ซื้อของเข้าบ้าน
ไม่ว่าเราจะอาศัยอยู่ที่ไหน การซื้อของดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ถ้าต้องอยู่อาศัยยังต่างประเทศแล้วเราไม่มีข้อมูลก็จะมีความเสี่ยงต่อการโดนโกงราคาสินค้าได้
อยู่ต่างบ้านต่างเมืองประหยัดได้ก็ควรประหยัด วันนี้แนะนำเรื่องการซื้อของสำหรับผู้ที่ต้องไปอาศัยอยู่ที่ประเทศจีน หากคุณไม่มีข้อมูลราคาสินค้าการที่คุณเดินเข้าไปในร้านขายของชำแล้วซื้อของอาจโดนโกงราคาได้ วันแรกที่ไปผมเข้าไปซื้อน้ำขนาด 1.5 ลิตรในร้านขายของชำ มีป้ายราคาติดไว้ 3.- หยวน เราก็คิดว่าน่าจะราคานี้ ซื้อมาสองขวดเจ้าของร้านลดราคาให้เหลือแค่ 5.- หยวน เล่นเอาเรารู้สึกซาบซึ้งเลยทีเดียว แต่พอมารู้ราคาทีหลังว่ามันราคาขวดละแค่ 2.- หยวนเท่านั้น เล่นเอาเรารู้สึกแย่ไปเลย ถามว่าราคาต่างกันแค่นี้ถึงกับบ่นเลยหรือแค่ 1.- หยวนเท่านั้นงกไปได้ ถูกต้องแค่ 1.- หยวน แต่ถ้าคิดเป็น% ถือว่าสูงเอาเรื่องเลยทีเดียว
ในเรื่องราคาสินค้าอย่างเช่น เครื่องดื่ม แช่เย็นกับไม่แช่เย็นจะราคาต่างกัน โดยแช่เย็นจะแพงกว่าเล็กน้อย (คิดค่าแช่) ซึ่งต่างกับของไทยที่ส่วนมากราคาเดียวกัน
"ห้าง Carrefour ที่เราคุ้นเคย ตอนนี้ถอนทุนจากประเทศไทยไปแล้ว"
"Wal-Mart ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเหมือนกัน"
ตรงนี้ผู้เขียนแนะนำให้เข้าห้างอย่างพวก Wal-Mart, Carrefour หรือห้างใหญ่ๆ ก็จะทำให้เราพอจะทราบราคาสินค้าคร่าวๆ ว่าราคาของสินค้าเป็นอย่างไร สามารถยึดเป็นราคาพื้นฐานได้
ร้าน 2.- หยวน ก็เป็นอีกทางเลือกที่ไม่เลว ทุกอย่างราคาเดียวหมดสองหยวนเท่านั้น สินค้าแนะนำ กระดาษเช็ดปาก กล่องพลาสติกใส่อาหาร กะละมังพลาสติก ขันน้ำ แต่ร้านค้าแบบนี้สินค้าบางอย่างก็ตาดีได้ตาร้ายเสียเหมือนกัน ถึงมันจะราคาถูกแต่ถ้าซื้อมาแล้วใช่การไม่ได้ก็น่าเสียดาย
ตลาดสด โดยทั่วไปถ้าต้องการซื้อของสดจำพวก เนื้อสัตว์ ผักผลไม้ ตลาดสดก็นับเป็นทางเลือกที่ดี ถึงแม้ราคาสินค้าบางอย่างจะแพงกว่าห้าง แต่สินค้าส่วนมากก็สดใหม่กว่าของในห้างเช่นกัน อยากชมบรรยากาศของตลาดคลิก
ร้านสหกรณ์ในโรงเรียน หรือตามมหาวิทยาลัย สินค้าในร้านค้าพวกนี้สินค้าบางอย่างราคาถูกกว่าห้างก็มี ส่วนมากพอๆ กันหรือแพงกว่าเล็กน้อย ข้อเสียของร้านค้าแบบนี้คือ บางครั้งไม่มีเงินทอนในส่วนของ เจี่ยว (เหมา) เช่น ของราคา 7.4.- หยวน (เจ็ดหยวนสี่เจี่ยว) เราจ่ายไป 10.- หยวน อาจได้ทอนมาแค่ 2.5.- หยวน เนื่องจากร้านค้าพวกนี้สามารถใช้บัตรเติมเงินจากโรงอาหารของมหาวิทยาลัยในการชำระค่าสินค้าได้ จึงทำให้เงินทอนไม่ค่อยมี สรุปไม่มีเงินทอนเลยทอนไม่ครบ
