ทั้งกลากและเกลื้อน เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื่อรา แต่มีลักษณะอาการแตกต่างกัน
กลาก (รูปที่ 1)จะมีลักษณะเป็นวงแดงเห็นขอบนูนชัดเจน รอบๆ มักมีตุ่มใสเล็กๆ เรียงเป็นวง ตรงกลางจะเป็นขุยขาวๆ แห้งๆ มีลักษณะเป็นรูปโค้งหรือวงเดือน ชาวบ้านจึงเรียกว่า
กลากวงเดือนมักขึ้นตามใบหน้า ลำตัว หลัง แขนขา มือ ซอกเท้า
ถ้าเป็นในบริเวณร่มผ้า ขาหนีบ หรืออัณฑะ ชาวบ้านเรียกว่าสังคัง
ถ้าขึ้นที่ศีรษะ มักจะทำให้เกิดผมร่วงเป็นหย่อมๆ
คนไข้มักจะรู้สึกคันและเกาบางครั้งเกาจนหนังถลอก ทำให้ติดเชื้อหนองอักเสบได้ กลากมักจะค่อยๆ ลามกว้างออกไปเรื่อยๆ ซึ่งต่างจากผื่นคันที่เกิดจากการแพ้ซึ่งมักจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันทีเดียว
กลากเมื่อรักษาหายแล้ว มักจะหายขาด ไม่เป็นซ้ำๆ ซากๆ ยกเว้น ไปติดเชื้อรามาใหม่ ส่วนผื่นคันจากการแพ้ มักจะเป็นๆ หายๆ เรื้อรังเป็นปี ๆ และมีประวัติชอบแพ้อะไรง่ายๆ
การรักษาให้ทาด้วยขี้ผึ้งรักษากลากเกลื้อนขององค์การเภสัชกรรม (หลอดละประมาณ 1.50 บาท) วันละ 2-3 ครั้ง ติดต่อกันทุกวัน ประมาณ 1-2 อาทิตย์ ผื่นจะจาง ขอให้ทาต่อไปนาน 3-4 อาทิตย์
เกลื้อน (รูปที่ 2)จะพบเป็นวงด่างขาวหรือออกแดงหรือเป็นรอยแต้มๆ ขอบไม่นูน เวลาถูกแดดสีจะเข้มขึ้น มักไม่มีอาการคัน ชอบขึ้นตามใบหน้า ซอกคอ แผ่นหลัง ลำตัว
การรักษาให้ทาด้วย ยาน้ำโซเดียม-ไธโอซัลเฟต ชนิด 20% สามารถเตรียมเองได้โดยผสมเกร็ดยานี้ (ซื้อได้จากโรงพยาบาลหรือร้านถ่ายรูปเรียกว่า ไฮโป ซึ่งใช้ผสมเป็นน้ำยาล้างรูป) ใช้เกร็ดยาหนัก 12 กรัม ผสมน้ำกลั่นหรือน้ำสุก ที่ใส่เต็มขวดยาขนาด 60 ซี.ซี. (2 ออนซ์)
ยานี้ผสมแล้ว จะเสื่อมภายใน 2 อาทิตย์ ถ้าใช้อีกต้องเตรียมผสมใหม่
ทาวันละ 2-3 ครั้งติดต่อกันทุกวัน นาน 3-4 อาทิตย์
ถ้าหาซื้อลำบาก จะใช้ขี้ผึ้ง รักษากลากเกลื้อน แทนก็ได้
ทั้งกลากและเกลื้อน เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อโดยการสัมผัสกับคนที่เป็นโรค ดังนั้นจึงควรป้องกัน โดยไม่ใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ที่นอน ร่วมกับคนที่เป็นโรคนี้ผู้เขียน: นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ
ขอบคุณ หมอชาวบ้าน