สัจธรรม ทุนนิยม และประชาธิปไตย
• คนอเมริกัน ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา มีนิสัยเสียในการใช้จ่าย นั่นคือการบริโภคมากกว่ารายได้ ส่งผลให้มีเงินออมติดลบต่อเนื่องเมื่อมีวิกฤตจึงฟื้นตัวยาก (สังคมไทยกำลังเลียนแบบ)
• นิสัยไม่ออมแล้ว ยังเอาอนาคตมาบริโภคในปัจจุบัน จากการก่อหนี้มหาศาลภายใต้สูตรสำเร็จของลัทธิบริโภคนิยมทำให้คนอเมริกันใช้เงินไปกับการเก็งกำไรค่อนข้างสูง ในรอบ 15 ปีมานี้เมื่อเกิดวิกฤตซับไพรม์ทำให้คนชั้นกลางส่วนใหญ่ เข้าสู่ภาวะล่มจมฟื้นไม่ขึ้นเพราะเงินจมในราคาอสังหาริมทรัพย์ ที่ถดถอยอย่างต่อเนื่องโดยยังไม่มีธุรกิจมหัศจรรย์ใหม่ในอนาคต เข้ามาทดแทน (โลกเก่ากำลังจะตาย แต่โลกใหม่ก็ไม่พร้อมจะเข้ามาแทน ผลลัพธ์ คือสัตว์ประหลาดตัวร้าย) มันยากเกินความสามารถของมนุษย์หรือไม่นั้น คำถามนี้ “เกอเซ่”ผู้เคยติดกับความจนย่ำแย่มาก่อน เมื่อเขาให้ เฟาสต์ค้นหาคำตอบว่า จะทำได้อย่างไรโดยไม่ต้องทำข้อตกลงกับปีศาจ
• ปัจจัยชี้ขาดความฟื้นตัวรอบใหม่ของสหรัฐนั้นอยู่ที่ไหน !ข้อเท็จจริงอย่างที่ทราบกันก็คือ ทั้งทำเนียบขาว และพีรรครีพับลิกันต่างได้ชัยชนะคนละครึ่ง แต่นั้นก็เป็นแค่ชัยชนะทางการเมืองที่ว่างเปล่าเพราะยังไม่ได้ตอบโจทย์ว่า เศรษฐกิจอเมริกาจะฟื้นตัวยั่งยืนอย่างไรปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงกลไกประชาธิปไตยที่ไม่ได้เอื้ออำนวยต่อเงื่อนไขสำคัญที่สุดของการแก้ไขทางเศรษฐกิจมหภาคคำถามก็คือว่า การเมืองที่ทำงานบกพร่องในการแก้ปัญหาสำคัญเฉพาะหน้าของประเทศคือเรื่องเศรษฐกิจ ควรจะปฏิรูปตัวมันเองอย่างไร คำตอบไม่ได้ง่ายเลยเพราะไม่มีนักการเมืองฝ่ายไหนยอมรับหรอกว่า ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา(ประเทศไทยขณะนี้ ??)
• เอเซีย จะฉกฉวยโอกาสจากความเพลี่ยงพล้ำของสหภาพยุโรป และอเมริกาแบบเดียวกับที่ยุโรปเคยใช้จุดอ่อนของเอเซียรุกรานเข้ามา และกอบโกยความมั่งคั่งไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน นี่คือ สัจธรรมของโลก ! โดยข้อเท็จจริง ทุนและเงินลี้ภัยน่าจะย้ายมาเอเซียมากขึ้นน่าจะเป็นพลวัตที่ต้องเตรียมตัวต้อนรับให้ดี
(ที่มา : วิษณุ โชลิตกุล, พลวัต ปี 2011 ในข่าวหุ้น 8 ส.ค. 2554 หน้า 2)