► ►► ..ส ำ นั ก ไ ห ม ด ำ. . ต อ น 2 . . . ◄ ◄◄
หลังจากที่ไหมทองอร่าม ได้ตั้งใจมั่นไม่ผันวาจา แม้ว่าจะเอามิยาบิมาเต้นอะโก้โก้ยั่วสักเพียงใดก็ตาม
ว่ายังไง เขาก็จะไปยังเขา”โด่ไม่รู้ล้ม” ให้จงได้ ก่อนคืนวันเดินทางหนึ่งวันนั่นเอง เขาได้เข้าไปร่ำลา “ไหมหงิกงอ”
ผู้เป็นอาจารย์สอนวรยุทธ์ให้กับเขา ตั้งแต่เขาจำความได้ ไหมหงิกงอ ได้ให้ผอบมาหนึ่งใบ
กำชับว่า “อย่าได้เปิดกลางทางเป็นอันขาดนะลูกนะ” แม้ว่าไหมทองอร่ามจะรู้สึกคุ้นๆกับฉากนี้
แต่เขาก็ไม่มีเวลานึกอะไรมากนัก ด้วยว่าเขายังมีคนอีกผู้หนึ่ง ที่ต้องกล่าวคำอำลาด้วย
ไม่ใช่หมาที่ไหน เธอคือ “ไหมสลวย” หญิงคนรักของ ไหมทองอร่ามนั่นเอง
“ พี่ไปครั้งนี้ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เห็นหน้าเจ้าอีก ก่อนพี่กลับมา เจ้าอย่ารีบมีผัวไปก่อนซะล่ะ” เขากำชับคนรัก
“ จ๊ะพี่ทอง ไหมจะอั้นเอาไว้” หล่อนว่าพลางส่งสายตาหวานเจี๊ยบไปยังชายคนรัก
“อ่ะ พี่ให้เจ้าไว้ดูต่างหน้า คิดซะว่ามันเป็นพี่ “
“อะไรจ๊ะ เหมือนด้วงมะพร้าวเชียว” หล่อนเขิน
“ปลัดขิกจ๊ะไหม คิดถึงพี่เมื่อไหร่ มันช่วยได้ “ ไหมทองอร่ามมอบมันให้เธอ
หลังจากการร่ำลาอันสองแง่สองง่ามนั้นแล้ว ไหมทองอร่ามก็มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตก
อันเป็นทิศที่อยู่ของสำนักไหมดำทันที
.
.
. .
แสงแดดที่แผดร้อนทำให้ผิวของไหมทองอร่ามดำคล้ำ แต่จิตใจเขายังคงแน่วแน่อยู่แต่ที่เขาโด่ไม่รู้ล้มเท่านั้น
พี่น้องร่วมสำนักกำลังรอความช่วยเหลือจากเขาอยู่ และหนึ่งในนั้นคือผู้ที่เขาต้องการไปช่วยกว่าใครเพื่อน
เพราะคือญาติผู้เดียวที่เขามีอยู่ นั่นคือ น้องของตาของพ่อของน้องบุญธรรมของพ่อเขาอีกทีนั่นเอง
พอล่วงเข้าวันที่ 7 เขาก็ได้มาถึงที่แห่งนี้ “ป่าไผ่พันปี” ที่นี่เองที่พี่น้องของเขา ถูกวิชามารเล่นงานเอาจนเสียท่า
ท่าอะไร? ท่าพระจันทร์รึเปล่า? ฉึ่งโป๊ะ!
ช่างมันเถอะ
“เมื่อครั้งที่ข้ายังเยาว์วัย
เมื่อใดที่สิ้นหวัง ในจินตนาการของข้าหากข้ามองขึ้นไปบนฟ้า พวกท่านคือเทพผู้ใจบุญและยิ้มให้ข้าอย่างเมตตา
บัดนนี้ข้าได้รู้แล้ว รอยยิ้มนั้นไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความเมตตา
หากแต่เป็นการแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันต่อข้าผู้ต่ำต้อยและโง่เขลา
บนฟากฟ้าที่ท่านอยู่ อาจจะสูงเกินไป จึงทำให้ข้ามองไม่เห็นแววตาอำมหิตนั้น
บัดนี้ข้าเติบใหญ่ และข้าได้รู้แล้ว “ ไหมทองอร่าม สลักข้อความลงบนแมงด้วงกว่างตัวหนึ่ง
ที่บังเอิญไต่อยู่แถวนั้น ซึ่งนี่ นับว่าเป็นการท้าทายเหล่าทวยเทพเมพสุดๆทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง
ไม่เคยมีใครบังอาจขนาดนี้มาก่อน
และทันใดนั้นเอง ป่าทั้งป่าดูคล้ายว่าจะเกรี้ยวกราดโกรธกระหือรืออื้ออึงมี่ไปทั่ว
ไผ่ทุกลำสั่นสะท้าน ความรู้สึกที่ถูกสายตานับร้อยนับพันจับจ้อง เข้าจู่โจมไหมทองอร่าม
ม้าของเขาตกใจร้อง “อุ๊ยตายๆ!” ลืมบอกว่าเขาขี่ม้ามาน่ะ เป้นม้าที่มีเชื้อนกแก้วนิดๆ
สีสวยเชียว แต่ไม่ถึงขนาดม้านิลมังกรนะ พูดเลียนเสียงคนได้นิดหน่อย
ไหมทองอร่ามแหงนมองอาการของป่าไผ่พันปีแล้วยิ้มเยาะอย่างไม่หวั่นหวาด
อ่าห์ เขามั่นใจในกระบวนท่า ”วิชาถอนไหม” ของตัวเองขนาดนั้นเชียวหรือนี่
ฉับพลันทันใด หน่อไม้นับพันหน่อ ก็พุ่งเข้าจู่โจมตัวเขาอย่างเร็วจี๋
อย่างเร็วจี๋เนี่ยนะ? อืม..
เขาชักกระบี่ “ ไหมสะบั้น “ ออกมาจากฝัก ร่ายรำเพลงกระบี่กระบวนท่าที่ชื่อว่า “ปุ๊”
เสียงดัง “ปุ๊ๆๆ” ดังสนั่นไปทั่วป่า ราวกับคมกระบี่นับร้อยพันเล่มกำลังโปรยปราย
เหล่าหน่อไม้ที่พุ่งตรงเข้ามาเหล่านั้น หาได้กร้ำกรายเข้าหาไหมทองอร่ามในถึงระสามศอกได้เลย
ต่างพากันถูกคมกระบี่กลายเป็น”ตับไก่” กันจนหมด
อ่าห์...เพลงกระบี่เพียงกระบวนท่าเดียวของเขา ช่างร้ายกาจอะไรเช่นนี้
เหล่าเทวดาต่างพากันตะลึงงัน ด้วยว่าไม่เคยพบเจออะไรน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้
ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา หรือไอ้หนุ่มไหมทองคนนี้นี่เอง จะเป็นผู้โค่นล้มพวกเขา
หากเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่เจ้าหนุ่มคนนี้จะมีชีวิตรอดออกไปจากป่าไผ่พันปีแห่งนี้ได้
.
.
. .
.
โปรดติดตามตอนต่อไป
.
.
.
.
ลงนาม
เป็ดสวรรค์
            


โอ๊ะ หย่ายดีจัง
Create Date : 21 สิงหาคม 2554 |
|
16 comments |
Last Update : 21 สิงหาคม 2554 15:59:11 น. |
Counter : 1429 Pageviews. |
|
 |
|
มาอ่านสำนักไหมดำ
ชอบหน่อไม้พันหน่อจัง
อยากกิน หุ หุ