++ ไหว้พระที่..วัดห้วยปลากั้ง ++
ห ลังจากที่เราพาท่านไปเที่ยวชมไร่บุญรอด หรือ สิงห์ปาร์คเชียงรายมาแล้ว เราเดินทางกลับเข้าเมืองเชียงรายโดยใช้เส้นทางเดิม คือ 12011 เข้าไปที่โรงแรม และหาอะไรทานแบบง่ายๆแถวๆนั้น ก่อนที่จะเดินทางไปไหว้พระที่ วัดห้วยปลากั้ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก
พบโชคธรรมเจดีย์ เจดีย์ (เจดียฺ 9 ชั้น)เมื่อเราขับรถเข้าใกล้ๆจะมองเห็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่กำลังดำเนินการอยู่ นั้นก็คือเจ้าแม่กวนอิม เราขับรถเข้าสู่ลานจอด และลงจากรถเดินเข้าสู่เจดีย์รูปร่างแปลกๆที่ไม่เหมือนใคร รวมทั้งโบสถ์สีเงินที่อยู่ข้างๆเจดีย์องค์นั้น ... ในบล๊อกนี้ เราจะปล่อยให้ท่านชมภาพความสวยงามของเจดีย์เก้าชั้น หรือพบโชคธรรมเจดีย์ ไปเรื่อยๆ และจะจบบล๊อกด้วยการพาท่านไปไหว้พระที่ วัดพระแก้ว ในตัวเมืองเชียงรายกันครับ
แผนที่ (จากที่พักไปวัด) พบโชคธรรมเจดีย์วัดห้วยปลากั้ง ตั้งอยู่เลขที่ 553 ม.3 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย บนเนื้อที่ 15 ไร่ ทิศเหนือจด ตำบลบ้านดู่ ทิศใต้จด แม่น้ำกก ต.รอบเวียง ทิศตะวันออกจด หมู่ 2 ต.ริมกก (บ้านใหม่) ทิศตะวัดตกจด ต. แม่ยาว เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2544 โดยคณะศรัทธาวัดห้วยปลากั้งเริ่มกันก่อตั้ง เป็นสำนักสงฆ์ .... จนกระทั่ง วันที่ 19 พฤศจิกายน 2548 ได้มี พระอาจารย์พบโชค ติสฺสวํโส ได้เดินทางมาปฏิบัติธรรมและเริ่มมีการก่อตั้งศาสนวัตถุ เริ่มแต่กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ หอฉัน เจดีย์และเมื่อ วันที่ 24 กรกฎาคม 2552 ทางสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีประกาศแต่งตั้งให้เป็นวัดโดยชื่อว่า วัดห้วยปลากั้ง โดยมีพระอธิการพบโชค ติสฺสวํโส เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ปัจจุบันวัดห้วยปลากั้งเป็นวัดที่มีศรัทธา จากต่างจังหวัด ต่างประเทศ เข้ามากราบไหว้นมัสการ และปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก ถือเป็นจุดกำเนิดพุทธศาสนาในเชียงรายแห่งหนึ่งที่สำคัญ
พระเกจิฯ และพระพุทธรูปที่ทำด้วยไม้ ภายในเจดีย์ เจ้าแม่กวนอิมที่กำลังสร้าง วิวบริเวณด้านหน้าวัด วิวจากลานจอดรถวัดห้วยปลากั้งวัดพระแก้ว ออกจากวัดห้วยปลากั้ง เราขับเข้าเมืองอีกครั้ง คราวนี้จะพาท่านไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว เชียงราย ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 19 ม.1 ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 ... พร้อมทั้งพาชมพิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์โฮงหลวงแสงแก้ว ภายในวัดกันครับ
ภายในพระอุโบสถวัดพระแก้ง เชียงราย หอพระหยกเชียงรายประวัติ ได้ถูกจารึกไว้บนแผ่นทองเหลืองภายในวัด ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษดังนี้ (เฉพาะภาษาไทย) ประวัติวัดพระแก้ว วัดพระแก้ว แต่เดิมชื่อวัดป่าเยี้ยะ (ป่าไผ่) เมื่อ พ.ศ. 1977 (ค.ศ.1434) ฟ้าผ่าพระเจดีย์จึงได้พบพระแก้วมรกต (ปัจจุบันประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง) ชาวเมืองเชียงรายจึงได้เรียกชื่อวัดนี้ว่า "วัดพระแก้ว" จนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี
พระแก้วหยกเชียงรายพระแก้วหยกเชียงราย เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิราบฐานเขียง ขนาดหน้าตักว้าง ๔๗.๙ ซ.ม. สูง ๖๕.๙ ซ.ม. ซึ่งเป็นส่วนสัดที่ใกล้เคียงกับพระแก้วมรกต (กว้าง ๔๘.๓ ซ.ม. สูง ๖๖ ซ.ม.) สร้างด้วยหยกชนิดที่ดีที่สุดจากประเทศแคนาดา ซึ่งมิสเตอร์ ฮูเวิร์ด โล เป็นผู้นำมาถวายเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย โดยมีอาจารย์กนก วิศวะกุล เป็นผู้ปั้นหุ่นต้นแบบ แล้วส่งให้มิสเตอร์เหยน หวุน หุ้ย นายช่างแกะสลักหยกของโรงงานวาลินนานกู เมืองปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้แกะสลัก โดยได้รับความอุปถัมภ์จาก พณฯ พลเอกชาติชาย และท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัน เป็นประธานอุปถัมภ์และบริจาคเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างอ่านเพิ่มเติม
ศาลพ่อขุนเม็งรายมหาราช พิพิธภัณฑ์โฮงหลวงแสงแก้ว เชียงรายตำนานพระแก้ว ตำนานรัตนพิมพ์วงศ์ กล่าวไว้ว่า เมื่อประมาณ พ.ศ. 300 เทวดาได้สร้างพระแก้วมรกต ถวายพระนาคเสนเถระที่เมืองปาฎลีบุตร (ปัจจุบันเรียก ปัตนะ) ประเทศอินเดีย ต่อมาได้อัญเชิญไปไว้ที่เมืองลังกา ในสมัยพระเจ้าอโนรธามังฉ่อ (พระเจ้าอนุรุทธะ) แห่งเมืองพุกามได้ส่งพระสมณทูตไปขอจากเจ้าเมืองลังกา ซึ่งถูกพวกทมิฬรุกราน จึงมอบพระแก้วมรกต และพระไตรปิฏกให้ แต่สำเภาที่บรรทุกพัดหลงไปเกยอยู่ที่อ่าวเมืองกัมพูชา พระแก้ วมรกตจึงตกเป็นของกัมพูชา และต่อมาได้ถูกนำไปไว้ ที่เมืองอินทาปัฐ(นครวัด) กรุงศรีอยุธยา และกำแพงเพชร ตามลำดับ เมื่อประมาณ พ.ศ. 1933 พระเจ้ามหาพรหม เจ้าเมืองเชียงราย ได้ไปอัญเชิญพระแก้วมรกตมาจากเมืองกำแพงเพชร และนำมาซ่อนไว้ที่เจดีย์วัดป่าเยียะ เมืองเชียงราย กระทั่ง พ.ศ. 1977 อสนึบาต (ฟ้าผ่า) เจดีย์ จึงได้ค้นพบพระแก้วมรกต ต่อมาได้ถูกอัญเชิญไปไว้เมืองต่างๆ ดังนี้ เมืองเชียงราย พ.ศ. 1934-1979 เมืองลำปาง พ.ศ. 1979-2011 เมืองเชียงใหม่ พ.ศ. 2011-2096 เมืองลาว พ.ศ. 2096-2321 กรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2321-ปัจจุบัน ที่มา : วิกิพีเดีย
ด้านในภายในพิพิธภัณฑ์ มีของเก่าแก่ที่มีค่ามากมายให้ชม ทั้งพระพุทธรูปเก่าๆหลายยุคหลายสมัย จัดแสดงไว้ภายในอาคารไม้ 2 ชั้น พร้อมประวัติและรายละเอียดต่างไว้ให้ท่านได้ศึกษา เมื่อเข้าไปไหว้พระที่วัด ก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะชมและหาความรู้ในพิพิธภัณฑ์กันนะครับ (อ่านเพิ่มเติม)
พระพุทธรูปจากหลายยุค หลายสมัย วันนี้เราพาท่านไปไหว้พระในเชียงรายมาแล้ว 2 วัด จนถึงเวลาบ่ายแก่ๆ เราจึงเดินทางไปชมงานดอกไม้นานชาติ ที่สวนริมกก ซึ่งปีนี้ก็จัดสวยไม่แพ้ปีที่แล้ว (เคยรีวิวในบล๊อก) ซึ่งเราจะงานปีนี้มารีวิวให้ชมอีก คอยพบกันในบล๊อกต่อไป
ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดครับ ภาพมุมกว้างจากทางขึ้ยชั้น 2 ในพิพิธภัณฑ์วัดพระแก้ว______________
Create Date : 30 มีนาคม 2558
Last Update : 12 มกราคม 2559 15:18:13 น.
9 comments
Counter : 7438 Pageviews.
โดย: **mp5** วันที่: 30 มีนาคม 2558 เวลา:23:26:38 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 31 มีนาคม 2558 เวลา:2:52:56 น.
โดย: kwan_3023 วันที่: 31 มีนาคม 2558 เวลา:6:55:21 น.
โดย: mariabamboo วันที่: 31 มีนาคม 2558 เวลา:9:08:19 น.
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 5 เมษายน 2558 เวลา:10:30:16 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [? ]
...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......อยากจะบอกว่า @ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว @ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ. @ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก... ด้วยจริงใจ นาย wicsir.
1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31
มาก่อน..
วัดปลากั้งสวยจริง.... ผมชอบถนนที่เข้าวัด ผ่านท้องนาสีเหลืองทอง คดเคี้ยวหน่อย
สวย...ครับ ถ้าไปฤดูหนาว ยิ่งหน้าดูครับ