#### รีวิวพระร่วง เดอะมิวสิคัล - ละครเวทีน่าดูเรื่องหนึ่งของปีนี้ค่ะ ####
สวัสดีค่าาา
วันนี้จะพาไปชมละครเวทีแนวมิวสิคัลอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งจะฉายที่โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียร์เตอร์ เอสพลานาดรัชดานะคะ นั่นก็คือ พระร่วงเดอะมิวสิคัล นั่นเองงงงง
โดยหากใครอ่านรีวิวนี้สนใจ ก็สามารถจองผ่าน thaiticket ได้ที่ลิงก์นี้นะคะ
ราคาบัตร :
3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 / 1,000 บาท
*ราคาบัตรยังไม่รวมค่าบัตรพลาสติกใบละ 20 บาท
ส่วนโปรโมชั่น ก็ตามนี้เลยค่ะ
🎟️ นักเรียน-นักศึกษา (ไม่เกินระดับปริญญาตรี และอายุไม่เกิน ๒๓ ปี) รอบวันพุธ-วันศุกร์ รับส่วนลด ๓๐% รอบวันเสาร์-วันอาทิตย์ รับส่วนลด ๒๐%
🎟️ ผู้สูงอายุ (อายุ ๖๐ ปีขึ้นไป) รับส่วนลด ๓๐%
🎟️ ซื้อบัตรพร้อมกัน ๔ ใบ จ่ายเพียง ๓ ใบ
🎟️ กด Like & Share โพสต์ใดก็ได้ในเพจ พระร่วง เดอะ มิวสิคัล พร้อมแท็กชวนเพื่อน ๕ คน รับส่วนลด ๒๐% สูงสุด ๔ ใบ
🎟️ ซื้อบัตรราคาเดียวกัน พร้อมกัน ๑๐ ใบขึ้นไป รับส่วนลด ๒๕%
สอบถามรายละเอียดได้ที่จุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร. ๐๒๒๖๒๓๔๕๖ หรือ Facebook พระร่วง เดอะ มิวสิคัล
ละครเรื่องนี้จะแสดงตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. - 4 มี.ค. รอบก็ตามนี้เลยนะคะ
หน้าตาบัตรของรอบสื่อนะคะ
สำหรับท่านใดที่นำรถส่วนตัวไป สามารถจอดได้ที่ชั้น 4 นำบัตรจอดรถไปสแกนที่หน้าโรงละคร จอดได้ 5 ชม.เสียค่าจอด 20 บาทนะคะ ชั่วโมงที่ 6 7 ชั่วโมงละ 20 บาทค่ะ
เดินจากอาคารจอดรถมาก็จะเจอโรงละครเลยแหละค่ะ ซึ่งในช่วงของการแสดงละครเรื่องนี้ก็จะมีโปสเตอร์และสแตนด์ของนักแสดงในเรื่องนี้จัดวางอยู่ให้ได้ถ่ายรูปกันนะคะ
สำหรับละครเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวที่รุ่นเราเคยมีเรื่องราวของท่านในหนังสือภาษาไทยเล่มหนึ่ง (น่าจะมัธยมปลายนะ ถ้าจำไม่ผิด) ที่เล่าเรื่องราวของท่านทั้งเรื่องการส่งน้ำให้กับขอมและเรื่องของขอมดำดิน แต่เรื่องนี้จาระนัยลงรายละเอียดไปเพิ่มเติม และคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบทด้วยนะคะ แต่ถ้าใครอยากอ่านแบบละเอียดๆ ที่หน้างานจะมีการขายของที่ระลึก ซึ่งมีหนังสือพระร่วงนี้จำหน่ายด้วยค่ะ ขายเป็นชุด 2 เล่มราคา 500 บาทเองหละ...ซึ่งแน่นอนว่าเราสอยมาเรียบร้อย 555
โดยละครเพลง เรื่อง พระร่วง เดอะ มิวสิคัล มาจากบทพระราชนิพนธ์ละครพูดคำกลอนเรื่อง พระร่วง ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มานำเสนอในรูปแบบละครเพลงสมัยใหม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ในมงคลสมัยเสด็จขึ้นทรงราชย์และฉลองวาระ ๑๐๐ ปีบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ เรื่องเอกแห่งวงวรรณคดี
