Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
29 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

5 เรื่องที่แม่ท้องไม่รู้...ไม่ได้!



เพราะการตั้งครรภ์แต่ละครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ แม่ต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
รวมถึงดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี และเพื่อให้การตั้งครรภ์ตลอด 9 เดือนเป็นไปอย่างราบรื่น
จึงต้องให้ความสำคัญมากๆ กับเรื่องต่อไปนี้ด้วยค่ะ


1. โภชนาการยามท้อง
โภชนาการที่ดีของแม่ย่อมส่งผลดีถึงลูกน้อยในท้องโดยตรงค่ะ
เพราะถ้าแม่มีโภชนาการดี ลูกน้อยในท้องก็จะมีสุขภาพดีและแข็งแรงตามไปด้วย

มีงานวิจัยออกมาค่ะว่า ในแม่ที่โภชนาการไม่ดี แม้ลูกอาจเติบโตอยู่ในท้องได้อย่างปกติ คลอดก็ปกติ
แต่ในระยะยาว สุขภาพร่างกายจะไม่แข็งแรง เท่ากับเด็กที่โภชนาการดีมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่
เช่น อาจจะมีการเสื่อมของอวัยวะในส่วนต่างๆ เร็วกว่าเวลาอันควรได้ หรืออาจจะมีโรคแทรก
นั่นเป็นเพราะในช่วงที่ตับอ่อนของลูกกำลังสร้างนั้น
แม่มีโภชนาการที่ไม่ดี ทำให้การสร้างอวัยวะของลูกไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ซึ่งโภชนาการที่ดีของแม่ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ เพียงแค่กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในแต่ละวันรวมถึงในแต่ละมื้อด้วย
ไม่ใช่ว่ามื้อนี้กินแต่เนื้อสัตว์ แต่มื้อต่อไปกินผักอย่างเดียว แบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ค่ะ
เพราะที่สุดแล้วร่างกายจะไม่สามารถดึงส่วนต่างๆ มาประกอบกันได้เลย
เพราะฉะนั้น จึงควรกินให้ครบในมื้อเดียวกัน เพราะสารอาหารทุกอย่างมีความสำคัญ
แต่ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมกับโครงสร้าง และน้ำหนักตัวของแม่แต่ละคนนะคะ

ถ้าแม่น้ำหนักตัวน้อย คุณหมออาจให้เพิ่มสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต
แต่ถ้าแม่เริ่มมีน้ำหนักตัวมากเกินไป อาจต้องลดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตลงบ้าง
โดยสารอาหารหลักที่ต้องเน้นให้มากคือพวกโปรตีนและผักผลไม้ เพราะมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการครบถ้วน
ส่วนไขมันอย่าคิดว่าไม่มีประโยชน์นะคะ แม่ก็ต้องกินเพราะถ้าไม่กินเลยลูกจะมีพัฒนาการทางสมองที่ไม่ดี
เนื่องจากไขมันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์ประสาท


นอกจากนี้ยังมีสารอาหารบางชนิดที่ทั้งแม่และลูกต้องใช้มากเป็นพิเศษ เช่น โฟลิค ธาตุเหล็ก แคลเซียม
โดยเฉพาะโฟลิคนั้น แม่ต้องกินก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1-3 เดือน ค่ะ



2. ฝากครรภ์ห้ามพลาด
การมาฝากครรภ์ทันทีหลังทราบว่าตั้งครรภ์ จะทำให้แม่ทราบถึงวิธีดูแลตัวเอง
และการไปฝากครรภ์ตามนัด จะทำให้คุณหมอได้ตรวจดูความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับครรภ์ในแต่ละสัปดาห์
ถ้าแม่สุขภาพแข็งแรงดี การนัดมาตรวจครรภ์อาจจะเว้นระยะออกไปค่ะ

