The 5th Bangkok Experimental Film Festival
The 5th Bangkok Experimental Film Festival
หรือ เทศกาลหนังทดลองกรุงเทพครั้งที่ 5
มีวันที่ 25-30 มีนาคม 2551
สถานที่จัดคือ เอสพลานาด, สมาคมฝรั่งเศส, ห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรน (บ้านจิม ทอมป์สัน) และ Gallery VER
ที่เอสพลานาดค่าบัตร 60 บาท นอกนั้นดูฟรี!
ดูโปรแกรมงานที่ //www.project304.org/beff5/index.htm
ใครไปดูก็เจอกันจ้ะ
อย่ากลัวที่จะดูหนังทดลอง!!! อ้อ แต่ถ้าดูไม่รู้เรื่อง หรือทนไม่ไหว ก็อย่ากลัวที่จะลุกออกไปด้วย เพราะถ้ามานั่งคุยกันเองแทนเนี่ย มันน่ารำคาญ(โว้ย)
25 Mar 2008
วันนี้เป็นพิธีเปิดที่ Gallery VER (อยู่แถวๆ ท่าเรือคลองสาน)
อาหารไม่อร่อยเท่าไร เหมือนอาหารที่ขายที่โรงอาหารมหาลัย (พี่เจี๊ยบเข้ามาอ่านเจอ อย่าด่าผมนะ 555) เบียร์ไม่อั้น แต่เราก็ไม่ได้กิน
ตรงที่กินข้าวเหมือนลานเบียร์การ์เด้นแบบบ้านๆ หน่อย มีจอโปรเจคเตอร์ฉายหนัง แต่อนิจจา ถูกกันสาดบัง มองไม่เห็น
ส่วนตรง Gallery VER ก็มีฉายวิดีโอเยอะแยะมาก มีหลายจอมาก (แม้แต่ในห้องน้ำยังมีจอทีวี!) แต่ทนดูได้ไม่นานเท่าไร เพราะคนเยอะ + ไม่มีแอร์ ร้อนมากกกก อาจจะมาดูแบบเงียบๆ ทีหลัง
โปรแกรมเด็ดคือ ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมดูหนังไปด้วย (เก๋จริงๆ) หนังไม่ค่อยได้ดูหรอก แต่วิวสวยมาก ลมเย็นดี มีไวน์ให้ด้วย แต่ก็ไม่ได้กินอีกละ (ช่วงนี้ห่างเกินแอลกอฮอล์)
พรุ่งนี้ก็ดูหนังละนะ
ป.ล. รู้สึกหลอนมาก เพราะได้ดูหนังเรื่อง New Year Again ของ วินัย กิจเจริญ ไปประมาณ 18 รอบ (วิดีโอมันฉายวน loop)
26 Mar 2008
1. ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น (2008, ทรงยศ สุขมากอนันต์, B+)
1.1 เกลียดคู่ ไมเคิล-แน็ค มากกกกก โคตรน่ารำคาญ
1.2 ฉากน้องโฟกัสหันมาเห็นตี่ตี๋แล้วร้องไห้ เจ๋งมาก
1.3 รักน้องอ้อย รำคาญนังนวล (ข่าวร้าย 80% ของ ญ เป็นแบบนวล อ้อ กูถึงไม่มีแฟนสินะ 555) 1.4 คู่ โจ้ + ซี : ฉากทำบอร์ด = เริ่มร้องไห้ / วิ่งไปเก็บบอร์ด = ร้องไห้หนัก / บอร์ดว่าง = ร้องอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกต่อไปแล้ว
2. In the Valley of Elah (2007, Paul Haggis, A-)
ชอบช่วงแรกๆมาก ในระดับ A+ แต่ตอนหลังๆ รำคาญ มึงจะอะไรมากมาย เดี๋ยวมีฉาก flashback, เดี๋ยวกล้องมอืถือเสือกชัดซะงั้น ไหนจะธงชาติอีก symbol เสร่อโคตรๆ (จริงเราว่า Paul Haggis มันเป็นคนรสนิยมแย่มากๆ) อ้อ ยังดี ชอบกว่า Crash เยอะ
3. BEFF5 : Track Changes (Esplanade)
3.1 19.09.2549 (2008, บพิตร วิเศษน้อย, B+)
3.2 Bangkok Tanks (2007, นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์, A) ดูรอบที 578
3.3 In the Night of Revolution (2007, วาทิต วัฒนสกลพันธุ์, B+)
