No.31 รับประทาน"จิ้น(เนื้อ) ลุง ที่ อ.ปาย
ความเดิมต่อจาก ปาย เมืองในหมอก
เตือน ผู้ที่ชอบอาหารเช้า ต้มเลือดหมู กับข้าวสวย โปรด ทำใจ ห้ามพลาด อิ อิ แล้วจะรู้ว่าอะไรอร่อยกว่า ระหว่าง เนื้อ ลุง กับ ต้มเลือดหมู 555
วันที่สองของการมาพักผ่อนที่ อ.ปาย เมื่อคืนนอนหลับ ฝันดีมาตลอด ถึงใครเหรอ รู้ ๆ กันอยู่ เช้านี้ผมกับพี่ทั้ง สอง เตรียมตัวออกกำลังกายตั้งแต่เช้าหมอกปกคลุมความ หนาวเย็น แทรกไปทั่วทุกขุมขน
พี่ ๆ จะไปไหนเหรอ ไปจ๊อกกิ้งหน่อย น้องมลวิ่งด้วยกันไหม น่าวิ่งนา ไปด้วย แต่อิ อิ ขี่จักรยานนะ รอเดี่ยวนะพี่กานต์
ระหว่างที่ผม พี่กานต์ พี่ตูน วอร์มร่างกายให้ อบอุ่น ความ หนาวแผ่สร้านไปทั่ว น้องมลไปแต่งตัว ใส่เสื้อแขนยาว สีแดงมีฮูดสวม แต่ให้ตายเถอะ น้องมลใส่กางเกงขาสั้น แค่เข่าโชว์เรียวน่องยาวสวยซะไม่มี สวมรองเท้าผ้าใบ แบบที่นักจ๊อกกิ้งทั้งหลายใช้ พี่ ๆ วิ่งไปก่อน มลจะขี่ตามไปเจ้า..
เราสามคนพากันวิ่งไป ตามถนนลาดยางมะตอยเรียบ สองข้างทางมีร่องน้ำไหล อากาศยามเช้ามืดหนาว หมอก ลงหนามองไกลไม่เกิน สิบห้าเมตร
จ๊อกไปเรื่อย ๆ น้องมลขี่จักรยานคลอไปตลอดทาง ยังกะ เป็นโคช ที่ไม่ดุ แต่ให้กำลังใจเป็นที่ซูด.... ต่อให้วิ่งทีละ 15 โลคงไหว 555 ข้างทางซ้ายมือ เป็นร่องสีเขียวชาวบ้านปลูกกระเทียม เป็นร่องยาว หยาดน้ำค้าง ติดอยู่บนฟางข้าวสีขาวโพลน น้องมลจอดรถจักรยาน ชี้ให้ดูดอกสีม่วงเล็ก ๆ ยามสัมผัส กลีบดอก แล้วก้มดูอย่างใกล้ สวยครับ สวยทั้งน้องมล กับดอกมะเขือ แหะ ๆ
พี่เส วิ่งไม่เหนื่อยเหรอ ไม่เหนื่อยหรอก แค่นี้จิบ ๆ พี่เคยวิ่ง ยี่สิบกว่าโล ยี่สิบโลนะกี่วันพี่ แหะ รู้ทันอีกแล้ว ห้าวัน ทำไมน้องมลถึงรู้ละ ก็ ๆ ๆ น้องมลได้ยินเสียงหายใจดัง แถมมีไอออกจาก ปากจมูก เหมือนอะไรน้า เหมือน วัวไง เจ้าเส
พี่ตูนนะพี่ตูน ไม่น่าจะทับถมกันเลย เห้อ เหนื่อยจริง ๆ พี่กานต์พี่ตูน วิ่งไปล่วงหน้าก่อนขอ ผ่อนฝีเท้า แนะน้องมล ชะลอรถขี่คลอตาม อิ อิ ได้ผลเนาะ ทำเป็น ไม่แข็งแรง มีคนเอาใจดีเหมือนกัน
