โรคความดันโลหิตสูง คือการที่ค่าความดันโลหิตตัวบนมากกว่าหรือเท่ากับ 140 มม.ปรอท และตัวล่างมากกว่าหรือเท่ากับ 90 มม.ปรอท เกิดจากการที่แรงดันของเลือดมีค่าสูง และหลอดเลือดตีบแคบลง ทำให้หัวใจต้องทำงานหนัก บีบตัวแรงขึ้น เพื่อที่จะส่งออกซิเจนและอาหารไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย จึงส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น นับเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ โดย 1 ใน 8 ของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้เสียชีวิตลงในแต่ละปี
และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่สร้างความเสียหายให้ กับร่างกายมนุษย์ เช่น หัวใจ ตา สมอง และไต ปกติผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมักไม่มีอาการบ่งบอก จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่ไม่ระมัดระวังตัว ทำให้ตัวเองอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรค จากผลการศึกษาล่าสุดพบว่าคนไทยเกือบร้อยละ 22 ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป มีภาวะความดันโลหิตสูง และถึงแม้ว่าโรคความดันโลหิตสูงจะสามารถตรวจได้ง่าย และรักษาได้ แต่เกือบร้อยละ 70 ของผู้ป่วย ไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตของตัวเองได้
ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจำเป็นต้องได้รับการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไปตลอดชีวิต โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการใช้ยาลดความดันโลหิต แต่ปัญหาที่ผ่านมาก็คือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่พอรักษาไปได้สักพักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าอาการดีขึ้นแล้วก็คิดว่าตนเองหาย และมักจะละเลย ไม่ทานยาตามแพทย์สั่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย
สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย ศูนย์สุขภาพความดัน และบริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการ
Health BP Caravan คาราวานเพื่อสุขภาพความดันที่ดี เพื่อรณรงค์ให้คนไทยใส่ใจสุขภาพของตนเองรวมถึงคนรอบข้าง และตระหนักถึงอันตรายของโรคความดันโลหิตสูง
กิจกรรมของโครงการจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยและญาติใส่ใจดูแลสุขภาพควบคุมความดันโลหิตและปัจจัยเสี่ยง โดยจะมีทีมแพทย์ พยาบาล ออกรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตนเพื่อป้องกัน และรักษาโรคความดันโลหิตสูง จัดนิทรรศการ ให้บริการตรวจสุขภาพความดันโลหิต พร้อมให้คำปรึกษาเบื้องต้นฟรีแก่ประชาชนทั่วไปในภูมิภาคต่าง ๆ ตลอดปี 2552 โดยประเดิมเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
นอกจากจะมีโครงการดี ๆ สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ยังมีข่าวดีเรื่องการค้นพบนวัตกรรมใหม่สำหรับการรักษาความดันโลหิตสูงในรอบทศวรรษ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับแพทย์และผู้ป่วยในการควบคุมระดับความดันโลหิตเป็นนวัตกรรมที่ได้รับรางวัลอันดับหนึ่งในสาขานวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยี จาก The Wall Street Journal ซึ่งยาตัวใหม่ที่ถูกค้นพบนี้
จะออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์เรนิน (Renin) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคความดันโลหิตสูงโดยตรง ศ.นพ. ฮานส์ เฮนริค พาร์ฟวิ่ง ภาควิชาต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลแห่งชาติ มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเก็น กล่าวว่า การค้นพบดังกล่าวนับเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก
โดยการค้นพบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และจะส่งผลต่อแนวทางในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงของแพทย์ต่อไปในอนาคต โดยหัวใจสำคัญของการรักษาด้วยยานวัตกรรมใหม่นี้คือการยับยั้งระบบเรนิน ณ ตำแหน่งที่เป็นต้นวงจรหรือต้นเหตุของโรค ขณะที่การรักษาที่มีมาก่อนนี้มุ่งเน้นแต่ควบคุมกระบวนการในระบบเรนินที่ปลายทาง
นวัตกรรมยาใหม่ดังกล่าว ได้รับการขึ้นทะเบียนยาในประเทศสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ตั้งแต่ปี 2550 สำหรับประเทศไทย ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อเดือนธ.ค. 51 ที่ผ่านมา แม้จะมีแนวทางการรักษา รวมถึงนวัตกรรมยาใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังมีความจำเป็นที่ทุกคนจะต้องได้รับการตรวจวัดความดันโลหิต
ระดับน้ำตาล เพราะโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่ไม่มีอาการบ่งชี้ที่แน่ชัด จึงยังคงมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าตนเองเป็นโรคดังกล่าว.
ข้อมูลจาก เดลินิวส์
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [
