กุญแจ 7 ประการ เพื่อเลี้ยงลูกให้จิตใจดี
ข้อมูลจาก การบรรยายวิชาการของ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ไพรัตน์ พฤกษ์ชาติคุณากร และ แพทย์หญิงกิตติวรรณ เทียมแก้ว จากโรงพยาบาลสวนปรุง ได้ให้หลักในการเลี้ยงดูลูกให้มีสุขภาพจิตใจดีไว้ 7 ประการดังนี้
ประการที่ 1 เลี้ยงลูกตั้งแต่เด็ก คือเอาใจใส่ลูกตั้งแต่ยังเล็กให้สม่ำเสมอ จนกระทั่งเขาเติบโตขึ้น เข้าใจพัฒนาการต่างๆ และมีปฏิสัมพันธ์อย่างเหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย
ประการที่ 2 เลี้ยงด้วยความรัก การเลี้ยงลูกต้องเลี้ยงด้วยความรักและความเข้าใจให้ความอบอุ่น เพราะลูกมนุษย์ต้องถูกเลี้ยงดูทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะดูแลพัฒนาทางจิตใจนั้นสำคัญมาก ถ้าหากเลี้ยงแต่ร่างกายให้เติบโตแต่จิตใจไม่ดี ก็อาจสร้างความเสียหายให้แก่ตัวเขาเองและสังคมได้
ประการที่ 3 เลี้ยงอย่างมีวินัย การฝึกหัดให้ลูกมีระเบียบวินัยตามสมควรแก่วัย จะทำให้ลูกเริ่มเข้าใจหลักการต่างๆ ที่สังคมมนุษย์ต้องมีในการอยู่ร่วมกัน การสร้างวินัยให้ลูกควรมีความยืดหยุ่นบ้าง เช่น ปกติครอบครัวต้องรับประทานอาหารร่วมกันตอน 6 โมงเย็น แต่บางวันลูกอาจสนใจกับของเล่นชิ้นใหม่หรืออื่นๆ และขอตัวไม่รับประทานอาหารพร้อมพ่อแม่ พ่อแม่อาจต้องยอมบ้าง แล้วในที่สุดเมื่อเขาเล่นเสร็จก็ไปหาอาหารรับประทานเองในครัว เป็นต้น
ประการที่ 4 มีเวลาให้ลูกอย่างมีคุณภาพ การมีเวลาให้ลูกอย่างมีคุณภาพ คือการใช้เวลาเพื่อแสดง ความรัก ความเอาใจใส่ ความห่วงใย มักพบว่าหลายครอบครัวมีเวลาอยู่กับลูกมาก แต่ปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวขาดความมีสมานฉันท์ สมาชิกในครอบครัวรู้สึกถึงความร้าวฉาน ความไม่อบอุ่น ดังนั้น ถึงแม้จะมีเวลาให้ลูกไม่มากนัก แต่การแสดงความรัก การเอาใจใส่ที่จริงใจและอบอุ่นในเวลาอันน้อยนิด ดีกว่าอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต แต่สภาวะจิตใจเต็มไปด้วยความรู้สึกขาดและหวาดระแวง
ประการที่ 5 เลี้ยงลูกด้วยความประนีประนอม ความประนีประนอม คือ การรู้จักยืดหยุ่น หรือหยวนๆ บ้าง ในบางเรื่องบางครั้งไม่ตั้งหน้าตั้งตาเอาจริงเอาจัง เอาเป็นเอาตาย โดยเฉพาะเด็กๆ เขาจะมีความรู้สึกนึกคิด หรืออยากเปลี่ยนแปลงอะไรอยู่บ้างในช่วงวัยของชีวิต หรือกิจวัตรประจำวัน เช่น ลูกอยากดูโทรทัศน์ และนอนดึกในคืนวันหยุดราชการที่ไม่ต้องไปโรงเรียน พ่อแม่ก็ควรประนีประนอมยอมกันบ้าง เป็นต้น
ประการที่ 6 ควรคุยเล่นกับลูกบ้าง การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายระหว่างพ่อแม่ลูก อาจมีการหยอกล้อกันบ้างจะช่วยให้ชีวิตมีความสุข รู้สึกผ่อนคลาย มากกว่าสร้างความรู้สึกที่เคร่งเครียดจริงจังอยู่ตลอดเวลา
ประการที่ 7 การกระทำบางอย่างของลูก ควรย้อนดูตัวเอง พ่อแม่หลายคนมักเอาตัวเองเป็นที่ตั้งมากเกินไป จนลืมสำรวจดูความรู้สึกของลูกที่เกิดจากการกระทำของตัวเอง เช่น เวลาพูดอะไรแล้วลูกปิดหูไม่ยอมฟัง เมื่อถามดูว่าทำไมจึงทำอย่างนั้น ลูกอาจตอบว่าคุณแม่พูดมาก เรื่องนี้พูดหลายครั้งจนลูกรู้สึกรำคาญ ทั้งๆ ที่เขารู้และเข้าใจแล้ว เช่น เรื่องการแปรงฟันก่อนเข้านอน เป็นต้น ดังนั้นการกระทำต่างๆ ของลูกที่สะท้อนให้พ่อแม่ พ่อแม่ควรสำรวจตัวเองและปรับตัวบ้าง ก็จะทำให้ปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อลูกเป็นไปในทางสร้างสรรค์
โดย น.พ.สุรพงศ์ อำพันวงษ์ ข้อมูลจาก : //www.banmuang.co.th ที่มา : //www.dmh.go.th ภาพจาก : //www.fotosearch.com
สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 08 มีนาคม 2554 |
|
1 comments |
Last Update : 8 มีนาคม 2554 18:13:21 น. |
Counter : 1436 Pageviews. |
|
|
|