สิมอีสาน วัดป่าแสงอรุณ

สิมอีสาน วัดป่าแสงอรุณ
วันนี้ท้องฟ้าสดใสพอสมควร แม้เป็นเวลาเที่ยงเศษๆ ซึ่งไม่ใช่เวลาที่ดีนักสำหรับการไปเดินชม แต่ก็เป็นวันที่เราพอมีโอกาสจะได้มาสัมผัสกับสถานที่แห่งนี้ "สิมอีสาน" แห่งวัดป่าแสงอรุณ ผมเองยอมรับตรงๆเลยว่า สวยงามมาก เป็นสิ่งก่อสร้างที่ผสมผสานวัฒนธรรมของชาวอีสานและภาคกลาง ออกมาเป็นสิม หรือ โบถส์ที่สวยงามมากๆแห่งหนึ่งที่เคยมีมาในเมืองไทย....

ถ่ายจากนอกกำแพงแก้วผ่านหอระฆัง
สิมอีสาน (โบสถ์วัดป่าแสงอรุณ) "โบสถ์" ชาวอีสานเรียกว่า "สิม" ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดป่าแสงอรุณ เลขที่ ๔๔๙ บ้านเลิงเปือย (บ้านแอวมอง) หมู่ที่ ๙ ตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต อยู่ห่างจากตัวศาลากลางเมืองขอนแก่นไปทางทิศตะวันออก ประมาณ ๓ กิโลเมตร วัดป่าแสงอรุณได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา วันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๒๘ สร้างวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๓
โบสถ์วัดป่าแสงอรุณ มีลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบอีสานตอนบน ผสมกับสถาปัตยกรรมภาคกลาง ด้านหน้าสู่ทิศตะวันออก มีความกว้าง ๑๕ เมตร ความยาว ๓๔ เมตร ปลียอดบนทำด้วยโลหะทองคำบริสุทธิ์สูงจากพื้น ๖๐ เมตร จำนวนเสา ๕๒ ต้น หน้าต่าง ๑๔ ช่อง ประตู ๓ ช่อง หลังคามุงด้วยกระเบื้องเกล็ดปลาสีแดงส้มแบบโบราณ มีหอระฆัง ๔ หอที่มุมกำแพงแก้วทั้งสี่มุม ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง ๙ ปี ใช้งบประมาณ ๔๙ ล้านบาทถ้วน
(ศูนย์ข้อมูลทางวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น)

ใบเสมา

แขนนาง หรือ คันทวน (ค้ำจากเสา)

พญานาคเฝ้าบันไดสิม
ส่วนประกอบของสิมอีสานอันดับแรกคือบันได เพราะบันไดสิมเหมือนก้าวแรกของการประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมทางพุทธศาสนาเปรียบเหมือนมรรค 8 องค์ ข้อแรกคือสัมมาทิฐิหมายถึงการเดินถูกทางแล้ว บันไดสิมนั้นช่างพื้นบ้านอีสานนิยมสร้างรูป พญานาค เฝ้าบันไดทั้งสองข้าง และรูปสัตว์อีกชนิดหนึ่งคือ สิงห์ หรือ มอมอีสาน รูปปั้นสิงห์หรือมอมเป็นรูปปั้นเฝ้าบันไดทางขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบสิงห์ที่แตกต่างจากภาคอื่นๆ...

แขนนาง หรือ คันทวน

พญาเสือเฝ้าด้านตะวันตก
รูปสัตว์เฝ้าบันไดสิมอีสาน วัดป่าแสงอรุณส่วนชั้นฐานตอนล่างสุดของอาคาร ซึ่งเป็นลานประทักษิณรอบตัวสิมมีบันไดขึ้นลงสี่ทิศ เป็นรูปสัตว์ที่แกะสลัด้วยหินทรายซึ่งมีความทนทานแข็งแกร่งต่อสภาพดินฟ้าอากาศของภาคตะวันออกเฉียงเหนืเป้นอย่างดี ประกอบด้วย รูปคชสีห์ ราชสีห์ พญาช้าง และพญาเสือ
เสือ ปรากฏในคัมภีร์ทางพุทธศาสนามักจะถูกนำมาเปรียบเทียบ หรือปรากฏในชาดกซึ่งเป็นพระชาติของพระพุทธเจ้าที่ทรงเสวยพระพุทธชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ในสถาปัติยกรรมการก่อสร้างพุทธสถานสมัยก่อนมักไม่นิยมรูปเสือนัก แต่ในภาคอีสานรูปปั้นเสือ หรือรูปแกะสลักเสือมีปรากฏอยู่บ้าง เข้าใจว่าเพื่อความสวยงามและแปลกตากว่าที่อื่นๆ...