สองฝั่งถนน ชาวบ้านที่ นั่งห่มผ้า สวมหมวกไหมพรมนั่ง ผิงไฟ กันหลายบ้าน เด็ก ๆ เอาข้าวเหนียวปั้นยาว ๆ เสียบไม้ปิ้งไฟเหลืองน่ากิน สวัสดีครับ ผมโบกมือให้
อี่น้องมล พาแฟนมาวิ่ง เหรอ หล่อดีเนาะ พี่สาวคนที่ นั่งผิงไฟ มองมาทางผมก็ เสรี นะซิจะใครเสียอีก สวัสดีเจ้า น้าบัวจีน ข้าเจ้าพาพี่เสรีมาจ๊อกกิ้งหน่อย พี่ เสรี หล่อกา
เห็นไหม น้องมลพูดหวาน แถมไม่ปฏิเสธ ฮุ้ยดีใจจริงวุ้ย นับว่าพี่บัวจีน ตาถึงเนาะ รู้ซะมั่งใครเป็นใคร
ถือโอกาศหยุดวิ่ง เหะ มันเหนื่อย หยุดฟังน้องมล คุยกับน้าบัวจีนกับ น้า ๆ อีก สองคน สองคนที่วิ่งไปใช่ คุณตูนแม่นก่อ ที่วิ่งไปข้างหน้า ใช่เจ้า พี่ตูนกับพี่กานต์เปิ้น(เขา) มาแอ่วตวย
คุยน้าบัวจีน แป๊บหนึ่งแล้ววิ่งต่อเกือบกิโลเมตร ข้างหน้า เป็นสพานคอนกรีตใหญ่ ข้ามแม่น้ำปาย พี่กานต์ พี่ตูนหยุดรอ ดูสายน้ำปายที่ไหลเอื่อย ๆ หมอกลอยเป็นแผ่นบาง เรี่ยสายน้ำ แสงอาทิตย์กำลังส่องแสงยามกระทบสายน้ำเป็นประกาย น้องมล ยืนท้าวสพานมองไปข้างล่าง แก้มสีชมภู จมูก เป็นสัน มีเหงื่อซืมติด ไรผมนิด สวยจริง ๆ
พี่ ๆ อยากทานเข้าหรือยัง เช้านี้น้องมลจะทำอาหาร ร้อน ๆ ให้ทาน ถ้าเริ่มหิว เลี้ยวกลับบ้านกันเลยเจ้า
น้องมลจะทำอะไรให้ทานเหรอ อ๋อ จิ้นลุงเจ้า จิ้นหมายถึงเนื้อนะเจ้า ใส่เครื่องแล้ว ต้มน้ำ ปรุงรส อร่อย พี่เสรี ทานแล้วจะติดใจ
เราวิ่งกลับทางเดิม พบตุ๊เจ้าก็พระนะแหละครับ เดิน สวนทางมา สองรูป ชาวบ้านกำลังใส่บาตร พระกำลัง ให้ศิลให้พรด้วยเสียงทุ้ม ๆ
ชั่วโมงกว่า ที่วิ่งไปกลับคงได้ระยะทางประมาณ 6 กิโลแม้ว เอ้ย เมตร เหงื่อซึมนิดหน่อย ไม่มาก แถมไม่ เหนื่อยด้วย แนะ พอจะถึงบ้านพี่ตูนรีบวิ่ง ให้ทันน้องมล ที่ขี่จักรยาน แล้ววิ่งคลอ
ส่วนผมเหรอ พยายามวิ่งประกบเหมือนกัน แต่ไม่ไหวมัน เหนื่อย ปล่อยพี่ตูนไปกับน้องมลก่อนก็แล้วกัน นั่น ๆ ๆ พี่ตูนขอจูงจักรยาน แถมตอนจับแฮนด์รถถูกมือน้องมล ด้วย พี่ตูนนะพี่ตูน
