พาไหว้พระที่อ่างทอง
เขยิบเข้ามาทีละนิดๆ วันนี้พาชมจังหวัดที่ใกล้อยุธยามากที่สุดอย่างอ่างทองกันครับ เวลาผมขับรถเที่ยวอยุธยาขับเพลินๆเผลอๆเลยมาอ่างทองทุกที
ปีนี้ พ.ศ.2560 นั่นคือกรุงแตกครบรอบ 250 ปีพอดี (เย้~ ) เป็นโอกาสอันดีที่กรมศิลป์ไล่บูรณะโบราณสถานในอยุธยาและขุดค้นพบหลักฐานหลายๆอย่างเพิ่มเติม และคิดว่าคงเป็นปีที่บล็อกประวัติศาสตร์ของผมที่ไล่มาตั้งแต่ทวารวดี สุโขทัย ประวัติศาสตร์ภาคเหนือ ภาคใต้ ขอม จะมาขมวดลงที่อยุธยาเสียที ...แต่ก่อนหน้านั้นไปชมอ่างทองและเก็บเมืองขอมๆที่เหลืออีก 3-4 แห่งกันก่อนครับ
เขตจังหวัดอ่างทองอยู่ติดกับพระนครศรีอยุธยา ทำให้มีโบราณสถานสมัยอยุธยากระจายอยู่ในหลายๆพื้นที่ เมืองวิเศษชัยชาญเป็นเมืองที่ได้ยินชื่อเสียงในประวัติศาสตร์บ่อยๆ เพราะเป็นแขวงเมืองอยุธยาอยู่ริมลำน้ำน้อยและได้ร่วมกับชาวบ้านบางระจันต่อสู้กับพม่า ส่วนชื่ออ่างทองเพิ่งปรากฏครั้งแรกในสมัยกรุงธนบุรีนี้เอง โดยได้ย้ายเมืองจากวิเศษชัยชาญมาที่อ่างทองปัจจุบันเพราะที่เก่าลำน้ำน้อยเริ่มตื้นเขิน
พาเที่ยวบล็อกนี้รวบรวมมาจากการไปอ่างทอง 5 ครั้ง ครั้งละนิดละหน่อยครับ ขอเริ่มจากอำเภอตอนล่างสุด ติดกับอยุธยาครับ อ.ป่าโมก ที่นี่คุณยายผมเดินทางจาก อ.บางปะหัน อยุธยา มาไหว้พระนอนวัดป่าโมกเป็นประจำสมัยเด็กๆ แต่พระนอนที่นี่มีมานานก่อนหน้านั้นมากๆครับ ปรากฏชื่อในพงศาวดารก็หลายครั้ง วัดป่าโมก ตั้งอยู่บนถนนป่าโมกบำรุง ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จากตัวอำเภอ ขับตามเส้น 3501 ไปทาง อ.บางบาล 2 กม. จะเห็นทางเข้าวัดป่าโมกด้านซ้ายมือ ขับเข้าไป 500 เมตรก็ถึงครับ ผมพาคุณยายกลับมาเที่ยววัดนี้เมื่อ 3 ปีก่อน ครั้งสุดท้ายที่ยายมาที่นี่ก่อนหน้านี้คือเมื่อ 70 กว่าปีที่แล้ว สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้
และนี่คือพระนอนวัดป่าโมก ยาว 22 เมตร คาดว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยู่ติดริมน้ำ แต่ย้ายเข้ามาเพราะน้ำเซาะตลิ่งพัง จากนั้นในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระได้ทำวิหารครอบพระนอนไว้ ตามตำนานเมืองเหนือภายในองค์พระนอนบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ถึง 36 องค์ ในสมัย ร.5 ชาวบ้านลือกันว่าพระนอนองค์นี้พูดได้ด้วยนะ
อนุสาวรีย์พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ผู้ชะลอพระนอนวัดป่าโมกมาประดิษฐานที่ตำแหน่งปัจจุบัน
ขับขึ้นเหนือต่อเข้ามาในตัวเมืองอ่างทองครับ เนื่องจากตัวเมืองเพิ่งถูกย้ายมาบริเวณนี้แค่สองร้อยกว่าปี เลยไม่มีโบราณสถานเก่าแก่สักเท่าไหร่ มีที่น่าสนใจคือ วัดต้นสน ที่มีสมเด็จพระศรีเมืองทอง พระประธานที่สวยงามใหญ่โต หล่อด้วยโลหะทั้งองค์ สูงถึง 18 เมตร แต่เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2516 นี้เองครับ วิธีมาวัดนี้ให้ขับตามถนน 309 ไปทางศาลากลาง ก่อนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทศบาล 10 จะพบวัดต้นสนอยู่ด้านขวา