แต่สิ่งสำคัญคือ เวลามาฝากครรภ์ แม่ต้องบอกรายละเอียดให้หมด ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัวหรือประวัติการแท้ง
เคยต้องผ่าตัดคลอดมาก่อน หรือเป็นโรคที่มีความเสี่ยงอื่นๆ อย่างเช่น กามโรค
และต้องไปพบคุณหมอตามนัดทุกครั้ง
หากต้องเลื่อนนัดฝากครรภ์ ก็ไม่ควรทิ้งระยะห่างมากนะคะ เพราะภาวะแทรกช้อนอาจจะเกิดขึ้นได้
ยิ่งในช่วงไตรมาสสุดท้าย คุณหมอจะเริ่มนัดถี่ขึ้น
เพราะโอกาสเกิดภาวะแทรกช้อนมีสูงกว่าในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2



3. ตรวจคัดกรอง ก็สำคัญ
สามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ในช่วงเดือนแรกๆ ของการตั้งครรภ์
การตรวจร่างกายโดยรวมก็ถือว่าเป็นการตรวจคัดกรองอย่างหนึ่งค่ะ
เพื่อดูว่าแม่มีโรคที่สามารถส่งผ่านไปถึงลูกได้หรือไม่ ถ้ามีจะได้ป้องกันเอาไว้ก่อน
หรือเพื่อเป็นการประเมินสภาพการตั้งครรภ์ของแม่ว่า จะดำเนินไปได้โดยปลอดภัยหรือไม่
ต้องระวังแค่ไหน บำรุงอย่างไร และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพแค่ไหน

การตรวจคัดกรองจะมีหลายช่วงอายุครรภ์ค่ะ
ช่วงเดือนแรกจะต้องมีการเจาะเลือดเพื่อตรวจดูโรค เช่น พวกธาลัสซีเมียโลหิตจาง
(ซึ่งคนไทยเป็นมากพบได้ถึง 1 ใน 3) โรคทางเพศสัมพันธ์ ทางกรรมพันธุ์ ไวรัสตับอักเสบบี
พออายุครรภ์ 3-4 เดือน จะมีการตรวจคัดกรอง โดยการเจาะเลือดไปตรวจว่ามีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่
จะเกิดฮอร์โมนผิดปกติหรือไม่ หรือในแม่ที่อายุมากก็จะมีการตรวจคัดกรองโรคดาวน์ชินโครม
โดยการเจาะน้ำคร่ำขณะที่อายุครรภ์ 5 เดือน
ในต่างประเทศจะมีการตรวจคัดกรองโครโมโซมในแม่ตั้งครรภ์ทุกคน ไม่ว่าจะอายุน้อยหรือมาก ซึ่งเป็นผลดี
เพราะการตรวจนั้น จะช่วยทำให้ทราบถึงความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้แต่เนิ่นๆ
ในบ้านเราส่วนมากจะมีการตรวจคัดกรองโครโมโซม เฉพาะโรงพยาบาลที่มีโรงเรียนแพทย์
ซึ่งก็อยากแนะนำแม่ทุกท่านนะคะว่า สามารถขอให้คุณหมอที่ฝากครรภ์ช่วยตรวจคัด กรองโครโมโซมให้เราได้
เพราะการตรวจคัดกรองโครโมโซมนั้น
ถ้าเราไม่ได้บอกคุณหมอ หรือไม่ใช่แม่ที่มีอายุมากหรือมีความเสี่ยง คุณหมอมักจะไม่ได้ตรวจให้ค่ะ



4. สุขภาพทารกในครรภ์…ต้องดูแล
ต้องดูแลไปตลอดตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์เลยค่ะ ถ้าแม่มีโภชนาการดี มีการฝากครรภ์สม่ำเสมอและมีการตรวจคัดกรอง
ก็อุ่นใจได้ว่า ลูกที่อยู่ในครรภ์ของเราค่อนข้างจะสมบูรณ์
แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ การสังเกตและการเอาใจใส่ตัวเองของแม่ค่ะ
เพราะแม่จะมีโอกาสเจอกับคุณหมออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง แต่จำนวนวันที่เหลือคือ เวลาที่ลูกอยู่ในท้องกับแม่
แม่จึงเป็นคนเดียวที่จะรับรู้ความเคลื่อนไหวของลูกได้มากที่สุดนะคะ