น้องมลเดินกลับ มาหาผม พี่เสแข็งแรงน่าจัง เหงื่อออกเต็มหน้าเลยเนาะ พลางเอามือตบเบา ๆ ก็ ตรงหน้าอก ของผมนะเซ๊ะ โห้ย มันสุขจริงหนอ แค่น้องมลเอามือแตะเบา ๆ ใครจะเห็นหรือเปล่าไม่รู้ละ แต่พี่กานต์ยืนอมยิ้มนิด ๆ
พี่กานต์ พี่เส ไปอาบน้ำก่อนก็ได้เจ้า น้องมลขอตัวไป เตรียมทำ จิ้นลุงให้ทานก่อนเจ้า ไม่เอาหรอก หนาว เอางี้ให้พี่เส เป็นลูกมือทำอาหาร ดีกว่า ตกลงหรือเปล่า ตกลงเลยเจ้า พี่เสไปล้างมือก่อน ไม่งั้นมันเค็ม อิ อิ
จบตอนแรก 555 ใครอยากกิน เนื้อลุง ตามตอนต่อไป
========================================= ตอนที่ 2
อาว์ขิ่นเล ทำครัวกว้างมาก ฝาครัวทำด้วยผิวไม้ไผ่สาน เป็นลายสอง จากพื้นบ้านทำด้วยไม้สักทอง มีฝาไม้ไผ่ที่ ว่าสูงเกือบ สามเมตร ไม่มีฝ้าเพดาน เห็นหลังคาที่มุง ด้วย กระเบื้องดินเผาเล็ก ทางเหนือเรียกว่า "ดินขอ" คง จะมาจาก มีแง่งดินไว้เกี่ยวกับไม้ให้มันอยู่ตัว
พี่เส ช่วยตำน้ำพริกให้น้องมลหน่อย ใส่จิ้นลุงจะได้อร่อย ได้เลย ใส่อะไรมั่ง พริกแห้ง 4 เม็ด พริกขี้หนูแห้ง 6 เม็ดเกลือเท่านิ้วก้อย นั่นละใช่เลยพี่ตำไปก่อนให้ละเอียดนะ น้องมลปอกหอม 4 หัว กับกระเทียม 1 หัวพอปอกเสร็จ ใส่ครกตำหอม จน แหลก เอาขิงแก่ใส่อีกแง่ง ขมิ้นเท่านิ้ก้อย เอาใบผักชี ฝรั่งหรือไทยนี่แหละใบยาว ๆ ใส่ไป 3 ใบ
ส่วนน้องมลเอาหมูสามชั้นเลาะเอาหนังออก ตัดเป็นชิ้น เล็ก สักกิโล ใส่เครื่องปั่นพอเปิดเครื่องเสียงดัง สะท้านหัวใจ เสียงเครื่องปั่นดังแล้วเสียว กลัว จริง ๆ เรื่องมูลิเน็กซ์นี่ ทั้งที่เป็นโสด ใครแต่งงานแล้ว ทำนอก รีต นอกถนน ระวังเหอะ 555
พี่กานต์เข้ามาเก้ ๆ กัง พี่กานต์มาก็ดีแล้ว ช่วยน้องมล ก่อไฟหน่อย ทำไงสอนพี่มั่ง พี่ทำไม่เป็น แหม พี่อย่ามาอำเลย น้องเคยอ่านเรื่องพี่ไปอยู่ในป่า ในบ้านเล็กกลางแอ่งดอยนะ ว้า รู้ทันซะแล้ว งั้นจัดการให้ พี่กานต์จัดการแป๊บเดียว เสร็จ จัดการเอาหม้อดินขนาดกลางตั้งไฟ
