มิถุนายน 2552

 
25
30
 
 
All Blog
การออกกำลังกาย สำหรับคนไม่มีเวลา



โอ๊ย เมื่อยจัง เวียนหัวจัง ปวดหัว มึนหัว” อารมณ์ก็เสียบ่อยๆ บางครั้งก็บ่นว่า “หมู่นี้เป็นอะไรไม่รู้ กินไม่ได้ นอนไม่ หลับท้องก็อืดบ่อยจัง” ฯลฯ เรามักจะได้ยินคนอาชีพต่างๆ บ่นอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นครู ข้าราชการ พนักงานธนาคาร พนักงานบริษัท ห้างร้าน ตลาดจนผู้บริหารต่างๆ ที่ต้องนั่งทำงานกับโต๊ะอยู่เป็นประจำ

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการต่างๆ นี้คือ การขาดการออกกำลังกาย โดยเฉพาะคนกรุงเทพหรือคนในเมืองส่วนมากทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงกาย เพราะมีเครื่องทุ่นแรงนานชนิด ชีวิตประจำวันจึงออกกำลังน้อย ทำงานจำเจและบางครั้งก็ทำงานกันหามรุ้งหามค่ำ พอเอ่ยถึงการออกกำลังกายซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพ ก็คงมีเสียงตอบพร้อมๆ กันว่า “แหมไม่มีเวลาจริงๆ” “จึงถือโอกาสเสนอการออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา เมื่ออ่านจบเราท่านก็คงหาคำตอบใหม่แทนคำว่า “ไม่มีเวลา” เสียแล้ว เพราะการออกกำลังกายที่จะเสนอนี้ใช้เวลาท่าหนึ่งเพียงสองสามนาทีเท่านั้นและทำเวลาใดก็ได้



ขอพาท่านผู้อ่านพบกับรองศาสตราจารย์นายแพทย์ กรุงไกร เจนพาณิชย์ภาควิชาการเภสัชวิทยาคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ท่านเป็นผู้หนึ่งที่ให้ความสนใจในด้านการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บโดยวิธีธรรมชาติเป็นอย่างมาก ท่านได้กล่าวว่า อันที่จริง การเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนอิริยาบถเวลาทำงานในสำนักงานให้พอในวันหนึ่งๆ เป็นสิ่งที่ควรทำในทุกๆ คน เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความอ่อนเพลีย เมื่อยล้าทางกายและใจจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและเสียงานเสียการ



⇒ คุณหมอคิดว่าการบริหารร่างกายที่จะแนะนำนั้น ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับการบริหารร่างกายในสำนักงาน ?
การที่จะใช้การบริหารร่างกายในสำนักงานนั้น ต้องคำนึงถึงความสะดวก ไม่ต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือหรือต้องเปลี่ยนเป็นชุดกีฬา ต้องไม่เปลืองเวลาและเงินทองที่สำคัญควรใช้เวลาบริหารเพียงเล็กน้อย



⇒ การบริหารร่างกายที่คุณหมอแนะนำนั้นจะบริหารร่างกายส่วนไหนได้บ้างครับ ?ก็มีกล้ามเนื้อคอ ไหล่ ลำตัว หลัง หน้าอก หน้าท้อง แขน มือ นิ้ว ตลอดจนขา และเท้า



⇔ เราเรียกการบริหารร่างกายนี้ว่าอย่างไรครับ ?จะเรียกว่า “การออกกำลังกายแบบเกร็งกล้าม” หรือ “ออกกำลังกายโดยไม่เคลื่อนไหว” (ไอโซเมติค) ก็ได้ มีหลักการว่าออกแรงกล้ามเนื้อดึง หรือดันสิ่งของหรือส่วนของร่างกายเองที่ไม่อาจจะเคลื่อนที่ไปได้