ขึ้นเหนือต่อตามเส้น 32 จะเข้ามาในเขต อ.ไชโย ที่นี่มีวัดดังคือ วัดไชโย หรือวัดเกษไชโย จากตัว อ.ไชโย ขับขึ้นเหนือตามถนนเส้น 32 ไป 8 กม. ข้ามสะพานข้ามคลองมหานามแล้วจะมีทางเลี้ยวซ้าย ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึงสี่แยก ให้เลี้ยวขวาไป 200 เมตรจะเห็นทางเข้าวัดครับ
วัดนี้ได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ได้สร้างพระองค์ใหญ่ขึ้น แต่การคุมงานก่อสร้างค่อนข้างห่วย พระออกมาหน้าตาไม่สมประกอบเหมือนพระนอนวัดสะตือ (ฝีมือบริษัทรับเหมาเครือหลวงพ่อโตเช่นกัน) แถมยังพังทลายไปถึงสองรอบจน ร.5 สั่งบูรณะใหม่ทั้งวัด แม้พระประธานจะองค์ไม่ใหญ่เท่าเดิม แต่ฝีมือช่างดีขึ้นเยอะ ที่สำคัญคือไม่พัง ให้ชื่อพระประธานองค์นี้ว่าพระมหาพุทธพิมพ์ แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่าหลวงพ่อโต
ส่วนโบสถ์ของวัดไชโยมีพระปางสมาธิเป็นพระประธาน จิตกรรมฝาผนังในส่วนนี้งดงามมาก น่าจะเขียนในสมัยรัชกาลที่ 5-6 ครับ
ผ่านไปแล้วสำหรับ อ.ป่าโมก อ.เมือง อ.ไชโย ที่มีวัดเด่นๆอำเภอละหนึ่งวัด ต่อไปเข้าไปยัง อ.วิเศษชัยชาญ ที่ตั้งเมืองเก่าอ่างทองที่ตั้งติดกับ อ.โพธิ์ทองและมีวัดสำคัญๆอยู่มากมาย ที่จะแนะนำในบล็อกนี้ก็ตามแผนที่ข้างล่างนี่เลยครับ
วัดที่โด่งดังที่สุดของอ่างทองในปัจุบัน แซงหน้าวัดรุ่นพี่วัดอื่นเห็นจะเป็น วัดม่วง ที่มีพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในโลกครับ จากตัวเมืองอ่างทองให้ไปตามเส้น 3064 ไปทาง อ.โพธิ์ทอง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า 3195 ไปทาง อ.วิเศษชัยชาญ 4 กม. จะพบทางเข้าวัดอยู่ด้านซ้าย
มองจากข้างถนนก่อนถึงวัด 1 กม. ยังเห็นองค์พระใหญ่โตขนาดนี้
เดิมทีวัดนี้เป็นวัดร้าง จนกระทั่งหลวงพ่อเกษม อาจารสโภ อดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงได้บูรณะสร้างโบสถ์ วิหาร รูปปั้นนรก ฯลฯ จนเริ่มมีผู้สนใจเข้ามาท่องเที่ยวไหว้พระมากขึ้นเรื่อยๆ
และไฮไลต์ที่สุดของการสร้างวัดม่วงของหลวงพ่อเกษมก็คือองค์พระใหญ่นี้เอง พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2534-2544 การก่อสร้างหยุดชะงักไปเนื่องจากหลวงพ่อเกษมมรณะภาพ แต่ก็มีผู้สานต่อจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2550 นี้เอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 63 เมตร มีความสูง 95 เมตร ถึงจะไม่สูงเท่าพระพุทธรูป Laykyun Setkyar ที่พม่า (สูง 130 เมตร) แต่ถ้าเทียบสัดส่วนแล้วใหญ่กว่าครับ
ใหญ่ขนาดไหนลองเทียบกับขนาดคนที่ปลายนิ้วองค์พระดูนะครับ ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศนิยมมมากราบไหว้สัมผัสนิ้วองค์พระเพื่อขอพร
หน้าองค์พระมีลานแสดงรูปปั้นเรื่องราวในวรรณคดี ทั้งขุนช้าง-ขุนแผน พระอภัยมณี พระเวสสันดร รามเกียรติ์ เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ตอนชาวบ้านบางระจัน ยุทธหัตถี และที่ขึ้นชื่อคือรูปปั้นนรก ถ้าเทียบกับที่เห็นจากวัดไผ่โรงวัวและวัดไก่แล้ว นับว่าที่นี่ปั้นนรกได้ดีเลยแหละ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นอื่นๆ ทั้งสารพัดเทพ สารพัดเซียน ทั้งจีน-ไทย อยากดูเรื่องอะไรมาคุ้ยดูได้เลยครับ
นี่คือพระอุโบสถฐานบัวรอบที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นจุดขายของวัดม่วงก่อนองค์พระใหญ่จะสร้างเสร็จ ภายในมีรูปปั้นพระเกจิชื่อดังมากมาย
พระวิหารแก้วรัตนพราหมณ์-สุวรรณปาล ใช้แก้วประดับวิหารจนสวยงามตระการตา ภายในประดิษฐานหลวงพ่อเงิน สร้างจากเนื้อเงินแท้
จากตัว อ.วิเศษชัยชาญ แล่นเส้น 3454 ลงมาทางใต้ประมาณ 5 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายจะถึง วัดสี่ร้อย วัดนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ชาววิเศษชัยชาญที่เสียชีวิตในการต่อสู้กับพม่าในปี พ.ศ.2302 ซึ่งครั้งนั้นพม่าบุกเข้าทางหัวเมืองตอนใต้ของพระนครศรีอยุธยา ตีเมืองตะนาวศรีและมะริดแตก แต่ขุนรองปลัดชู กรมการเมืองวิเศษชัยชาญได้รวบรวมอาสาสมัคร 400 คน เข้ายันกับพม่า 8,000 คนที่กุยบุรี ด้วยกำลังที่แตกต่างกันมหาศาล สุดท้ายกองกำลังของขุนรองปลัดชูก็พ่ายแพ้และเสียชีวิตในศึกครั้งนี้ทั้งหมด และกองทัพพม่าบุกจนถึงพระนครศรีอยุธยา (น่าไปสร้างหนังเรื่อง 400 แข่งกับ 300 ของสปาต้า)
หลังพระเจ้าตากสินได้รวบรวมชาวไทยสร้างกรุงธนบุรีขึ้น ผ่านจากสงครามกุยบุรีไปแล้ว 11 ปี ในปี พ.ศ.2313 ชาวเมืองวิเศษชัยชาญได้สร้างวัดสี่ร้อยขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแก่ขุนรองปลัดชูและเหล่าผู้เสียชีวิตในสงครามครั้งนั้น
สิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้คือพระพุทธรููปนั่งขนาดใหญ่ ปางป่าเลไลก์ สูง 21 เมตร สร้างในปี พ.ศ.2452 มีคนเห็นพระหลั่งน้ำตา จึงเรียกกันว่าหลวงพ่อร้องไห้
เจดีย์บรรจุดวงวิญญาณทหาร 400 คน
ที่ต่อไปใช้ถนนเส้นเดียวกันครับ จากตัว อ.วิเศษชัยชาญ ขึ้นเหนือมาตามเส้น 3454 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 4001 มาประมาณ 5.5 กม. จะพบพระตำหนักคำหยาดอยู่ทางซ้ายมือ แถบนี้เป็นถนนชนบทเส้นทางเล็กกว่าเส้นที่ผ่านๆมานะครับ