วิธีการสังเกต ก็อย่างเช่น ลูกดิ้นดีหรือไม่ สุขภาพแม่แข็งแรง น้ำหนักขึ้นตามปกติ ท้องใหญ่ขึ้นมั้ย
หัวใจเต้นดีหรือไม่
ฯลฯ สิ่งเหล่านี้แม่สามารถสังเกตได้เองค่ะ
ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ที่พบความผิดปกติ เช่น รู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลง ดิ้นช้าลง อย่านิ่งนอนใจนะคะ รีบมาพบคุณหมอ
เพราะเด็กยังมีโอกาสรอด แต่ถ้ามาตอนลูกไม่ดิ้นแล้ว คุณหมอจะช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ
เพราะเวลาที่เกิดอันตรายขึ้นกับเด็กในครรภ์ จะมีระยะเวลาที่พอจะช่วยชีวิตลูกได้
คือ ภายใน 12 ชั่วโมง นับตั้งแต่ลูกดิ้นน้อยลง ถ้ามาในช่วงนั้นลูกก็มีโอกาสรอด
เพราะฉะนั้น จึงต้องหมั่นสังเกตในทุกอาการที่เกิดขึ้นช่วงตั้งครรภ์ค่ะ




5. ภาวะแทรกซ้อน…เตรียมรับมือ
ภาวะแทรกซ้อนมีมากมายเลยค่ะ และเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงเดือนแรกๆ ไปจนถึงคลอดหรือหลังคลอด
ไม่ว่าจะเป็นการแท้ง ตั้งครรภ์แฝด 3-4 คน การตั้งครรภ์นอกมดลูก แท้งคุกคาม รกเกาะต่ำเลือดออก
ครรภ์เป็นพิษ ไทรอยด์ หรือถ้ามีความเครียดก็จะทำให้คลอดก่อนกำหนด เด็กโตช้า หรือบางคนน้ำหนักขึ้นเยอะ
ทำให้เกิดโรคเบาหวานตามมาระหว่างตั้งครรภ์ หรือเกิดครรภ์เป็นพิษ
หรือแม้แต่ตอนกำลังคลอดก็อาจจะเกิดภาวะแทรกช้อนได้
เช่น น้ำคร่ำติดเชื้อ มดลูกแตก (ทำให้เสียชีวิตทันที) ตกเลือดหลังคลอด ไส้ติ่งอักเสบ เป็นต้น

ซึ่งภาวะแทรกช้อนเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ค่ะ แต่อาจป้องกันได้ หากแม่ดูแลสุขภาพให้ดี
ทำตามคำแนะนำของคุณหมอก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกช้อนได้ค่ะ

แต่อาจจะมีภาวะแทรกช้อนบางอย่างที่สุดวิสัยจริงๆ ไม่สามารถช่วยเหลือหรือป้องกันได้
อย่างกรณีสายสะดือถูกกดทับ ทำให้เด็กเสียชีวิตในไม่กี่นาทีค่ะ
หรืออาจเกิดอุบัติเหตุแบบเฉียบพลัน เช่น ตกบันได ตกจากรถมอเตอร์ไซด์ เป็นต้น
ซึ่งแม่ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มาก เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น



เป็นแม่…คุณภาพ
ถ้าอยากได้ลูกที่มีคุณภาพ แม่ก็ต้องมีคุณภาพด้วยค่ะ การเป็นแม่คุณภาพคือการหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเองค่ะ
ซึ่งปัจจุบันแหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ อินเตอร์เน็ต วิทยุ โทรทัศน์
เพื่อหาความรู้เสริม เพราะบางครั้งเราต้องยอมรับค่ะว่า
เวลาที่ไปฝากครรภ์ คุณหมออาจจะไม่ได้ตรวจเช็กร่างกายให้ตรงตามมาตรฐานที่เรารู้มา
เพราะฉะนั้น เราอาจจะใช้สิทธิ์ขอให้คุณหมอช่วยตรวจให้ แม่จึงต้องพยายามทำตัวให้เหมือนหมอสูติค่ะ ต้องรู้ว่า
ตลอดทั้ง 9 เดือน เราต้องทำอะไร ตรวจอะไร ดูแลตัวเองอย่างไร ทั้งนี้เพื่อความสมบูรณ์แข็งแรงของแม่และลูก


เรื่องโดย : //www.raklukefamilygroup.com
ที่มา : //women.kapook.com


สารบัญแม่และเด็ก




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2552
0 comments
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 22:50:26 น.
Counter : 651 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.