No. 254 สายหมอก บน น้ำปาย
บล๊อกอันดับ 254 ประจำวัน จันทร์ /ศุกร์ กำลังคีย์เล่าเรื่อง เมืองปายในสมัยตอนเด็ก ลมหนาว พัดมาอย่างแรง ทำให้นึกถึง อ.ปายยามตะวันลับฟ้า มีแต่ความมืด ความหนาวสอดแทรกเข้า ฝาห้องครัวไม้ขัดแตะ ด้านหลังที่ น้า ๆ นั่งกับที่ผมนั่งทำกับข้าว เป็นชานโล่ง ไม่มีหลังคา ทำให้ความหนาวเย็นเพิ่มขึ้น จนต้องใส่ฟืนเพิ่มบน ลานดินตั้งเตา ที่อยู่ในครัว ใช่ครับ เราไม่ได้ใช้เตาถ่านกันเลย ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ ช่วยน้าหญิงตักผัดถั่วเน่าเมอะใส่จานเสร็จ ยกไก่ต้มทั้งตัวออกจาก หม้อต้มยังอุ่น ๆ อยู่ ใช้มือฉีกเนื้อไก่เป็นเส้นใส่ชามใบโต เนื้อไก่บ้านอุ่น หอมจนอด จิกใส่ปากชิมไม่ได้ เนื้อหวาน น้าหยา เป็นคอ กรึบน้ำพรรค์นั้น กำลังคั่ว หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ซอยในหม้อดิน จนหอมเท ใส่ครกหินให้ มานพ ตำ ส่วนเม็ดผักชี ดีปลี มะแขว่น พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ดกับพริกแห้ง อีก 5 เม็ดคั่วต่อ มันสุกหอมไว แล้วเทตาม ไปกับเกลือ เครื่องแกงที่ตำ เริ่มส่งกลิ่นหอม หม้อดินใบใหม่กำลังร้อนฉ่าบน เตาฟืน น้าหยาเป็นผู้ชายนะครับ ตัวโต นัยตาฉ่ำยิ้มเก่ง เทน้ำซุบต้มไก่ใส่ไปนิด คดน้ำพริกในครก ใส่คนด้วยกระจ่าที่ร้อนจัด กลิ่นหอม.... เติมน้ำซุปไปอีก ตามด้วยเนื้อไก่ที่ผมฉีก ส่วนคอไก่กับ ตีนไก่ กระดูกหลังสับพอคำเทรวม คนไปมาแล้วปิดฝา ฟืนที่ผมเติมเข้าไป ลุกลามเลียหม้อดินสีดำด้วยเขม่า ไม่นานน้ำเดือนพุ่งพล่าน ไอน้ำ กลิ่นโชย น้าหยา ตักน้ำต้มยำไก่บ้านขึ้นชิม ใช้มือหยิบเกลือป่นลงไปอีก คนไป มาตัก ให้ผมชิม โห รสชาติ เค็มตามด้วยความหวานของเนื้อไก่ฉีก แต่มันร้อนสุด ๆ จนยกนิ้วให้หน้าหยา เลยได้รับการตบหัวเบา ๆ หนึ่งทีแทนการขอบใจที่ชม ใบผักไผ่ ก็ที่คน กท.เรียกว่า หอมจันทร์ ถูกหน้าหยาจับมาทั้ง ต้น จับมือบิดจนใบขาดพร้อมกับลำต้นอ่อน โปรยลงในหม้อ ที่ร้อน คนไปมาแล้วปิดฝา เพียงกลิ่นหอมผักไผ่ ทำเอาลูกกระเดือก ของน้า ๆ เริ่มเต้น ส่วนผมแหะ ๆ เพิ่งขึ้น ก็พลอยเต้นไปด้วย 555 ทีนี้ละ ช่วยกัน ถือหม้อข้าวสวย จานผัดถั่วเน่าเมอะ ที่ลืมไม่ลง แน่นอน ยำจิ้นไก่บ้านร้อนฉ่า ไปหน้าห้องนอนในตัวบ้าน กินกันนอกชานไม่ได้หรอก