ปัจจุบันนี้มีคนพูดถึงคำ ๆ นี้กันมาก เพราะเจ้าสารตัวนี้อาจจะถือได้ว่าเป็นต้นตอของปัญหาที่เลวร้ายทั้งหลายภายในร่างกายคนเรา ไม่ ว่าโรคหัวใจ โรคมะเร็ง ความแก่ ความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ จะเห็นว่ายาบำรุงหรือสารอาหาร เครื่องสำอางต่าง ๆ เช่น จะบอกว่ามีส่วนผสมของวิตามินอี ซึ่งจัดเป็น antioxidant ที่สำคัญตัวหนึ่งเอาไว้คอยป้องกันผลเสียอันเกิดอนุมูลอิสระนั้นเอง
ซึ่งเจ้าอนุมูลอิสระ หรือ Active Oxygen ก็คือออกซิเจนที่ก่อให้เกิดสารพิษภายในร่างกาย ซึ่งสาเหตุของการเกิดนั้น ก็คือ
ปัจจัยภายใน ความเครียด ความเหนื่อยล้า การออกกำลังกายหักโหมเกินกำลัง และ ปัจจัยภายนอกได้แก่ สภาพแวดล้อมเป็นพิษ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ แสงแดด ฝุ่นควันการสูบบุหรี่ ควันบุหรี่มือสองจากคนอื่น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องพบเจอทุก ๆ วันอยู่แล้ว
และ ที่สำคัญที่สำคัญอาหารที่มักจะเป็นต้นตอของอนุมูลอิสระมักจะเป็นของโปรดของ หลาย ๆ ท่าน คืออาหารพวก ปิ้ง ย่าง เผา พวกเนื้อกรอบ เกรียมไหม้ ซึ่งหลาย ๆ คนก็ต้องพยายามลด ละ เลิก กันไปแล้ว ในขณะที่บางคนก็พยายามค่อย ๆ ลดลงเช่นกัน
และสำหรับใครที่คิดว่า ตัวเองกำลังเข้าข่ายโดนเจ้าอนุมูลอิสระเข้าคุคามล่ะก็ ฟังทางนี้ค่ะ เรามีวิธีหลีกเลี่ยงมาฝาก ... เริ่มจาก
ทำตัวให้ผ่อนคลาย ไม่เคร่งเครียด อยู่ในที่ที่อากาศสะอาดและถ่ายเทสะดวก อุณหภูมิห้องต้องไม่ร้อนหรือไม่เย็นจนเกินไป ซึ่งจะช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายเราได้ค่ะ
ส่วนการกำจัดอนุมูลอิสระออกจากร่างกายเรานั้น ก็ทำได้โดย
การทานอาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ปราศจากสารพิษ สดใหม่ ให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นที่กลุ่มอาหารสุขภาพ อย่างผักผลไม้ใบเขียว เหลือง ซึ่งอุดมไปกากอาหาร ที่จะช่วยพาสารพิษและอนุมูลอิสระ ออกจากร่างกายเราได้ค่ะ รวมไปถึง "
เบต้า - แคโรทีน" และวิตามินซีในผักสดเหล่านั้น ยังช่วยต่อต้านการก่อตัว ของอนุมูลอิสระในร่างกายเราได้อีกด้วย
หรือจะเลือกกำจัดสารพิษจากไลฟ์สไตล์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการทำสปา โยคะ Detox หรือดื่มชาสมุนไพร ที่ให้ผลในการต่อต้านอนุมูลอิสระ อย่าง " ใบโรสแมรี่" ที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ผ่อนคลาย ก็ช่วยลดอนุมูลอิสระได้เช่นกันคะ
มี สารต้านอนุมูลอิสระที่มักถูกแนะนำอยู่สามตัวด้วยกัน คือ วิตามิน อี วิตามิน ซี และเบต้าคาโรทีนและปัจจุบันนี้ก็มีหลาย ๆ บริษัทยาที่ผลิตอาหารเสริมมาเพื่อป้องกันเจ้าอนุมูลอิสระนี้ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลยืนยันได้แน่ชัดว่าจะได้ประโยชน์จริงหรือไม่
1.รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และมาตรวจตามนัดทุกครั้ง
2.รับประทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร
3.รับประทานอาหารแต่พออิ่ม และควรพักหลังอาหารประมาณ ½ - 1 ชั่วโมง
4.ออก กำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งวิธีการออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือ การเดิน เริ่มโดยการเดินช้าๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะทาง แต่อย่าให้เกินกำลังของตนเอง
5.ทำจิตใจให้สงบ หาโอกาสพักผ่อน และหาวิธีลดความเครียด หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้น เช่น การดูเกมการแข่งขันที่เร้าใจ หรือทำกิจกรรมโลดโผน เป็นต้น
6.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงและเค็มจัด
7.งดดื่มสุรา ชา กาแฟ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
8.หลีกเลี่ยงงานหนัก งานรีบเร่ง และงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องนานๆ
9.เมื่อ มีอาการเจ็บหน้าอก ให้หยุดกิจกรรมนั้นๆ ทันที และอมยาใต้ลิ้น 1 เม็ด ถ้าอาการยังไม่ทุเลาลงให้อมยาใต้ลิ้นซ้ำได้อีก 1 เม็ด ห่างกัน 5 นาที แต่ไม่ควรเกิน 3 เม็ด หากอาการไม่ดีขึ้นใน 15-20 นาที ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
10.การมีเพศสัมพันธ์ไม่ควรหักโหม ควรอมยาใต้ลิ้นก่อนมีเพศสัมพันธ์ ถ้ามีอาการใจสั่น หายใจขัด หรือเจ็บหน้าอกนานเกิน 15 นาทีหลังมีเพศสัมพันธ์ควรปรึกษาแพทย์