หลังจากซื้อที่ดินมาแล้ว ทิ้งไว้เกือบปีรอจังหวะให้ดินแห้ง
จัดการกับหญ้าที่สูงท่วมหัว ใช้รถไถจนราบเรียบ หญ้าที่
แห้งกรอบ ให้คนงานช่วยกันขนรวมไว้กลางไร่ แบ่งเป็น
หลายกอง กะว่าลมไม่แรงมากนัก ก่อไฟเผาจนหมด
อะ ๆ นักอนุรักษ์อย่าเพิ่งท้วง ทำไมไม่ไถกลบเป็นปุ๋ย แหะ
ยังไงก็ต้องเผา ๆ ลูกเดียว. เพราะอะไรเหรอ ดอกหญ้าแก่
พร้อมที่จะสืบเผ่าพันธ์ ถ้าเจอฝนเมื่อใด คุณเอ้ย แตกเหล่า
แตกกอเต็มไร่อีกแน่ พอเจอไฟเผาก็คงทำให้สูญหายไป
บ้าง ส่วนที่ยังตกค้างอยู่บ้างค่อยกำจัดภายหลัง
งานรถไถเสร็จไปใน 2 วัน ทำให้เห็นที่ดิน เป็นที่เอียงลาด
มีลำห้วยไม่ลึก พาดผ่ากลางไร่ มีน้ำไหลไม่มากนัก สอง
ฝั่งลำห้วยมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเต็ม เถาวัลย์ที่คดเคี้ยว เกี่ยวห้อย
ไปตามต้นไม้ คนงานจะตัด. เลยต้องสั่งงด เอาเก็บไว้
กะจะทำรีสอร์ท
ในลำห้วย น้ำใสแช่ขัง ปลาตัวเล็กตัวน้อย
วิ่งไปมา ยามเห็นยักษ์ตัวโตเดินผ่านมา 555
ตอนนั้นวางแผนว่าที่ 32 ไร่ จะปลูก ขนุนพันธ์ทองประเสริฐ
5 ไร่ มะม่วงเขียวเสวย กับ มันขุนศรี เอาไว้ขายตอนดิบ
มะม่วง 2 พันธ์ปลูกไว้ 5 ไร่ กะจะให้เกสร ผสมข้ามพันธ์
คือ มันขุนศรี ออกดอกเยอะ ส่วนเขียวเสวย ออกดอกน้อย
รูปนี้ถ่าย ตอนฤดูร้อนนะครับ ดูไม่สดชื่นเลย แต่ดินแบบ
นี้ที่ชาวสวนชอบ คือเวลาฝนตกให้ตกหนัก พอถึงฤดูแล้ง
ให้แล้งไปเลย 555 มะม่วงก็เหมือนคนครับ มันกลัวสูญ
พันธ์ ถึงจะตายก็ขอมีพันธ์ก่อน เอ้ย มีทายาท ไว้ก่อน
พอแล้งแห้งสนิท ไม่นานก็จะปริยอดอ่อนแล้ว ดอกตามมา
เมื่อฝนจะมาเยือน
พอฝนมา ต้นมะม่วงก็ชูช่อ เปล่งปลั่งยังกะสาวท้อง.