3.4 Observation of the Monument (2008, ไมเคิล เชาวนาศัย, A-) จะวนลูปทำไมตั้ง 3 รอบ กูเบื่อ (มาก)
3.5 Letters from the Silence (2007, ปราบต์ บุนปาน, B+) ขอโทษอ่ะ พี่ปราบต์ ผมเหนื่อยอ่ะพี่ เลยไม่มีสมาธิดู แหะๆ (แต่ตอนดูรอบแรก ชอบนะ)
3.6 อธิบายคำว่าไทย (2007, ประทีป สุธาทองไทย, B) 3.7 Burmese Man Dancing (2008, นฆ ปักษนาวิน, B)
3.8 AUTRMX (2008, Ricardo Nascimento, Austria, A-) 3.9 Promethean Invention (2008, Tintin Cooper, A-)
3.10 Man with a Video Camera (2007, จักรวาล นิลธำรงค์, A-) ดูรอบสองแล้วชอบมากขึ้นแฮะ
ป.ล.1 แม่งเหนื่อยว่ะ ดูหนังทดลองมึนๆ แบบนี้ทุกวันกูตายแน่ 555 (หรือเพราะว่าแก่แล้ววะ)
ป.ล.2 รู้สึกผิดมากๆ ตอนจะฉายหนัง BEFF5 เห็นพี่ Mds ไม่มา ก็ว่าจะโทรไปถามแล้ว เมือ่กี้เพิ่งอ่านเจอในบล็อกเค้าว่า เค้าไม่ได้ขึ้นมาดู เพราะอี พนง. มันดันไม่รู้เรื่อง บอกพี่เค้าว่า รอบนี้สำหรับ VIP เท่านั้น (ความจริงคือ มันแจกตั๋วฟรีกันอยู่ข้างบน) รู้สึกผิดอ่ะ น่าจะโทรหาพี่เค้านะเนี่ย เฮ้อ
ป.ล.3 คำวิจารณ์ระดับปราบเซียน "เขียนบทกันตั้ง 7 บท เอาเวลาไปคิดคำผวนกัยหมดหรือไง" (55555)
27 Mar 2008
1. นิทรรศการที่หอศิลป์จามจุรี
1.1 Proof (2008, คณะศิลปกรรมศาสจตร์ จุฬา, A)
1.2 Negative Image 2008 (2008, บุญช่วย เกิดดี, A-)
1.3 สุสานหลังความตาย (2008, ปรีชา นวลนิ่ม, A-)
อ่านเอาที่หมวด Gallery นะ
2. Local Loop: Emerging Histories from the Philippines (ดูที่สมาคมฝรั่งเศส)
2.1 The Momentary Enemy (2008, Angel Shaw, USA, B+)
2.2 Laban: The Meaning of the Edsa Revolution (2007, Sally Jo Bellosillo, Philippines, A-)
ทั้งสองเรื่องเป็นสารคดี ซึ่งจริงๆแล้วดูไม่ยากเลยนะ ฉายช่อง TPBS ได้เลย (ก็ยังงงๆว่ามันทดลองยังไง)
คือจริงๆ ไม่ได้ชอบมากทั้งสองเรื่อง แต่รู้สึกดี ในแง่ที่ช่วยให้รู้ประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์มากขึ้นเยอะ อย่างเรื่องแรกก็ทำให้รู้ว่า ฟิลิปปินส์กับอเมริกานี่ตบตีกันยังไง
ส่วนเรื่องที่สองพูดถึงเหตุการณ์ที่ประชาชนออกมาประท้วงให้ประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอสลาออก หนังมันก็สัมภาษณ์คนนู้นคนนี้ไปเรื่อยแหละ เราก็มีช่วงเบื่อๆ เหมือนกัน แถมหนังมันพูดอังกฤษ ไม่มีซับ สำเนียงบางคนฟังยากโคตร บางทีก็เลยตั้งใจหลับตาไปเลย (แต่ไม่ยักหลับแฮะ) แต่จะชอบมากๆ เวลาไปสัมภาษณ์อีเมลด้า มาร์กอส รู้สึกวาเธอฮาดี (ผู้กำกับเล่าว่า กว่าจะสัมภาษณ์เธอได้ ตั้งยอมทนเธอฟังเลคเชอร์ประมาณ 2 ชั่วโมง 5555)
จุดที่ชอบมากๆ คือ หนังมันไม่จบแค่ตรงที่มาร์กอสลาออก แต่มันตัดๆๆ มาให้ดูเป็นฉากๆ เลยว่าหลังจากนั้นประเทศนี้ก็ยังชิบหายวายป่วงอยู่ดี ถึงจะสั้นๆ แต่เราว่ามันสะเทือนใจ