สำหรับการเข้าชม จะต้องฝากกล้องไว้ก่อนเข้านะคะ โดยจะมีป้ายสำหรับรับหลังจากการแสดงจบแล้วค่ะ
เครดิต : พระร่วงเดอะมิวสิคัล
นำแสดงโดย ท็อป - จรณ โสรัตน์, อาร์ม - กรกันต์ สุทธิโกเศศ, ปนัดดา เรืองวุฒิ, อาร์ -อาณัตพล ศิริชุมแสง, วิทย์ -พชรพล จั่นเที่ยง, ตี๋ -วิวัศน์ บวรกีรติขจร, ตั้ม - ศรัณย์ แก้วจินดา, หมู - กลศ อัทธเสรี และ โหน่ง วสันต์ อุตตมะโยธิน
กำกับการแสดงโดย นภาดล กำปั่นทอง
อำนวยการสร้างโดย อนาวิล วิภาสวัสดิ์
เรื่องย่อ
สำหรับเรื่องราวของละครเรื่องนี้ก็จะเริ่มตั้งแต่สมัยพระร่วงยังคงอยู่เมืองละโว้ เพิ่งสูญเสียพระราชบิดาผู้เป็นผู้ปกครองเมืองไป แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงต้องส่งส่วยน้ำให้กับขอมในฐานะที่ตนเองเป็นเมืองขึ้น ทั้งที่ขณะนั้นละโว้เองก็ประสบกับปัญหาภัยแล้ง แต่ด้วยสติปัญญาของพระร่วงก็จัดการแก้ไขปัญหาไป รวมทั้งแก้ปัญหาการส่งน้ำที่กษัตริย์ของขอมต้องการที่จะกึ่งๆ "หาเรื่อง" ได้สำเร็จ แต่ก็เป็นเหตุให้เกิดสงครามขึ้น ซึ่งพระร่วงก็ยังคงหาวิธีแก้ปัญหาให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด จนกระทั่งไปถึงการขึ้นเป็นเจ้าเมืองแห่งสุโขทัยในตอนท้ายเรื่องค่ะ
ความรู้สึกที่ได้ดู
เราได้ดูเรื่องนี้ก่อนที่จะมีการแสดงจริงนะคะ ไปในรอบสื่อค่ะ
ซึ่งก็เปิดตัวด้วยการที่ผู้อำนวยการสร้างออกมาเกริ่น พูดคุยเล็กน้อย จากนั้นก็จะเป็นเสียงบรรยายบอกถึงการนำเอาประเพณีของการแสดงในสมัยร.6 มาใช้ เช่น การเคาะพื้น 3 ครั้งก่อนเริ่มการแสดง รวมทั้งการใช้เพลงสรรเสริญพระบารมี โดยใช้เพลงสรรเสริญเสือป่าหรือสรรเสริญพระบารมีบทพระสุบินของสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า เป็นการระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเก๋มากๆ เป็นการเปิดฉากที่ดึงดูดความสนใจคนดูได้ดีมากเลยค่ะ
สำหรับในส่วนของตัวเนื้อละครเรื่องนี้นั้น อันดับแรกเลยนะคะ เป็นละครเวทีที่บอกได้เลยว่ารู้เลยว่าตั้งใจทำและซ้อมกันหนักมากค่ะ เรื่องการแสดงนี่ต้องชมเลย แสดงออกมาได้ดีทุกคน บล็อกกิ้งและไลน์ที่ถูกออกแบบมาอย่างเห็นได้ชัดนี่เป๊ะกันมาก มีจุดหลุดน้อยมากเลยค่ะ ทั้งที่ไลน์และบล็อกกิ้งในแต่ละฉากนี่ เปลี่ยนเยอะมากกกกก แต่ก็ค่อนข้างเป๊ะกันหมดเลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉากที่ ฝ่ายละโว้เจอกับทหารของขอมรอบแรกด้วย ไลน์นั้นสวยมากกก เก๋มากกกกก แบบพอช็อตนั้นนี่อิชั้นโอ้โหเลยอ้ะ #ยืนปรบมือเลยทีเดียว เอาภาพบางส่วนมาให้ดูค่ะ (ตอนเราดูการแสดงนี่ถ่ายไม่ได้นะคะ อันนี้ภาพจากพีอาร์ที่เชิญไปค่ะ)
นอกจากนั้นจะเห็นว่าจากภาพที่เอามาให้ดู การให้สีแสงของละครเรื่องนี้สวยและสื่อความค่อนข้างดี นะคะ และคิดว่าเป็นความตั้งใจของผู้จัดเลยว่าในฉากเมืองขอม จะมีความทะมึน ขรึม มืดหม่นมากกว่าเมืองละโว้ที่ค่อนข้างใช้แสงสีที่ดูสดใส ร่าเริง ซึ่งแสดงถึงบรรยากาศของแต่ละเมือง (ในเรื่องนี้) ด้วยค่ะ เพราะเมืองขอมนี่ขาดไร้ซึ่งความสามัคคี มีแต่แก่งแย่งชิงดีกัน ขณะที่ชาวละโว้นั้นมีความกลมเกลียวสามัคคีกันค่อนข้างมากนะคะ
นอกจากการแสดง แสง สี บล็อกกิ้งแล้ว ที่เราชอบมากในละครเรื่องนี้คือ การออกแบบเสียงประสานเวลาร้องเพลงแต่ละช่วง ค่ะ คือ นอกจากการร้องเดี่ยวแล้ว การร้องแบบองค์รวมนี่มีการออกแบบเสียงได้บาลานซ์ดีมาก เพราะมากๆ เลย มีเสียงแบบครบทุกโทน ถ้านั่งอยู่ตรงกลางแล้วด้วยเนี่ย จะค่อนข้างได้อรรถรส (หรือต้องเรียกว่าอรรถเสียง? ฮา) อย่างค่อนข้างครบถ้วนเลยค่ะ ซึ่งเราโชคดีมาก เพราะได้นั่งจุดที่ค่อนข้างโอเค (ตรงกลางโรง) เลยแหละค่ะ (ต้องขอบคุณน้องตู่ - พีอาร์ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)
นอกจากนั้นในเรื่องของเครื่องแต่งกาย สวยงามมากเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนเป็นเครื่องทรงของพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ แถมขยันเปลี่ยนกันด้วยค่ะ 555 นอกจากนั้นฉากก็สร้างได้ดีค่ะ (มีฉากเมืองละโว้ เมืองขอม สุโขทัย และฉากย่อยๆ เช่น กลางป่า ฉากตอนไปดูระหัดวิดน้ำ ฯลฯ) ในส่วนของการเปลี่ยนฉาก ลื่นไหลดีค่ะ แต่เนื่องจากการแบล็คเอาท์มันไม่มืดสนิทจริงๆ ทำให้เห็นอยู่บ้าง ถ้าแบล็คเอาท์ได้มืดสนิทกว่านี้ จะยิ่งเนียนขึ้นค่ะ
สิ่งที่อยากชมอีกเรื่องคือ เราชอบเรื่องการเล่นดนตรีสดในละครเรื่องนี้มากเลยค่ะ มันทำให้อารมณ์ต่อเนื่อง และรับส่งกับอารมณ์ของการแสดงในแต่ละช็อตได้ดีค่ะ (นั่นหมายความว่าต้องซ้อมกันมาแน่นๆ ด้วยนะคะ ไม่งั้นดนตรีจะรับในบางจุดไม่ได้ขนาดนี้น่ะ) คือ เรียกว่าค่อนข้างประณีตในองค์ประกอบแต่ละอย่างจริงๆ ค่ะ ดูแล้วรู้เลยว่า ตั้งใจและมีความประณีตละเอียดในการสร้างมากๆ
ส่วนเรื่องของสถานที่ เราว่าเป็นโรงละครที่พร้อมมากๆ ในหลายๆ เรื่องนะคะ ความใหญ่โต สำหรับคนดูแล้วที่เห็นชัดคือการวางตำแหน่งของเก้าอี้ที่สลับกัน ซึ่งทำให้หัวคนข้างหน้าไม่บังหละ อันนี้ขอชมเลย เลิศมาก
สำหรับการร้อง ทุกคนไม่น่าห่วงนะคะ มีก็แต่พระร่วงที่แม้ว่าจะไม่แกร่งเรื่องการร้องเท่าคนอื่น แต่ก็ไม่ได้แย่นะคะ (ก็ดูแต่ละคนเอาแล้วกัน นักร้องล้วนๆ อะนะ) เรียกว่าค่อนข้างโอเคเลยค่ะสำหรับมือใหม่ในละครเพลงอย่างท็อปค่ะ
แต่ที่เด่นและเราชอบมากๆ จะมีสองตัวค่ะ คือ นายมั่น ปืนยาว (ซึ่งครั้งก่อนโน้นแสดงโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) และพญาเดโช เสียงร้องดีทั้งคู่ การแสดงดีทั้งคู่เลย ตอนจบที่นักแสดงออกมานี่ เพิ่มเสียงกรี๊ดให้สองคนนี้เป็นพิเศษ 555
ส่วนข้อที่ยังต้องปรับปรุง ก็จะมีเรื่องไฟช่วงหนึ่งที่เป็นไฟหมุนสลับ (มีสองช็อตค่ะ ช็อตตอนร้องเพลงปาฏิหาริย์ที่มีแม่ของพระร่วงอยู่ด้วย) มันทำให้ใบหน้าของนักแสดงมืดและสว่างเป็นช่วงๆ ซึ่งมันทำให้ไม่สอดคล้องกับอารมณ์ของซีนนั้นง่ะ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมช็อตนี้ถึงออกแบบไฟแบบนี้นะคะ แล้วก็ตามประสาละครเวทีนะคะ ยังมีหลุดบ้างบางช่วง ไม่ว่าจะเป็นการเต้น และการยืน จุดยังไม่เป๊ะ แต่เข้าใจได้ ละครเวทีน่ะนะ หลุดแค่นี้ถือว่าน้อยแล้วแล้วค่ะ (เขาซ้อมกันหนักจริงๆ อ้ะ)
นอกจากนั้นที่คงต้องปรับด่วนๆ (ซึ่งเราเองก็แจ้งไปแล้ว เพราะพีอาร์ขอฟีดแบ็คหลังดูเพื่อให้ทางทีมเขานำไปปรับค่ะ) นั่นก็คือ ไมค์ของนักแสดงแต่ละคนมีหลุดหลายช่วงเลย ไมค์ของคนพูดดันไม่ดังซะงั้น ส่วนใหญ่เป็นพวกตัวประกอบเล็กๆ ดีว่าคนพูดเสียงดังพอควร เลยทำให้แม้ไมค์จะไม่ดัง แต่ ณ ตำแหน่งที่เรานั่งยังฟังออกว่าพูดอะไรอยู่ค่ะ แต่ตำแหน่งอื่นนี่ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ
จังหวะการแสดงบางจังหวะ ดูเงียบนานไปอ้ะ จนลุ้นว่าลืมบทมั้ย? ถ้าเป็นการทิ้งช่วงเพื่อแสดงการครุ่นคิดของตัวละคร ก็รู้สึกค่ะว่านานไป อย่างตอนกษัตริย์ขอมคุยกับพญาเดโชนั่นก็เป็นช็อตหนึ่งค่ะ
นอกจากนั้นละครเพลงเรื่องนี้แสดงตั้งแต่ 19.30-23.00 รวมเวลาพัก เพราะฉะนั้นก็ราวๆ 3 ชั่วโมงครึ่งค่ะ ซึ่งรู้สึกว่านานเกินไปนิดหนึ่ง คือช่วงท้ายนี่เรียกว่าหนืดเลยหละค่ะ คือคนดูจะล้าพอควรด้วย (คนที่ดูรอบค่ำนี่น่าจะกระทบกว่ารอบอื่น) แต่...น่าจะปรับอะไรไม่ได้แล้วหละค่ะในส่วนนี้ แต่มันนานไปนิดหนึ่งค่ะ
นอกจากนั้นไฟตรงวงดนตรี แม้ว่าจะไม่สว่างจ้า สว่างอ่อนๆ แต่มันมีผลอะค่ะ มันทำให้แสงส่งไปบนเวที แล้วรอบที่เราดูนี่เห็นเหมือนใครตั้งโทรศัพท์อยู่ในวงด้วย ซึ่งมันเด่นขึ้นมาเลยค่ะ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะรอบสื่อหรือเปล่านะคะ รอบจริงไม่น่าจะมีแหละ
โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นละครเรื่องหนึ่งที่โปรดักชั่นและองค์ประกอบต่างๆ ดีมากนะคะ เรื่องของข้อคิดของเรื่อง สำหรับเราอาจจะไม่ได้กระทบใจมากเท่าโหมโรง กับเรื่องนี้ที่เน้นเรื่องของความสามัคคี การเสียสละของผู้นำ การใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาและการให้อภัยแก่ผู้มุ่งร้ายต่อตนนั้น อาจจะดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่รับรู้กันอยู่แล้ว (แต่ไม่ทำ 555) ก็เลยไม่ได้ประทับใจหรือสร้างความฮึกเหิมในส่วนนี้มากนักค่ะ แต่โดยรวมแล้วก็เป็นละครเพลงอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ไปดูกันนะคะ งานดีเลยค่ะ