เบื่อๆวัดกันแล้วมาชมซากอิฐที่แท้จริงกันดีกว่าครับ ใครอ่านประวัติศาสตร์ช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาคงจำได้ว่าพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้มอบราชสมบัติให้พระเจ้าอยู่หัวอุทุมพร แทนที่จะเป็นพระเจ้าเอกทัศน์ผู้เป็นพี่ชาย (ถ้าเป็นหนังจีนคงเป็นเพราะ "ข้าเห็นความชั่วร้ายในแววตาของเจ้า!" แต่ตามเรื่องราวจริงๆก็เพราะพ่อไม่เห็นว่าไอ้ลูกชายคนโตมันจะได้เรื่องได้ราว ...ให้น้องดีกว่า) แต่ด้วยความกลัวโดนชิงบัลลังก์และเอาไปประหารที่วัดโคกพระยาตามที่ญาติๆกษัตริย์ก่อนหน้านี้ปฏิบัติกันมาช้านาน พระเจ้าอยู่หัวอุทุมพรก็เลยหนีไปบวชดีกว่า~ เป็นเหตุให้ท่านถูกเรียกว่าขุนหลวงหาวัด ซึ่งวัดที่มาบวชก็คือวัดโพธิ์ทอง ที่ อ.โพธิ์ทอง อ่างทองนี่เองครับ พอบวชแล้วก็ไปประทับที่วัดประดู่ อยุธยา
|
วัดโพธิ์ทอง ตัววัดแทบไม่มีอะไรเลยครับ โบสถ์ไม่เปิดให้เข้าอีกต่างหาก
| ที่ๆเราจะเที่ยวกันก็คือพระตำหนักที่ประทับระหว่างบวชครับ พระตำหนักคำหยาด เป็นอาคารสูงทรงสี่เหลี่ยม ยกใต้ถุนสูง แต่ใช้ได้แค่สิบปีตำหนักนี้ก็ถูกปล่อยร้างลงเพราะเสียกรุงครั้งที่ 2
ที่นี่เหมือนจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นเรื่องเป็นราวได้อยู่ ด้านหน้ามีที่จอดรถบัสได้หลายคันเลย อนิจจา... ไม่มีใครมาเที่ยว ก็มันลึกและไม่ได้อลังการดึงดูดนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ ไปต่อกันวัดสุดท้ายเลยดีกว่าครับ ที่เที่ยวที่โด่งดังที่สุดของ จ.อ่างทอง ก่อนพระใหญ่วัดม่วงจะสร้างเสร็จ...
วัดขุนอินทประมูล อยู่ใน ต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จากตัว อ.โพธิ์ทอง ขับตามเส้น 3064 เข้ามาทางเมืองอ่างทองประมาณ 1.5 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 3003 เข้าไป 2 กม. จะเห็นวัดขุนอินทประมูลอยู่ด้านขวา
พระนอนวัดนี้มีความยาวถึง 50 เมตร ยาวที่สุดในประเทศไทยเป็นอันดับ 3 รองจากพระนอนที่วัดบางพลีใหญ่กลาง (สมุทรปราการ) และวัดสะตือ (อยุธยา) ตามตำนานกล่าวว่าขุนอินทประมูลนายอากรเป็นผู้ยักยอกเงินหลวงมาสร้างพระนอน จึงถูกเฆี่ยนจนตายและฝังกระดูกไว้ที่ฐานพระนอน เป็นที่มาของชื่อวัด แต่จากจารึกสุโขทัยระบุว่าพญาเลอไทเป็นผู้สร้างพระนอนองค์นี้ในปี พ.ศ.1870 ช่วงที่เสด็จไปไหว้ฤาษีที่ลพบุรี เดิมองค์พระประดิษฐานในวิหาร แต่ตัววิหารพังทลายหมดแล้ว เหลือแต่พระนอนอยู่กลางแจ้ง ซึ่งก็ทำให้ถ่ายรูปง่ายไม่ติดเสาติดผนังเหมือนวัดที่มีพระนอนยาวๆวัดอื่น
| | โครงกระดูกที่ขุดพบที่ฐานพระนอน เชื่อกันว่าคือขุนอินทประมูลที่ถูกมัดและประหารที่วัดนี้ ตอนนี้จัดแสดงอยู่ด้านหลังที่ซื้อดอกไม้ธูปเทียนครับ (โปรดระวัง! แม่ค้าขายดอกไม้ธูปเทียนวัดนี้ดุมาก) | วัดนี้เคยถูกทิ้งร้างครั้งแรกตอนเสียกรุงครั้งที่ 1 แต่ได้รับการบูรณะในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โบราณสถานอีกแห่งที่หลงเหลือภายในเขตวัดนอกจากพระนอนก็คือโบสถ์ซึ่งมีเจดีย์แปดเหลี่ยมด้านหลัง คาดว่าสร้างสมัยอยุธยาช่วงที่บูรณะวัดนั่นแหละ | ครั้งแรกที่ผมไปวัดนี้วันที่ 2 ก.พ. พ.ศ.2557 กำลังมีพิธีปิดทองลูกนิมิตรขึ้นอุโบสถใหม่ คนอย่างเยอะ! โบสถ์ใหม่นี้มีสองชั้น มีลิฟต์ขึ้นชั้นบนติดแอร์ด้วยนะ
....
