► ►► ..เ ป็ ด ส ว ร ร ค์ อิ น มั น ไก่ ม า ก ต อ น จ บ " . . ◄ ◄ ◄

หลังจากทำใจอยู่นาน ว่าจะเอายังไงดีกับความชื้นแฉะ ก็พอดีว่ามีชายใจดีคนหนึ่ง
เดินมาขายเสื้อกันฝนให้เราในราคา 5ตัว 100บาท เขาก็ขายราคาปกตินั่นแหละ
ไม่รู้จะเรียกชายใจดีทำไม?
พี่โจนได้ทำการจ่ายทรัพย์จำนวนดังกล่าวไป เพื่อแลกกับเสื้อกันฝน เราทั้งห้าต่างพากันใส่ เสื้อกันฝน
เสื้อประจำงานที่อุตส่าห์ดั้นด้นไปซื้อมาก็หมดความหมาย มองไปทางไหน มีแต่เสื้อกันฝน
น่าเจ็บใจแทนเป็ดสวรรค์มันจังเลย เจ็บแทนก็ดีนะ เพราะเป็ดมันเป็นคนไม่คิดไรมากขนาด นั้น
จริงๆนะ

พากันเดินลุยโคลนที่เละประมาณท้องนาแถวบางปลาม้าไปยังประตูเข้างาน
ที่เห็นต่อไปนี้คือกำแพงเมืองไก่

ตรงนั้นก็จะมีการตรวจบัตร ตรวจสิ่งของที่ห้ามเอาเข้างาน เช่น ระเบิด ปืนอาก้าและระเบิด นิวเคลียร์เป็นต้น
งานนี้ ไม่มีเครื่องดื่มมึนเมาขายภายในงาน แต่ตกดึก เห็นวัยรุ่นกลุ่มนึงมันพี้กันชากันอยู่ ข้างหน้า
มันหยามเหยียดเกียรติภูมิทหารชัดๆนี่หว่า แต่ช่างมันเถอะ
หน้างาน มีการติดแท็กที่เราจะต้องรักษาไว้ยิ่งชีพ เพราะถ้ามันหาย เราจะเดินเข้างานไม่ได้
ใครอายุยังละอ่อนขนเพิ่งอุยๆ ก็จะได้แท็กสีส้ม ใครตบะแก่กล้าเกิน 18 ปีขึ้นไป ก็จะได้ แท็กสีเขียว
.
.
.
.
เข้าไปถึงในงาน ก็หาของกินก่อนเลย เพราะรู้สึกหิวกันขนาดหนัก นี่ถ้าพม่ามาตีเมืองเรา ตอนนี้
คิดว่า เราคงจะยอมให้มันจับไปเป็นเชลยทำมิดีมิร้ายตามใจ เพราะหมดแรงข้าวต้มกันแล้ว
อาหารในงาน แพงตามคาด ข้าวขาหมู จานละ 60 บาท กินเอาบรรยากาศ
กินไป น้ำหยดติ๋งๆไป บางคนตั้งวงมันกับพื้นก็มี สาวๆนั่งชันเข่าโชว์ขาขาวกันสลอน
ผมต้องทำเป็นว่าข้าวขาหมูเผ็ดมากจนน้ำตาคลอ เพื่อกลบเกลื่อนอาการปลาบปลื้ม
ที่สาวๆนั่งกันแบบ ไม่ต้องเกรงใจเพศตรงข้ามกันมากมายขนาดนี้
ย้ำว่าปลาบปลื้ม ไม่ใช่หื่น คนละอย่างกันนะครับ
เวทีของงานนี้ นับว่าใหญ่พอสมควร แต่ใช้งานจริง นิดเดียว ยืนกันอยู่เฉพาะกลางเวที
พิธีกรในงานนี้ คือน้าเน็ก น้าโป้ง และบัวลอยเผือก แห่ง สามแยกปากหวาน
ลีลาหายห่วง เอาคนดูได้อยู่หมัดจริงๆ

