ชั่วโมงเรียนขายชาติ II ยังขายได้อีก
หลังจากคราวที่แล้ว ที่ได้เริ่มชั่วโมงเรียนขายชาติไปแล้ว ความจริงยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้เขียน ซึ่งแต่ละเรื่องก็เด็ดๆ ทั้งนั้น ถ้าเขียนให้หมดในคราวเดียวคงไม่มีใครอ่านแน่ (เพราะยาวเกิน) มาต่อกันเลยดีกว่า
ในชั่วโมงวิชาวัฒนธรรมนั้นจะเรียนตามหนังสือ แต่บางครั้งก็มีการนอกประเด็นในหนังสือไปบ้างเหมือนกัน ส่วนใหญ่ตัวจุดชนวนจะเป็นพวกชาวยุโรป พวกชอบจุดประเด็น
มีครั้งนึงมีการพูดถึงเรื่องเครื่องแบบนักเรียน โดยประเทศจีนชั้นประถมไม่มีเครื่องแบบ จะใส่ชุดอะไรก็ได้แต่จะมีการผูกผ้าพันคอสีแดงไว้ สมัยก่อนใครมีผ้าพันคอนี้จะได้ว่าเท่มาก เพราะใช่ว่าจะมีกันได้ทุกคนซึ่งต่างจากปัจจุบัน มัธยม มีการใส่เครื่องแบบครับ แต่เหมือนแค่สูทตัวนอกเท่านั้นเอง ส่วนชั้นมหาวิทยาลัยแต่งกตามสบายครับ "แล้วประเทศคุณล่ะ แต่งกายกันอย่างไร?"
อันนี้ชาติทางยุโรป อเมริกาจะแต่งกันตามสบาย ซึ่งดูเหมือนพวกยุโรปจะสนใจเรื่องเครื่องแบบนักเรียนของทางเอเชียเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะของประเทศญี่ปุ่น เค้าชมว่าสวยซึ่งคงได้รับอิทธิพลมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งของไทยต้องใส่เครื่องแบบไปจนถึงระดับอุดมศึกษา
มีวันนึงอยู่ๆ อาจารย์จุดประเด็นเอง เพราะมีคนเข้าสายแบบน่าเกลียดว่า "ประเทศคุณถ้าเข้าเรียนสายจะเกิดอะไรขึ้น?" คนที่เข้าสายตกใจขอโทษก่อนเลย ซึ่งอาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเป็นการแซวเล่นกันมากกว่า แต่อาจารย์ก็ต้องการคำตอบอย่างจริงจัง
ประเทศทางยุโรปค่อนข้างโหด คือ ไม่เช็คชื่อให้หากร้ายสุด คือไม่ให้เข้าห้องเรียน ญี่ปุ่นก็โหดใช่ย่อย เพราะพี่แกเล่นปิดประตูหน้าโรงเรียนเข้าเรียนไม่ได้เท่ากับขาดเรียนทั้งวันเลย ดังนั้นจึงไม่แปลกหากจะเห็นเด็กญี่ปุ่นวิ่งตาลีตาเหลือกเมื่อใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียน แต่ของไทยนี่น่าสนใจคือ มีการเคารพธงชาติก่อนเข้าเรียน เลยทำให้ไม่ค่อยเข้าเรียนสาย สายก็แค่เข้าแถวเคารพธงชาติไม่ทัน ทุกคนรู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ (คงแปลกใหม่สำหรับฝรั่ง)
แล้วถ้ามาสายจริงๆ ล่ะจะทำอย่างไร ตรงนี้ผมเน้นย้ำกับเพื่อนๆ ทุกคนในห้อง ว่าจากประสบการณ์ผมใช้วิธีนี้ แต่คนอื่นผมไม่ทราบ คือ ให้ผู้ปกครองเข้าไปส่งถึงตัวโรงเรียนแล้วเข้าไปพูดกับอาจารย์แล้วจะไม่โดนทำโทษ (ตอนประถมผมใช้วิธีนี้) ซึ่งหลายชาติดูเหมือนจะชอบวิธีนี้มาก
ของจีนโหดสุดๆ ครับ หากมาสายจะโดนเอาชื่อไปเขียนประจานหน้าห้องเรียน (บางโรงเรียน) ซึ่งนับว่าโหดมาก ดังนั้นเด็กจีนจึงไม่ค่อยไปเรียนสายเพราะกลัวโดนประจาน
ต่อไปเป็นคำถามประเภทภาพลักษณ์ คนชาตินั้นๆ ห้ามตอบ "ถ้าพูดถึงประเทศจีนคุณนึกถึงอะไร" อันนี้ถามนักศึกษาต่างชาติทุกคน คำตอบก็หลากหลายกันไป เช่น แพนด้า ต้นไผ่ ชา กำแพงเมืองจีน ประธานเหมา ฯลฯ บางคนตอบซ้ำกันบ้าง แต่ไม่ใช่ปัญหา หลังจากที่อาจารย์ถามนักเรียนต่างชาติเสร็จก็จดลงกระดาษดำว่ามีอะไรบ้างที่คนต่างชาตินึกถึง จากนั้นก็เริ่มถาม "ถ้านึกถึงประเทศ...คุณจะนึกถึงอะไร?"
