กดจุดเลิกบุหรี่ อดเหล้า เลิกยา แปลและเรียบเรียงจากหนังสือ The Acupressure Book โดย Frank Bahr.M.D.
ความรู้เรื่องการกดจุดเป็นของเก่าแก่และมีมานานหลายพันปีซึ่งเป็นที่ยอมรับของชาวจีน ศาสตร์แห่งการกดจุดได้แพร่หลายไปทั่วโลก ทั้งในอเมริกาและยุโรป โดยเฉพาะในยุโรป Dr.Frank Bahr ท่านเป็นแพทย์ชาวเยอรมัน เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการกดจุดโดยเฉพาะ ท่านได้ศึกษาและเขียนตำราการกดจุดไว้ ซึ่งผู้เขียนเห็นว่ามีประโยชน์ เหมาะสำหรับนำมาเผยแพร่แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพ เพราะกดจุดก็คือ ศาสตร์แขนงเดียวกับการฝังเข็มที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันดี แต่การกดจุดเป็นการฝังเข็มโดยไร้เข็ม ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดเข็มเหมือนฝังเข็ม และไม่มีอันตรายใดๆ ต่อผู้ทำ ถ้าท่านกดถูกวิธีและมีประสิทธิภาพก็จะได้ผลในการรักษาทั้งยังช่วยเสริมการรักษาของแพทย์ให้หายเร็วขึ้น แต่ถ้าท่านทำแล้วไม่ได้ผล ก็ไม่มีข้อเสียหายอะไร
สิ่งเสพติดที่จะกล่าวต่อไปนี้ ได้แก่ เหล้า บุหรี่ ยา (ยานอนหลับ ยาม้า ยาขยัน) ผู้ติดสารเหล่านี้จะรู้สึกอยากที่จะเสพสารชนิดหนึ่งชนิดใดอย่างแรง เพื่อระงับความรู้สึกหงุดหงิด ซึมเศร้า
การกดจุดที่ใบหูใช้ได้ผลดีในการรักษาผู้ติดสารเสพติด และยังสามารถกดจุดเพื่อป้องกันการกลับไปติดใหม่อีกด้วย ผู้ที่เพิ่งติดสารเสพติดใหม่ๆ ควรจะได้ผลดีในการรักษาด้วยวิธีกดจุดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องใช้เวลานานในการรักษา
อาการสุขภาพของผู้ติดสารเสพติดจะดูซูบผอม มีความอยาก กระหายบุหรี่ แอลกอฮอล์ (เหล้า) หรือยาอย่างรุนแรง มีน้อยคนที่สามารถจะเอาชนะความอยากได้ด้วยพลังจิตของตนเอง มันเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะเลิกได้ จนบางรายต้องหันกลับไปเสพมันอีก
ลักษณะที่พบร่วมในผู้ติดสารเสพติด คือ
1. ผู้ป่วยจะต้องเพิ่มปริมาณยาที่ใช้ขึ้นเรื่อยๆ
2. มีความต้องการสุดจะอดกลั้น จะต้องหายานั้นมาให้ได้ไม่ว่าโดยวิธีใดก็ตาม
3. ถ้าหยุดยาจะเกิดอาการขาดยา
สาเหตุบางรายต้องกลายมาติดสารเสพติด บางอย่างโดยไม่รู้ตัว เช่น รายที่ใช้ยานอนหลับ เพื่อรักษาการนอนไม่หลับพร่ำเพรื่อจนเกินไป ในที่สุดก็กลายเป็นผู้ติดยาได้ เมื่อไม่ได้ยาจะนอนไม่หลับ ในรายอื่นๆ อาจติดยาเสพติด เพราะมีปัญหาทางด้านจิตใจ ซึ่งมาจากปัญหาทางครอบครัว โดยเฉพาะเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ในที่สุดเด็กเหล่านั้นจะหันไปพึ่งยาเสพติด การกดจุดจะไปช่วยลดปฏิกิริยาของร่างกาย เมื่อหยุดยาทำให้รู้สึกไม่ทรมานมาก และยังป้องกันไม่ให้กลับไปติดใหม่อีกครั้ง
ตำแหน่งที่กดจุดจุดบนร่างกาย : จะได้ผลในการรักษาน้อยกว่ากดจุดที่ใบหู
1.จุด จู๋ซานหลี่ (tsu-san-li)วิธีหาจุด :
จุดนี้เมื่อวางฝ่ามือบนหัวเข่ากางนิ้วมือออก จุดจะอยู่ที่ปลายสุดของนิ้วนาง
วิธีนวด :
นวดลง
2. จุด จิวอุ่ย (chin-wei)วิธีหาจุด :
อยู่กึ่งกลางของลำตัว ในระดับเดียวกับใต้ราวนม
วิธีนวด :
นวดขึ้นบน
3. จุด โห้วติ่ง (hon-ting)วิธีหาจุด :
