กุมภาพันธ์ 2552

 
All Blog
อีสุกอีใส ไข้ออกตุ่มสุกตุ่มใสสมชื่อ









“โรคอะไรเอ่ยที่ทำให้มีอาการตัวร้อน และคุ่มขึ้นตามร่างกาย ?”
“อีสุกอีใสครับ”

“นอกจากอีสุกอีใสแล้ว ยังมีอะไรอีก ?”
“ฝีดาษ หรือ ไข้ทรพิษครับ”

“เราจะแยกอาการของอีสุกอีใส ออกจากฝีดาษได้อย่างไร”
“อีสุกอีใส จะมีตุ่มขึ้นพร้อมกับอาการไข้ หรือหลังจากมีไข้ได้ 1 วัน ลักษณะตุ่มจะสุกไม่พร้อมกัน คือมีหลายลักษณะ และขึ้นกระจายตามลำตัวมากกว่าแขนขา” “ส่วน ฝีดาษ จะมีตุ่มขึ้นหลังมีไข้ 3 วัน ลักษณะตุ่มจะสุกพร้อมกัน คือมีลักษณะเดียวกันหมด และขึ้นกระจายตามแขนขามากกว่าลำตัวครับ”

ในสมัยที่ผู้เขียนยังเป็นนักเรียนแพทย์ มักจะถูกอาจารย์ต้อนถามปัญหาเรื่องไข้ออกตุ่ม และพวกเราก็ต้องท่องคำตอบให้อาจารย์ฟังเป็นสูตรตายตัวดังกล่าวข้างต้นนี่แหละ
ทั้งอาจารย์แพทย์และนักเรียนแพทย์ นิยมเรียกชื่อโรคเป็นภาษาอังกฤษ เพราะตำราแพทย์ในสมัยนั้น เป็นภาษาอังกฤษล้วน ๆ เราเรียกอีสุกอีใสว่า “ชิกเก่นพ็อก” (Chiken-pox)และ เรียกฝีดาษว่า
“สะมอลพ็อก” (Small-pox) พอเรียกเป็น “ชิกเก่นพ็อก” “สะมอลพ็อก” เข้า เราก็สับสนเพราะชื่อมันไม่ได้บ่งบอกลักษณะอาการโรคอยู่ในตัว ก็ต้องท่องจำลักษณะอาการของทั้ง 2 โรคนี้
มาสมัยนี้ เราคุ้นกับชื่อไทย ๆ เรามากขึ้น พอมาเรียกเป็น “อีสุกอีใส” แทน “ชิกเก่นพ็อก” เข้าทำให้มองเห็นภาพพจน์ได้แจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า ลักษณะตุ่มของคนที่เป็นอีสุกอีในนั้นจะมีตุ่มสุก และตุ่มใสขึ้นพร้อมกันนั่นเองก็ต้องขอยกย่องบรรพบุรุษเราที่มีศิลปะในการตั้งชื่อนี้ขึ้นมาสมัยนี้ คนที่จะคิดตั้งชื่อให้ได้ความหมายแบบนี้มีน้อยเต็มที่ถ้าอยากจะเผยแพร่ความรู้ด้านสุขภาพอนามัยให้ประชาชนธรรมดา ๆ เข้าใจกันแล้ว ก็เห็นจะต้องหันมาคิดชื่อไทย ๆ กันให้มากขึ้น



