|
ดูแลตัวเองในที่ทำงานได้ ง่ายนิดเดียว
รับรองว่าไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เสียเวลา ลองดูวิธีง่าย ๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ที่สำคัญว่าถ้าลองได้ทำเป็นประจำแล้ว จะทำให้คุณถอยห่างจากโรคออฟฟิศซินโดรมไปเลย
พิมพ์เอกสารให้เจ้านายทั้งวันจนมือหงิก ปวดข้อแทบเคล็ด
ลูกโยโย่ช่วยคุณได้ เพียงแค่เล่นโยโย่ในช่วงพักเบรก ก็สามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณมือ และข้อมือได้แล้วแถมยังแก้เครียดได้อีกด้วย
ใช้เวลาประมาณ 1 นาที
เดินใส่ส้นสูงทั้งวัน จนเมื่อยขา และปวดน่องไปหมด
ท่าที่ 1
ถอดรองเท้า นั่งหลังตรง แยกขาออกพอประมาณ ค่อย ๆ จิกปลายเท้าขึ้น - ลงกับพื้น ทำซ้ำ 5 - 10 ครั้ง
ท่าที่ 2
ถอดรองเท้า เหยียดขาออกไปข้างหน้าให้ตึง วางส้นเท้ากับพื้น ชันส้นเท้าขึ้นทำมุมฉากกับพื้นเท่าที่ทำได้ (กล้ามเนื้อขาจะเกร็งโดยอัตโนมัติ) แล้วค่อย ๆ แยกเท้าออกทำมุม 45 องศา
หันปลายเท้าเข้าหากันจนหัวแม่เท้าทั้งสองข้างแตะชิดกัน ค้างไว้ 3 - 4 วินาที
ทำซ้ำได้ตามต้องการ
ทั้งสองท่าใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที
หลังขดหลังแข็งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมง จนปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณช่วงท้ายทอย บ่า และหัวไหล่ไปตาม ๆ กัน ใช้วิธีผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยท่าโยคะอย่างง่าย
ท่าที่ 1 ผ่อนคลายต้นคอ
เอียงคอสลับไปมาช้า ๆ ทั้งซ้าย - ขวา ขึ้น - ลง และหมุนไหล่ไปด้านหน้า - หลัง ทำซ้ำประมาณ 5 ครั้ง
ท่าที่ 2 ผ่อนคลายบ่า หัวไหล่ และกล้ามเนื้อหลังส่วนบน
*อุปกรณ์: แถบผ้ายาวประมาณ 1 เมตร*
นั่งหลังตรง ถือแถบผ้ายืดออกเท่ากับความกว้างของช่วงไหล่ ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะให้สุด
หายใจเข้า ค่อย ๆ ยืดแขนข้ามศีรษะไปข้างหลังจนรู้สึกว่าแขนตึง แล้วค้างไว้ผ่อนลมหายใจออก ทำซ้ำประมาณ 10 - 15 ครั้งหรือจนกว่าจะรู้สึกว่ากล้ามเนื้อค่อย ๆ ผ่อนคลาย
ทั้งสองท่าใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที
Tips:
ควรเลือกเก้าอี้สำนักงานที่มีพนักพิง สามารถปรับระดับความโค้งตามหลังได้ เพราะมีผลการวิจัยออกมาแล้วว่าเก้าอี้ในลักษณะนี้ จะช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในลักษณะที่เหมาะสมขณะนั่งทำงาน และควรหลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้างนาน ๆ
แม้งานจะรัดตัว แต่ควรลุกขึ้นเดินทุก ๆ 30 นาทีเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ปรับอิริยาบถ แทนที่จะนั่งในท่าเดิม ๆ ติดต่อกันนานหลายชั่วโมง จนเป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อบางส่วนตึงเครียด
มีพรีเซ้นต์งานเช้า ไหนจะต้องเคลียร์งานส่งเจ้านายอีก เครียดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ถ้าหลีกเลี่ยงงานหนัก ๆ หรือความเครียดไม่ได้จริง ๆ เบรกความเครียดไว้พักหนึ่ง แล้วนั่งสูดลมหายใจลึก ๆ จิบชาเปปเปอร์มินต์ที่มีสรรพคุณช่วยลดความเครียด ลดอาการปวดศีรษะ ผ่อนคลายเส้นประสาท ช่วยให้สมองปลอดโปร่งขึ้น แล้วค่อยลุกมาสู้งานต่อดีกว่า
ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
Tip:
ความเครียดที่สั่งสมในแต่ละวัน อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนออฟฟิศหลายคน ตกอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงที่จะเป็นโรคเส้นเลือดตีบ และความดันโลหิตสูงอีกด้วย ดังนั้นควรเพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละมื้ออาหารด้วย โดยเฉพาะผลไม้ที่มีเปลือกสีน้ำตาล เช่น องุ่นดำ องุ่นม่วง ซึ่งมีสารแทนนินที่ช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรง
ไม่อยากเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจตีบก่อนวัยอันควร แต่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสหลังเลิกงาน
เพียงแค่ขยับเขยื้อนร่างกายบ้างระหว่างวัน ประมาณ 20 - 30 นาทีติดต่อกัน เช่น เดินไปส่งแฟกซ์ เดินเร็วไปถ่ายเอกสาร หรือวิ่งขึ้น - ลงบันได ก็ช่วยให้ห่างไกลจากอาการหลอดเลือดหัวใจตีบได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายอารมณ์เครียด ๆ ได้บ้าง อย่ามัวจับเจ่านั่งทำงานอยู่แต่ที่โต๊ะเลยสาว ๆ
ใช้สายตามาก ทั้งงานเอกสาร ดูแลบัญชีตัวเลข หรือนั่งหน้าคอมพ์จนตาพร่ามัว
ผ่อนคลายและยืดกล้ามเนื้อตาโดยการโฟกัสสายตาไปยังจุดใดจุดหนึ่งที่ไกลพอสมควร หยุดค้างไว้ประมาณ 20 วินาที กลอกลูกตาไปมาตามเข็มนาฬิกา ทั้งขวา - ซ้ายและจากบน - ล่าง ทำซ้ำ 2 - 4 ครั้ง
ประคบตาด้วยสองมือของเราเอง โดยการถูมือเข้าด้วยกันจนกระทั่งฝ่ามืออุ่น ปิดตาและนาบฝ่ามือลงบนตาทั้งสองข้าง หายใจเข้า - ออกประมาณ 10 ครั้ง แล้วเปิดมือออก ถ้าการถูมือให้อุ่นยังไม่ทันใจ แนะนำให้ใช้ผ้าสะอาดจุ่มลงในน้ำอุ่น แล้วนำมานาบลงบนเปลือกตาที่หลับสนิททั้งสองข้าง ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาทีแทนได้ ทั้งสองท่าใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที
มัวแต่เครียดเรื่องงานจนหน้าตาหงิกงอ ไม่สดใส
บริหารหน้ากันสักหน่อย เพียงแค่หาเวลาเหมาะเจาะ ทางสะดวก มองตัวเองในกระจก ยิ้มให้กว้างที่สุด เลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นทำซ้ำได้ตามต้องการ จะช่วยให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น
ท่านี้ก็ต้องอาศัยทางสะดวกอีกเช่นกัน เริ่มจากยิ้มกว้าง อ้าปาก เม้มปากบน กระดกลิ้นขึ้นและเกร็งค้างไว้ พร้อมกับแตะปลายนิ้วชี้ - นางตรงเหนือโหนกแก้มขึ้นไป ค่อย ๆ ดึงผิวหนังส่วนกระบอกตาล่างลงมาเบาๆ ระหว่างนั้นให้ค่อย ๆ หรี่ตาลงจนเกือบปิดสนิทเกร็งค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นลืมตาขึ้นและหรี่ตาซ้ำอีกประมาณ 10 ครั้ง ช่วยลดการบวมของถุงใต้ตาได้
ใช้เวลาท่าละประมาณ 2-3 นาที
From: สุดสัปดาห์
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2553 22:37:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 661 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|