เมื่อสิทธิของประชาชนในต้นไม้ที่พวกเขาปลูกขึ้นถูกริดรอน ต้นไม้ที่จะปลูกขึ้นใหม่ก็น้อยลง ต้นไม้และสวนป่าทีปลูกไว้แล้วกำลังถูกตัดฟันอย่างเงี่ยบๆเพื่อเปลี่ยนที่ดิน เป็นสวนยางพาราและไร่อ้อย แม้แต่พวกป่าไม้เองเมื่อเกษียรอายุจากราชการยังไม่สนใจปลูกต้นไม้เพราะกลัว กฎหมายป่าไม้
มีต้นไม้ป่าหลายชนิดที่เกษตรกรปลูกขึ้นอาทิเช่น ไม้สัก ไม้พะยูง-ชิงชัน ไม้กฤษณาฯล ได้ตกเป็นไม้หวงห้ามอันเนื่องกฏหมายป่าไม้ 2484 ฉบับเก่าแก่ที่เข้มงวด ต้นไม้ข้างต้นที่เกษตรกรปลูกขึ้นนี้ถ้าต้องการจะตัดนำไปใช้ประโยชน์จะต้องขออนูญาตหลายขั้นตอนตั้งแต่การตัด-ขนย้าย-การแปรรูป และมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทุกขั้นตอน เสียเวลาอันมีค่าในการไปติดต่อเจ้าหน้าทีอีกต่างหาก แม้ว่าท่านจะลงทุนปลูกในที่ดินกรรมสิทธิและด้วยเงินของท่านเอง กฏหมายฉบับนี้มีใครกล้าแตะและแก้ไขเพราะโดนคำขู่ว่าจะทำให้ป่าหมด นักกฏหมายมือหนึ่งก็ยอมถอย มีตัวอย่างหนึ่งที่เห็นชัดเจนคือการส่งเสริมเกษตรกรปลูกไม้สักทอง แต่ไปตั้งภาษีส่งออกไว้40%ทำให้ส่งออกลำบาก ราคา ก็ตกต่ำ ถูกพ่อค้าคนกลางและโรงเลื่อยกดราคา จะตัดแปรรูป ก็ต้องขออนุญาตหลายขั้นตอน เกษตรกรก็เลยขายทิ้งรือไม้สักออกเปลี่ยนไปปลูกออ้ย-มันสำปะหลัง ทำให้ป่าไม้ลดลงไปอีก สุดท้ายผลการอนุรักษ์ป่าไม้ด้วยกฎหมายฉบับนี้ทำให้สัตว์ป่าและไม้มีค่าหายากของประเทศตกอยู่ในภาวะเสี่ยงใกล้สูญพันธ์ ดังข่าวการลักลอบตัดไม้พะยูงกันมากมายทั่วประเทศ ประเทศไทยมีเครื่องมือในการป้องกันรักษาป่าเพียงเครื่องมือเดียวคือกฎหมายป่าไม้โบราณที่พิสูจน์แล้วว่าไม่ใด้ผลเพราะป่าไม้ถูกบุกรุกทำลายเกิดทะเลภูเขาหัวโล้นมากมายในป่าต้นน้ำในภาคเหนือทำให้ประเทศนี้ขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านป่าต้นน้ำที่มากพอในการอุ้มซับน้ำเอาไว้ส่งผลให้น้ำวิ่งลงจากภูเขาลงมาท่วมทีราบลุ่มภาคกลาง-กรุงเทพ ปี2554พื่นที่อู่ข้าว-อู่น้ำเสียหายไป12ล้านไร่ เศรษฐกิจภาพรวมเสียหายสูงถึง1.4ล้านๆบาท และไม่อาจคาดเดาได้ในปี2555 แต่ผมว่าไม่น่าเอาอยู่เพราะเข้ากลางหน้าฝนแล้วแต่ฝนยังตกไม่มากน่าเทมามากช่วงปลายปีเหมือนเดิมอีก และถ้าเกิดมหาภัยน้ำท่วมทุกปีเราจะอยู่ได้อย่างไร จนป่านนี้แม้แต่เรื่องง่ายๆทีไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณและกู้เงินมาลงทุนในด้านปลูกต้น-ป่าไม้เป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อป้องกันดินพังทะลายและน้ำท่วม เราก็ยังไม่สร้างสิ่งจูงใจและปรับปรุงกฎหมายเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนสนใจการปลูกต้นไม้.