หอระฆังที่ 4 มุมกำแพงแก้ว

หลังคาสิม
ยอดวิมานสิมอีสาน ประกอบด้วยฉัตร 9 ชั้นยอดฉัตรหล่อด้วยทองคำหนัก 10 กก.
การทำช่อฟ้าหรือโหง่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมทางอีสานเหนือ หรือตลอดลุ่มแม่น้ำโขง จุดประสงค์เพื่อบูชาพระรัตนตรัยเป้นหลักสำคัญ เช่น 3 ชั้น บูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์หรือบูชาพระพุทธเจ้าในกลาลทั้งสาม ได้แก่อดีตพุทธ ปัจจุบันพุทธ และอนาคตพุทธ เป็นต้น
ถ้า 5 ชั้นก็เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ หรือบูชาพลธรรม 5 ประการ เป็นต้น ส่วน 7 ชั้น เพื่อบูชาอริยทรัพย์ 7 ประการเป็นต้น หาก 9 ชั้น ก็เพื่อบูชาโลกุตตรธรรม 9 ประการเป็นต้น
มิได้หมายถึงการทำฉัตรตามฐานันดรศักดิ์ หรือตามยศ-ตำแหน่งหน้าที่ทางฝ่ายบ้านเมือง เช่นที่เห็นในปัจจุบันที่นิยมและเข้าใจกันในส่วนกลาง....
ช่อฟ้าหรือโหง่ อีกความเชื่อหนึ่ง หากจะมองในแง่แนวคิดที่เกิดมาจากศาสนาพราหมณ์และฮินดู บริเวณวัดๆหนึ่ง คือการจำลองเขาพระสุเมรุมาเช่นกัน (เป้นอันเดียวกับเขาไกรลาศในพุทธศาสนา) ความเชื่อนี้ถูกนำไปจัดป็นองค์ประกอบบนหลังคาของอาคาร เช่น โบถส์วิหาร จะมีกุฎาคาร 7 ยอด สัญญลักษณ์แทนเขาพระสุเมรุ และทะเลสีทันดร ซึ่งคั่นระหว่างกันไปมา พร้อมมีนาคพันรอบอยู่ในพิธีกวนเกษียณสมุทร ดูได้จากหลังคาวิหารหลวงวัดเชียงทอง เมืองหลวงพระบาง...


ด้านหลังตรง

ราขสีห์เฝ้าด้านหลัง
ทิศประจิมหรือทิศตะวันตก มีราชสีห์สองตัวนั่งเฝ้าบันไดด้านหลังสิมอีสาน ราชสีห์ คือพญาสิงห์โต หรือเรียกว่าสิงหราช หรือสีห.... เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "สีห" เป็นสรรพนามของพระพุทธเจ้า นั่นคือคำว่า พระชินสีห์ ซึ่งแปลว่าราชสีห์ผู้ชนะ การที่ชาวพุทธใช้คำว่า สีห เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าก็เพราะต้องการเปรียบเทียบกำลังแห่งพระปัญญา อำนาจแห่งพระธรรมอันบริสุทธิ์ลึกซึ้ง และความเป็นใหญ่กว่ามนุษย์ ทั้งหลายของพระพุทธเจ้า..

