บัวหลวง......ดอกไม้สมุนไพร
บัวหลวง (Lotus)
ชื่ออื่นๆ บัว สัตตบงกช สัตตบุษย์ อุบล
ส่วนที่ใช้ ประโยชน์ และสาระสำคัญ
ด้านอาหาร เนื้อในเมล็ดอ่อนมีสีขาว รสหวานมัน รับประทานได้
เนื้อในเมล็ดแก่ เมื่อแกะเอาดีบัวซึ่งมีรสขมออกแล้วนำมาต้มกับน้ำตาล หรือฉาบน้ำตาลรับประทานเป็นของหวาน
เหง้า นำมาฝานเป็นชิ้นบางๆ ต้มกับน้ำตาลเป็นของหวานเช่นกัน
รากบัว ตัดเป็นท่อน นำมาทุบแล้วต้มกับน้ำตาลปี๊บ ให้น้ำรากบัว ซึ่งดิ่มแก้กระหายได้ดี
เมล็ดบัว ประกอบด้วยโปรตีนร้อยละ 14.2 แป้งร้อยละ 65.5 ธาตุฟอสฟอรัสร้อยละ 0.342 และ แคลเซียมร้อยละ0.335
ใบบัว ใช้ห่ออาหาร
ด้านการบำบัดรักษา
ในยาไทยใช้เกสรบัวหลวงเข้ายาหอม บำรุงหัวใจ แก้อาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ เป็นส่วนหนึ่งของเกสรทั้ง 5 ทั้ง 7 ทั้ง 9 เนื่องจากมีน้ำมันหอมระเหย
กลีบดอก เป็นยาฝาดสมาน
เหง้า ใช้เป็นยาเย็น
ดีบัว ซึ่งเป็นส่วนของต้นอ่อนสีเขียวภายในเมล็ด มีสารจำพวแอลคาลอยด์ ชื่อเมททิล-คอริพอลลีน ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ ดีบัวมีรสขม ใช้แก้ไข้ บำรุงกำลัง แก้ร้อนใน
เกสรทั้ง 5 ประกอบด้วย ดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกสารภี ดอกบุนนาค เกสรบัวหลวง
เกสรทั้ง 7 ประกอบด้วย ดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกสารภี ดอกบุนนาค เกสรบัวหลวง ดอกจำปา ดอกกะดังงา
เกสรทั้ง 9 ประกอบกด้วย ดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกสารภี ดอกบุนนาค เกสรบัวหลวง ดอกจำปา ดอกกระดังงา ดอกลำเจียก ดอกลำดวน
ข้อมูลจาก สมุนไพรในสวนครัว รศ.ดร. วันดี กฤษณพันธ์ และคณะ
ตำราประมวลหลักเภสัชของ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เนท