เพื่อน ๆ เคยสังเกตุไหมครับ ต้นมะม่วงแถวบ้านเรา ถ้ามี
น้ำใต้ดินเยอะหรือเรารดน้ำไม่ขาด ใบเขียวสดใส แต่ไม่
ค่อยออกลูก
ยังกะ คนจนเช่นเรา ค่อนข้างขาดแคลน อดมื้อกินมื้อ ลูกดก
จริง ๆ ส่วนแหะ ๆ ผู้มีอันจะกิน หาคนมาเกิดยาก
อีก 5 ไร่ ปลูกสะตอดาน เพื่อน ๆ ชาวใต้คงคิดว่า ทำไมไม่
ลงสะตอข้าว อร่อยกว่ากัน. บอกตรง ๆ ตอนนั้นคิดถึง การ
ขายลูกเดียว คืองี้ ในกรุงเทพคนกินสะตอดานเยอะครับ แต่
ใช้ผัดกับหมูมากกว่า คือเอาปริมาณมากเข้าไว้
บางคนยังไม่รู้จัก สะตอข้าวด้วยซ้ำว่าอร่อยขนาดไหน
ต้องถาม โกตฤณดู กูรูแห่งอาหารพื้นเมืองแห่งภูเก็ต
สะตอตอนนี้รู้สึกจะอายุ 3 ปีได้มั้ง สะตอไม่ค่อยแก่แดด
เท่าใด รักนวลสงวนตัว กว่าจะมีฝักได้ 7 - 8 ปี แหม ผม
พยายามหาทาง ให้มัน ชิงสุกก่อนห่าม ยังไม่สำเร็จซะที
ถ้ารู้จัก โกตฤณตอนนั้น เวลาเดือนหงาย จะให้ช่วยนุ่ง
ผ้าขาวม้า แล้ว ปีนต้นสะตอ มันจะได้ติดลูก 555
นี่ก็กะว่า ก่อนเริ่มฝนตก จะตัดยอดหรือกิ่งกระโดงออก
ไม่ให้มันสูง จนสุดเอื้อมนะครับ จะให้กิ่งข้าง ๆ แยกออก
จะได้สอย เก็บฝักได้ง่าย แต่ตอนนั้นยัง งง อยู่ถ้ามันมี
หนอน จะใช้ยาอะไร ไม่ให้ตกค้าง นาน.
ที่จะปลูกต่อ ก็มี เงาะ มังคุด น้อยหน่า อย่างละ 5 ไร่
ปีแรก คงต้องปลูก 3 อย่างไปก่อน เพราะต้องคำนวณการ
ใช้น้ำ เลยจ้างรถขุดแมคโคร หรือจะเรียกว่าแบคโฮ ไม่รู้
เหมือนกัน ก็เจ้าของรับจ้างเรียกแมคโคร ก็เลยเรียกตาม
ขุดสระน้ำ กว้าง 10 เมตร ยาว 30 เมตร ลึกไม่มากก็ 6
เมตร รวม 3 ลูก. เสียค่าจ้างเยอะเหมือนกัน เขาคิด
ชั่วโมงละ 750 บาท ราคาตอนนั้นนะ. ผมมีข้อแม้ว่า จะต้อง
ใช้ปุ้งกีโตนะ คืองี้ปุ้งกี้ ก็ตัวที่ตักดิน ส่วนใหญ่จะมี 2 ขนาด
ถ้าใช้ตัวเล็ก ราคาถูกลงอีก เพราะเขาใช้แรง กะค่าน้ำมัน
ลดลง 555 ใครต่อเก่ง ระวังจะเจอดี เปลี่ยนปุ้งกีเฉย...
การปลูกไม่ยากหรอก 555 จ้างคนงานเขาปลูก เราแค่ยืน
ดู แกล้ง ชี้โน่นชี้นี่ ให้เขารู้ว่าเรารู้เรื่องนะ ที่ไหนได้ไม่เคย
ปลูกหรอก เคยปลูกแต่ผัก.
ปีแรก การทำงานยากที่สุด เพราะใช้รถแทรกเตอร์ขุดหญ้า
โดยใช้ผาน ดินมันร่วนซุย เวลาจะตัดหญ้า แสนจะลำบาก
เพราะความที่เรากลัว คนงานทำงานหนัก
เลยซื้อรถตัดหญ้าชนิดมี 3 ล้อ ที่ไหนได้ เก็กซิมจริง ๆ
ราคาไม่แพง รู้สึกจะหมื่นเศษ. แต่เจ้ากรรม เมื่อดินอ่อน
นุ่ม เข็นรถไปไม่ไหว หญ้ามันก็สูง. ก็ต้องจ้างคนที่เขาใช้
คอปเตอร์มาตัด 555 ไม่ใช่เครื่องบินคอปเตอร์นะ เป็น
เครื่องตัดด้ามยาว สพานใหล่ ตรงปลายมีใบเหล็กหมุน
ชนิดนี้ ทำงานได้ดีมาก ที่เป็นเนิน สูงต่ำตัดได้หมด.