เอาน้ำ ในหม้อดินใส่ไป 2 ขันโตหน่อยนะเจ้า แหม น้องมลพูดเสียงหวาน จริง ๆ
หมูติดมัน บดจนละเอียด ผมก็คดน้ำพริกที่ตำละเอียด ใส่ในชามหมูบด น้องมลใช้มือนวดไปมา ด้วยความ ชำนาญเอาแป้งมัน 2 ช้อนชาโปรยลงไป แล้วนวด จนเหนียว
พี่กานต์นั่งยอง ๆ คอยดู ไอน้ำพุ่งออกจากหม้อดิน น้อง มลเอามะเขือส้มลูกเล็ก เปรี้ยวผ่าครึ่งใส่ไป 8 ลูก เติมน้ำปลาไปครึ่งป๊าก(กระจ่าทำด้วยกะลามะพร้าว) ปิดฝา พอน้ำเดือด
น้องมลหยิบเนื้อหมูบด ปั้นเป็นก้อนกลมค่อย ๆ หย่อน ลงในหม้อดิน ทีละจุด หมูที่หย่อนไปจะจมลงไป สักครู่ ค่อย ๆ ลอยขึ้น น้องมลคงหย่อนตามไปเรื่อย ๆ จนหมด แล้วปิดฝา ไอน้ำพุ่งออกมา หอมอ่อน ๆ เปิดฝาออก จับผักชีฝรั่งหั่นหยาบ ๆ อีก 3 ใบตามด้วยต้นหอม 4 ต้น ผักชีธรรมดาของเรานี่แหละอีก 3 ต้น โปรยใส่หม้อต้ม คนไปคนมานิดหนึ่ง ใช้ช้อนยาวตักขึ้นชิม จับขวดน้ำ ปลากระฉอกอีก 3 ฉึก คนอีกนิดดึงฟืนออกจนหมด เป็นอันเสร็จ
บนเติ๋น(พื้นบ้านที่ยกสูงกว่า ลานไม้บนบ้าน) พี่ตูน น้อง ฝ้ายกำลังช่วยกัน ตักข้าวใส่ชามคล้าย ๆกับชามตราไก่
ผมยกหม้อ จิ้นลุงตามออกมาติด ๆ กับน้องมลที่ถือชาม นำหน้า ตักแจกคนละถ้วย ไอร้อนกับกลิ่นหอมของหมู บดผสมกับเครื่องแกง ฟุ้งจน แหะ ๆ ต้องกลืนน้ำลาย
พอนั่งเสร็จ ใช้ช้อนซ่อมตักน้ำมาซด กลิ่นหัวหอม ใบ ผักชีฝรั่งที่ ปนกลิ่นขมิ้นหอม ความเปรี้ยวของมะเขือเทศ น้ำซุบมีรสเค็มนิดพอดี
มองไปที่อาว์ขิ่นเล กำลังจิบน้ำซุบ แล้วหันไปมองหลาน สาว ก็น้องมลนะแหละ อึม อร่อย ฝีมือดีจริง เอ้าทาน กันเลยตามสบาย. น้าอิ๊ดที่ค่อนข้างท้วม ยกนิ้วหัวแม่มือให้น้องมล
ตักเนื้อลุง หรือลูกชิ้นทำเอง กัดเข้าไป สัมผัสกับความ หอมของเนื้อ ปนขมิ้น หอมอร่อย เนื้อหมูหวานด้วยตัว ของหมูบดเอง ตักข้าวใส่ปากเคี้ยวช้า ๆ ซดน้ำแกงหรือ น้ำซุปนะแหละ หอมต้นหอม ผักชี ข้าวหมดไปไม่รู้ตัว จนต้องขอเพิ่ม น้องฝ้ายตักให้อีกสารภี เอ้ยทัพพี
หลานมล ทำยังไงน้ำแกงจึงหอมกว่าที่อาว์ทำ