เป็นแอ่งเล็กๆ อยู่บนศีรษะ อยู่กึ่งกลางระหว่างหู
วิธีนวด :
นวดเข้าหาหน้าผาก
กดจุดที่ใบหูการกดจุดที่อยู่บนใบหูจะได้ผลดี สำหรับการรักษาผู้ติดยาเสพติด
หูขวา :
1. จุดอยู่บริเวณติ่งหูบนและล่างวิธีนวด :
นวดลงล่าง
2. จุดอยู่บริเวณส่วนโค้งของขอบหูวิธีนวด :
นวดขึ้นบน
หูซ้าย :1.จุดอยู่บริเวณสันหูโผล่ขึ้นมาจากแอ่งหูวิธีนวด :
นวดเฉียงไปด้านหลัง
2. จุดที่อยู่บริเวณหน้าหูติดกับแอ่งหูส่วนล่างวิธีนวด :
นวดลงล่าง
ในระยะเพิ่งเลิกยาเสพติด (บุหรี่ เหล้า ยา) ควรทำการกดจุดที่หู วันละ 2-5 ครั้ง นวดนานครั้งละ 5 นาที หลังจากนั้น เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น คุณสามารถเปลี่ยนมานวดจุดที่ร่างกายและใบหูสลับวันกันได้ การกดจุดเพื่อป้องกันการกลับไปติดยาใหม่ คือ คุณควรจะนวดต่อไปอีกอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เป็นเวลา 3-5 เดือน
จุดที่ใช้รักษาเพื่อเลิกเหล้า เลิกบุหรี่นี้ มีนักกดจุดบางรายได้นำมาใช้ประโยชน์ในการลดความอยากอาหารนั่นก็คือ นำมาใช้ลดความอ้วนในบรรดานักกินที่ชอบกินทุกอย่างที่ขวางหน้า คุณผู้อ่านลองนำไปปฏิบัติดูก็ได้ไม่เสียหายอะไร ได้ผลดีอย่างไรอย่าลืมเขียนมาเล่าสู่กันฟังบ้าง
ข้อแนะนำทั่วไปก่อนกดจุด1. นั่งหรือนอนในท่าที่สบาย มือที่จะกดจุดไม่ควรจะเย็น ถ้าเย็นควรทำมือให้อุ่นก่อนโดยแช่ในน้ำอุ่น หรือใช้ผ้าห่มมือไว้
2. ถ้าท่านมีผิวหนังที่แพ้ง่าย อาจจะโลชั่นหรือแป้งฝุ่นทาบริเวณที่จะกดจุดก่อนลงมือกดจุด
3. ระหว่างทำการกดจุด บางรายอาจมีเหงื่ออกมาก ควรให้พักระหว่างการกดจุดได้
4. ในวันที่อากาศหนาวเย็น เมื่อกดจุดเสร็จเรียบร้อย ก่อนออกไปนอกบ้านควรสวมเสื้อให้อบอุ่น
ข้อแนะนำก่อนกดจุด1. การกดจุด หมายถึง การนวดจุดนั้นๆ โดยใช้ปลายนิ้วมือที่เล็บสั้น
2. อ่านและดูรูปทีแสดงตำแหน่งการกดจุดให้เข้าใจ แล้วลองกดจุดที่อยู่บนร่างกาย สำหรับจุดที่อยู่บนใบหูแจจะใช้กระจกส่องช่วยหาจุด หรือวานให้ใครคนใดคนหนึ่งดูจุดนั้นในรูปแล้วชี้ตำแหน่งให้
3. เมื่อท่านกดถูกจุดๆ นั้นจะให้ความรู้สึกได้ดีกว่าบริเวณรอบๆ และควรกดจุดให้แรงพอ
4. นิ้วมือที่นิยมใช้กดจุด มักใช้นิ้วชี้ โดยให้ปลายนิ้วตั้งฉากกับผิวหนัง และนวดไปตามทิศทางที่ลูกศรชี้ในภาพ นวด (ถู) ออกไปเป็นระยะทาง 1 นิ้ว การนวดควรนวดประมาณ 30 ครั้งต่อ10 วินาที หรือ 70-100 ครั้งต่อนาที
5. จุดบนใบหูอาจจะใช้ปลายนิ้วก้อยหรือปลายดินสอ, ปากกามนๆ นวดได้ เพราะบริเวณใบหูเล็กและแคบกว่าร่างกาย
6. การกดจุดตามหลักของจีนได้กำหนดเวลาในการกดจุดแต่ละครั้งไว้ ดังนี้
เด็กอายุ 0-3 เดือน ใช้เวลากดทั้งหมด ½ -3 นาที
เด็กอายุ 3-6 เดือน ใช้เวลากดทั้งหมด 1-4 นาที
เด็กอายุ 6-12 เดือน ใช้เวลากดทั้งหมด 1-5 นาที
เด็กอายุ 1-3 ปี ใช้เวลากดทั้งหมด 3-7 นาที
เด็กโตตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ใช้เวลากดทั้งหมด 5-10 นาที
ผู้ใหญ่ ใช้เวลากดทั้งหมด 5-10-15 นาที
7. จุดที่กดอยู่บนร่างกาย ควรกดหรือนวดทั้ง 2 ข้างของลำตัว (ร่างกายจะแบ่งเป็น 2 ข้าง คือ ข้างขวาและซ้าย)
8. ระยะต่างๆ ที่ใช้ในการวัด จะวัดจากความกว้างของนิ้วของผู้กดจุดเอง
ข้อมูลดีๆจาก หมอชาวบ้าน