⇒ คุณหมอจะยกตัวอย่างได้ไหมครับ ?
ครับ ตัวอย่างเช่น งอนิ้วของมือซ้ายและมือขวาคล้องกัน แล้วใช้กล้ามเนื้อของแขนดึงมือทั้งสองอย่างที่จะให้ออกจากกัน แต่ไม่คลายนิ้วที่งอ ซึ่งดึงเท่าไรก็แยกมือออกจากกันไม่ได้ หรือไปยืนอยู่ตรงกลางประตูเหยียดแขนทั้งสองเอามือไปยันวงกบประตูไว้ แล้วออกแรงดันอย่างกับจะให้วงกบประตูแยกห่างกันออกไป แต่มีผลในเชิงที่กล้ามเนื้อต้องทำงานอย่างหนัก คุณจะเห็นว่าคล้ายกับเรายกของหรือดันสิ่งของหนักๆ ให้เคลื่อนที่ไป ได้มีการวิจัยแสดงว่าวิธีการออกกำลังกายแบบ “เกร็งกล้าม” นี้ ให้ผลแก่ร่างกายเช่นเดียวกันกับการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหว วิธี “เกร็งกล้าม” นิยมใช้ในรายซึ่งอยู่ในที่จำกัด (เช่นนักบินอวกาศ) หรือในที่ไม่สะดวกในการที่จะออกท่ากางแขนหรือเคลื่อนตัว



⇒ ท่าหนึ่งๆ ที่จะแนะนำนี้ควรใช้เวลาเกร็งแต่ละครั้งนานเท่าไรครับ ?

ใช้เวลาเกร็งครั้งละประมาณ 10 วินาทีก็พอ โดยอาจนับช้าๆ นับ 1 ถึง 15 ท่าหนึ่งควรทำประมาณ 6 ถึง 12 ครั้ง ใช้เวลาในท่าหนึ่งๆ ก็ประมาณสองสามนาที ดังนั้น คุณจะใช้เวลาช่วงไหนที่ว่างจากงานเพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็พอแล้ว โดยออกกำลัง 1 หรือ 2 ท่าเท่าที่มีเวลาในช่วงนั้น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างและรายละเอียดวิธีการบริหาร ซึ่งมีทั้งหมด 14 ท่า อาจทำได้ขณะนั่งบนเก้าอี้อยู่ที่โต๊ะทำงาน หรือในห้องทำงาน



⇒ ต้องฝึกตามแบบนี้ตายตัวเลยใช่ไหมครับ ?ครับ การออกกำลังแบบเกร็งกล้ามนี้ การพยายามดัน ดึง กด บีบ หรือต้านอย่างเต็มที่ให้เป็นไปโดยค่อยๆ เพิ่มแรงขึ้น อย่าทำรีบร้อนพรวดพราด หรือหักโหม จำนวนครั้งก็ต้องค่อยๆ เพิ่ม ควรทำเพียงรู้สึกเมื่อยปานกลาง พยายามออกให้ได้ทุกๆส่วนของร่างกายและพยายามหาโอกาสทำเป็นประจำทุกวัน



สุดท้าย คุณหมอกรุงไกร เจนพาณิชย์ ได้ให้คำขวัญว่า "ออกกำลังวันละสิบนาที อายุจะยืนไปอีกสิบปี"




ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างท่ากายบริหารซึ่งอาจทำได้ขณะนั่งเก้าอี้ อยู่ที่โต๊ะทำงานหรือในห้องทำงาน


กายบริหารที่ 1 เป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อคอ นั่งเก้าอี้ข้างโต๊ะ เอามือทั้งสองกุมหน้า ส้นมือทั้งสองยันคาง ตั้งแขนเอาข้อศอกท้าวลงบนโต๊ะข้างหน้า ก้มหน้าเอาคางยันส้นมือ ให้ศอกกดโต๊ะแน่น ออกกำลังกล้ามเนื้อด้านหน้าของคอดึงคาง ให้กด ศอกยันกับโต๊ะให้แน่นเต็มที่ (ถ้าจำเป็นก็งอคอเล็กน้อยด้วย) กดนาน 10 วินาที แล้วผ่อน ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง


กายบริหารที่ 2 เป็นการออกกำลังคอและแขน นั่งตัวตรง เอามือประสานกัน วางบนหน้าผาก ดึงมือให้รั้งศีรษะหงายไปข้างหลัง ขณะเดียวกับที่เกร็งกล้ามเนื้อของคอสู้เอาไว้ (คือพยายามดันให้ศีรษะก้มไปข้างหน้า) ออกกำลังทั้งสองส่วนให้มากเท่าๆ กันและศีรษะไม่เคลื่อนไหวไปทางใด เกร็ง 10 วินาทีแล้วพักนิดหนึ่ง ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง


กายบริหารที่ 3 เป็นการออกกำลังคอและแขน นั่งตัวตรง ศีรษะตรง หลังพิงพนักเก้าอี้ งอแขนขวายกมือขึ้นยันหน้าข้างขวา พยายามดันให้ศีรษะเอียงขณะเดียวกันแข็งคอขืนเอาไว้ ยัน 10 วินาทีแล้วพักเล็กน้อย ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง แล้วเปลี่ยนทำข้างซ้ายทำนองเดียวกัน


กายบริหารที่ 4 เป็นการออกกำลังคอและแขน นั่งตัวตรงศีรษะตรง หลังพิงพนักเก้าอี้ ประสานมือทั้งสองโอบท้ายทอย พยายามดึงแขนให้ศีรษะก้มไปข้างหน้า ขณะเดียวกับที่แข็งคอขืนเอาไว้ ดึงนาน 10 วินาที แล้วพัก ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง


กายบริหารที่ 5 ก. เป็นการออกกำลังแขน ไหล่ หน้าอก ระหว่างนั่งพิมพ์ดีดเอามีวางที่สองข้างของเครื่องพิมพ์ แล้วเกร็งแขนดันมือให้กดเครื่องพิมพ์เหมือนว่าจะทำให้ขยี้แบนเข้าไป เกร็ง 10 วินาที แล้วพัก ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง


กายบริหารที่ 5 ข. เป็นการออกกำลังมือ แขน ไหล่ ลำตัว และขา ยืนตัวตรงห่างกำแพงประมาณ 60ซม.เอามือแตะที่กำแพงในระดับไหล่ แขนงอเล็กน้อย เกร็งกล้ามเนื้อแขนให้มือดันกำแพงอย่างแรง พร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อขา และลำตัวต่อสู้ไว้ ไม่ให้ตัวเอนห่างออกมา เกร็ง 10 วินาทีแล้วพัก ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง เปลี่ยนทำด้วยแขนอีกข้างหนึ่ง (เลือกทำท่า 5 ก.หรือ 5 ขเพียงท่าเดียวก็ได้)


กายบริหารที่ 6 เป็นการออกกำลังมือ แขน ไหล่ และลำตัว นั่งเก้าอี้ เอื้อมมือทั้งสองลงไปยึดขอบล่างของที่นั่งเอาไว้ให้แน่นเกร็งกล้ามเนื้อแขนดึงอย่างแรงพร้อมกับเกร็งลำตัวแข็งเอาไว้ ดึงนาน 10 วินาที แล้วปล่อยทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง (วิธีนี้ใช้กับเก้าอี้เบาะสปริงไม่ได้)


กายบริหารที่ 7 เป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อหน้าท้อง หลัง แขน และ ไหล่ โอบแขนไปข้างหลังให้โอบพนักเก้าอีเอาไว้ เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้องอตัว ให้ตัวโยกไปข้างหน้าพร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อแขนรั้งให้ตัวโยกไปข้างหลัง ดึงนาน 10 วินาที แล้วพัก ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง


กายบริหารที่ 8 เป็นการออกกำลังแขน ไหล่ ลำตัว นั่งบนเก้าอี้ เอื้อมมือซ้ายข้ามขาทั้งสองไปยึดขอบขวาของเก้าอี้ งอศอกขวาเอาแขนคล้องพนักเก้าอี้ไว้ดึงแขนทั้งสองพร้อมกัน ดึง 10 วินาทีแล้วปล่อย เปลี่ยนข้างทำอย่างเดียวกัน ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง


กายบริหารที่ 9 เป็นการออกกำลังแขน หน้าอก นั่งตัวตรง ยกมือทั้งสองขึ้นระดับอก เอาปลายนิ้วมือแตะกันเป็นคู่ๆ ดันมือเข้าหากันพร้อมกับเกร็งนิ้วแข็งไว้ ไม่ปล่อยให้ฝ่ามือเข้าไปใกล้กัน ดันนาน 10 วินาที แล้วพัก ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง


กายบริหารที่ 10 ก. เป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อแขนที่เหยียดนิ้วและข้อมือ กล้ามเนื้อที่งอแขนท่อนปลาย กล้ามเนื้อหัวไหล่และหน้าอก นั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆ โต๊ะ งอข้อมือเกือบเป็นมุมฉาก แล้วยกขึ้นเอาหลังนิ้วยันกับขอบโต๊ะ เกร็งแขนดันนิ้วอัดกับโต๊ะขณะที่เกร็งนิ้วแข็งไว้ เกร็งนาน 10 วินาที แล้วพัก ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง


กายบริหารที่ 10 ข. เป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อไหล่ แขนท่อนบน และท่อนล่าง ยืนตรงกลางช่องประตู กางแขนทั้งสองออกให้หลังมือยันวงกบประตูเกร็งแขนให้แข็ง และเกร็งกล้ามเนื้อไหล่ ให้กางแขนจนหลังมืออัดกับขอบไม้ คล้ายกับจะดันให้ไม้โครงออกไป เกร็งนาน 10 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง (เลือกทำท่าที่ 10 ก. หรือ 10 ข.เพียงท่าเดียวก็ได้)


กายบริหารที่ 11 เป็นการออกกำลังไหล่ แขนท่อนบน ท่อนล่าง และกล้ามเนื้อที่งอนิ้ว ยกแขนทั้งสองเสมอไหล่ งอข้อศอกเอานิ้วมือทั้งสองงอเกี่ยวกันออกแรงดึงข้อศอกอย่างกับจะให้มือหลุดออกจากกัน แต่เกร็งนิ้วงอเกี่ยวกันไว้ ดึงอย่างสุดแรง ดึงนาน 10 วินาที แล้วหย่อน ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง

กายบริหารที่ 12 เป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อขาท่อนบนและท่อนล่าง นั่งบนเก้าอี้ ขากาง เอาถังทิ้งกระดาษ (ต้องเป็นถังที่แข็งแรง เช่น ถังไม้หรือถังเหล็ก ไม่ใช่ตะกร้า) วางตรงกลาง เกร็งขาและเท้าแข็ง แล้วบีบขาเข้าหากันให้เท้าหนีบถังอย่างแน่น (เหมือนกับจะให้แตก) เกร็ง 10 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง (อาจทำท่านี้ระหว่างคุยโทรศัพท์ก็ได้)


กายบริหารที่ 13 ท่านี้ทำอาการตรงข้ามกับท่าที่ 12 หรืออาจละเว้นท่านี้ก็ได้


กายบริหารที่ 14 เป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อขาท่อนบน และท่อนล่าง รวมทั้งกล้ามเนื้อที่งอ และเหยียดข้อเท้า ถอดรองเท้าออก เอาเท้าขวาวางทับหลังเท้าซ้าย เกร็งขาขวากดลงพร้อมกับเกร็งขาซ้ายยกขึ้น ออกแรงเต็มที่ให้ขาทั้งสองยันกันลอยอยู่ ไม่ขึ้นไม่ลง เกร็ง 10 วินาทีแล้วพัก ทำซ้ำ 6 ถึง 12 ครั้ง ครบแล้วเปลี่ยนเอาเท้าซ้ายกดเท้าขวาบ้าง




ข้อมูลดีๆจาก หมอชาวบ้าน






Create Date : 02 มิถุนายน 2552
Last Update : 2 มิถุนายน 2552 5:32:23 น.
Counter : 1833 Pageviews.

3 comments
  
มีเนื้อหาดีค่ะ ชอบแล้วยังไปทำตามทุกท่าเลยค่ะ
โดย: จุฑามณี ตรีโรจนานนท์ IP: 110.49.121.110 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:51:04 น.
  
ขอบคุณครับ
โดย: คิด IP: 117.47.49.73 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:22:42:53 น.
  
ได้ความรู้มาก เป็นประโยชน์จริงๆ
โดย: ิบุญโชค IP: 58.9.71.215 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:21:19:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pimpagee
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]



Smile...Small...Smooth...Smart...

counter
สร้าง Playlist ของคุณได้ที่นี่
New Comments