แต่ต้องจ้างคนเขามาตัด คิดเป็นไร่นะครับ เหมาค่าแรง
แต่น้ำมันใช้เบนซิน 91 ผมต้องจ่ายเอง
ตอนไปทำไร่ใหม่ ๆ ก็จัดการปลูกบ้านพัก สูงจากพื้น 1
เมตร หลังเล็ก เป็นห้องอเนกประสงค์ขนาด 4 คูณ 10
เมตร ผนังเป็นอิฐบล๊อก หน้าต่างเยอะ มีมุ้งลวดเสร็จ
ก็กลัวงู ที่มีชุมมาก
ส่วนด้านหน้าเป็นที่เก็บ เครื่องมือทำสวน
แถมที่ ทำอาหารด้วย งง. ไหมครับ ห้องครัวอยู่ด้านหน้า
บ้าน. ผมเอาสะดวกเข้าไว้ เวลาขนของเข้าออกมันสะดวก
ส่วนห้องน้ำ อยู่ด้านหลังติดกับห้องนอนนั่นแหละ
มีเรื่องพิลึกอยู่อย่าง เวลาไปขอปลูกบ้านต่อ ที่ว่าการอำเภอ
ต้องไปติดต่อ สาธารณะสุขก่อน เขากำหนดว่า จะต้องมี
คำร้องว่า มีส้วมให้ถูกต้อง สาธารณะสุขเขาตรวจรับรอง
แล้วอำเภอจึงจะ รับจดทะเบียนเลขบ้านให้
ตอนไปติดต่อที่ สาธารณะสุข ก็ใส่กางเกงเสื้อสีกรมท่า
สวมหมวกปีกโต หน้าดำ ไปหาหมอ. หมอเขายิ้มให้ พี่
ต้องทำส้วมก่อนนะ ผมจึงจะออกใบรับรองให้.
แหะ ๆ หมอคงคิดว่า เวลาปลดทุกข์คงจะวิ่งเข้าป่ามั้ง 555
พอดี เอากล้องมือถือถ่ายรูปส้วมไปด้วย เลยให้หมอดู
โอ้โห ส้วมชักโครกเลยเหรอ 555 สาธารณะสุขยังไม่มี
ใช้เลย. เอางี้พี่ ผมไม่ต้องไปตรวจที่บ้าน รอสักครู่จะ
ออกใบรับรองให้..
อีกไม่กี่วัน ก็ไป อำเภอแก่งหางแมว ไปขอเลขบ้าน
บอกเจ้าหน้าหน้าที่ว่า จะแจ้งย้ายมาภายหลัง แต่ ไม่น่า
เชื่อ เขาบอกว่า แจ้งย้ายที่นี่ได้เลย พี่เอาทะเบียนบ้าน
หรือบัตรปชช.มาจะจัดการให้.
โห พอเข้าไปนั่ง จนท.คีย์เข้าคอมพิวเตอร์ ใบหน้าอัน
เกือบหล่อของผมก็โชว์ออกมา การโอนย้ายเสร็จในไม่กี่
นาที อย่าดูถูกว่าอำเภอที่อยู่กลางป่า มีการออนไลน์
นะ มีโทรศัพท์แน่นอน.
ที่ผมเล่า เรื่องการขอเลขบ้านมาไม่ใช่อะไรหรอก ขอเลข
บ้านเพื่อให้ ราชการรู้ว่า เราได้เข้าครอบครองที่ดิน หมู่.....