.
.
.
.
เปิดงานด้วยวงดนตรีที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับเป็บซี่สปอนเซฮร์ของงาน นั่นคือ วงซักซี้ด
ที่ว่ากันว่า โด่งดังมั้ง มาจากหนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่เคยดูเป็นการส่วนตัว
น้องๆออกมา เก้ๆกังๆ ปล่อยมุกดวกๆ เล่นเพลงในหนัง วัยรุ่นที่ติ่งอ่อนๆ
ก็พากันกรี๊ดสนั่น กระเทยรุ่นแรกแย้มสองคนข้างหน้า กรี้ดซะจนนึกว่ามันโดนไฟดูด
ทั้งกรี้ดทั้งดิ้น
เป้นหนึ่งชั่วโมงที่ขัดใจคนที่ตากฝนรออย่างผมเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้นการแสดงก็ถูกพักลง เนื่องจากฝนตกหนัก ทางผู้จัดงาน ต้องการจะเช็คระบบไฟฟาง
ให้มันสว่างได้ใจและไม่ให้ดูดชาวบ้านชาวช่องตายในงาน
คณะเราก็พากันเดินออกมาจากงานครับ
และจังหวะนี้เอง ที่เรา หลง
.
.
.
.
จากที่อยู่กัน 5 คน ตอนนี้ เหลือกันเพีง 2 คน คือผม กับเว็มมี่ชาวเชียงใหม่
ท่ามกลางผู้คนมากมายนั้นเรามองหาเพื่อเราอีก 3 คนว่าหายไปไหนกันหนอ?
เดินตามหา ที่นั่น ที่นี่ ก็ไม่มี
เหลือทางเดียว ต้องให้ทางผู้จัดงานประกาศหาซะแล้ว
และถ้าใครไปในงานนี้แล้วได้ยินเสียงประกาศว่า
“พี่หนุ่ย พี่โจน ให้มาพบเป็ดสวรรค์ที่กองบัญชาการไก่ด้วย “
น่นแหละ คือตอนที่พวกผมกำลังพลัดหลงกัน

เดินตามหากันอย่ะชพักใหญ่ ก็นึกได้ว่า เว็มมี่ ได้มีโทรศัพท์ติดตัวอยู่หรือไม่?
ปรากฎว่าน้องมีพอดี แต่ไม่มีเบอร์เพื่อนทั้งสามคนนั้นซักคน
แต่ไมเป็นไร โทรเข้าเครื่องผมละกัน
ได้ผล ซักพัก เพื่อนเราโทรกลับมา บอกว่าอยู่ที่รถกำลังเช็คความเสียหายของกล้อง
ซึ่งเปียกปอนไปจำนวนมากเหมือนกัน
งานนี้พี่หนุ่ยเพิ่งถอยกล้อง 600 Dตัวใหม่เอี่ยมมา ก็มาลุยงานนี้เป็นงานแรกเลย
ผมกับน้อง เดินลุยโคลนกลับไปหาเหล่าเพื่อน ซึ่งนั่งตัวชื้นอยู่รอบๆรถเฮียเม้ง
ฝนหยุดแล้ว
อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะเอาไงกันต่อ กิจกรรมฆ่าเวลาตอนนี้ ก็คือ
ถ่ายรูปเขียนตัวหนังสือจากไฟกันแบบที่เราเคยเจอในทีวี

ผมพยายามมองหาแกแล็กซี่ทางช้างเผือก กะจะถ่ายมันซักหน่อย แต่ก็ ไม่เห็น
.
.
.
.
พวกเราลุยโคลนกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง ขณะที่เจสเซสเตอร์เล่นใกล้จบ
ต่อด้วยวง สครับแต่ก่อนอื่น ต้องหาข้าวกินกันก่อน เพราะเริ่มหิวอีกแล้ว
มาเที่ยวคราวนี้ เจริญอาหารดีจริงๆ

.
.
.
.
.
จากนั้น งานหลักของเราคือ เต้นๆๆๆๆๆ
ภาพต่อไปนี้ จิ๊กมาจากหน้าเพจพี่โจน ไม่สามารถบรรยาออกมาเป็นคำพูดได้
บอกได้แต่เพียงว่า ปกติแล้ว ผมเป็นคนเรียบร้อยนะครับ เพื่อนๆผมก็ด้วย
แต่งานนี้ เราถือว่าในงานนี้ไม่มีใครรู้จักเราซะหน่อย เหตุนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องแอ๊บกันอีก ต่อไป
โปรดชมโดยอาการสงบ เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรได้รับคำปรึกษาจากคนข้างๆ
.
.
.

ไม่รู้จักกัน แต่ขอไปเต้นด้วย เต้นเป็นกลุ่ม อุ่นใจได้แต้ม ตรงนี้ไฟมันสว่างจัด
ผมเองก้เต้นไปหนีบขาไป เพราะไม่ได้ใส่กางเกงใน ฮ่าๆ กลัวไฟส่องทะลุ
เห็นเป็ด 11 นิ้ว

.
.
.
.

