้ของที่พักค่ะ (รวมทั้งเป็นห้องอาหารด้วยแหละ)

ตรงก่อนถึงห้องอาหาร โซนหนึ่งซึ่งเราจะเห็นก่อนจะเป็นเคาน์เตอร์สำหรับติดต่อ รวมทั้งเป็นที่ขายของที่ระลึกต่างๆ พวกเสื้อ แม็กเน็ต และอื่นๆ ด้วยค่ะ
ที่เคาน์เตอร์นี่เราสามารถจะมายืมไดร์เป่าผม ดีวีดีได้ด้วยนะคะ นอกจากนี้ที่นี่ก็มี Wi-fi ฟรีทั้งโรงแรม รวมทั้งคลื่นมือถือ (เอไอเอส) เต็มเปี่ยมด้วยค่ะ

วิวของแถวๆ ล็อบบี้ค่ะ น่ามานั่ิงชิลล์อ่านหนังสือ ดริ๊งค์ พักผ่อนมากมายอ้ะ

จากนั้นก็เิริ่มพาไปเดินสำรวจที่พักของบลูสกาย ณ เกาะพยาม (มัลดีฟส์) แล้วหละค่ะ
นี่คือทางเดินเข้าที่พัก จะเป็นแท่นปูนกับทราย ก่อนจะถึงบริเวณไม้ระแนงนะคะ
เก๋ๆ ดี ชอบ


ส่วนนี่คือลักษณะห้องพักของที่นี่นะคะ ที่นี่จะมีตัวแบบห้องเหมือนกัน ต่างกันที่โซน+วิวอะค่ะ
ถ้าเป็นห้อง L1-7 จะไม่อยู่ริมน้ำค่ะ แต่ถ้าเป็น R1-13 จะอยู่ริมน้ำ ส่วนตัวมีสะพานเดินลงตามรูปเลย
แต่ตอนไป น้ำยังไม่ขึ้น (แล้วก็ไม่ใช่ช่วงน้ำขึ้นสูงสุดด้วยอ้ะ) ก็เลยไม่สวยสุดๆ แบบที่ควรค่ะ
เจ้าภาพแจ้งว่า น้ำจะขึ้นเยอะในช่วงแรมและขึ้น 15 ค่ำค่ะ +-ไปประมาณ 3 วัน จะขึ้นถึง 4 เมตรเลย
แต่ถ้านอกจากนั้นจะขึ้นแค่ประมาณ 2 เมตรอะค่ะ เพราะงั้นถ้าใครอยากให้เจอที่พักน้ำเต็มๆ ก็ไปช่วงนั้นนะคะ
มีห้องพักทั้งหมด 19 ห้องนะคะ

ห้องที่เราดูจะเป็นห้อง R1 ค่ะ
จะเห็นว่ามีชานห้องเล็กๆ ให้ได้นั่งเล่นกันด้วยนะคะ

สัญลักษณ์หน้าห้องค่ะ นอนอยู่ห้ามรบกวน (นะ) / กรุณาทำความสะอาดด้วย น่ารักดีค่ะ 

เปิดเข้าไปในห้อง จะเจอห้องน้ำทางซ้ายมือ ถัดไปเป็นเตียงนอนและเดย์เบด (มั้ย?) ตามภาพค่ะ

ทางขวามือจะเป็นตู้สำหรับแขวนผ้า ตู้เซฟ ตะกร้าซักผ้า กระเป๋าสาน แล้วก็พัดลม (จำไม่ได้แล้วว่าเป็นไอน้ำด้วยหรือเปล่านะคะ)

ตู้เซฟและรองเท้าแตะ (ที่ให้ใช้เฉพาะในห้องพักนะคะ - แสดงว่ามีใส่ออกไปเดินเล่นข้างนอกด้วยแหงมๆ เลยต้องเตือนกันเอาไว้ เหอๆ)

มองออกไปทางปลายเตียง จะเป็นชานเล็กๆ เมื่อกี๊นะคะ
มีทีวีแอนด์ตู้เ้ย็น (ที่อยู่ในตู้ไม้อะค่ะ) ด้วยค่ะ

ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี (ถ้าไม่เตรียมมา ยืมที่เคาน์เตอร์ได้นะคะ) และของในตู้เย็นค่ะ

ถ่ายภาพเตียงนอนมาให้ดูค่ะ ชอบที่มีเพนท์รูปอย่างนี้จังอ้ะ

มุมที่หันไปทางเดย์เบดค่ะ น่ามากลิ้งอ่านหนังสือมากมายง่ะ


วิวจากเดย์เบดของห้องนี้ค่ะ

ไปดูห้องน้ำกันบ้างเนาะ ออกโทนขาว-ครีัม-น้ำตาลค่ะ เราชอบโทนนี้หละ
เห็นแล้วนึกถึงรีสอร์ทอีกที่แถวๆ เกาะช้าง หุๆ

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ค่ะ ที่วางของเค้าเก๋ดี
มีสายชำระให้นะคะ

ที่นี่ไม่มีอ่างค่ะ มีแต่ชาวเวอร์ซึ่งก็มีทั้งแบบปกติและแบบเรนชาวเวอร์ด้วย

มีที่ให้นั่งเล่นไว้เหล่คนเดินผ่านไปมาในที่พัก (ไม่ใช่แล้วเจ๊ ) นั่งชิลล์ ชมวิว สังสรรค์พูดคุยกันด้วยค่ะ แต่เหมาะกับตอนเย็นย่ำอะนะ ณ เพลานั้นแดดเปรี้ยง สู้ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ เหอๆ

ก่อนจะพาไปเที่ยวชมรอบๆ เกาะนะคะ เราก็ต้องไปหม่ำอาหารกลางวันกันก่อนนิ อิอิ
สำหรับมื้อกลางวันวันนั้นเจ้าภาพเน้นเป็นอาหารซีฟู้ดค่ะ ซึ่งเจ้าตัวก็แจ้งว่า ถ้าเป็นแพ็คเก็จมาก็จะได้อาหารประมาณนี้เหมือนกันนะคะ (ที่นี่จะเน้นซีฟู้ด ขณะที่ทางซอเรนโต้จะเน้นอาหารฝั่งยุโรปอะค่ะ)
ที่นี่ราคาอาหารจะไม่ได้แพงมากนะคะ แต่ราคาที่นี่จะมี +vat อีกต่างหากค่ะ
เอาราคาเท่าที่เราจดๆ มานะคะ อย่างกาแฟเอสเปรสโซ่ 45 บาท (อย่าลืมบวกภาษีอีกนะคะ) แต่ถ้าเป็นเอสเปรสโซเย็นจะอยู่ที่ 60 บาท (ขณะที่ที่ซอเรนโต้จะเป็น 55 กับ 70 บาทตามลำดับ แต่ net แล้วค่ะ ราคาไม่ต่างกันมากนักนะคะ)
ข้าวต้มหมู,ไก่ อยู่ที่ 80 บา สปาเก็ตตี้ครีมซอส 150 บาท สปาเก็ตตี้เบคอนไวน์ขาว 150 บาท อิตาเลียนเบอร์เกอร์ 150 บาท ฟิชแอนด์ชิพ 180 บาท สเต็กอยู่ที่ 250-350 บาทค่ะ จะเห็นว่าราคาไม่ได้แพงเวอร์นะคะ โออยู่ค่ะ กินได้
มาดูกันบ้างดีกว่าว่าวันนั้นเราหม่ำอะไรไปบ้างนะคะ แหะๆ
จานแรกกุ้งมังกรอะไรสักสิ่ง ซึ่ง..ไม่ได้จดรสชาติอาหารมาด้วยซะงั้น เหอๆ เพราะงั้นให้ดูแต่หน้าตาค่ะ

จานต่อไปกุ้งลายเสือเผาค่ะ เนื้อแน่นเด้งดึ๋ง สดมวั่กกกก คู่ควรแก่การกินอย่างยิ่ง อร่อยค่ะ