มันหนาวสุด ๆ น้าหญิง คนเมืองปายแท้ ๆ คดข้าวเม็ดสั้นร้อน ใส่จานสังกะสีให้ ครบคน แจกช้อนสังกะสีเคลือบสีน้ำเงิน เขียวแดง นั่งเอามือไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าสำลี ตรงเท้าใช้ผ้าขาวม้าที่ชื้น ๆ นั่นแหละวางรองไว้ ดีกว่านั่งบนพื้นไม้ที่เย็นเชียบ เรานั่งล้อมวงแต่ละคนตัวโต ต้องนั่งเฉียงนิด ๆ ไม่ให้หัวเข่า เกย ส่วนมานพ ยอมนั่งยอง ๆ จะว่าที่มันแคบคงไม่ใช่ หนาว..... ผมรอให้ น้า ๆ ทุกคนตักกับข้าวครบแล้ว เป็นธรรมเนียมชาวเหนือ ใช้ช้อนกลาง ตักน้ำแกง ราดข้าว กับเนื้อไก่ฉีกลง ไอร้อนบนข้าว กับยำจิ้นไก่ น้ำหวานเนื้อไก่บ้าน เผ็ดนิดหอมหน่อย ของน้ำพริก ผสมกับใบผักไผ่ ส่วนเนื้อไก่บ้านเวลาเคี้ยวไม่ยุ่ย เหนียวนิด ๆ จนต้องป้อนข้าวเม็ดสั้นพันธ์พื้นเมืองนุ่มเหนียว ส่วน ผัดถั่วเน่าเมอะ กลิ่นหอม(แบบนัตโต๊ะ) เป็นตัวชูรส ได้มัน เค็ม หน่อย เคี้ยวหมูสับปนกับผักกาดจ้อน(หมายถึงแคระแกรน) ผสมกับ ไข่ไก่ตีกระจาย ขาวทำให้ ผัดนัวเข้ากันเหมาะเจอะ หมดก่อนยำจิ้นไก่(ต้มยำเนื้อไก่ฉีก) นั่งกินไม่นานครับ มันหนาว ได้ยำจิ้นไก่ กับผัดถั่วเน่าเมอะทำให้ อุ่นขึ้น แต่ยังสงสัยเหมือนกัน ทำไมน้าหยาไม่กรึ๊บ 555 เราสามหนุ่มนั่งฟังน้า ๆ พูดคุยกัน ส่วนใหญ่จะพูดถึงความหลัง ครั้งที่น้าสองคนอยู่ระยอง แรกเริ่มเดิมที แหะ ๆ พูดถึงเรื่องเก่าขอใช้สำนวนแบบนี้หน่อย คือ น้าชายตอนยังหนุ่ม เห็นขบวนม้าต่างที่ บ้านแม่แตงเชียงใหม่ เกิดสนใจวิถีชีวิตคน ขนสินค้าด้วยม้า เข้าไปคุย เลยรู้ว่าที่ ปาย เป็นอำเภอเล็ก สงบ สวยงาม แถมมีแม่หญิงสวยอยู่เยอะ เลยขอติดตามกองคาราวานมาเที่ยวด้วย และแล้วได้เจอน้าผู้หญิงตัวเล็ก แทนที่จะเป็นหญิงสูงใหญ่แบบ "ไทยใหญ่" พอเจอไม่ยอมกลับไป ระยอง ขออาศัยชาวบ้านอยู่ รับจ้าง ให้บังเอิญได้ไปทำงาน เป็นคนงานตัดไม้ ทำไปทำมามีแวว เจ้าของ ป่อเลี้ยง เลยให้เป็นคนคุมงานมีบ้านพัก น้าชายกับน้าหญิง เลยเฮ้ดก้อ ก็แต่งงานกันตามประเพณีไทยใหญ่ น้า ครับตอนนั้นเขาลักตัดไม้เหรอ เฮ้ย ๆ ไม่ใช่ ป่อเลี้ยงได้สัปทานไม้สัก หลายแปลง ก็หลายป่า ตัดแล้วล่องน้ำปิงไปอีกที น้าตัดไม้เอง หรือทำแบบไหน ไม่หรอก น้ามีหน้าที่ ไปวัดไม้สัก แล้วทำเครื่องหมายขอตัด ต้องคอยดูไม่ให้ นอกเขต พอทำเสร็จก็ ทำบัญชีให้ป่อเลี้ยงดู ก่อนส่งให้ จนท.