⇒ ลักษณะหน้าตาของอีสุกอีใสเป็นอย่างไร

คุณผู้อ่านครับ ผมเชื่อว่าทุกคนคงรู้จักโรคอีสุกอีใสกันมาดีแล้วใช่ไหมครับ
โรคนี้ จะพบระบาดในเด็ก ๆ เหมือนโรคหัต มันแพร่กระจายรวดเร็วเหมือนไฟลามทุ่งเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง (ชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคงูสวัดนั่นแหละ)เมื่อคนรับเชื้ออีสุกอีใสเข้าไปเช่น ถูกคนที่เป็นโรคนี้ไอ หรือจามรด หรือไปสัมผัสถูกเครื่องใช้ เช่น ที่นอน ผ้าห่มที่ผู้ป่วยใช้อยู่หลังจากนั้นประมาณ 10-20 วัน ก็จะเกิดมีอาการตัวร้อนอ่อนเพลียคล้ายไข้หวัด ซึ่งอาการจะเป็นไม่มาก พร้อม ๆ กับวันที่มีไข้ หรือ 1 วันหลังมีไข้ ก็จะมีผื่นแดงเล็ก ๆ ขึ้นเป็นหย่อม ๆ ตามลำตัว แล้วกลายเป็นตุ่มนูน ตุ่มใส ตุ่มหนองและตกสะเก็ดตามลำดับ ถ้าสังเกตเปรียบเทียบตุ่มต่าง ๆ จะพบว่าบางอันเพิ่งจะเป็นผื่นแดงหรือตุ่มนูน บางอันเป็นตุ่มใส บางอันเป็นตุ่มข้นเหมือนน้ำข้าว บางอันก็ตกสะเก็ด นี่แหละที่เรียกว่าตุ่มสุกไม่พร้อมกัน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของอีสุกอีใสตุ่มเหล่านี้จะคัน จนบางครั้งผู้ป่วยใช้เล็บเกาจนเป็นหนองเนื่องจากมีเชื้อหนอง (แบคทีเรีย) เข้าไปผสมโรงด้วย
สมัยนี้ถ้าพบผู้ป่วยมีไข้พร้อม กับมีตุ่มขึ้นตามตัว ก็ให้นึกถึงอีสุกอีใสไว้ ส่วนโรคฝีดาษนั้นเลิกคิดถึงได้เพราะมันสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้ว



⇒การดูแลรักษาคนที่เป็นอีสุกอีใส

โรคนี้ส่วนมากจะเป็นเองหายเอง แบบเดียวกับไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก หัด คางทูม ฯลฯ เพราะเกิดจากเชื้อโรคตระกูลไวรัสแบบเดียวกัน ส่วนมากจะมีไข้อยู่ไม่กี่วัน อาการทั่วไปก็ไม่ค่อยรุนแรง ส่วนตุ่มที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆ ตกสะเก็ดหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ และไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นเหมือนโรคฝีดาษแต่อย่างใดเมื่อพบคนที่เป็นโรคนี้ ก็ให้การดูแลรักษาอาการ คือ ถ้ามีไข้ก็ให้ยาลดไข้ เช่น แอสไพริน หรือ พาราเซตาม่อล ครั้งละ 1/2 - 1 เม็ด ซ้ำได้ทุก 6 ชั่วโมงถ้ามีอากรคันมากก็ให้ทาด้วย ยาแก้ผดผื่นคัน (คาลาโมน์โลชั่น)

ควรตัดเล็บผู้ป่วยให้สั้น และพยายามอย่าเกาตามผื่นตุ่มที่คัน เพราะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียที่ติดอยู่ตามเล็บเข้าไปผสม กลายเป็นหนองเฟะได้
ถ้าพบว่าตุ่มกลายเป็นหนอง ก็ให้กินยาปฏิชีวะนะ เช่น ในเด็ก ก็ให้ เพนวี (ขนาด 2 แสนยูนิต เม็ดละ 50 สตางค์) วันละ 4 ครั้ง ๆ ละ1 เม็ด ในผู้ใหญ่ให้กินเตตร้าซัยคลีน (ขนาด 250 มิลลิกรัม แคปซูลละ 0.75-1.00 บาท) วันละ 4 ครั้งๆ ละ 2 แคปซูล ควรให้นาน 7-10 วัน โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ ปอดบวม ซึ่งจะพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็กถ้าพบว่าคนที่เป็นอีสุกอีใสแล้วมีอาการหอบ และมีไข้สูงก็ควรจะแนะนำไปโรงพยาบาล อาจมีอันตรายถึงตายได้

ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันอีสุกอีใสการป้องกันคือ อย่าเข้าใกล้คนที่เป็นโรคนี้



ข้อมูลจาก หมอชาวบ้าน



Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2552 5:30:27 น.
Counter : 5879 Pageviews.