ตลาดมือสอง ตลาดขายของเก่า หรือตลาดค้าส่ง สำหรับตลาดแบบนี้ต้องต่อราคาให้กะว่าโดนด่าเลย เพราะพ่อค้าแม่ค้าชอบบอกผ่าน จำไว้เถอะ ต่อให้คุณพูดภาษาจีนได้ดีแค่ไหนคนพวกนี้ก็ดูออก เหมือนคนภาคกลางฟังคนเหนือ หรือคนใต้พูดน่ะแหละ มันก็ฟังออกว่าไม่ใช่คนท้องถิ่น เช่นกันคนกรุงเทพฯ พูดภาษาอีสานคนอีสานก็ฟังออกว่าไม่ใช่ของแท้ ทำให้พวกเขาเกิดความคิดที่จะโก่งราคา
"กิจกรรมลดราคาดูคนซะก่อน ระวังกระเป๋าเงินให้ดีด้วย"
ลานกิจกรรม สำหรับการซื้อของตามกิจกรรมพวกนี้ก็ต้องติดตามข่าวสารกันให้ดีๆ บางครั้งก็เหมือนช่วงนาทีทองสินค้าลดราคาเยอะเหมือนกัน หรือบางครั้งก็อาจเป็นพวกสินค้าต่างประเทศนำเข้ามาจำหน่าย โดยทั่วไปสินค้าที่นำมาจำหน่ายราคาไม่แพง อย่างที่บอกไปมันเป็นกิจกรรมส่งเสริมการขาย นานๆ ทีได้ไปซื้อแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ต้องติดตามข่าวหน่อยว่ามีเมื่อไหร่
จากภาพผมไม่แนะนำให้ผู้หญิงถือกระเป๋าแบบเจ๊กระเป๋าแดงนะ ถือแบบนี้มีความเสี่ยงต่อการโดนล้วงกระเป๋าสูงมาก ถือไว้ด้านหน้าถึงจะเกะกะเวลาเลือกของ แต่ดูจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่ามาก
"แหล่งขายของพื้นเมือง ราคาตีหัวนักท่องเที่ยว"
ความจริง หัวข้อที่เขียนใน Blog คราวนี้โดยหลักแล้วต้องการเขียนในส่วนของ ผู้ที่จะมาอยู่อาศัยที่ประเทศจีนช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่เมื่อจะกลับประเทศ แน่นอนของฝากก็เป็นของที่เราต้องซื้อ อันนี้นับเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เหมือนโดนบังคับ แหล่งขายของมันก็มีไม่กี่แหล่งหรอก ราคาก็บอกผ่านเยอะ แถมแต่ละร้านมันดันจับมือกันบอกราคาเดียวกันอีก ก็ต้องต่อราคาให้มากๆ กะว่าเอาให้โดนด่า ไม่อย่างนั้นเราจะมาเสียดายทีหลัง ผมมีข้อสังเกตอยู่อย่างว่าคนที่พูดภาษาจีนไม่ค่อยได้มักต่อราคาเก่ง ไม่รู้ทำไมเจอมาหลายคนแล้ว เป็นอย่างนี้กันหมด
อยู่ต่างบ้านต่างเมืองประหยัดได้ก็ควรประหยัด ประหยัดกับงกมันแตกต่างกันนะครับ ที่สำคัญการที่เราประหยัดเงินนั้นคนที่ได้ประโยชน์ก็ไม่ใช่ใครอื่น ก็เราน่ะแหละที่ได้ประโยชน์ ก็หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างสำหรับผู้ที่จะมาศึกษาต่อ หรืออยู่ในประเทศจีนในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
Create Date : 23 กันยายน 2554 |
|
47 comments |
Last Update : 3 ธันวาคม 2560 23:39:57 น. |
Counter : 2649 Pageviews. |
|
|
|
ห้างคาร์ฟูเนี่ย เจ๊งไม่เป็นท่าจากไทยไปแล้วนะคะ กลายเป็นบิ๊กซีจัมโบ้แทน
เพราะการตลาดที่นี่ แข็งขันกันสูง เขาไม่แข่งเลยก็อยู่ไม่ได้
รินว่าที่ีนั่นหรือนี่ ราคา และป้ายราคาในห้างก้คงไม่ต่างกัน
เอามาสแกนดู ต่างกันเล็กน้อย ราคาไม่ตรงป้าย ห่างกัน สลึงบ้างล่ะ
พอเราทักท้วงกันก็บอกว่า ลืมเปลี่ยน บางคนก็บอกช่างมันเหอะ
แต่ช่างมันเหอะเนี่ย หลายแสนคนไปเท่าไหร่แล้ว
อันนี้เป็นกลโกงของทางห้าง
รินเชื่อว่าใครหลายคนคงเจอมาหมดแล้วค่ะ
ห้างสีเขียวเนี่ยตัวดีเลย ฮี่ๆ