อ๊ากกซ์
.
..
.

กระโดดๆ . . . .

มีพัดเหน็บที่เอว เพื่อระบายความร้อนด้วย
ไม่รู้ผมแหกปากอะไรนักหนา ไม่เข้าใจตัวเอง . . . .

แอ็คมาดเท่ห์ . . .

เท่ห์ติดแท็ก . . . .

มือใคร ให้เดา . . . .

โดดจนเพื่อนอายแทน . . . .

เต้นไปพัดวีไป ท่ามกลางผู้คนมากมาย . . . .

เท่ห์กันเถอะ . . . .
เต้นกันไป จนเกือบจะตีสาม พาราด็อกซ์เล่นเกือบจบแล้วพวกเราก้พากันลากสังขาร
เดินกลับออกมา เนื่องจากฝนเริ่มตกลงมาอีกรอบ
เสียดายที่ไม่ได้เห็นพาราด็อกซ์ผัดผักบุ้งไฟแดงบนเวทีสดๆ
กว่าจะออกมาจากงานได้ ก้ตีสาม เกือบจะตีสี่
ตระเวนหาที่พักแถวเมืองกาญจน์ เว็มมี่กับอุ๊ หลับเป็นตายในรถ
ส่วนผมหลับๆตื่นๆ จำได้ว่ารถชนหมาตรงไฟแดงด้วย
มันโดนรถคันอื่นชนมาอีกที ต้องขอโทษหมาตัวนั้น และเจ้าของหมาด้วยนะครับ
สรุปว่า ไม่มีที่พักเหลืออยู่เลยในตัวเมืองกาญจน์
เราต้องพากันมานอนที่บ้านโป่ง ราชบุรี ได้หลับได้นอกันเกือบจะตีห้าฟ้าเริ่มสางกันแล้ว
ไอ้อุ๊ ต้องโทษอุ๊สถานเดียว เป็นหัวโจกพาเพื่อนไม่อาบน้ำ
แยกพักสองห้อง ห้องนึงสอง ห้องนึงสามคน
เราสามคนหลัง ไม่อาบน้ำ นอนกันแบบ ทหารผ่านศึก
ตื่นมาบ่ายโมง ด้วยอาการ สลิมเชดี
อาบน้ำ กินข้าว แล้วก็เดินทางกลับไปส่งเว็มมี่และตัวผมเอง กับอุ๊
ที่มหานคร
โปรแกรมที่จะไปเที่ยวกันต่อเป็นอันยกเลิก เนื่องจากเวลาไม่พอ

.
.
.
.
ขอบคุณเพื่อนๆร่วมทริป ที่พากันไปสนุกถึงที่นั่น
ขอบคุณอะไรก็ตาม ที่ทำให้คนห้าคน มารู้จักกัน
ยินดีที่ได้รู้จัก ยินดีที่ได้พูดคุย และยินดีที่ได้มีวามทรงจำดีๆร่วมกัน
เจอกันอีกครั้ง ทริปใหญ่ต้นปี ไม่ก็ปลายปีนี้
ทริปท่องล้านนา นัดเฮียก๋าไว้แล้ว ไว้พบกันครับ
ปิดท้ายด้วยภาพเว็มมี่ น้องสาวที่น่ารัก อุตส่าห์ดั้นด้นมาจากเชียงใหม่
มาคึกกันจนขาขวิด

.
.
.
.
พรุ่งนี้ จะมาแปะคลิปให้นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน
ลงนาม
เป็ดสวรรค์
ขออภัย คลิปตัวเอง โดนแกรมมี่บล็อกแล้วโพสต์ไม่ได้ ก็ไม่บอก
เอาคลิปคนอื่นมาแทน
            

Create Date : 03 กันยายน 2554 |
|
26 comments |
Last Update : 3 กันยายน 2554 15:18:41 น. |
Counter : 1969 Pageviews. |
|
 |
|
นั่นปากเป็ดไมมันกว้างอย่างน้าน Vanish Point ของPs เหรอ
อ๊ะ ล้อเล่น ( แต่มันกว้างจิงจิงนะ เอิ๊ก อะอะเปลี่ยนเรื่อง )
มันเละมาก เสื้อกันฝนมันก็เยอะมากก และดูบรรยากาศแล้วมันก็มันส์มากกก