No. 102 ป่าทึบ (สวนผัก กลางป่า)
บล๊อกอันดับที่ 102 ใต้คอสีขาวของจงอางแผ่กว้าง พองเป็นคลื่น เสียงขู่ดังฟู่จากลำคอ ดังเป็นระยะไม่ขาดตอน เหงื่อหน้าผากผุดตามขึ้นมา เริ่มไหลผ่านหัวคิ้วสู่ร่องจมูก ใจเต้น ไม่เป็นจังหวะ จงอางเริ่มนิ่ง คางขาวเล็กลง มันเอียงคอ ยื่นเข้าเต๊นท์ ความกลัวตาย เข้าจับจิตจนหนาวสะท้าน สลับความร้อน ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ต้องหลับตาแน่น บริกรรมพุทโธไม่หยุด ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงบ พี่กานต์ เขาไปแล้ว เสียงพูดบอกจากด้านขวามือเบา ๆ ค่อยคลายมือขวาที่จับนิ้วมือซ้ายที่แน่น เจ็บ ลืมตาดูแสงไฟ จากกองฟืน ยังคงเลียลาม วับแวม หัวงูจงอางไม่อยู่ให้เห็น แน่นะคุณน้อย เขาเลื้อยไปแล้วพี่กานต์ ทีแรกน้อยได้ยินเสียงพี่กานต์ทำเสียงอึกอักในคอ เลยลุกขึ้น มาฟัง ได้ยินเสียงเลื้อยอย่างช้า ๆ คิดว่าเป็นจงอาง แล้วเห็นจงอางยกหัวขึ้นเตรียมฉก แล้วก็ค่อย ๆ คลายแม่เบี้ยเล็กลง อีกตัวอยู่ห่างเกือบวา ยืดหัวดูพี่กานต์ เหมือนกัน ตอนนั้นพี่กานต์เห็นหรือเปล่าคะ เห็นซิ เลยบริกรรม พุทโธ ๆ ๆ ๆ รู้ว่าหัวจงอางเฉียดหน้าไปมา เส้นผมตั้งชูชัน ความกลัวตายเพิ่มทวีทุกขณะ เลยตั้งจิตจดจ่อไว้ที่หน้าผาก สลับกับที่สะดือก็ไม่อาจจะระงับความกลัว พอดีจำคำพูดของ ครูนิน ว่าอย่าเปลี่ยนฐานจิตให้มุ่ง ไปที่จุดเดียวที่เคย วางไว้ จึงละจุดสะดือเป็น หน้าผากตามเดิม บริกรรมพุทโธต่อไป และแล้วทุกสิ่ง นิ่งสงบ เข้าสู่ภวังค์ น้อย ขึ้นไกปืนลูกซองไว้ แหย่ลำกล้องออกไป งูอีกตัว ชูหัวยกสูงขึ้นอีกตัว คงได้ยินเสียงขึ้นไกปืน ตอนนั้นน้อยคิดจะยิง แต่จำไม่ได้ว่า ใส่ลูกยิงนก หรือ ลูกโดด ไว้ ถ้าใส่ลูกยิงนกมันเป็นลูกปรายเล็ก ๆ ยิงออกไป คงจะถูกตัวพี่กานต์ด้วย ได้ยินเสียงขึ้นไกปืนจากน้ายักษ์ เลยรอดู พี่กานต์เข้านอนเถอะ น้อยกับน้ายักษ์จะเฝ้าเอง ไม่เอา จะให้นางเอก เฝ้าพระเอกได้ไง เสียชื่อ นั่งคุย กันดีกว่า เสียว ไม่ง่วงแล้ว โธ่....คิดว่าเก่ง เก่งซิ เดี๋ยวคลำดูก่อนว่าฉี่ ราดหรือเปล่า 555 """"""""""""""""""""""""""" คุณกานต์กับนายน้อย จูงม้าเดินตัดดอยไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวน้า ดับไฟ แล้วจะตามไป เราขี่ม้ากัน หลายชั่วโมง มองจากดอยลงสู่ข้างล่าง พี่กานต์ มีควันไฟลอยขึ้นมา น่าจะเป็นบ้านคน เราไปทาง ขวาลงไปข้างล่าง ต่อไปน่าจะใช้ขี่เป็นทางมอไซค์ไต่ลงไปได้ นั่นพี่ยักษ์ขี่ม้า ตามขึ้นมาแล้ว อุ้ย.. พี่กานต์เจ็บเหรอ คอยโหย่งก้นไว้ เอามือจับหัวอานม้า นั่น แหละไม่ต้องหนีบเข่า ปล่อยตามสบาย อืม มันก็ดีแต่ กลัวตกเหมือนกัน เวลาม้าเดินลง ตัวพี่โอน เอนไงไม่รู้ จะตกไหมเนียะ ตอนลงเขา เอนตัวไปข้างหลัง แบบนั้นใช่แล้ว โห้ เจ็บก้น เราสามคนขี่ม้าลงดอย ผ่านไผ่ป่า พื้นดินเป็นดินปนหินเล็ก ข้างล่าง เป็นลำห้วย ปนทราย ตื้น ทางเดินเท้า ขวามือ เราขี่ไปด้านขวามือ ข้างหน้า อาจจะเจอ พวกล่าสัตว์หรือไม่งั้นก็ชาวบ้านป่า กว่าสอง กม. ขี่ม้าผ่านป่าไผ่ ลัดเลาะไปตามเนินเขา บนเนินดินเตี้ยใกล้ กับลำห้วยที่ไหลช้า ๆ กระท่อมไม้ไผ่หลังคามุงด้วยใบ พลวงสีน้ำตาล หน้าบ้านมีกองไฟ ลุกช้ามีควัน หมาสองตัว วิ่งออกมา เห่าแล้วคอยมอง ในตัวบ้านคงสงบเงียบ ที่เนินดิน ชายดอย มีต้นข้าวโพด อยู่ประปราย พริกชี้ฟ้า เม็ดสีแดง ชูเม็ดสู่ฟ้า ผักสีเขียวคล้ายชะอม ปลูกสลับกับ ต้นกล้วยน้ำว้า เลยไปด้านซ้ายมือริมน้ำ ต้นหอมชูยอด เขียวเต็มแปลง ที่คลุมด้วยหญ้าแห้งสีเหลืองน้ำตาล ข้าวโพด ถั่วเหลือง แสงแดดกำลังอ่อนคล้อย แทงแสงผ่านยอดไม้เป็นลำ กระหล่ำปม ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพประกอบ st.21,234/27,565 ติดตาม เรื่อง "ป่าทึบ" หมายเลขบล๊อกซ้ายมือ ที่หมายเลข 8. 9. 13. 14. 16. 21. 44. 46. 76. 77. 78. 79 80. 81. 82. 88. 89. 90. 96. 97.และ 100-101 รวม 21 ตอน
Create Date : 17 เมษายน 2555
Last Update : 30 เมษายน 2555 13:21:41 น.
74 comments
Counter : 3197 Pageviews.