ป.ล. เรารู้สึกว่า การนำละครเรื่องนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ในประเทศที่แตกความสามัคคีกันอยู่มาก เหมาะสำหรับการแสดงในรัชสมัยนี้ ที่กษัตริย์ผู้ขึ้นครองราชย์นั้น ถูกกดดันไม่แพ้กันกับการที่ร.6 ขึ้นครองราชย์ต่อจาก ร.5 (ตอนน้องคนหนึ่งโพสตที่หน้าเฟซ เรานี่ฉุกคิดเลยนะ มันไม่ง่ายจริงๆ) เรียกว่าเป็นละครที่มาถูกที่ถูกเวลาเรื่องหนึ่งเลยค่ะ
ถ้าใครได้ไปดูก็มาคุยกันนะคะ จะรอค่ะ
(อย่าลืมเก็บตัวนี้มานะคะ มีรายละเอียดเยอะเลย น่าเก็บสะสมอย่างยิ่งค่ะ)
ปฏิทินธรรม
วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันอาทิตย์ที่ 11 และ 25 กุมภาพันธ์ 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันศุกร์และเสาร์ที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2561
1. ขอเชิญร่วมงานบุญประจำปี กิจกรรม เข้าวัด(หอพระ) ตักบาตร ฟังธรรมณ หอพระพุทธธรรมทิฐิศาสดา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต.ในโอกาสครบ 1 รอบ 12 ปี การก่อตั้งชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐานแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ .
กำหนดการ
วันศุกร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 17.00 น. ลงทะเบียนผู้ร่วมงาน17.30 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น-นั่งสมาธิ18.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา โดยพระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตโต วัดบุญญาวาส อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี (สาขาวัดหนองป่าพงที่ 130)19.30 น. ถาม-ตอบปัญหาธรรม20.00 น. เสร็จพิธี.วันเสาร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ 256107.00 น. ลงทะเบียนผู้ร่วมงาน07.30 น. ตักบาตรพระเถระกรรมฐาน บริเวณรอบหอพระฯ08.00 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ณ ห้องกลาง หอพระฯ08.30 น. ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์10.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา โดยหลวงตาศิริ อินทสิริ วัดถ้ำผาแดงนิมิต อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น11.30 น. ถาม-ตอบปัญหาธรรม12.00 น. เสร็จพิธี
วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 (จัดทุก อาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 24 และ 25 กุมภาพันธ์ 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1469696+5903544=7373240/13102/1619 โหวตงานอดิเรกนะคะ เครดิตแบนเนอร์โหวต : oranuch_sri
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2561
37 comments
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2561 8:49:35 น.
Counter : 3274 Pageviews.
แต่ราคาบัตรนี่ สูงสุด เกือบเท่ากับดูโชว์แบบเดียวกัน ของต่างประเทศเลยค่ะ