ส้มจีน หรือส้มแมนดาริน ถูกมดดำ หนอนผีเสื้อ และแมลงศัตรูพืชโจมตีอย่างหนัก หากไม่ควบคุมด้วยวิธีอะไรสักอย่างก็จะไม่มีส้มเหลืออยู่บนต้น และเป็นเวลากว่า 1,700 ปีมาแล้ว ที่ชาวจีนควบคุมแมลงด้วยวิธีทางชีวภาพ โดยการใช้แมลงชนิดหนึ่งฆ่าแมลงอีกชนิดหนึ่ง สิ่งนี้เพิ่งเริ่มทำกันอย่างจริงจังในตะวันตกเมื่อศตวรรษที่ 20 บางทีสิ่งที่โดดเด่นและสำคัญที่สุดที่ชาวจีนใช้ควบคุมแมลงด้วยวิธีทางชีวภาพคือ การใช้มดแดงปกป้องต้นส้มจีน
การใช้มดแดงเพื่อจุดประสงค์นี้ยังคงมีใช้กันอยู่ นักกีฏวิทยาตะวันตกระบุว่ามดชนิดนี้คือ Oecophylla smaragdona ซึ่งเดิมทีจะขายทั้งรัง แต่ต่อมามดเหล่านี้ถูกดักจับใส่ในถุงกระเพาะปัสสาวะสัตว์ จึงทำให้เกิดปัญการขาดแคลน ซึ่งเมื่อขาดแคลนมดผู้คนที่ปลูกส้มก็จะได้รับผลกระทบจากการกัดกินผลส้มของแมลงเหล่านั้น เพราะหากมีมดจำนวนมากอยู่บนต้น แมลงศัตรูพืชเหล่านี้ก็จะไม่เหลือรอด ครอบครัวที่ปลูกผลไม้ต่างซื้อมดมาจากคนขายที่ทำธุรกิจด้วยการเก็บและขายมดเหล่านี้ โดยที่พวกเขาจับมันด้วยการนำไข่ใส่ไว้ในกระเพาะปัสสาวะหมูหรือแกะ และเปิดปากถุงวางไว้ข้างรังมด รอจนกระทั่งมดย้ายเข้ามาในถุงกระเพาะ และจึงเก็บถุงไป โดยการบวนการนี้รู้จักกันในชื่อ การเลี้ยงมดแดง
หลายคนอาจจะสงสัยว่ามดเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วสวนส้มได้อย่างไร วิธีดั้งเดิมจะใช้ไม้ไผ่วางพาดเป็นสะพานเชื่อมระหว่างต้มส้ม เพื่อให้มดแดงเดินจากต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่งได้ทั่วทั้งสวน วิธีนี้ยังคงปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ทำกันมาเมื่อ 400 ปีที่แล้วเป็นอย่างน้อย
การควบคุมแมลงด้วยวิธีทางชีวภาพเป็นที่สนใจในตะวันตกครั้งแรกเมื่อบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ตีพิมพ์ใน North China Herald ฉบับวันที่ 4 เมษายน 1882 แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สนใจจนกระทั่งเกิดการระบาดของเพลี้ยอย่างรุนแรงตามสวนส้มในรัฐฟลอริด้าช่วงทศวรรษ 1910 กระทรวงเกษตรสหรัฐจึงส่งนักสรีรวิทยาพืชไปยังประเทศจีนในปี 1915 เพื่อค้นหาพันธุ์ส้มที่ทนทานต่อเพลี้ยและก็ได้ค้นพบมดแดงนี้ การศึกษาของชาวตะวันตกต้องหยุดชะงักจากเหตุการณ์ประเทศญี่ปุ่นรุกรานประเทศจีนในช่วงทศวรรษ 1930 จากนั้นในปี 1958 นักวิทยาศาสตร์จีน เฉินโซ่วเจียนเสนอให้รื้อฟื้นการศึกษามดชนิดนี้ขึ้นมาใหม่ และยังใช้กันอยู่ในสวนส้มของชาวจีนจนถึงทุกวันนี้
การควบคุมแมลงด้วยวิธีทาง ชีวภาพ คุณูปการของชาวจีนโบราณเมื่อ 1,700 ปีก่อน
ช่วงนี้ยุ่งๆอาจจะไม่ได้เดินหาเพื่อนๆบ่อยนัก ขอภัยด้วยนะค่ะ
ภูมิปัญญาหลายๆอย่างของชาวจีน
ยังคงใช้ได้ดีจนมาถึงปัจจุบันนี้เลยนะครับ
น่าทึ่งมากๆครับ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยครับพี่