++ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ++
บ ล๊อกนี้เป็นบล๊อกที่ค้างเติ่งไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เพราะว่าช่วงนั้นเดินทางไปหลายที่ เลยเอาที่อื่นมาลงก่อน เพราะเราคิดว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสวยงามเช่นวัดพระธาคุหริภุญชัยนี้เป็นรีวิวที่ต้องหาข้อมูลมาเพื่อแฟนๆชาวบล๊อกของนายวิคเซอร์ให้มากที่สุด อยากให้เขาไปชมวัดแล้วได้ประโยชน์กลับออกมามากที่สุด มากกว่าการเข้าไปถ่ายภาพเฉยๆครับ การเดินทางขึ้นเหนือของเรา (พ่อ+ลูก) ครั้งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อเจ้าลูกชายอยากไปแอ่วเหนือหลังจากที่ตรากตรำในการเรียนมา ... เราแพลนกันว่าขึ้นเหนือเที่ยวนี้ น่าจะไปเก็บในสิ่งที่ตกหล่นจากคราวก่อนๆ เช่น วัดพระธาตุหริภุญชัยที่ซ่อมเจดีย์ ดอยอ่างขางที่นานมากแล้วไม่ได้ขึ้น เป็นต้น เดินทางออกจากขอนแก่นในเช้ามืดวันที่ 20 ธันวาคม 2557 ผ่าน อช. น้ำหนาว พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ลำปาง และแวะที่ลำพูนตอนประมาณ 16.00 น เพื่อไหว้พระที่นี่ และด้านล่างนี้คือภาพที่เราเก็บมาฝากครับ.
หน้าซุ้มประตูวัดสร้างสิงห์คู่ไว้ซุ้มประตู ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า บนแท่น สูงประมาณ 1 เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นใน สมัยพระเจ้าอาทิตยราช เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม
วิหารหลวงวัดพระธาตุหริภุญชัย วิหารหลวง เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า "วิหารหลวง" เป็นวิหารหลัง ใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3 องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้น และชั้นกลางอีกหลายองค์
ภายในวิหารหลวงวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวันออก และถนนอินทยงยศทางทิศตะวันตก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 ในรัชสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมมาเป็นลำดับ พระบรมธาตุหริภุญชัย เป็นพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ (ตั้งอยู่ หลังวิหารหลวง) เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะ ใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติ- บัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น สำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือ และทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป พระบรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในวันเพ็ญ เดือน 6 จะมีงานนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุทุกปี ตามประวัติกล่าวเมื่อ พ. ศ. 1440 พระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนคร ลำพูนได้สร้างมณฑปครอบโกศทองคำบรรจุพระบรมธาตุไว้ภายในและมีการสร้างเสริมกันต่อมาอีกหลาย สมัยต่อมาในปี พ.ศ. 1986 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ครองนครเชียงใหม่ได้ทรงกระทำการปฏิสังขรณ์บูรณะ เสริมองค์พระเจดีย์ขึ้นใหม่ การสร้างคราวนี้ได้สร้างโครงขึ้นใหม่เป็นรูปแบบลังกา ซึ่งปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้เพราะในสมัยพระเจ้าติโลกราชได้มีความสัมพันธ์กับลังกาอยู่มาก. ที่มา : ธรรมะไทย หอธรรมหอธรรม หรือ หอพระไตรปิฎก มีประวัติการก่อสร้างปรากฏตามหลักฐานศิลาจารึกพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ว่าสร้างขึ้นโดยพระเมืองแก้ว กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่และพระราชมารดา ใน พ.ศ. 2053 โดยครั้งนั้นได้โปรดให้สร้างพระไตรปิฏกและพระพุทธรูปทองคำมาประดิษฐานในหอธรรมที่สร้างขึ้นด้วย ลัษณะสถาปัตยกรรม เป็นอาคาร 2 ชั้น หันหน้าไปทางทิศตะวันตก แผนผังรูปอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกเก็จ 2 ชั้น ด้านหน้าและด้านหลังอาคารก่ออิฐถือปูน มีบันไดขึ้นหอยาวขึ้นไปสู่อาคารชั้นบนซึ่งเป็นเครื่องไม้ ตกแต่งไม้โครงสร้างด้วยการแกะสลักลายพันธุ์พฤกษาปิดทองล่องชาด ผนังอาคารแต่งด้วยลายฉลุไม้ปิดทองล่องชาดประดับกระจก หลังคามุงด้วยกระเบื้องโลหะ ที่มา : แผ่นป้ายที่วัด
สุวรรณเจดีย์สุวรรณเจดีย์ (เจดีย์ปทุมวดี) ตำนานกล่าวว่า สร้างโดยพระนางปทุมวดีอัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช พร้อมกับพระเจ้าอาทิตยราชทรงทรงสร้างพระธาตุหริภุญชัยในราว พ.ศ. 1607 ส่วนตำนานมูลพระศาสนาระบุเพิ่มเติมว่า ในครั้งนั้นทรงโปรดฯให้ประดับทองคำบริเวณส่วนยอดของเจดีย์ จึงได้ชื่อว่า สุวรรณเจดีย์ สุวรรณเจดีย์ เป็นเจดีย์ก่อด้วยอิฐแต่ฐานก่อด้วยศิลาแลง มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมซ้อนเหลี่ยม 3 ชั้น รองรับเรือนธาตุที่มีซุ้มจระนำซ้อนลดหลั่นกัน 5 ชั้น ภายในซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืน ปางประทานอภัย ศิลปะหริภุญไชยอายุราวพุทธศตวรรตที่ 17-18 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เมืองหริภุญไชยมีความเจริญอย่างสูงสุด ทั้งในด้านการค้า ศาสนา และศิลปะวิทยาการ ที่มา : แผ่นป้ายที่วัด
หอระฆังหอระฆัง หอระฆัง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นหอสำหรับแขวนระฆังและกังสดาลขนาดใหญ่ สร้างขึ้นโดย พระครูพิทักษ์เจติยานุกิจ (ครูบาคำฟู) เมื่อ พ.ศ. 2481 ด้านบนแขวนระฆังขนาดใหญ่ซึ่งหล่อขึ้นในสมัยเจ้าหลวงดาราดิเรกรัตนไพโรจน์ เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 7 และชั้นล่างห้อยกังสดาลขนาดใหญ่ซึ่งหล่อขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2403 ฝีมือครูบาสูงเม่นโดยกัญจนมหาเถระ เจ้าอาวาสวัดป่าเมืองแพร่ และเจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่ เป็นศรัทธาสร้างหล่อกังสดาลนี้ ในวัดพระสิงห์เมืองเชียงใหม่เพื่อไว้เป็นเครื่องบูชาพระธาตุหริภุญชัย
ลาด้วยภาพ ยามเย็นที่หน้าประตูวัดหริภุญชัยวรมหาวิหาร_____________
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 11 มกราคม 2559 16:53:55 น.
11 comments
Counter : 3843 Pageviews.
โดย: Tui Laksi วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:19:04:01 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:4:21:12 น.
โดย: Tui Laksi วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:16:40:07 น.
โดย: พรไม้หอม วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:5:00:47 น.
โดย: Maeboon วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:16:17:52 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [? ]
...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......อยากจะบอกว่า @ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว @ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ. @ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก... ด้วยจริงใจ นาย wicsir.
1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog
ถ่ายภาพได้สวยงามมากเลยครับ
วัดนี้ดูจากภาพแล้วเป็นวัดที่สวยงามมากๆไม่แพ้วัดในหลวงพระบางที่พี่วิคเพิ่งไปมาเลยนะครับ ลวดลายลงลักปิดทองอ่อนช้อยงดงามจริงๆ