พญานาคเฝ้าบันได

ลวดลายไทย


การตกแต่งเสาด้วยแขนนางหรือคันทวน ส่วนโค้งตรงประตูจะเป็นรังผึ้ง

พระพุทธรุ่งโรจน์เลิศฤทธิ์ (พระพุทธปฏิมาในฝัน) ปางรำพึง ประจำวันศุกร์

พญาช้างชูดอกบัวเฝ้าด้านทิศเหนือ
ทิศอุดร หรือทิศเหนือ ประตูสิมอีสานด้านนี้มีรูปช้างสองเชือกหมอบถือดอกบัวเฝ้าบันไดดูสง่างามให้ความรู้สึกอ่อนโยนเมื่อพบเห็นรูปช้างดังกล่าวพอทำให้ทราบว่าเป็นพญาช้างปาริเลยยกะซึ่งมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์...
ในพรรษาที่ 10 พระพุทธเจ้าได้ประทับจำพรรษา ณ โคนต้นไม้สาละ ป่าปาริเลยยกะ หรือป่ารักขิตวันอยู่ในแคว้นโกศลระหว่างกรุงโกสัมพีกับกรุงสาวัตถี พญาช้างปาริเลยยกะ ซึ่งปลีกตัวจากฝูงในป่า เห็นพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่โคนต้นสาละจึงถวายอุปัฏฐาก ด้วยอาการต่างๆตลอพรรษามิได้ขาด..

สิมอีสาน ด้านข้าง (จากทิศเหนือ)

มุมบน ดาวเพดาน ส่วนมุมล่าง ประตูด้านหน้า
ผนังด้านในสิม จะเขียนเป็นลายมัดหมีชนิดต่างๆ และรูปเทพเทวดาประทับนั่งในซุ้ม อย่างวิจิตรสวยงาม บานหน้าต่างแกะรูปเรื่องราวมหาเวสสันดรชาดกกันฑ์ต่างๆ

คชสีห์เฝ้าด้านหน้า
บันไดส่วนชั้นฐานสิมอีสานด้านทิศบูรพา หรือทิศตะวันออก มีรูป คชสีห์สองตัว เฝ้าหน้าสิมอีสาน คชสีห์เป็นสัตว์ผสมระหว่างช้างและราชสีห์ มีงวง มีงา ตัวเป็นราชสีห์ มีกีปเท้า เป็นสัตว์ในนวนิยาย อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์..
คชสีห์ที่เฝ้าบันไดสิมอีสานแฝงคติธรรมที่เชื่อว่า คชสีห์มีกำลังมหาศาลรวมกันระหว่างกำลังแห่งช้างและกำลังแห่งราชสีหื คชสีห์เป็นสัญญลักษณ์แห่การมีอำนาจ มีตบะ มีเดชะ คชสีห์เฝ้าบันไดทางทิศบูรพาทิศเบื้องหน้าแห่งพุทธองค์ อันเสมือนกำลังอำนาจของพระอัญญาโกณฑัญญะที่คอยถวายอุปถากพระพุพธเจ้า หรือคอยปกป้องสิมอีสานอันประดุจหัวใจแห่งอารามแห่งพระพุทธศาสนา และแห่งพุทธศาสนิกชนนั่นเอง...

ภาพระยะไกลจากด้านหน้า
อ้างอิง:
- ศูนย์ข้อมูลทางวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น - หนังสือพิธีผูกพัทธสีมา (ขอดสิม) วัดป่าแสงอรุณขอนแก่น 13-23 เมษายน 2549
_______END_______
|
Create Date : 30 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 17:28:03 น. |
|
31 comments
|
Counter : 14640 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: CrackyDong วันที่: 30 สิงหาคม 2552 เวลา:23:59:15 น. |
|
|
|
โดย: Prettymaew วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:3:23:52 น. |
|
|
|
โดย: nLatte วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:8:39:19 น. |
|
|
|
โดย: chenyuye วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:9:13:03 น. |
|
|
|
โดย: Nongpurch วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:9:23:36 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:9:55:03 น. |
|
|
|
โดย: ลำธาร สายลม ขุนเขา IP: 118.173.244.101 วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:11:43:45 น. |
|
|
|
โดย: Prettymaew วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:21:34:49 น. |
|
|
|
โดย: d_regen วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:10:05:38 น. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:15:38:49 น. |
|
|
|
โดย: คนชุมแสง วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:16:59:43 น. |
|
|
|
โดย: Prettymaew วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:2:44:25 น. |
|
|
|
โดย: Nongpurch วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:9:47:30 น. |
|
|
|
โดย: nLatte วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:13:29:45 น. |
|
|
|
โดย: Prettymaew วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:17:28:53 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:19:42:53 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:19:42:54 น. |
|
|
|
โดย: คนชุมแสง วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:19:49:32 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]

|
...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......
อยากจะบอกว่า
@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว
@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.
@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...
ด้วยจริงใจ นาย wicsir.
|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|