17 comments
  
โดย: praewa cute วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:07:07 น.
  
ขอบคุณสำหรับข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์นะคะ
โดย: ทฤษฎีสีฟ้า วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:08:00 น.
  
มีวัคซีนน่ะค่ะ ในเด็กเล็ก ฉีดป้องกันไว้ก่อนน่ะค่ะ อายุประมาณ 2 ขวบก้อฉีดได้แล้ว
โดย: เปรมปลื้ม วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:22:23 น.
  
รรรรรรร
โดย: ก IP: 125.25.205.234 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:06:48 น.
  
ขอบคุณครับ มีวิธีปัองกันไม่ให้เกิดไหมครับ หรือถ้าหากเกิดอาการไม่รุนแรงต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โดย: เจตบุริศร์ IP: 203.144.144.165 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:21:19 น.
  
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆเลยครับความรู้ทั้งนั้นครับ
โดย: หมอนข้าง IP: 118.175.171.174 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:7:11:40 น.
  
ขอบคุณมากค่ะ แต่อยากรู้สมุนไพรหรือครีมตัวไหนที่รักษาจุดด่างดำที่เกิดจากอีสุกอีใสได้บ้าง
โดย: รัฐ IP: 124.120.212.147 วันที่: 29 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:04:44 น.
  
ที่บอกว่า...ถ้ามีไข้ก็ให้ยาลดไข้ เช่น แอสไพริน หรือ พาราเซตาม่อล ครั้งละ 1/2 - 1 เม็ด ....มีข้อมูลแย้งว่า ไม่ควรกินแอสไพรินในผู้ป่วยที่เป็นอีสุกอีใส แต่สามารถกินพาราเซทตามอลได้ ..น่าจะลองตรวจสอบดูนะคะ กันพลาด
โดย: สบายใจดี IP: 124.121.153.24 วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:17:12:17 น.
  
รักนะเด็กโง่
โดย: jitthester IP: 10.10.13.194, 182.52.190.243 วันที่: 25 สิงหาคม 2553 เวลา:11:04:28 น.
  
เป็นข้อมูลที่ดีมากๆๆ ครับ ขอบคุณมาก
โดย: คนเมืองเหนือ IP: 118.172.94.130 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:14:05:26 น.
  
เป็นระยะแรกให้เช็ดตัวด้วยยาเขียว(ห้ามกินนะค่ะ เดี๋ยวตุ่มจะเห่อขึ้นเยอะกว่าเดิม) ถ้ามีไข้กินยาพาราเซทตามอลค่ะ คันก็ทาคาดรามาย วี โลชั่น หรือยาเฟนิรามีน ลดอาการคันค่ะ แล้วรอร้อรอก็จะหายเองคร่ะ
โดย: newnaka IP: 1.46.102.106 วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:3:02:17 น.
  
ขอบคุณมากครับ
โดย: gobora.com IP: 118.172.12.7 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:10:13:22 น.
  
ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่มอบให้
โดย: SongKAAO IP: 115.87.156.23 วันที่: 12 มีนาคม 2554 เวลา:21:09:38 น.
  
อีสุกอีใสน่ากลัวมาก หนูไม่อยากเป็นอีกเลย

โดย: ปรานต์ IP: 124.122.243.163 วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:25:45 น.
  
อีสุกอีใสนี่เปนซ้ำได้หรือป่าว เคยเปนครั้งหนึ่งแต่ตอนนี้เริ่ม

เปนอีกแล้ว โรงเรียนก็ใกล้เปิดแล้ว กลุ้มใจมากตอนนี้ไม่รุ

ว่าจะหายทันป่าว
โดย: ต้นข้าว IP: 110.49.237.105 วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:02:47 น.
  
ขอบคุณค่ะ
โดย: เอเอ IP: 125.26.72.174 วันที่: 22 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:05:04 น.
  
น่าส่งสาร
โดย: ยา IP: 61.19.71.227 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:21:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pimpagee
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]



Smile...Small...Smooth...Smart...

counter
สร้าง Playlist ของคุณได้ที่นี่
New Comments