จนกระทั่งวนมาถึงประเทศไทย "ถ้านึกถึงประเทศไทยคุณจะนึกถึงอะไร?" ถ้าคำตอบแรกๆ คือ ต้มยำกุ้ง วัดพระแก้ว หรือความมีน้ำใจของคนไทยนี่ผมจะไม่คิดมากเลย แต่นี่ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า คาบาเร่ต์โชว์ ทิฟฟานี่โชว์ ซึ่งไม่ได้แสดงอะไรถึงความเป็นไทยแม้แต่น้อย ผมไม่ชอบภาพลักษณ์แบบนี้ของไทยเลย ผิดกับชาติอื่น เช่น ประเทศญี่ปุ่น คนจะนึกถึงซูชิ อาหารญี่ปุ่น การ์ตูน ประเทศเกาหลี คนจะนึกถึงกิมจิ
"ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจีนคุณจะนึกถึงที่ไหน?" คำถามนี้ก็สนุกใช้ได้ เราจะได้เห็นมุมมองของคนหลายๆ ชาติ คำตอบไม่ค่อยหลากหลายครับสำหรับข้อนี้ ส่วนมากจะตอบว่า ปักกิ่ง กำแพงเมืองจีน จะมีเมืองอื่นๆ บ้างเช่น เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง
จนกระทั่งวนมาถึงประเทศไทย "ถ้านึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยคุณจะนึกถึงที่ไหน?" ไม่น่าเชื่อว่าคำตอบต้นๆ ที่น่าจะเป็นวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ กลับ กลายเป็น ไปดูโชว์ทิฟฟานี่ที่พัทยา... ...
"ถ้าพูดถึงภาพลักษณ์ของคนจีน คุณคิดว่าคนจีนเป็นคนอย่างไรในสายตาของคุณ?" ข้อนี้แต่ละคนใส่กันไม่ยั้ง มีทั้งดีและไม่ดี เช่น ขยันขันแข็ง ขี้โกง ชอบหลอกขายของราคาแพงๆ แต่โดยรวมก็ยังถือว่าดี (คงให้เกียรติอาจารย์มั้ง เลยไม่โจมตีมาก)
จนกระทั่งวนมาถึงประเทศไทย "ถ้าพูดถึงภาพลักษณ์ของคนไทย คุณคิดว่าคนไทยเป็นคนอย่างไรในสายตาของคุณ?" คำตอบที่ได้รับมาค่อนข้างไปในทางดี คือ ยิ้มง่ายเข้ากับคนง่าย รักสนุกอัธยาศัยดี ถึงแม้เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่นญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าเอาจริงจริงจังกับงาน เราจะดูด้อยกว่า แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าประเทศเวียดนามที่หลายๆ คนส่ายหน้าแล้วพูดว่า คนประเทศนี้ชอบขี้โกง และก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ เมื่อสอบวัดระดับทางภาษา
ภาพลักษณ์เป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นจะทำอะไรขอให้นึกถึงประเทศชาติด้วย อย่าให้ประเทศเรามีชื่อเสียเหมือนบางประเทศที่ผมยกตัวอย่าง วันนี้พอแค่นี้ดีกว่า เขียนแค่นิดเดียวไม่นึกว่าจะยาวขนาดนี้ แค่นี้ยังไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านจบรึเปล่าเลย
Create Date : 27 เมษายน 2553 |
|
30 comments |
Last Update : 27 เมษายน 2553 11:37:06 น. |
Counter : 1492 Pageviews. |
|
|
|