ป่าไม้อำเภอ กว่าจะอนุมัติมาก็นานหลายเดือน ทำเลยไม่ได้เหรอน้า ไม่ได้ ป่าไม้อำเภอส่งไปขออนุมัติ พร้อมกับตีราคา ให้ป่อเลี้ยงเตรียมเงินไปจ่าย ถามจริง น้า มีให้ใต้โต๊ะเปล่า เปล่ามี 555 ไม่มี๊..... เพียงแต่ว่า เราจัดบ้านพัก อาหาร เบี้ยเลี้ยงพิเศษ กับที่ขาดไม่ได้ เหล้า มันหนาวนะ เขาอยู่สำรวจไม้นานเป็นเดือน ๆ ป่อเลี้ยงใจดีหรือ ว่าเป็นคนมีอิทธิพล เปิ้นใจดี แต่น้าไม่ค่อยได้คุยด้วย เปิ้นเป็นคนเงียบ ๆ น้าจะทำงานกับ น้าป้าง ลูกป่อเลี้ยง มีลูกบ่าวอีกคนเขาทำงานที่อำเภอ คืนนั้น พวกผมสามคน กับน้าหยา นอนกันนอกห้อง ไม่มีอะไรกั้น โห หนาวสุด ๆผ้าห่มผ้านวม คนละ 2 ผืนไม่ทำให้อุ่นเท่าใดเลย แทบจะพูดได้เลยว่า หลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอด แว่ว ยินเสียงไก่ขัน เป็นระยะดังไม่ไกลจากที่นอน ความหนาวเย็นสอด แทรกเข้าตรงคอ ลืมตามอง รอบกายมีแต่ความมืด นึกถึงภาพ แม่น้ำปายในฤดูน้ำน้อย ที่ไหลช้าแต่ไม่ขาดสาย น้ำใส น้ำไม่ลึก เดินลุยน้ำข้ามไปได้ อีกฝั่งของน้ำปาย เป็นพื้นที่สีเขียว ชาวบ้านคงจะปลูก ต้นหอม กระเทียมอะไรสั่กอย่าง น่าไปดู กว่า ชม.ที่นอนรอแสงแรกมา ดูแล้วคงจะยังอีกนาน ใส่กางเกงขาสั้น เอาเสื้อผ้าสักหลาดสีเขียว ตัวใหญ่สวมทับเสื้อผ้าสำลี ตอนแต่งตัวยืนอยู่บนผ้านวม พอก้าวไปเหยียบพื้นไม้ แหยงครับ เย็ น น น...เจี๊ยบต้องยกเท้าขึ้น แต่ต้องตัดใจเหยียบซ้ำ คว้า ตลับยาสีฟัน กับแปรงอันเบ่อเริ่ม ไปที่ชาน เอาน้ำราดแปรง แล้วเปิดตลับยาสีฟัน ใช้ขนแปรงถูไปมาให้ยาสีฟันติด แล้วแปรงฟัน ไม่นานครับน้ำมันเย็น บ้วนปากจนสอาด ต้องบอก ว่า ปากสอาดมาก ได้กลิ่นเย็น ๆ เพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่าน อาจจะว่า อีตาไวน์นี้โม้ ยาสีฟันอะไรเป็น ตลับ 555 เป็นแบบนั้นจริง ๆ ตอนนั้นอายุ 14 เอง มันก็นานหลายปี เนื้อยาสีฟันเหมือน แป้งพับ เนื้อละเอียด แน่นแบบเดียวที่สาว ๆ ใช้แตะ ๆ แก้มไงงั้นเลยแหละ พอเสร็จก็ใช้นิ้วรดน้ำ แตะนัยตา แหะ ๆ ให้ขี้ตาหลุด เป็นอันเสร็จการ ล้างหน้า ก็น้ำมัน เย็ น น น น......นี่นา เพื่อนสองคนยังนอนห่มผ้าไม่รู้เรื่อง ส่วนไวน์เหรอ มันเคยตื่น ซ้อมวิ่งในสนาม ร.ร.