วัดเยอะจริงๆครับอ่างทอง เดี๋ยวบล็อกต่อไปจัดชัยภูมิต่อเลยครับ มาเที่ยวแบบขอมๆอีกชุดใหญ่ๆ (ชัยภูมิ-ขอนแก่น-ลพบุรี) ก่อนจะวกเข้าสู่พระนครศรีอยุธยากันเถอะปีนี้
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2560 |
|
52 comments |
Last Update : 10 มีนาคม 2560 22:39:58 น. |
Counter : 5347 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณtuk-tuk@korat, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณmastana, คุณThe Kop Civil, คุณอุ้มสี, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเนินน้ำ, คุณเรียวรุ้ง, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า, คุณTui Laksi, คุณmambymam, คุณRinsa Yoyolive, คุณกาบริเอล, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณsecreate, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณphunsud, คุณmariabamboo, คุณAppleWi, คุณmultiple, คุณkae+aoe, คุณ**mp5** |
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 24 กุมภาพันธ์ 2560 21:40:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 24 กุมภาพันธ์ 2560 23:28:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 25 กุมภาพันธ์ 2560 0:25:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 25 กุมภาพันธ์ 2560 11:23:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 25 กุมภาพันธ์ 2560 14:03:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: NENE77 25 กุมภาพันธ์ 2560 16:56:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 25 กุมภาพันธ์ 2560 17:48:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: oa (rosebay ) 25 กุมภาพันธ์ 2560 19:46:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 25 กุมภาพันธ์ 2560 19:48:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 25 กุมภาพันธ์ 2560 20:21:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: เรียวรุ้ง 25 กุมภาพันธ์ 2560 22:22:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 26 กุมภาพันธ์ 2560 11:16:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 26 กุมภาพันธ์ 2560 15:34:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 26 กุมภาพันธ์ 2560 18:25:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: เรียวรุ้ง 26 กุมภาพันธ์ 2560 18:54:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) 26 กุมภาพันธ์ 2560 19:49:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tui Laksi 26 กุมภาพันธ์ 2560 21:18:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 26 กุมภาพันธ์ 2560 21:37:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 26 กุมภาพันธ์ 2560 22:40:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 27 กุมภาพันธ์ 2560 6:58:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 27 กุมภาพันธ์ 2560 8:14:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาบริเอล 27 กุมภาพันธ์ 2560 13:59:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 27 กุมภาพันธ์ 2560 23:17:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 กุมภาพันธ์ 2560 6:24:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: secreate 28 กุมภาพันธ์ 2560 13:03:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: phunsud 1 มีนาคม 2560 14:23:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 1 มีนาคม 2560 14:23:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 2 มีนาคม 2560 8:49:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: NENE77 2 มีนาคม 2560 13:37:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 2 มีนาคม 2560 15:38:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 2 มีนาคม 2560 20:01:21 น. |
|
|
|
|
|
เดี๋ยวมาอ่านอีกที ผมรออัพถนนสายนี้มีตะพาบ