นิทาน 1 เล่ม + 6 ขั้นตอนง่าย ๆ พัฒนาลูกน้อย
นิทาน 1 เล่ม + 6 ขั้นตอนง่าย ๆ พัฒนา“ความเข้าใจภาษา”ลูกน้อย
หากเอ่ยถึงแนวทางการปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านผ่านการเล่านิทานนั้น ถือได้ว่า เป็นกิจกรรมที่ครอบครัวในปัจจุบัน เห็นความสำคัญมากขึ้น และมีหลายครอบครัวเลือกที่จะหาเวลาปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ โดยเชื่อว่ามีผลต่อการพัฒนาศักยภาพในหลาย ๆ ด้านของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การเผชิญหน้ากับปัญหาได้อย่างเหมาะสมในเด็ก ฯลฯ
อย่างไรก็ดี หากถามถึงมุมมองของนักวิจัยแล้ว การอ่านนิทานให้ลูกฟัง ยังสามารถปรับให้เป็นกิจกรรมสำหรับฝึก“พัฒนาการทางภาษา” ให้กับเด็กได้อีกด้วย
ซึ่ง รศ.ดร.เสาวลักษณ์ รัตนวิชช์ อาจารย์ประจำภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เจ้าของงานวิจัย โครงการประภาคารการรู้หนังสือด้วยแนวทฤษฎี การสอนแบบมุ่ง ประสบการณ์ภาษา (Lighthouse Literacy Project Through Concentrated Language Encounter Instruction หรือชื่อย่อว่า CLE) เปิดเผยว่า
“การเรียนรู้หนังสือด้วยแนวทฤษฎีการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษาเป็น กระบวนการเรียนการสอน โดยอาศัยธรรมชาติในการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นหลัก ร่วมกับการใช้กิจกรรมกระตุ้นการเรียนรู้แบบธรรมชาติ ให้ผู้เรียนได้ทดลองใช้ภาษา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นภาษาแม่ หรือภาษาที่สอง ที่สาม ก็สามารถนำหลักการเหล่านี้ ไปใช้ฝึกร่วมได้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การเปิดโอกาสให้เด็กได้สนุกกับการเรียนรู้ได้ค้นคว้า และได้ลงมือปฏิบัติทางภาษาด้วยตัวเอง”
สำหรับ แนวทางในการประยุกต์ใช้ทฤษฎีให้สัมฤทธิ์ผลนั้น รศ.ดร.เสาวลักษณ์ ระบุว่า พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถปรับทฤษฎีไปสู่กิจกรรมการอ่านนิทานได้หลายรูปแบบ พร้อมยกตัวอย่างแนวทางง่าย ๆ ที่ทำได้เอาไว้ 6 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 อ่านหนังสือให้เด็กฟัง โดยให้เด็กนั่งตัก หรือนั่งในท่าสบาย ๆ ใกล้ๆกับคนเล่า อ่านนิทานให้เด็กฟังทีละหน้าอย่างช้า ๆ และอาจมีการชี้ชวนให้ดูภาพประกอบไปด้วย
ขั้นที่ 2 เมื่อเล่าจบ ตั้งคำถามกับเด็กว่านิทานที่อ่านไปนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรและให้เด็กเล่ากลับมา โดยผู้ปกครองสามารถช่วยได้ หากเด็กนึกคำไม่ออก หรือใช้คำไม่ถูก
ขั้นที่ 3 ให้เด็กทำท่าทางประกอบ เลียนแบบตัวละครในนิทาน การทำท่าทางประกอบนี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้เด็กเข้าใจความหมายของ ภาษาได้ดียิ่งขึ้น
ขั้นที่ 4 ให้กระดาษเด็ก 1 แผ่น เด็กอยากเขียน อยากวาดอะไร ก็ให้เขียนออกมาเลย การวาดภาพจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้เด็กได้แสดงออกในสิ่งที่คิด หรือจินตนาการอยู่ หรือถ้าเด็กยังวาดไม่ได้ พ่อแม่ก็สามารถเขียนหรือวาดให้ลูกดู และให้ลูกอ่านตามได้
ขั้นที่ 5 เล่นบทบาทสมมติกับพ่อแม่ เกี่ยวกับเรื่องราวในนิทาน ซึ่งประโยชน์ที่เด็กจะได้รับจากข้อนี้ คือ การฝึกสมาธิ และฝึกกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ
ขั้นที่ 6 เล่นเกมเสียง เหมาะสำหรับเด็กที่โตขึ้นมาอีกหน่อย ที่สามารถเล่นเกมภาษาได้ โดยอาจนำประโยคที่เด็กเคยได้ยินจากในนิทาน มาทำเป็นเกมต่าง ๆ ให้เด็กได้เลียนเสียง หรือสังเกตตัวอักษรที่ตรงตามเสียงนั้น
ทั้งนี้ การประยุกต์ใช้ให้เกิดผลนั้น รศ.ดร. เสาวลักษณ์ระบุว่า จะต้องไม่ตีกรอบกับเด็กมากเกินไป และต้องเฟ้นหาเรื่องที่เด็กสนใจขึ้นมาอ่านแทนการบังคับอ่านตามหัวข้อที่พ่อ แม่ หรือคุณครูกำหนดขึ้น เนื่องจาก การพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษานั้นก็คือการสร้างและสะสมประสบการณ์ของเด็กเอง หาใช่การเรียนแบบท่องจำไม่ เด็กจะมีความสุขที่ได้เรียนในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ และจะเป็นผู้คิดเองว่า เขาจะใช้ทักษะทางภาษาเหล่านี้ไปเพื่ออะไร และสุดท้าย จะทำให้เขาเปลี่ยนจากการเรียน แบบท่องจำไปสู่การเรียนรู้การใช้ ภาษาตามความต้องการของตนเองได้ในที่สุด
ที่มา ผู้จัดการ
สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 02 กรกฎาคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2552 18:35:41 น. |
Counter : 1511 Pageviews. |
|
|
|