ตำบลสามพี่น้องแล้วนะ มิได้บุกรุก เข้าโดยถูกต้องยินยอม
โดย อำเภอด้วย.
บ้านที่ผมปลูกอยู่ ไม่โต อยู่ใกล้กอไผ่ ใกล้ลำรางน้ำ
ร่มเย็น..
ตอนหลังมาอยู่ เวลาว่างก็ปลูก ต้นไม้ ไม้ดอกไว้
ไม้ใบถ่ายฤดูฝน จะสดชื่น แตกต่างกว่าต้นไม้ผลที่ปลูกในหน้าแล้ง
นี่คือความจริง
บางอย่างเรา ปลูกไว้เพื่อดู กินไม่ได้แต่ได้อาหารตา
สวยไหมครับ ไม่รู้ลูกอะไร ใครทราบบ้าง
ไม้ดอก เล็บมือนาง สีชมภูปลูกไว้ซุ้มหน้าบ้านพัก
นี่ก็มะเฟืองยักษ์ รสชาดดีมาก
ดอกไม้ อรุณเบิกฟ้า สีสวยมาก
เพื่อน ๆ เคยถามไถ่ เรื่องบ้านสวน อยากจะมาเที่ยวก็เลย
เล่าให้ฟังว่า บ้านอยู่สบาย มีมุ้งลวด น้ำร้อน น้ำเย็น พร้อม
ตอนเย็น นั่งทานอาหารใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน เอาปูปลา
ทะเล ปิ้งย่าง นั่งดื่ม สบายสุขโข ชาวบ้านจะมาช่วยกันทำ
พวกแก จะชอบเลยแหละ
ใหม่ ๆ ยังใช้เครื่องปั่นไฟใช้ มันลำบากตอนจะปิดเครื่อง
ก็ลูกกะตา จะไปหายาย ลืมตาไม่ขึ้นนะแหละ
เวลานอนลำบากหน่อย นะ ต้องนอนเรียงกัน เพราะ
บ้านทำไว้นอนแค่ 2 คน แต่ไม่ต้องห่วง นอนหลับสบาย
อากาศดีเชียวแก เอ้ย.
เช้า ๆ จะทำอาหารฝรั่งให้กิน เสร็จแล้วใครจะเดินเที่ยว
สวน อาบน้ำในสระใหญ่ น้ำเย็น ใสสอาด หรือเดินเล่น
แถวลำธาร ดูปลาว่ายไปมา มีหลงคารมไปเที่ยวหลายกลุ่ม
555 แต่ไม่น่าเชือ เพื่อนกลับชอบที่ ต้องลำบาก. รถติดหล่ม
นาน ทางไม่ดี ดินนุ่ม ลื่นไถลแฉะ ขอไปซ้ำอีกหลายคน
เอ เรื่องมันชักจะยาว สรุปแค่นี้ก็คงพอ มั้ง คือไปปลูก
บ้านอยู่ใกล้ลำธาร ปลูกต้นผลไม้ ครบ 32 ไร่
เพื่อน ๆ ไปเที่ยวกันบ่อย
เพราะไม่ค่อยเจอ บ้านป่า. เจองูเห่า จงอาง กระต่าย กบป่า
ส่วนผมเจอ ที่เขาเรียกว่า ผีกระสือ มีไฟแว๊บวับ ตอนกลาง
คืนอยู่คนเดียวด้วย
เอาไว้ เวลาเหมาะ ๆ จะเขียนเล่าให้ฟังอีก ยกเว้นภาพผี
กระสือ ไม่มีภาพให้ดูนะ ตอนนั้น ขนหัวลุกเกรียว กล้องก็
ไม่มีด้วย ไปละ......
จขบ โชคดีมากๆเลยนะคะ
อยู่กับธรรมชาติ ได้ทำไร่ทำสวน
สวรรค์บนดินสินะคะ