อ๋อ ข้าเจ้ารู้จัก กุ๊กที่ ริเวอร์บาร์ เขาบอกว่า เวลาต้มหรือ แกงอะไรก็แล้วแต่ พวกใบมะกรูด ตะใคร้ หรืออะไรถ้า จะให้หอม ควรใส่ก่อนยกลง สัก 3 นาที กลิ่นจะหอม ฟุ้งเวลาเรา กิ๋นเจ้า ถ้าใส่นานหรือ ใส่ก่อนน้ำเดือดกว่า เนื้อจะสุก มันจะหอมเหมือนกัน แต่พอยกหม้อลง กลิ่น มันก็จะระเหยไปหมดเจ้า
น้องมล พี่กานต์ขอถามหน่อย ถามอะหยังพี่กานต์ ทำไม เขาเรียกว่า จิ้นลุง หมายถึง ฆ่าลุงแล้วเอาเนื้อ มาทำซุปเหรอ น้องมล ไม่รู้เหมือนกัน ต้องถามอาว์ขิ่นเล
อาว์ขิ่นเล ยกแก้วน้ำดื่มนิด จิ้น เชียงใหม่หมายถึงเนื้อหมู เนื้อไก่ หรือวัว ถ้าคน เงี้ยวหรือไทยใหญ่จะออกเสียง ว่า "เน่อ" ส่วนคำว่า ลุง ไม่ใช่ พี่ชายของพ่อนะ ไทยใหญ่เขาหมายถึง ลูก กลม ๆ ก็ลูกชิ้นนี่แหละ เอ้าใครอิ่ม อยากกินกาแฟบ้าง ให้มลวิภาจัดการเหมือน เดิม ใครจะก็ให้มล ทำให้กิน ส่วนอาว์ ขอ อม เมี่ยงดีกว่า
อาว์หยิบกระปุกเปิดออกมา เป็นใบชาสีเหลืองหมัก มีน้ำ นิดหน่อย หยิบ 4 ใบเรียงซ้อนเอามะพร้าวคั่วซอยยาวเล็ก ใส่ ใส่เกลือเม็ดนิด ขิงหั่นเป็นลูกเต๋า 1 เม็ดใส่ปากแล้ว เคี้ยว ดูอร่อย. เมี่ยงก็ใบชานะแหละครับแต่ใบโต
คุณเส ลองกินดูไหม ไม่เอาละครับอาว์ ขอกินกาแฟดี กว่าครับอาว์.
น้าอิ๊ด กับพี่กานต์พี่ตูน ช่วยกันเก็บชามข้าวชามแกงไป ไว้ที่ ส่วนผมกับน้องฝ้าย ไปช่วยน้องมลวิภา ชงกาแฟ
น้องฝ้ายตักกาแฟใส่ ตลับแล้วใช้ช้อนปาด ตามที่น้องมล สอน แล้วเอาจับยัดใต้เครื่องชง แล้วบิด กดสวิท ไม่นาน น้ำร้อนกับไอเริ่มเดินทาง น้ำกาแฟไหลลงใส่ถ้วยรองช้า ๆ หอมจริง จัดการเติมครีม น้ำตาลใส่ตามสูตรแต่ละคน
พี่เส จะรับลาเต้ หรือเอกเปรสโซ่คะ เอา แบบที่ทำให้พี่ตูนนะแหละ แหะ ๆ มีรูปหัวใจใส่ด้วย นา ไม่งั้นไม่อร่อย ได้เจ้า พี่เส น้องมลทำเป็นรูปหัวใจอย่างเดียว กำลังหัด เป็น บารีสต้า รูปดอกไม้ หรืออย่างอื่นยังทำไม่เป็นเจ้า
โธ่ หลงเข้าใจผิด ทำเอานอนไม่หลับ แต่ไม่เป็นไรเนาะ อีตาพี่ตูน คงนอนฝันด้วยความเข้าใจผิดเมี่ยนกัน 555
กรุณาตามตอนต่อ อีกไม่นานครับ......