ออกนึกได้ มีฉากนึงที่เราร้องไห้ออกมา คือตอนที่รถถังวิ่งมา แล้วแม่ชีสองคนยืนอยู่ข้างหน้าประจันรถถัง ไม่หนีไปไหน (อ้อ เรื่องนี้ทำให้รู้ด้วยว่าสถาบันศาสนาในฟิลิปปินส์ที่ลงมาลุยการเมืองเยอะเลยแฮะ - แต่ไม่ไร้สาระเหมือนของบ้านเรา)
คิดแล้วเศร้าว่าทำไมประเทศไทยทำหนังแบบนี้ไม่ได้ซะทีวะ แม่งต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์จากหนังสือกระทรวงที่พูดถึง 14 ตุลา 2 บรรทัด ส่วน 6 ตุลาแม่งลบทิ้งไปเลย โอ๊ย กูอยากตาย
พอหนังจบ ผู้กำกับ (เป็นผู้หญิง อายุยังดูน้อยอยู่เลย) ก็มา Q&A ด้วย แต่อนิจจา มีคนเหลืออยู่แค่ 6 คน (ไทย 4 ฝรั่ง 2) แอบเห็นใจเค้าอ่ะ อุตส่าห์บินมา เฮ้อ (อ้อ แต่ตอน Q&A มีบางคนสนใจ David Teh - curator สุดหล่อของงานมากกว่า 555)
เสร็จงาน เรา + Mds + Filmsick + Lunar ก็ไปกินข้าวกันต่อที่ Nooddi สีลม เม้าท์แตกกันถึง 5 ทุ่ม จึงแยกย้าย
ป.ล. ตอนออกจากร้านมีคนมาดักแจกใบปลิวโฆษณาสปาเกย์ให้ด้วย แว้ก! (แสดงว่าเค้ามองว่าพวกเรา 4 คน เข้าข่าย target group เค้าแหงเลย ม่ายยยย!!)
BEFF5 @ Alliance Francaise
Sally Jo Bellosillo & David Teh
28 Mar 2008
1. จินตนาการควบแน่น โดย ถาวร พรรษา @ Hof Art Gallery (A-)
2. Supernoyz โดย อรวรรณ อรุณรักษ์ @ Tadu (A-)
3. เทคโนโลยีตลาดล่าง จากประสบการณ์ลูกทุ่ง โดย กฤช งามสม @ Tadu (A)
4. INTRODUCING BERLIN II (Esplanade)
4.1 Modern Body Comedy (2006, Sharyar Nashat, A+) ไม่รู้ทำไมดูแล้ว นึกถึง Derek Jarman (เพราะมัน ทดลอง + เกย์ๆ มั้ง)
4.2 Passing Down, Frame 1 (2007, Maya Schweizer, A-) ร้องไห้ตอนฉากสุดท้าย
4.3 The Oral Thing (2001, Bjorn Melhus, A++++) ฮาอย่างเสียสติ (ฮาสุดๆ คือที่หนังมันมีเสียงจากรายการ The Weakest Link ด้วย)
4.4 No School Today (2005, Antje Majewski, A) ชอบความบ้านๆ ของมัน
4.5 Falcon (2003, Karo Goldt, A+)
4.6 Remote Intimacy (2008, Sylvia Schedelbauer, A) ดูไม่รู้เรื่อง แต่ชอบมาก
4.7 Metropolis (Report from China) (2006, Clemens von Wedemeyer & Maya Schweizer, B-) ไม่ค่อยชอบทัศนคติของหนังเรื่องนี้ + รู้สึกว่าหนังมันน่าเบื่อมาก
5. มหรสพมวลชน (VARIETY THEATRE) (Esplanade)
5.1 Promenade (2007, Jun'ichiro Ishii, France, A-)
5.2 Hobbit love is the greatest love (2007, Steve Reinke, USA, A-) เซอร์แดกมาก
5.3 Offshore (2007, Andrew Kotting, UK, A) ชอบที่หนังมันมีอารมณ์ดูน่ากลัวๆหลอนๆ โดยไม่รู้ว่าตกลงเค้าตั้งใจหรือเปล่า
5.4 A Broken Rule (2007, Vincent Meessen, Belgium, A+++++) รุนแรงมาก
5.5 Singapore Gaga (2007, Tan Pin Pin, Singapore, B+) ดูเพลินๆ
สรุปโดยรวม ชอบโปรแกรมในวันนี้มากๆ ยกเว้นพวกหนังที่ยาวๆ จะเบื่อๆหน่อย