ปูนึ่งค่ะ สดมากกกอีกเช่นกัน เนื้อแน่น อร่อยค่ะ ของเค้าคัดมาสดจริงอะไรจริงอ้ะ

แกงจืด ก็โอเคค่ะ น้ำซุปหอมหวานดี

เครื่องดื่มโอเคเหมือนเคยหละค่ะ ดื่มแล้วสดชื่นดีค่ะ

ปลากระพงซอสมะขามค่ะ
จานนี้รสชาติดีค่ะ แต่ปลามันแข็งไปหน่อยหนึ่งง่ะ 

ปลาหมึกย่าง สด เด้งดีอีกเช่นเคย วัตถุดิบโอค่ะ สดทุกอย่างเลย

สิ่งที่เสียดายสุดคือน้ำจิ้มนี่แหละค่ะ คือว่า..เราติดกินออกหวานกว่านี้นิดหนึ่งอะค่ะ
แต่นี่...ไม่หวานเลยแม้แต่นิ้ดดดหนึ่ง เสียใจอ้ะ เลยทำให้เปรมปรีดิ์ไม่เต็มที่อะค่ะ

ส่วนนี่ พี่ๆ สื่อซื้อมาต่างหากค่ะ เราเรียกไม่ถูกแล้วอ้ะ คล้ายๆ มะม่วงแต่ลูกกลมๆ ป้อมๆ กว่า แล้วก็กลิ่นแรงๆ รสออกเปรี้ยวหน่อยอะค่ะ พี่เค้าเอาให้ครัวที่นี่ปอก+หั่นให้ค่ะ
ขออภัยนะคะพี่..แต่หนูไม่ชอบง่ะ แหะๆ 

ส่วนที่ที่พักเตรียมไว้ให้คือเจ้านี่ค่ะ เต้าหู้นมสด หอมนมนะคะ อร่อยดีทีเดียว

ปิดท้ายด้วยหน้าตาเมนูของที่นี่ค่ะ

สำหรับอาหารแนะนำของที่นี่นะคะ มีดังนี้ค่ะ (อันนี้จำไม่ได้ว่าจดจากเมนูหรือถามเชฟมา ฮา)
-ข้าวผัดมันกุ้ง 90 บาท -ข้าวหมูทอดญี่ปุ่น 100 บาท -ปลาหมึกพริกเผาไข่เค็ม 150 บาท -กระพงทอดราดซอสมะขาม (ที่เราหม่ำไปหละค่ะ) 45 บาทต่อขีดค่ะ
สำหรับเอนทรี่นี้ก็คงจบแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ
เอนทรี่หน้าของทริปนี้จะเป็นการพาไปเที่ยวชมรอบเกาะกันบ้างค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1,469,696+112026=1581722/7617/703
Create Date : 16 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 8:21:08 น. |
|
31 comments
|
Counter : 18177 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: moopanda23 วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:8:20:20 น. |
|
|
|
โดย: wicsir วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:9:10:23 น. |
|
|
|
โดย: มิลเม วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:13:48:47 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:17:14:54 น. |
|
|
|
โดย: phunsud วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:21:23:35 น. |
|
|
|
โดย: ~ sิมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:23:08:46 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 สิงหาคม 2555 เวลา:0:59:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 สิงหาคม 2555 เวลา:6:53:10 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 17 สิงหาคม 2555 เวลา:7:45:50 น. |
|
|
|
โดย: คนป่าหาธรรม วันที่: 17 สิงหาคม 2555 เวลา:15:33:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 สิงหาคม 2555 เวลา:20:13:28 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 17 สิงหาคม 2555 เวลา:21:59:00 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 สิงหาคม 2555 เวลา:1:32:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 สิงหาคม 2555 เวลา:6:46:11 น. |
|
|
|
โดย: prizella วันที่: 18 สิงหาคม 2555 เวลา:18:09:47 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า วันที่: 18 สิงหาคม 2555 เวลา:21:46:20 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 สิงหาคม 2555 เวลา:6:40:29 น. |
|
|
|
โดย: ปรัซซี่ วันที่: 19 สิงหาคม 2555 เวลา:7:28:03 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 19 สิงหาคม 2555 เวลา:16:40:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 สิงหาคม 2555 เวลา:22:55:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 สิงหาคม 2555 เวลา:7:02:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]

|
ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ
เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก
ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com หรือ https://www.facebook.com/saoguide
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|