======================================
ต่อตอนที่ 3
พวกเรา นั่งเล่น จิบกาแฟ มองไปข้างหน้า แสงแดดกำลัง ส่องแสง ไปทั่วทุ่งนาที่สีเหลืองของรวงข้าว บางส่วนจะ มีแปลง กระเทียมสีเขียวเข้ม หมอกเริ่มจาง อากาศเริ่ม อุ่นขึ้นเล็กน้อย
กลางวันนี้ พี่จะพาอาว์ขิ่นเล กับพวกเราไปกินอาหารที่ หมู่บ้านจีนยูนนาน สนใจไหม
สนเจ้า พี่กานต์น้องมลยังไปไม่ถูก พี่เส ขับรถพาทีมเดิม ไป พี่กานต์กับอาว์ขิ่นเลนั่งรถ ข้าเจ้าไปเน่อ พี่กานต์จะ ได้บอกเส้นทาง
อาว์ขอตัว ไม่ไปเน่อ คนเช่าที่นาจะมาหาตอนเที่ยง มลไปกับคุณกานต์ก็แล้วกัน
ก่อนเที่ยง พวกเราจัดการอาบน้ำฝักบัวที่อุ่น แต่งตัวใหม่ ส่วนน้องมล ใส่กางเกงชาวเลสีเขียวมะกอก เสื้อสีชมพู อ่อน รองเท้าหนังคัชชูสีเนื้อ ดูสวยสะดุดตา ยามเดินผ่าน กลิ่นลาเวนเดอร์โชยมา หอมจริง ๆ
เที่ยงนั้นเราไป ทานขาหมู 3 ชาม ๆ ละ 200 บาท หมั่น โถก็แป้งซาลาเปานิ่ม ๆ อุ่น จิ้ม ขาหมูที่เอาตะเกียบคีบ แทงลงหนังมีมันนิดหน่อย เจอเนื้อที่นุ่มไอร้อนฉุยขึ้นมา ความหวานของเนื้อ กับน้ำอร่อยสุด ๆ
ลองสั่งลาบยูนนาน กับผัดผักรวม ๆ ใช้ได้ทีเดียว แต่ ลาบยูนนาน ไม่รู้เป็นไง รสมันปนกันคล้าย กับลาบเหนือ ผสมอิสาณก็ไม่เชิง ไม่จัดจ้าน คือ ไม่รู้ไปทางไหนดี จานนี้ไม่ผ่าน. ร้านนี้เป็นร้านใหญ่ที่สุดละครับ ราคา ปานกลางไม่แพง อาหารให้สมราคา
ระหว่างที่กินกันหนุบหนับ โต๊ะข้าง ๆ มีชาวต่างชาติมา ทานด้วย คงจะอร่อย ส่วนลูกชายหัวทุยผมสีทอง วิ่งเล่น ไปมาแถวนั้น ไอ้ผมก็เกรงว่าจะวิ่งชนหม้อไฟ สักพักวิ่ง ไปขึ้น ก้อนหินใหญ่ปินไปปีนมา ส่วนอีตาพ่อเหรอ ไม่ สนใจเลย คือปล่อยจริง ๆ ถ้าเป็นพวกเราเหรอ โอ ๆ อย่างวิ่งลูก เดี๋ยวหกล้ม คอยเอาใจ... เหะ ๆ เด็กบางคน เลยโตมาไม่ค่อยกล้าพูด ไม่กล้าทำอะไร อ้าว ๆ บ่นซะ แล้ว ไม่ทันมีลูกมีเมีย พอก่อนเนาะ.......