ยุพราชวิทยาลัย ลงจากบ้านน้าผู้ชาย ไปโน่น ริมน้ำปายห่างจากตัวบ้านร้อยกว่าเมตรเอง ยังสลัว มองน้ำปาย มีไอน้ำลอยจากผิวน้ำสู่เบื้องบน..... เดินลงตลิ่งเตี้ย ๆ สู่ลำน้ำ พื้นดินริมฝั่งนิ่มคล้ายดินโคลน เดินต่อ ไปอีกไม่กี่ก้าว พื้นกลับเป็นทรายปนกรวด น้ำไม่เย็น อุ่นสบาย น้ำลึกเลยเข่านิดเดียว เลยเดินลุยน้ำอุ่น ไปขึ้นอีกฝั่ง ฟ้าเริ่มสาง บนฝั่ง เป็นนาข้าวเก่า มีหญ้าปกคลุม น้ำค้างพร่างพรม ยามเหยียบ เย็นฉ่ำ มองไกลไปข้างหน้า เดินลัดเลาะแปลงกระเทียม ไปด้านขวามือ แสงแดดแรกของวันเริ่ม ส่องเห็นสีเหลืองของสวนถั่วเหลืองอยู่ข้างหน้า ความหนาวเย็นมิได้ลดลงเลย จนต้องดึงคอเสื้อกันหนาว แนบชิดคอ ส่วนขาที่นุ่งกางเกงขาสั้นนั้นเย็นเจี๊ยบ มิอาจะหลีก เลี่ยงได้ ไม่ไกลจากนั้น เห็น มันอะลู ถูกถอนกอง ยังไม่ได้เก็บ มันนี้ ถ้านำไปโยนใส่ขี้เถ้าร้อน ๆ ไม่นานจะระอุ สุก หอม ชักอยากจะกิน มองหาใครก็ไม่เจอ ไม่มีเงินติดตัวเลย ทำไงดี หนอ อยากจะขอแบ่งไป เขาคงไม่ให้....ก็ไม่รู้จักกัน เอ...แบ่งไปสัก 10 หัวเดินตามหาเจ้าของมันอะลู แล้วค่อยบอกเขา ว่าอยู่บ้านน้าผู้ชาย คงจะดี เลยนั่งแบ่งมันเงียบ ๆ กำลังคัดมันเพลิน สะดุ้งสุดตัว ก็ เสียงกระแอมจากด้านหลัง.....แม๊ด มัน กา. (โขมยมันเหรอ) ว้า....ดูแถวอักษร รูปมันเยอะแล้ว ขอไปเล่าบล๊อกหน้าก็แล้วกัน (ถ้าใครเคยไป อ.ปาย แล้วผ่านสพานคอนกรีตข้ามน้ำปาย มุ่งสู่ พระธาตุแม่เย็น ก่อนถึง จะเจอ บ้านพัก "บ้านปายนา" ก็ตรง นั้นแหละครับ เป็นสถานที่ผม เดินไป ไร่ถั่วเหลือง)ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อ ภาพ st. 102353 / 134383
Create Date : 27 มกราคม 2557
32 comments
Last Update : 7 มกราคม 2562 10:43:23 น.
Counter : 4614 Pageviews.
ใส่ผักไผ่เยอะ ๆ ด้วยรินชอบ
แต่เพิ่งรู้นะคะว่า ผักไผ่ที่บ้านเรียก แต่คนกทม. เรียกหอมจันทร์ เออนะ รินก็ไม่รู้ค่ะ 555
เวลาไปซื้อที่ตลาดก็ไม่รู้จักชื่อ บอกผักไผ่ๆอย่างเดียวเลย
แม่ค้ารู้บ้างไม่รู้บ้าง รินก็หาดมเอา 555
ยำไก่ต้องไก่บ้านเท่านั้นทำกินเอง ซื้อกินมีแต่หยวกแต่ปลีเนื้อไก่แทบไม่เห็น
ทำเองดีกว่า น้ำพริกนี่ก็เอามาจากบ้านนอก
มีเจ้าทีีทำน้ำพริกลาบอร่อยไว้ด้วย
แต่ที่ว่านี่้ นานๆทีได้ทำค่า แต่ทำเมื่อไหร่ อร่อยเมื่อนั้น