คนก็น้อยเหมือนเดิม (คนไทยจะมีหน้าเดิมๆ ได้แก่ ข้าพเจ้า, Mds, Filmsick, Lunar, น้องอุ้ย, พี่กัลปพฤกษ์, เก้าอี้มีพนัก อะไรเทือกนี้) คือคำว่า หนังทดลอง มันก็ exclude คนอยู่แล้วล่ะ แต่ไอ้ schedule ก็อลังการเกินเหตุ (คือชื่อมันเก๋ครับ แต่มันไม่สื่อความ) อีกอย่างคือ พนง. ขายตั๋วที่เอสพลานาดก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ซื้อตั๋วกันยากลำบากมาก (ดิฉันต้องชี้นิ้วให้ทุกที เฮ้อ)
แต่เอาเถอะคนน้อยก็ดี แสดงว่าเป็นพวกรักจริง ทำให้ไม่ต้องปวดหัวกับอีพวกคนดูโสๆ เหมือนวันอังคารที่มีงานเปิด แล้วคนมาดูเยอะๆนะ นักร้องชื่อดัง(รึป่าว)คนนึง คงทนไม่ไหว เลยเล่นปาข้าวโพดกับเพื่อนซะงั้น (คือดิฉันมีความเชื่อมาตลอดแหละค่ะ ว่าอีนี่มัน act art)
ดูหนังจบประมาณ 4 ทุ่ม ก็ติด taxi กับพี่กัลปพฤกษ์ไปลงที่ออฟฟิศไบโอ (ขอบคุณพี่ไผ่ที่อนุเคราะห์ แหะๆ) เจอพี่เค้าแล้ว รู้สึกดีนะ ชอบคุยกับพี่เค้า พี่เค้าสบายๆดี (สมัยก่อนจินตนาการไว้ว่าพี่เค้าต้องเป้นพวกทรงภูมิมากๆ แหงเลย 5555)
วันนี้พวกไบโอก็ปิดเล่มกัน เค้าก็เรียกเราไปช่วยเอนเตอร์เทน (เหรอ?) แอบไปดูอาร์ตหน้าของตัวเอง (เขียน sex issue จ้า) เออ สวยดี ภาพก็แรง ไม่รู้จะผ่านเบื้องบนมั้ย
ตีหนึ่งออกจากไบโอ กลับถึงบ้าน
ป้ายที่เอสพลานาด
บูธที่เอสพลานาด
แมวที่ไบโอ
29 Mar 2008
วันนี้ฝังตัวอยู่ที่สมาคมฝรั่งเศสทั้งวัน
1. VIDEO GROUND (MAAP)
1.1 Divide (2006, John Gillies, A-) บางตอนของหนังหลอนๆ ดี เช่น ตอนต้นไม้ไฟไหม้
1.2 South Pacific (2007, Stella Brennan, B+)
1.3 Pacific Washup (2007, Rachel Rakena, A+) ขอตั้งชื่อไทยให้หนังว่า "คนเกยตื้น"
1.4 Connected (2002-2006, Merilyn Fairskye, B-) หลับ (จงใจหลับไปเลย)
1.5 Whitefellanormal (2002, Vernon Ah Kee, B+) ดูไม่ค่อยทัน (หนังยาวแค่ 30 วิอ่ะ)
1.6 At the Rotunda (2007, Peter Alwast, B) เรื่องนี้มันพูดๆๆๆ ทั้งเรื่อง แล้วอีป้าข้างหลังดิฉัน มันก็คุยๆๆๆอีก ก็เลยทนไม่ไหว ลุกไปด่ามันซะทีนึง สรุปดูหนังไม่รู้เรื่อง 5555
2. INTRODUCING BERLIN I
2.1 Rien Du Tout (2006, Clemens von Wedemeyer & Maya Schweizer, A-) ปกติชอบหนังเกี่ยวกับการทำละครเวทีอยู่แล้ว เลยชอบ
2.2 Living a Beautiful Life (2003, Corinna Schnitt, A) ฮาที่พระเอกหันหน้ามาพูดใส่กล้องว่า "แล้วผมก็มีเมียน้อยหนึ่งคน แล้วชีวิตผมก็มีความสุขดี บลาๆๆๆ"
2.3 Something Happened (2007, Keren Cytter, A+) ชอบการเล่าเรื่องที่ภาพกับเสียงไม่ตรงกัน
2.4 I, Soldier (2005, Koken Ergun, A-)
2.5 Chronicle of a Demise (2006, Amy Patton, B)
2.6 Drama Strings and Horn (1998, Gunter Kruger, A++++++) ชอบที่หนังหลอกล่อ curious ของคนดู รู้สึกว่าหนังมันกัดขนบของหนังนะ
2.7 Artxanda (2005, Jay Chung & Q Taeka Maeda, A+)
3. IF THESE WALLS COULD TALK
3.1 Barriers and Beyond (2007, Terry Berkowwitz + Varsha Nair + Karla Sachse, B) มึงทำกันสามคน ได้แค่นี้อ่ะนะ
3.2 Ayutthaya Aniccha (2007, Chris Henschke, Aus, B+)
3.3 Velikij Vam Privit (2007, Peter Krupa, Slovakia, A) ร้องไห้ (หนังถ่ายวิดีโอจากคนฝั่งยูเครนไปให้คนฝั่งสโลวาเกียดู และกลับกัน)
3.4 Barricade (2007, Thilo Froebel, Germany, A+) เก๋ดี (เอาทีวีไปวางกลางถนน)
3.5 Dirty Pictures (2007, John Smith, UK, B+) จริงๆ ดูไม่รู้เรื่องลเย เพราะมันพูดๆๆๆ ทั้งเรื่อง แต่พี่ Mds อธิบายให้ฟัง เลยชอบขึ้นมาหน่อย
3.6 A Slim Peace (2007, Yael Luttwak, UK, A)
วันนี้รู้สึกเหนื่อยมากๆๆๆ เจอแค่โปรแกรมแรกก็แทบหมดพลัง เพราะหนังมันเอาแต่พูด พูด พูด และก็พูด แถมยังเป็นสำเนียงออสเตรเลียอีก ฟังไม่ออกโว้ย ตอนแรกอ่านชื่อโปรแกรม (video ground) นึกว่าจะเป็นเกี่ยวกับ landscape ไรงี้เสียอีก เฮ้อ
ตอนแรกเกือบจะถอดใจกลับบ้านไปนอนเหมือนกัน (แต่ไม่ได้บอกใคร) กลับมาฟัง Q&A ก็ดันเถียงเรื่องการเมือง เชื้อชาติอะไรกันก็ไม่รู้ ขี้เกียจฟัง เลยหลับๆ ไป (แล้วให้พี่ Mds เล่าให้ฟังทีหลัง 555) ยังดีว่าโปรแกรมถัดๆมาสนุกขึ้นหน่อย เลยใจสู้ขึ้นมานิดนึง (นี่กูมาดูหนัง หรือมาวิ่งมาราธอน) อ้อ วันนี้ตอนกลางๆ คนเยอะนะ 20 กว่าเกือบ 30 คนเลยมั้ง (นี่คือเยอะแล้ว)
ชอบเรื่อง A Slim Peace ที่ผกก.ล่อให้ผู้หญิงหลายเชื้อชาติมาเข้ากลุ่มลดความอ้วน คือจริงๆ ผกก.มันเลวนะ ปากก็บอกว่าไม่ politic แต่แค่ธีมของมึงเองก็ politic สุดๆแล้ว ดูแล้วก็กลัวว่าอีเจ๊ปาเลสไตน์ (ซึ่งดูแรงๆ) จะลุกขึ้นมาตบใครหรือเปล่า
ชอบสุดๆ ที่หนังมันไม่จบ happy ลวงโลกน่ะ คือมันถ่ายให้เห็นอีก 1 ปีต่อมา เราก็ได้เห็นว่า อี ญ กลุ่มนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย ทัศนคติมันก็ไม่ได้เปลี่ยน ยิวก็ยังเกลียดปาเลส ปาเลสก็เกลียดยิว (คิดอีกอย่างคือ อี ญ พวกนี้ น่าจับไปใส่ในหนังเรื่อง Divine Intervention ให้หมด 5555)
ดูหนังจบ เรา, Mds, Filmsick, Lunar, เก้าอี้มีพนัก ก็ไปกินข้าวกันต่อที่ร้าน Bug & Bee (เปลี่ยนชื่อเป็น Gay Cafe ดีกว่ามั้ย เกย์นั่งทั้งร้านเลย 555) สั่งข้าวผัดขี้เมามา เผ็ดชิบหาย แต่ก็อร่อยดี (แต่ที่รุนแรงมากคือ ชามะนาวแก้วใหญ่ 90 บาท! กูจะกรี๊ดให้ได้) ก็ฟังเค้าคุยไปเรื่อย รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ได้ความรู้ดี
ห้าทุ่มกว่าๆ ขอตัวกลับก่อน เพราะ ง่วง + เหนื่อย ได้ข่าวว่าพวกนั้นก็ต่อกันถึงตีสองแน่ะ (บ้าพลังกันจริงๆ)
โรงฉายที่สมาคมฝรั่งเศส
30 Mar 2008
1. EXPERIMENTAL DOCUMENTARY