พี่ตูนพาไปเที่ยว โป่งน้ำร้อน ล่องแพ ขึ้นพระธาตแม่เย็น ขากลับจากวัดน้ำฮู ชี้ให้ดูขวามือก่อนถึงโรงพยาบาล เล่าว่า เมื่อตอนเป็นเด็ก ตรงโน้นมีลำธารไหลแรง คด เคี้ยวไปมา พ่ออีตาพี่ตูนนะแหละ สร้างครกน้ำทีเดียว ติดกัน 4 หลุม เอาน้ำที่ไหลแรงพัดหลุก(อะไรน้ารูปร่าง คล้ายชิงช้าสวรรค์หมุน ๆ เอาน้ำที่ค้างในกระบอกเทใส่ กระบะไม้รองจนเต็ม ไม้ก็กระดกขึ้นพอน้ำไหลออก หัว ครก(ลูกครก) ก็หล่นปุ๊ก ตำข้าว สลับกันไปมา) ที่นี่มี ที่เดียวที่ดัดแปลงพลังน้ำมาใช้ ขนาดตั้งนานแล้วนะ เพราะ พ่ออีตาพี่ตูน มีหัวดัดแปลง เลยทุ่นแรง ไม่ต้องใช้เท้าเหยียบเหมือนชาวบ้าน
แต่หลังจากนั้นเหรอ มีเหตจำเป็นจึงต้องอพยยไปอยู่ เชียงใหม่แทน น่าเศร้าจริง ๆ จากฐานะดีกลับหล่นสู่ พื้นล่าง สงสารพี่ตูนเหมือนกัน แต่แปลก ยังทำหน้า ทะเล้น แซวคนโน้นทีคนนี้ที และก็ ชอบหลี...สาว
หลังจากน้องมลวิภา คนน่ารัก เดินทางกลับ พะเยาขับรถคนเดียว
พวกเราทั้งห้าคนนั่งคุยนอนคุย กินอาหารที่ทำเอง มีความสุขที่สุด ยังนึกว่า ถ้าน้องมลยังอยู่พวกเราคงได้ หัวเราะกัน เพราะเธอขี้เล่นชอบแหย่คนจริง ๆ ทำเอาผมเคลิ้ม แหะ ๆ ฝันกลางวันบ่อย
เส เป็นไงนั่งยิ้มคนเดียว คิดถึงน้องมลเหรอ
เปล่าหรอก คิดถึงน้องสุ ที่กรุงเทพตังหาก พี่กานต์ แหะ กลบเกลื่อนซะหน่อย เส ก็เขินเป็นเมียนกัน 55
อย่าเลย ข่าวว่าขยั้นขะยอขอเบอร์โทรศัพท์ที่บ้านน้อง แถว เชียงรายพะเยาไม่ใช่เหรอ ได้เบอร์มาแล้วใช่เปล่า
แหมพูด 3 ครั้งเอง น้องมลเลยเขียนให้ ลายมือสวยจริง ๆ พี่ตูนก็ ได้ด้วย พี่กานต์ไม่อยากได้บ้างเหรอ
อ๋อ น้องมลไม่ให้เบอร์โทรที่ พะเยา
แต่ให้ เบอร์มือถือตอนที่พี่นั่งรถพาไปร้านจีนยูนนาน กลัว จะติดต่อโทรไม่ถึงตัวน้องมล 5555
ทำไมจะโทรไม่ถึง พี่กานต์เอาอะไรมาพูด ?
ก็น้องมล ทำงานอยู่สมุทรปราการ เป็น ผจก.ฝ่ายบัญชี นาน ๆ จะกลับพะเยา เห็นว่า ตูนกับเส พยายามขอเบอร์ที่ พะเยา เขา ไม่อยากให้ จะเอาท่าเดียว เลยเขียนที่พะเยา ให้ไง 555
โธ่น้องมล นะน้องมล ทำกับพี่เสได้......หือ ๆ เอ๊ะหรือว่า น้องมลสนพี่กานต์ที่เงียบ ๆ หน้าตาก็จืด
เปล่า ๆ ไม่ใช่ น้องเขากลัวพี่เหงา เลยคุยกันสองคน นานเหมือนกัน เส กับตูนคงไม่ว่าพี่นะ.....
จบแค่นี้ดีกว่าไม่อยากเล่าแล้ว เก็กซิม จริง ๆ
529/125/24/1/2554
Create Date : 24 มกราคม 2554 |
|
125 comments |
Last Update : 20 มกราคม 2562 16:46:26 น. |
Counter : 2842 Pageviews. |
|
|
|
อ่านตอนนี้แล้วก็ต้องติดตามตอนต่อไปแน่นอนค่ะ
Comments & Glitter Graphics