1.1 The Halfmoon Files (2007, Phillip Scheffner, A+) ดูไม่จบ แผ่นมีปัญหา
1.2 Crossing Fields (2007, Johanna Domke, A) แต่อันนี้เสือกได้ดู 3 รอบ (เพราะทีมงานพยายามลองแผ่น)
2. เครื่องจักรความทรงจำ (MEMORY MACHINE)
2.1 Black Mirror (2008, อโนชา สุวิชากรพงศ์, A)
2.2 Legacy (2006, Inge 'Campbell' Blackman, UK, B+)
2.3 Dirty Pictures (2007, John Smith, UK, B+) เมื่อวานก็เพิ่งดูไป
2.4 Notes From a Bastard Child (2007, Fern Silva, USA, B)
2.5 Otolith II (2006, The Otolith Group, UK, B-) หลับไปประมาณ 18 รอบ
3. จิตรกรรมดิจิตอล (ANIMATION / DATA-PAINTING)
3.1 Automotive Action Painting (Car Painting) (2006, George Barber, UK, A+)
3.2 Silent Lights (2008, ภาณุ อารี, B+) ดูรอบที่ 6 แล้วมั้ง
3.3 Slide (2008, กนกพร มาลีศรีประเสริฐ + สุวัศน์ พุ่มภักดี, A-)
3.4 3 1009 03146 81 2 (2007, ปิยะพจน์ เฉลิมสุข, A+)
3.5 El viento (wind) (2007, Johanna Reich, Germany, A-)
3.6 Piece of Heart (2007, Kim Woong-Young, Korea, A++++++) ไมรู้ทำไม แต่ดูแล้วจะร้องไห้
3.7 To Be Continued (2007, Osvaldo Cibils, Italy, A-)
3.8 Their Circumstances (2007, Ji Hyun Ahn, USA, A-)
3.9 Hack Mince Mude (2007, Sae Esashi, Germany, B+)
3.10 Athlete (2007, Toh Hun Ping & Jeremy Sharma, Sing, A-) จริงๆ ชอบมาก แต่มันนานไปหน่อย
3.11 Train Out, Train In (2008, Chris Loukes, UK, B+)
3.12 Harmonics (Fridge promo) (2007, Jun Iwakawa, UK, A-)
3.13 Coleoptera (Uli Westphal & Kristin Cooper, Ger, B+)
3.14 Vacuum (2007, Jadwiga B. Podowska, Norway, A+) หนังใช้พวกสัตว์เซลเดียวมาทำงานอาร์ต (เก๋มั้ย)
สำหรับวันนี้โปรแกรมแรกไปดูที่สมาคมฝรั่งเศสก่อน เห็นว่าสารคดีทดลอง เลยนอนมาเยอะๆเลย แต่ปรากฏว่าหนังดูได้แค่ 30 นาที เพราะหนังมีปัญหา แมรี่ (ทีมงานสาวสวย - ทำไมงานนี้มีแต่คนสวยๆหล่อๆวะ) บอกว่าเดี๋ยวจะฉายให้ดูอีกทีเสาร์หน้า (ตอนแรกนึกว่า ครึ่งหลังให้รอดูอีกสองปีข้างหน้าในงาน BEFF6 เสียอีก)
ในที่สุดวันนี้ก็ได้คุยแมรี่นิดนึง คือแมรี่เป็นเด็กมธ.รุ่นเดียวกับเรา เค้าอยู่วารสาร และเคยเรียนคลาส film กับเรา ตอนแรกก็ว่าจะทัก แต่กลัวเค้าหันมาบอกว่า "ใครเหรอ" (กลัวหน้าแหก 555) แต่ไปปรึกษาเพื่อนอีกคน มันบอกว่า "เด็กวารสารทุกคนจำมึงได้แหละ" (ฮา) ก็เลยลองทักดู เออ สรุปเค้าก็จำเราได้นี่หว่า
ระหว่างรอโปรแกรมต่อไป ผองเพื่อนนักดูหนังชาวไทยก็แห่กันมา นอกจากขาประจำอย่าง Mds + Filmsick + Lunar แล้ว ก็มี พี่ grappa, คุณโณ, คุณวินัย (เกณฑ์เพื่อนมาดู 3 คน ร้ายมาก), น้องเข้ หัวลำโพง, น้องจ๋า ดนตรีสนาม (น่าจะเป็นวันแรกที่คนไทยเยอะกว่าฝรั่งอย่างมีนัยสำคัญ 555) เสียดายว่าเราวางแพลนว่าจะวิ่งไปดูอีกโปรแกรมที่เอสพลานาด เลยอดเม้าท์กับเพื่อนๆเลย แต่ว่าไปที่เอสพลานาดก็เจอ พี่ไผ่-กัลปพฤกษ์, พี่เคี้ยง-ไพสิฐ
ไปถึงเอสพลานาดก็ไปกินข้าวก่อน (ข้าวหมูกระเทียมร้านเดิม นั่งโต๊ะเดิมอีก โอ้ ชีวิตกู) กินหน่วงๆ เพราะขี้เกียจไปฟัง Q&A เบน แอนเดอร์สัน + อภิชาติพงศ์ (ช่วงนี้เบื่อหน้าพี่เจ้ยยังไงไม่รู้ 555) อุตส่าห์ขึ้นไปช้าๆ ปรากฏว่ายังไม่จบ ได้ฟังพี่เจ้ยพูดประโยคนึง (แต่ยาวประมาณ 4 ย่อหน้า)
มีเรื่องแปลกประหลาดคือ ระหว่างที่คุยกับพี่เคี้ยง มีน้องผู้ชายคนนึงมาขอลายเซ็น + ถ่ายรูปพี่เคี้ยง (ก่อนหน้านั้นไปขอพี่เจ้ย) ซึ่งอันนี้ก็เริ่มงงแล้ว เพราะพี่เคี้ยงเป็นผกก.ระดับ "ดังวงใน" แต่ก็โอเค น่าดีใจแทน
จากนั้นน้องเค้าก็ถามว่า เราเป็นผู้กำกับด้วยป่าว เราก็บอกว่าไม่ใช่ เป็นนักเขียน น้องเคยอ่าน Bioscope มั้ยล่ะ (น้องตอบว่า ซื้อทุกเล่มเลยครับ) แล้วจู่ๆน้องก็ขอถ่ายรูปกับเรา เราก็งงๆ เลยถามว่า "อ้าว ตกลงน้องรู้เหรอว่าพี่เป็นใคร" น้องตอบอย่างมั่นใจว่า "ไม่รู้หรอกครับ แต่ถ่ายๆไว้ก่อนแล้วกัน" (!?) อืม วงการนี้มีแต่คนไม่ธรรมดาแฮะ วันนี้ยังคิดอยู่เลยว่าจะ retire ตัวเองดีมั้ย เผื่อจะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ มีเพื่อนมีฝูง มีแฟนสวยๆกับเค้าบ้าง เฮ้อ
อ่ะๆๆ กลับมาพูดถึงหนังต่อ อีโปรแกรม Memory Machine นี่เปลี่ยนชื่อเป็น Sleepy Machine ดีกว่า หลับแบบมหากาพย์มาก โดยเฉพาะอี Otolith II นี่เกลียดมาก แบบมันพยายามจะพูดอะไรๆ ให้ดูปรัชญาอ่ะ รำคาญ เลยนอนหลับไปเลย
แต่ Data Painting นี่ไม่ทำให้ผิดหวัง ดูสนุก + เพลิน รู้สึก enjoyable มากๆ (ครั้งแรกในรอบหลายวันนี้ 55555) คือตลกดีว่าหนังมันนามธรรมๆ แต่ดูสนุก สรุปกลายเป็นว่า "อะไรที่ไม่รู้เรื่องที่สุด กลับเป็นสิ่งที่ดูรู้เรื่องที่สุด" (งงมั้ย) คือก่อนหน้านี้จะเจอพวกหนังกึ่งทดลองกึ่งเล่าเรื่องไรงี้ไง ซึ่งมันดูแล้วเหนื่อย ต้องคิดตามตลอด แต่อันนี้ไม่ต้องคิดไรมาก ดูเพลินๆ ตามภาพ ตามเสียงไป
ดูเสร็จ ก็โทรคุยกับคุณเต๋อ คลีโอ ก็บอกว่าไป
"ตอนนี้กูอยากดูหนังตลาดมากกกกกกกกกกก"
Q&A : David Teh, Ben Anderson, May Adadol, Apichatpong
"เฮ้อ...เหนื่อย"
31 Mar 2008
1. นิทรรศการ Brandnew 2008 ที่ Art Center Chula
1.1 ไทย ในไทย ในไทย โดย ประทีป สุธาทองไทย (B+)
1.2 Beautiful โดย ศุภพงศ์ เหล่าธีรศิริ (A-)
1.3 Dont Look Back โดย วสันต์ ฐิติสกุล (A)
2. A Crime Against Art (2007, Hila Peleg, B+)
โปรแกรมปิดท้ายของงาน BEFF 5 จัดที่ ห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรน
ก่อนไป ก็ไปเดินหอศิลป์ที่หอกลางก่อน แต่ปรากฏว่าเสร็จเร็วกว่าที่คิด ก็เลยนั่งอยู่ตรงหอกลางอยู่พักนึง ต้นไม้เยอะ ลมเย็นดี ดูคนเค้าวิ่งไปมา + ตีแบต + เต้นแอโรบิก (เหมือนอยู่ในหนังของพี่เจ้ยเลย 555) มองไปที่โรงเรียนเก่าตัวเอง (ฝั่งประถม) อยู่บ่อยๆ ไม่ได้มาแถวนี้นานมากกกกก (เข้าหอกลางครั้งสุดท้ายตอน ม.6 แถมเข้าไปจีบผู้หญิง ไม่ใช่อ่านหนังสือ)
จากนั้นก็เดินไปที่ MBK กะว่าจะเดินเล่น แต่แล้วโทรไปมา จึงพบว่า ทั้งคุณโณ, พี่แป๊ด, คุณเต๋อ ต่างอยู่ใน MBK กันโดยพร้อมหน้า (และไม่ได้นัดหมาย) ก็เลยไปแจมกันที่ก๋วยเตี๋ยวเรือท่าสยาม กินเสร็จก็เดินๆ กันไปที่ห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรน
ไปถึงคนก็ประมาณ 10 กว่าเกือบ 20 บรรยากาศเหมือนฟังสัมมนามาก (ซึ่งตอนหลังเราก็พบว่ามันถูกแล้วละที่จัดแบบนี้ เพราะหนังมันก็เหมือนสัมมนาจริงๆ 555) ก็เจอ พี่ Mds + Lunar เหมือนเดิม (วงการหนังนอกกระแส มันก็อยู่กันแค่นี้แหละ) อ้อ เจอน้องผู้ชายที่ขอถ่ายรูปกับเราด้วย ฮ่าๆๆ กลัวเหมือนกัน น้องมันอ่านบล็อกกูไปยังวะเนี่ย
หนังก็ดูยากอย่างชิบหายมาก เพราะหนังมันจำลอง Court Room เก๊ขึ้นมา มีผู้พิพากษา มีโจทก์ จำเลย แล้วก็พูดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กัน 100 นาทีเต็ม พูดอังกฤษ ไม่มีซีบ (เริ่มแย่แล้ว) แถมอีตัวที่พูดเยอะๆๆ ตัวนึงก็สำเนียงฝรั่งเศส อีกตัวก็พูดเร็วมาก (จะรีบไปไหน) สรุปว่าฟังรู้เรื่องแค่ 40% เองมั้ง
แต่หนังมันก็เซอร์ดี มันเถียงกันเรื่องประมาณว่าพวก bourgeoisie นี่สนับสนุนหรือทำลายความเป็นศิลปะ หรือว่าศิลปะมันถูก manipulate ไปทางอื่นหรือเปล่า อะไรเทือกนี้แหละ ระหว่างดูไปก็เห็นคนดูลุกกันออกไปเรื่อยๆ (ฮา) พี่แป๊ด + คุณเต๋อ ก็จากไปด้วย ส่วนคุณแอนนา เพนกวิอน เข้ามานั่งดูได้ไม่ถึง 15 นาทีก็ออกไป (อุตส่าห์เตือนแล้วว่าอย่ามา)
สุดท้ายก็ดูจนจบได้ (เย้) หันไป ยังเห็นคุณโณอยู่ ตอนเดินออกมาก็เม้าท์ๆ อะไรกับพี่ Mds หน่อยนึง แล้วก็แยกกัน เราไปสยาม ดูร้านการ์ตูน ชินจังเล่ม 25 แม่งออกเฉยเลย อัศจรรย์ใจยิ่งนัก (เดี๋ยวนี้มันออก 2 ปีเล่มแล้วมั้ง)
จากนั้นก็กลับบ้าน ปิดฉากงาน BEFF5 แบบ 95% (เพราะว่ามันยังเหลือวันเสาร์ที่ 5 เมษา จะฉายสารคดี The Halfmoon Files ณ วิลเลียม วอร์เรน 17.00 เพราะเมื่อวันอาทิตย์แผ่นมีปัญหา)
เอวัง ด้วยประการฉะนี้
เจอกันอีก 2 ปีข้างหน้า
ป.ล. งาน BEFF เค้าจัด 2 ปีครั้งจ้ะ
ห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรน ส่วนมนุษย์ในรูปคือ คุณโณ, พี่แป๊ด และคุณเต๋อ (ซึ่งดูเหมือนนักท่องเที่ยวมากๆ)
Create Date : 26 มีนาคม 2551 |
|
43 comments |
Last Update : 1 เมษายน 2551 5:23:43 น. |
Counter : 3948 Pageviews. |
|
|
|
ท่าจะเหนื่อยนะวันนี้ ฮะๆ ร้อนด้วยแหละ
เรายังไม่มีโปรแกรมเลยแฮะ
นี่ก็มัวแต่ท่องเน็ต อัดอั้น ไม่ได้เล่นสบายๆมาหลายอาทิตย์ - - '
เดี๋ยวไปดูโปรแกรมอย่างจริงจังบ้างดีกว่า
ไว้ไงคงเจอกัน